สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน
*ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่านี้เป็นกระทู้แรกของผม หากผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วยนะครับ
ผมขอเล่าจากประสบการณ์ตรงที่เจอมากับตัวไม่ได้ฟังจากใครมานะครับ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเพราะรถ Ford Fiesta 1.6s ที่ผมกับแฟนใช้ประจำกันอยู่ เกิดอาการเสีย ซึ่งผมก็เข้าใจนะครับว่าของมันเสียกันได้ อีกอย่างรถก็ผ่านการใช้มาสักพัก (เลขไมล์ประมาณ 160,000) อาการเสียก็คือ รถสตาร์ทไม่ได้ ไม่ใช่สตาร์ทไม่ติดนะครับ คือกันบิดกุญแจไปแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบตก็ไม่หมด เพราะเพิ่งเปลี่ยนมา แล้วหน้าจอก็ขึ้น Error เต็มเลยตรงหน้าปัด (ขึ้นทุกไฟ) ผมก็เลยลองถอดขั้วแบตออกแล้วรอ 10 นาที ก็เหมือนเดิมหารถมาจั้มแบตดูเผื่อเราพลาดไป ก็เหมือนเดิม หมดปัญญาล่ะ จึงโทรหาศูนย์ฯ เล่าอาการเบื้องต้นให้ฟัง ศูนย์ฯ ไม่ได้ตอบอะไรกลับมามากมาย ถามแค่ว่า "จะให้ช่างไปดูหรือจะไปยกรถมาที่ศูนย์คะ? ถ้าช่างออกไปดูให้มีค่าใช้จ่าย 900 บาท ถ้าให้รถไปยกเสียค่าใช้จ่าย 2000 บาท" ผมคิดในแง่บวกอยู่ว่า รถคงไม่เป็นอะไรมาก อาจมีอะไรที่เรายังไม่ได้ทำไปมั้ง จึงตัดสินใจบอกศูนย์ฯว่าให้ส่งช่างมา
ผมรออยู่ประมาณ 40 นาที ช่างก็โทรมาว่ามาถึงรถแล้ว ผมจึงออกไปดูด้วย ปรากฏว่าช่างที่ศุนย์ฯส่งมานั้น ไม่ใช่ช่างจากศูนย์ฯ เป็นช่างจากไหนไม่รู้จำไม่ได้ล่ะ พอมาถึงสิ่งแรกที่ช่างทำคือ... โทรหาศูนย์ฯ แล้วขอคุยกับหัวหน้าช่าง เพื่อสอบถามการแก้ปัญหา .... อ้าวววว แล้วจะมาทำไมเนี้ยยยย ถ้าจะมาถึงแล้วโทรหาหัวหน้าช่างที่ศูนย์ ให้กูทำเองก็ได้ (คิดในใจๆ) หัวหน้าช่างที่ศูนย์ฯ ก็แนะนำให้ทำอย่างที่ผมทำไปแบบเป๊ะๆ ลองบิดกุญแจไปมา ถอดขั้วแบตอออก 5 นาที เอารถอีกคันมาจั้มแบต สรุปคือ มันทำได้แค่เนี้ย แล้วก็บอกจนปัญญาล่ะ แล้วก็หันมาถามผมว่า "คงต้องยกรถไปแล้วล่ะครับ" เวรรรร... 900 บาทของฉ๊านนน มาทำแค่เนี้ย จากนั้นช่างก็ถามผมว่า "จะให้ยกไปศูนย์ฯเลยมั้ยครับ?" คิดในใจว่า อ้าว...ทำไมถามแบบนี้ แสดงว่ามีอู่ซ่อมได้สินะ ถ้าอู่มันซ่อมได้ผมก็เอา ในเมื่อรถก็หมดประกันไปตอน 1 แสนกิโลไปแล้ว ซ่อมอู่นอกก็ไม่เห็นเป็นไร จึงตอบว่า "โอเคครับ ถ้าอู่ซ่อมได้พี่ก็เอา " ช่างก็ถามต่อว่า พี่มีรถยกยัง? " ถามแปลกๆ ถ้ามีผมจะอยู่นี้หรอ "คือถ้าพี่เอารถยกจากศูนย์เค้าจะคิดพี่ 2000 แต่ถ้าพี่เอารถยกของอู่เสียแค่พันเดียว" ถ้ามันได้ถูกกว่าผมก็เอาล่ะ ก็ตอบตกลงไป พอไปถึงที่อู่ก็สอบถามว่ารถจะเสร็จเมื่อไหร่ เจ้าของอู่ก็ตอบแบบว่า "ไม่กี่วันก็เสร็จครับ พี่ไม่ต้องห่วงนะ ไม่แพงหรอก" .... ผ่านไป 7 วัน (ผมโทรถามอู่ทุกวัน) ก็ไม่เสร็จ เพราะอู่หาสาเหตุการเสียไม่ได้ อู่จึงบอกให้ผมยกรถไปที่ศูนย์ดีกว่า ถ้าผมรีบ (ไม่รีบมั้ง ตั้ง 7 วันผ่านมาแบบเสียเปล่า) ผมก็เลยต้องจำใจยกรถไปที่ศูนย์ฯ มหากาพย์แห่งการรถคอยจึงเกิดขึ้นนับจากนี้
นับตั้งแต่นาทีแรกที่ไปถึงศูนย์ฯ เป็นเวลาประมาณ 10 โมงกว่าๆ ผมไปถึงศุนย์ฯก่อน จากนั้นก็รอรถยกมาถึง พอรถมาถึง ก็เอารถลงตรงหน้าศูนย์นั้นแหละ ไอ้ผมก็เข้าใจว่า เด่วก็คงต้องมีพนักงานมารับรถ เพราะเป็นขั้นตอนปกติ แต่เพื่อความชัวร์จึงเดินไปบอกช่างที่ศูนย์ที่เดินไปเดินมาแถวๆนั้นว่า "รถมาถึงแล้วนะครับ รบกวนมารับรถด้วย เพราะผมต้องกลับไปทำงานต่อ" เชื่อมั้ยครับว่า ผ่านไป 30 นาที ไม่เห็นแม้แต่เงาพนักงานคนไหนเดินออกมารับรถเลย มองผ่านกระจกเข้าไปยังคงนั่งในห้องแอร์เย็นๆ ทาลิป ซับแป้ง หวีผม เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่มีงานอะไรให้ต้องทำ .... คิดในใจว่า พวกมันเป็นแดรกคูล่ารึไงนิ กลัวแดดจนไม่กล้าออกมารับรถสักคนเลย ด้วยความโมโหจึงเดินไปบอกอีกรอบว่า "รถมาแล้วนะครับ ถ้าไม่ออกมารับรถ ผมจะยกกลับ และโทรแจ้ง ผู้จัดการศูนย์ฯ" พอสิ้นคำเท่านั้นแหละ ตาเหลือกรีบออกมารับรถกัน ผ่านไปสักพัก ก้เอาเอกสารมาให้ผมเซ็นต์ ว่าผมต้องจ่ายค่าตรวจเช็ค 700 บาท ถ้าพบสาเหตุ จะโทรแจ้งจำนวนเงินที่ต้องจ่าย.... (ลืมบอกไปครับว่า อู่ที่เคยบอกจะซ่อมรถให้บอกกับผมมาว่า รู้จักกับช่างที่ศูนย์ฯ เดี๋ยวจะดูแลให้พิเศษ)
ผ่านไป 2 วัน ศูนย์ฯโทรมาแจ้งว่า กล่องควบคุมเครื่อง (PCM) เสียและเนื่องด้วยรถผมหมดประกันแล้ว เจ้าของรถต้องควักจ่ายเอง ราคาราวๆ 12,000 บาท และถ้าจะซ่อมจะได้สั่งอะไหล่เลย ผมจึงบอกไปว่า ขอเวลาคิดแป๊บครับ .... จึงนึกขึ้นได้ว่า อู่ที่เคยบอกจะซ่อมให้รู้จักช่างที่ศูนย์นี่หว่า เลยขอเบอร์โทรช่างที่ศูนย์ฯไป และโทรถามอาการตรงๆเลยว่า รถเป็นอะไรอย่างที่โอเปอร์เรเตอร์บอกจริงรึเปล่า ช่างก็บอกว่าใช่แบบนั้นแหละ ผมก็เลยถามไปตรงๆอีกว่า ช่างมีอะไหล่นอกมั้ย พอจะหาได้มั้ย ช่างที่ศูนย์ฯ ก็บอก "ก็พอมีครับ แต่ต้องหาดูก่อน" ผมก็เลยโทรไปที่ศูนย์ฯ บอกว่าจะหาอะไหล่เองลองดูก่อน ถ้าได้จะขอใช้อะไหล่ที่หามา (ไม่ได้บอกว่าหาจากไหนมา) ถ้าไม่ได้จะใช้อะไหล่ศูนย์ฯ (ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้บอกตามตรงใครๆเค้าก็ทำ เพราะต้องการประหยัดค่าอะไหล่ บางอย่างไม่ต้องใช้ของแท้ก็ได้มั้ง แต่ราคาต่างกันลิบ ) ศูนย์ฯก็บอกว่า "ได้ค่ะ แต่จะไม่รับประกันอะไหล่และการซ่อมนะค่ะ" ......
ผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ (ลืมบอกไปรถผมเสียประมาณ 5 เมษายน 2559 ณ วันที่รอะไหล่ผ่านมาถึงวันที่ 22 เมษายน 2559) ในระหว่าง 2 สัปดาห์นั้นผมก็โทรถามช่างตลอดว่าได้อะไหล่ยัง? คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ "ยังครับ" จนผมทนไม่ไหวล่ะ รอมานานมาก จึงบอกยกเลิกกับช่างไป ใช้ของแท้ก้ได้ จึงโทรไปคุยกับศูนย์ฯ เพื่อสอบถามราคาประมาณซ่อมเพื่อให้แน่ใจ ปลายสายก็สอบถามข้อมูล จากนั้นก็ตะโกนถามอีกคน แล้วก็บอกมาว่า "ขอโทษนะคะ รถหมดประกันแล้วนะคะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ลูกค้าต้องออกเองนะคะ" คิดในใจ อะไรของมันหว่า อันนี้รู้ตั้งนานแล้วถึงโทรถามราคาซ่อมเนี้ย "ครับ ผมทราบครับ แค่โทรมาถามราคาประเมินซ่อมครับ" จากนั้นปลายสายก็ตอบมาว่า "รถกล่อง TCM เสียนะคะ ราคาอะไหล่ก็....แป๊บนะคะ" จากนั้นปลายสาย ก็หันไปถามอีกคนเรื่องค่าอะไหล่ (สรุปคือไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ต้องถามอีกคนตลอด ทำไมไม่ให้อีกคนมารับสายว่ะ) "ค่าอะไหล่ 25,000 บาทคะ ไม่รวมค่าแรงช่างนะคะ" ผมก็ตกใจว่า เห้ย...บ้าไง ตอนแรกบอกแค่ 12,000 ตอนนี้กลายเป็น 25,000 "อ้าว...ตอนแรกบอกแค่ 12,000 นิครับ ตอนนี้ไหง๋เป็น 25,000 บาท ตกลงอะไรเสียกันแน่ครับ" ...ปลายสายตอบแบบมั่นใจสุดๆ "กล่อง TCM ค่ะ กล่องเกียร์ของเครื่องนะค่ะ " ผมก็ตอบกลับไปว่า "ไม่ใช่นะครับ มันเป็นกล่องเครื่องที่เสีย" ปลายสายเถียงกลับมาว่า "นั้นแหละค่ะ มันอันเดียวกัน ตกลงจะซ่อมมั้ยค่ะ?" ...ผมคิดในใจ เอาแล้วไง เล่นตรูแล้ว ทำไงดีหว่า จึงตัดสินใจ โทรถามช่างที่ศูนย์ฯ เพื่อความแน่ใจว่าอะไรเสีย คำตอบที่ได้มาคือ กล่อง PCM เสีย จึงโทรกลับไปศูนย์ใหม่ แล้วคุยอีกรอบและก็บอกชื่อช่างที่ศูนย์ฯ คนที่ตรวจเช็คไปเลยว่า ช่างบอกแบบเนี้ย ... ปลายสายเงียบไปพักนึง ก็ตอบกลับมาว่า "อ๋อคะ...ราคาอยู่ที่ 12,000 บาทคะ ลูกค้าจะสั่งอะไหล่เลยมั้ยค่ะ?" แบบว่าไม่มีขอโทษเลยสักคำ ที่เถียงคอเป็นเอ็นมาตั้งนานว่าตัวเองพูดถูก ผมก็ตอบไปว่า "ครับ สั่งเลย" ปลายสายก็บอกว่า "ลูกค้าต้องเอาเงินมามัดจำนะคะ ครึ่งนึงของราคาอะไหล่ จะโอนหรือเอามาให้เองก็ได้คะ" ผมก็ตอบไปว่า "เดี๋ยวเอาไปให้เองครับ" พอตกบ่ายๆ ผมก็ยืมรถเพื่อนไปกับแฟนเพื่อเอาเงินไปมัดจำอะไหล่ พอไปถึงก็แจ้งจุดประสงค์ (ไปถึงนั้น ราวๆ 12.50 น.) พนักงานก็บอกว่ารอแป๊บนึง ผมก็รอ จนเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที ก็มีคนออกมาคุยด้วย ผมก็สอบถามไปว่า "จะให้มัดจำเท่าไหร่ครับ" คนรับเรื่องก็กดคอมฯ สักพัก ก็หันมาพูดกับผมว่า "ราคากล่อง TCM 25,000 ค่ะ มัดจำก็ 12,000 ค่ะ" เอาตรูอีกล่ะ.....ผมก็บอกไปว่า "ไม่ใช่ TCM นะครับ PCM " คนรับเรื่องก็หันไปอ่านคอมแล้วก็บอกกับผมว่า "ก้ช่างบอกแบบนี้ค่ะ " ผมเลยขอดูใบสรุปงานของช่าง เค้าก็เดินไปค้นมาให้ดู แล้วก็ให้ผมดู ช่างก็เขียนว่า PCM ชัดเจน ผมเลยเอาให้คนรับเรื่องดู ... ไอ้คนรับเรื่องก็นิ่งนะ ไม่แสดงอาการอะไรออกมา ก็ไปกดคอมฯใหม่แล้วก็บอกราคามาใหม่ รอบนี้ก็ 12,000 นั้นแหละ ผมจึงขอมัดจำไป 5,000 บาท และก็ถามไปว่า "อะไหล่จะมาวันไหนครับ จะได้รถเมื่อไหร่" คนรับเรื่องก็บอกว่า "สั่งของ 10 โมงเช้า ก็จะได้ของวันต่อไป 5 โมงเย็น ไม่เกิน 2 วันคะ ถ้ารถอะไหล่เข้าเร็ว 2 วันก็รับรถได้ครับ" ได้ฟังแบบนั้นผมก็ใจชื้นขึ้นมา จะได้ใช้รถซะที
เหตุผลว่าทำไมไม่ควรซื้อรถยนต์ Ford มาใช้
*ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่านี้เป็นกระทู้แรกของผม หากผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วยนะครับ
ผมขอเล่าจากประสบการณ์ตรงที่เจอมากับตัวไม่ได้ฟังจากใครมานะครับ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเพราะรถ Ford Fiesta 1.6s ที่ผมกับแฟนใช้ประจำกันอยู่ เกิดอาการเสีย ซึ่งผมก็เข้าใจนะครับว่าของมันเสียกันได้ อีกอย่างรถก็ผ่านการใช้มาสักพัก (เลขไมล์ประมาณ 160,000) อาการเสียก็คือ รถสตาร์ทไม่ได้ ไม่ใช่สตาร์ทไม่ติดนะครับ คือกันบิดกุญแจไปแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบตก็ไม่หมด เพราะเพิ่งเปลี่ยนมา แล้วหน้าจอก็ขึ้น Error เต็มเลยตรงหน้าปัด (ขึ้นทุกไฟ) ผมก็เลยลองถอดขั้วแบตออกแล้วรอ 10 นาที ก็เหมือนเดิมหารถมาจั้มแบตดูเผื่อเราพลาดไป ก็เหมือนเดิม หมดปัญญาล่ะ จึงโทรหาศูนย์ฯ เล่าอาการเบื้องต้นให้ฟัง ศูนย์ฯ ไม่ได้ตอบอะไรกลับมามากมาย ถามแค่ว่า "จะให้ช่างไปดูหรือจะไปยกรถมาที่ศูนย์คะ? ถ้าช่างออกไปดูให้มีค่าใช้จ่าย 900 บาท ถ้าให้รถไปยกเสียค่าใช้จ่าย 2000 บาท" ผมคิดในแง่บวกอยู่ว่า รถคงไม่เป็นอะไรมาก อาจมีอะไรที่เรายังไม่ได้ทำไปมั้ง จึงตัดสินใจบอกศูนย์ฯว่าให้ส่งช่างมา
ผมรออยู่ประมาณ 40 นาที ช่างก็โทรมาว่ามาถึงรถแล้ว ผมจึงออกไปดูด้วย ปรากฏว่าช่างที่ศุนย์ฯส่งมานั้น ไม่ใช่ช่างจากศูนย์ฯ เป็นช่างจากไหนไม่รู้จำไม่ได้ล่ะ พอมาถึงสิ่งแรกที่ช่างทำคือ... โทรหาศูนย์ฯ แล้วขอคุยกับหัวหน้าช่าง เพื่อสอบถามการแก้ปัญหา .... อ้าวววว แล้วจะมาทำไมเนี้ยยยย ถ้าจะมาถึงแล้วโทรหาหัวหน้าช่างที่ศูนย์ ให้กูทำเองก็ได้ (คิดในใจๆ) หัวหน้าช่างที่ศูนย์ฯ ก็แนะนำให้ทำอย่างที่ผมทำไปแบบเป๊ะๆ ลองบิดกุญแจไปมา ถอดขั้วแบตอออก 5 นาที เอารถอีกคันมาจั้มแบต สรุปคือ มันทำได้แค่เนี้ย แล้วก็บอกจนปัญญาล่ะ แล้วก็หันมาถามผมว่า "คงต้องยกรถไปแล้วล่ะครับ" เวรรรร... 900 บาทของฉ๊านนน มาทำแค่เนี้ย จากนั้นช่างก็ถามผมว่า "จะให้ยกไปศูนย์ฯเลยมั้ยครับ?" คิดในใจว่า อ้าว...ทำไมถามแบบนี้ แสดงว่ามีอู่ซ่อมได้สินะ ถ้าอู่มันซ่อมได้ผมก็เอา ในเมื่อรถก็หมดประกันไปตอน 1 แสนกิโลไปแล้ว ซ่อมอู่นอกก็ไม่เห็นเป็นไร จึงตอบว่า "โอเคครับ ถ้าอู่ซ่อมได้พี่ก็เอา " ช่างก็ถามต่อว่า พี่มีรถยกยัง? " ถามแปลกๆ ถ้ามีผมจะอยู่นี้หรอ "คือถ้าพี่เอารถยกจากศูนย์เค้าจะคิดพี่ 2000 แต่ถ้าพี่เอารถยกของอู่เสียแค่พันเดียว" ถ้ามันได้ถูกกว่าผมก็เอาล่ะ ก็ตอบตกลงไป พอไปถึงที่อู่ก็สอบถามว่ารถจะเสร็จเมื่อไหร่ เจ้าของอู่ก็ตอบแบบว่า "ไม่กี่วันก็เสร็จครับ พี่ไม่ต้องห่วงนะ ไม่แพงหรอก" .... ผ่านไป 7 วัน (ผมโทรถามอู่ทุกวัน) ก็ไม่เสร็จ เพราะอู่หาสาเหตุการเสียไม่ได้ อู่จึงบอกให้ผมยกรถไปที่ศูนย์ดีกว่า ถ้าผมรีบ (ไม่รีบมั้ง ตั้ง 7 วันผ่านมาแบบเสียเปล่า) ผมก็เลยต้องจำใจยกรถไปที่ศูนย์ฯ มหากาพย์แห่งการรถคอยจึงเกิดขึ้นนับจากนี้
นับตั้งแต่นาทีแรกที่ไปถึงศูนย์ฯ เป็นเวลาประมาณ 10 โมงกว่าๆ ผมไปถึงศุนย์ฯก่อน จากนั้นก็รอรถยกมาถึง พอรถมาถึง ก็เอารถลงตรงหน้าศูนย์นั้นแหละ ไอ้ผมก็เข้าใจว่า เด่วก็คงต้องมีพนักงานมารับรถ เพราะเป็นขั้นตอนปกติ แต่เพื่อความชัวร์จึงเดินไปบอกช่างที่ศูนย์ที่เดินไปเดินมาแถวๆนั้นว่า "รถมาถึงแล้วนะครับ รบกวนมารับรถด้วย เพราะผมต้องกลับไปทำงานต่อ" เชื่อมั้ยครับว่า ผ่านไป 30 นาที ไม่เห็นแม้แต่เงาพนักงานคนไหนเดินออกมารับรถเลย มองผ่านกระจกเข้าไปยังคงนั่งในห้องแอร์เย็นๆ ทาลิป ซับแป้ง หวีผม เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่มีงานอะไรให้ต้องทำ .... คิดในใจว่า พวกมันเป็นแดรกคูล่ารึไงนิ กลัวแดดจนไม่กล้าออกมารับรถสักคนเลย ด้วยความโมโหจึงเดินไปบอกอีกรอบว่า "รถมาแล้วนะครับ ถ้าไม่ออกมารับรถ ผมจะยกกลับ และโทรแจ้ง ผู้จัดการศูนย์ฯ" พอสิ้นคำเท่านั้นแหละ ตาเหลือกรีบออกมารับรถกัน ผ่านไปสักพัก ก้เอาเอกสารมาให้ผมเซ็นต์ ว่าผมต้องจ่ายค่าตรวจเช็ค 700 บาท ถ้าพบสาเหตุ จะโทรแจ้งจำนวนเงินที่ต้องจ่าย.... (ลืมบอกไปครับว่า อู่ที่เคยบอกจะซ่อมรถให้บอกกับผมมาว่า รู้จักกับช่างที่ศูนย์ฯ เดี๋ยวจะดูแลให้พิเศษ)
ผ่านไป 2 วัน ศูนย์ฯโทรมาแจ้งว่า กล่องควบคุมเครื่อง (PCM) เสียและเนื่องด้วยรถผมหมดประกันแล้ว เจ้าของรถต้องควักจ่ายเอง ราคาราวๆ 12,000 บาท และถ้าจะซ่อมจะได้สั่งอะไหล่เลย ผมจึงบอกไปว่า ขอเวลาคิดแป๊บครับ .... จึงนึกขึ้นได้ว่า อู่ที่เคยบอกจะซ่อมให้รู้จักช่างที่ศูนย์นี่หว่า เลยขอเบอร์โทรช่างที่ศูนย์ฯไป และโทรถามอาการตรงๆเลยว่า รถเป็นอะไรอย่างที่โอเปอร์เรเตอร์บอกจริงรึเปล่า ช่างก็บอกว่าใช่แบบนั้นแหละ ผมก็เลยถามไปตรงๆอีกว่า ช่างมีอะไหล่นอกมั้ย พอจะหาได้มั้ย ช่างที่ศูนย์ฯ ก็บอก "ก็พอมีครับ แต่ต้องหาดูก่อน" ผมก็เลยโทรไปที่ศูนย์ฯ บอกว่าจะหาอะไหล่เองลองดูก่อน ถ้าได้จะขอใช้อะไหล่ที่หามา (ไม่ได้บอกว่าหาจากไหนมา) ถ้าไม่ได้จะใช้อะไหล่ศูนย์ฯ (ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้บอกตามตรงใครๆเค้าก็ทำ เพราะต้องการประหยัดค่าอะไหล่ บางอย่างไม่ต้องใช้ของแท้ก็ได้มั้ง แต่ราคาต่างกันลิบ ) ศูนย์ฯก็บอกว่า "ได้ค่ะ แต่จะไม่รับประกันอะไหล่และการซ่อมนะค่ะ" ......
ผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ (ลืมบอกไปรถผมเสียประมาณ 5 เมษายน 2559 ณ วันที่รอะไหล่ผ่านมาถึงวันที่ 22 เมษายน 2559) ในระหว่าง 2 สัปดาห์นั้นผมก็โทรถามช่างตลอดว่าได้อะไหล่ยัง? คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ "ยังครับ" จนผมทนไม่ไหวล่ะ รอมานานมาก จึงบอกยกเลิกกับช่างไป ใช้ของแท้ก้ได้ จึงโทรไปคุยกับศูนย์ฯ เพื่อสอบถามราคาประมาณซ่อมเพื่อให้แน่ใจ ปลายสายก็สอบถามข้อมูล จากนั้นก็ตะโกนถามอีกคน แล้วก็บอกมาว่า "ขอโทษนะคะ รถหมดประกันแล้วนะคะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ลูกค้าต้องออกเองนะคะ" คิดในใจ อะไรของมันหว่า อันนี้รู้ตั้งนานแล้วถึงโทรถามราคาซ่อมเนี้ย "ครับ ผมทราบครับ แค่โทรมาถามราคาประเมินซ่อมครับ" จากนั้นปลายสายก็ตอบมาว่า "รถกล่อง TCM เสียนะคะ ราคาอะไหล่ก็....แป๊บนะคะ" จากนั้นปลายสาย ก็หันไปถามอีกคนเรื่องค่าอะไหล่ (สรุปคือไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ต้องถามอีกคนตลอด ทำไมไม่ให้อีกคนมารับสายว่ะ) "ค่าอะไหล่ 25,000 บาทคะ ไม่รวมค่าแรงช่างนะคะ" ผมก็ตกใจว่า เห้ย...บ้าไง ตอนแรกบอกแค่ 12,000 ตอนนี้กลายเป็น 25,000 "อ้าว...ตอนแรกบอกแค่ 12,000 นิครับ ตอนนี้ไหง๋เป็น 25,000 บาท ตกลงอะไรเสียกันแน่ครับ" ...ปลายสายตอบแบบมั่นใจสุดๆ "กล่อง TCM ค่ะ กล่องเกียร์ของเครื่องนะค่ะ " ผมก็ตอบกลับไปว่า "ไม่ใช่นะครับ มันเป็นกล่องเครื่องที่เสีย" ปลายสายเถียงกลับมาว่า "นั้นแหละค่ะ มันอันเดียวกัน ตกลงจะซ่อมมั้ยค่ะ?" ...ผมคิดในใจ เอาแล้วไง เล่นตรูแล้ว ทำไงดีหว่า จึงตัดสินใจ โทรถามช่างที่ศูนย์ฯ เพื่อความแน่ใจว่าอะไรเสีย คำตอบที่ได้มาคือ กล่อง PCM เสีย จึงโทรกลับไปศูนย์ใหม่ แล้วคุยอีกรอบและก็บอกชื่อช่างที่ศูนย์ฯ คนที่ตรวจเช็คไปเลยว่า ช่างบอกแบบเนี้ย ... ปลายสายเงียบไปพักนึง ก็ตอบกลับมาว่า "อ๋อคะ...ราคาอยู่ที่ 12,000 บาทคะ ลูกค้าจะสั่งอะไหล่เลยมั้ยค่ะ?" แบบว่าไม่มีขอโทษเลยสักคำ ที่เถียงคอเป็นเอ็นมาตั้งนานว่าตัวเองพูดถูก ผมก็ตอบไปว่า "ครับ สั่งเลย" ปลายสายก็บอกว่า "ลูกค้าต้องเอาเงินมามัดจำนะคะ ครึ่งนึงของราคาอะไหล่ จะโอนหรือเอามาให้เองก็ได้คะ" ผมก็ตอบไปว่า "เดี๋ยวเอาไปให้เองครับ" พอตกบ่ายๆ ผมก็ยืมรถเพื่อนไปกับแฟนเพื่อเอาเงินไปมัดจำอะไหล่ พอไปถึงก็แจ้งจุดประสงค์ (ไปถึงนั้น ราวๆ 12.50 น.) พนักงานก็บอกว่ารอแป๊บนึง ผมก็รอ จนเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที ก็มีคนออกมาคุยด้วย ผมก็สอบถามไปว่า "จะให้มัดจำเท่าไหร่ครับ" คนรับเรื่องก็กดคอมฯ สักพัก ก็หันมาพูดกับผมว่า "ราคากล่อง TCM 25,000 ค่ะ มัดจำก็ 12,000 ค่ะ" เอาตรูอีกล่ะ.....ผมก็บอกไปว่า "ไม่ใช่ TCM นะครับ PCM " คนรับเรื่องก็หันไปอ่านคอมแล้วก็บอกกับผมว่า "ก้ช่างบอกแบบนี้ค่ะ " ผมเลยขอดูใบสรุปงานของช่าง เค้าก็เดินไปค้นมาให้ดู แล้วก็ให้ผมดู ช่างก็เขียนว่า PCM ชัดเจน ผมเลยเอาให้คนรับเรื่องดู ... ไอ้คนรับเรื่องก็นิ่งนะ ไม่แสดงอาการอะไรออกมา ก็ไปกดคอมฯใหม่แล้วก็บอกราคามาใหม่ รอบนี้ก็ 12,000 นั้นแหละ ผมจึงขอมัดจำไป 5,000 บาท และก็ถามไปว่า "อะไหล่จะมาวันไหนครับ จะได้รถเมื่อไหร่" คนรับเรื่องก็บอกว่า "สั่งของ 10 โมงเช้า ก็จะได้ของวันต่อไป 5 โมงเย็น ไม่เกิน 2 วันคะ ถ้ารถอะไหล่เข้าเร็ว 2 วันก็รับรถได้ครับ" ได้ฟังแบบนั้นผมก็ใจชื้นขึ้นมา จะได้ใช้รถซะที