สวัสดีค่ะ \(^o^)/ อย่างที่ทุกคนทราบนะคะว่าช่วงนี้กระแส Cushion มาแรงมากจริงๆ มีแทบจะทุกเคาท์เตอร์แบรนด์กันเลยทีเดียว แต่ถามว่าเราสามารถซื้อได้ทุกแบรนด์มั้ย ไม่ค่ะเรายังทำไม่ได้ เพราะฉะนั้เราลองมาหาแบรนด์ที่ใช่ที่สุดกันดีกว่าค่ะ
วันนี้ขอเริ่มจากกลุ่มเคาท์เตอร์แบรนด์ก่อนนะคะ อาจจะไม่ครบทุกแบรนด์ที่ออกมานะคะ ตัวที่เหลือจะเป็นสายไม่ค่อยเน้นปกปิดเลยไม่ได้สอยมาค่ะ (ส่วน Sulwalsoo เราขอเอาไปรวมไว้ในกลุ่มสายเกาหลีที่จะรีวิวในโอกาสหน้านะคะ)

ขออนุญาตอธิบายสภาพผิวของเราก่อนนะคะ เป็นผิวผสม (ค่อนไปทางมันเลยล่ะค่ะ) สีผิวขาวโทนชมพูนะคะ
มาเริ่มที่ตัวแรกที่ออกมาก่อนเพื่อน (ใช่รึเปล่านะ แต่ซื้อก่อนเป็นตัวแรกๆ)
นั่นก็คือ
LANCOME Blanc expert cushion compact high coverage
ราคา 1,620 บาท ซื้อตอนลด 10% ค่ะ (ราคาเต็ม Refill 1,250 บาท ตลับ 550บาท)
สีที่เราใช้คือ O-01 ค่ะ
การปกปิด – ปกปิดในระดับกลาง สามารถปกปิดรอยสิวได้ระดับนึงค่ะ
ความสบายผิว – ไม่เหนียวเหนอะหนะ รู้สึกได้ถึงความเย็นสบายผิว มีกลิ่นหอมบางๆตามสไตล์ Lancome
ความกระจ่างใส – ใช้แล้วหน้าสว่างผ่อง (เพื่อนทักเวลาใช้แทบทุกครั้ง) ด้วยความที่เบอร์ O-01 เป็นโทนออกชมพูหน่อยๆจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หน้าสว่างด้วยค่ะ
Packaging – ตัวเนื้อ Cushion อยู่ในผ้าตาข่ายค่ะ พัฟปกติแบบพัฟ Cushion ทั่วไป ตัวตลับเรียบหรู ดูสะอาด แต่ไม่น่าตื่นเต้น 5555

ถ้าหมดแล้วจะซื้อต่อหรือไม่ : ซื้อค่ะ เพราะชอบเนื้อสัมผัสและการปกปิดในระดับกลาง ราคาไม่สูงมากด้วย
YSL LE CUSHION ENCRE DE PEAU Fusion Ink Cushion Foundation
ราคา 2,070 บาท ซื้อตอนลด 10% ค่ะ
สีที่เราใช้คือเบอร์ 20 ค่ะ
การปกปิด – ปกปิดในระดับ light to medium สามารถปกปิดรอยสิวได้นิดหน่อยค่ะ
ความสบายผิว – เนื้อบางเบาสบายผิวบวกกับกลิ่นหอมผู้ดีๆของ YSL คือใช่เลย นี่ถ้าไม่เคยใช้ Fusion Ink Cushion Foundation มาก่อน ต้องกรี๊ดระเบิดแน่ (แต่เราเคยใช้ตัวรองพื้น Fusion Ink แล้ว เลยอดว้าวดังเลย เนื้อมันตัวเดียวเลยค่ะ)
ความกระจ่างใส – ใช้แล้วหน้าสว่างค่ะ เป็นโทนออกชมพูเลย ตอนทาวูบแรกตกใจมากเพราะหน้าลอยเลยทีเดียว ต้องรอให้เซตตัวแป๊บนึงถึงจะโอเค
Packaging – ตัวเนื้อ Cushion อยู่ในฟองน้ำค่ะ พัฟปกติแบบพัฟ Cushion ทั่วไป ตัวตลับสวยหรูมาก ชอบที่สุด ที่ซื้อเพราะตลับนี่พูดเลย

ถ้าหมดแล้วจะซื้อต่อหรือไม่ : น่าจะซื้อค่ะ กัดฟันซื้อ ราคาแรงมาก แต่ชอบ Packaging และผิวสัมผัสที่เบาสบาย
ESTEE LAUDER double wear cushion BB
ราคา 1,665 บาท ซื้อตอนลด 10% ค่ะ
สีที่เราใช้คือ 1W2 ค่ะ
การปกปิด – ปกปิดในระดับ light to medium สามารถปกปิดรอยสิวได้ระดับนึงค่ะ
ความสบายผิว – แอบรู้สึกเหนอะหนะหน้านิดหน่อยค่ะ แต่เนื้อไม่หนาหรือหนักหน้านะคะ
ความกระจ่างใส – ใช้แล้วยังไม่รู้สึกผ่องค่ะ อันนี้ไม่แน่ใจเพราะ BA เลือกสีให้ไม่ถูกรึเปล่า เพราะสีดรอปกว่าหน้าคือช่วยเรื่องการปกปิดได้แต่ไม่กระจ่างใสค่ะ
Packaging – ตัวเนื้อ Cushion อยู่ในฟองน้ำค่ะ พัฟปกติแบบพัฟ Cushion ทั่วไป ตัวตลับตลับสีน้ำเงินของ Estee แบบเรียบๆปกติค่ะ แต่ชอบสีตลับเพราะแบรนด์อื่นเล่นไปทางขาวกับดำซะมากกว่า (ตัวพัฟแอบโดนน้ำแล้วสีตกด้วย TT)

ถ้าหมดแล้วจะซื้อต่อหรือไม่ : คิดว่าอาจจะไม่ซื้อค่ะ
GIVENCHY Teint Couture Cushion
ราคา 1,981 บาท ซื้อตอนลด 10% ค่ะ
สีที่เราใช้คือ 2 Fresh Shell 5x01 ค่ะ
การปกปิด – ปกปิดในระดับ light ปกปิดไม่ได้เลย ซึ่งทาง BA ก็แจ้งก่อนซื้อนะคะ
ความสบายผิว – เนื้อมีความหนืดแต่บางเบาค่ะ
ความกระจ่างใส – เป็นโทนออกชมพูมากๆเลยค่ะ เพราะว่าบางเบามากและปกปิดในระดับ light จึงไม่ค่อยช่วยเรื่องความกระจ่างใส
Packaging – ตัวเนื้อ Cushion อยู่ใน.ใต้แผ่นเหล็กค่ะ แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ เพราะทางแบรนด์กล่าวว่าจะช่วยในเรื่องการรักษาคุณภาพของเนื้อสินค้า แต่ก็มีข้อเสียนะคะ เพราะเมื่อกดให้เนื้อ Cushion ออกมาแล้ว พอสัมผัสกับใบหน้าจะเป็นตัว G ตามรูของแผ่นเหล็กค่ะ ต้องตบซับหลายๆรอบ พัฟปกติแบบพัฟ Cushion ทั่วไป ตัวตลับสีดำเรียบหรู นี่ก็ซื้อเพราะ Packaging ค่ะ พูดเลย!

ถ้าหมดแล้วจะซื้อต่อหรือไม่ : คิดว่าไม่ซื้อค่ะ
SHU Uemura Blanc Chroma Cushion
ราคา 1,530 บาท ซื้อตอนลด 15% ค่ะ (ราคาเต็ม Refill 1,200 บาท ตลับกับพัฟมาคู่กันในราคา 500 บาท พัฟขนแยกได้ชิ้นละ 200 บาท) ตอนซื้อมาเค้าแถมแป้งฝุ่นให้ด้วยค่ะ ดีมากๆเลย
สีที่เราใช้คือ 764 – medium light beige ค่ะ
การปกปิด – ปกปิดในระดับ medium to full coverage คือปกปิดได้น่าตกใจมาก นึกว่าเป็นเนื้อรองพื้นซะอีก
ความสบายผิว – ในเมื่อปกปิดขนาดนี้ เนื้อต้องหนักกว่าแบรนด์อื่นๆอยู่แล้วค่ะ แต่ก็ไม่ถึงขั้นหนามากจนรำคาญผิวนะคะ
ความกระจ่างใส – เป็นโทนออกเหลืองค่ะ ความกระจ่างใสไม่มากค่ะ อยู่ในระดับกลางๆ
Packaging – ตัวเนื้อ Cushion อยู่ในผ้าตาข่ายค่ะ พัฟปกติแบบพัฟขนๆนุ่มนิ่ม ซึ่งหลายๆคนอาจคิดว่ามันจะกินเนื้อ Cushion มากหรือไม่ จะเปลืองรึเปล่า จริงๆแล้วมันโอเคเลยนะคะ เพราะพอลงหน้ากับหน้าแล้วตัวเนื้อ Cushion จะอยู่ที่หน้าเราค่ะ แทบไม่หลงเหลืออยู่ในพัฟอย่างที่กังวลเลยค่ะ ส่วนตัวตลับเรียบหรู ดูสะอาด ธรรมดาปกติค่ะ

ถ้าหมดแล้วจะซื้อต่อหรือไม่ : ซื้อค่ะ เพราะชอบการปกปิดที่ดีมากและราคาไม่สูงด้วยค่ะ ในวันที่ต้องการหน้าแน่นนี่พกติดตัวไว้เลยค่ะ
ลองลงกันผิวหน้าจะต่างกับที่ลองบนมือนะคะ เลยทำตัวเปรียบเทียบมาให้ดูด้วยเลย

อาจจะช่วยได้แค่การเปรียบเทียบเรื่องการปกปิดนะคะ ดูจากรอยแผลแดงระหว่างคิ้ว รูป Before อาจจะดูหน้าแดงๆนะคะ เป็นปกติของผิวหน้าเราเองเวลาอากาศร้อน
เรียงลำดับการปกปิด
SHU > LANCOME > ESTEE > YSL > GIVENCHY
เรียงลำดับความกระจ่างใส
YSL > LANCOME > SHU > GIVENCHY > ESTEE
เรียงลำดับความฉ่ำวาว
YSL > ESTEE > GIVENCHY > LANCOME > SHU
เรื่องการคุมมันกับการดรอปของ Cushion ไม่ขอพูดถึงนะคะ ตัว Cushion มีความฉ่ำวาวอยู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดความมันของหน้ามากน้อยต่างกันไป จึงไม่คิดว่าจะสามารถควบคุมความมันได้ค่ะ ยิ่งถ้าใช้หน้าร้อนนี่เยิ้มเลยที่เดียว 555
โดยส่วนตัวแล้วถ้าสำหรับใช้ทุกวัน ส่วนใหญ่จะหยิบไม่ Lancome ก็ YSL มาใช้ค่ะ แต่ส่วนถ้าวันไหนต้องการความหน้าแน่นหรือมีรอยสิวหนักๆหน่อยก็จะหยิบ Shu มาใช้แทนค่ะ แต่สำหรับ Shu ถ้าลงทับซ้ำหลายรอบก็มีปัญหาเรื่องความหนาจนทำให้เป็นคราบได้เหมือนกันนะคะ เวลาจะเติม Cushion ในระหว่างวัน ถ้าหน้าเยิ้มมากเราจะซับมันก่อน แล้วฉีดสเปร์ยน้ำแร่ จากนั้นซับหน้าให้แห้งก่อนจะลง Cushion ทับ ก็สามารถกลับมาหน้าเด้งได้เหมือนกันค่ะ
หวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^^
[CR] รีวิว Cushion แบรนด์ไหนที่ใช่สำหรับคุณ YSL, Lancome, Shu, Estee, Givenchy
วันนี้ขอเริ่มจากกลุ่มเคาท์เตอร์แบรนด์ก่อนนะคะ อาจจะไม่ครบทุกแบรนด์ที่ออกมานะคะ ตัวที่เหลือจะเป็นสายไม่ค่อยเน้นปกปิดเลยไม่ได้สอยมาค่ะ (ส่วน Sulwalsoo เราขอเอาไปรวมไว้ในกลุ่มสายเกาหลีที่จะรีวิวในโอกาสหน้านะคะ)
ขออนุญาตอธิบายสภาพผิวของเราก่อนนะคะ เป็นผิวผสม (ค่อนไปทางมันเลยล่ะค่ะ) สีผิวขาวโทนชมพูนะคะ
มาเริ่มที่ตัวแรกที่ออกมาก่อนเพื่อน (ใช่รึเปล่านะ แต่ซื้อก่อนเป็นตัวแรกๆ)
นั่นก็คือ
LANCOME Blanc expert cushion compact high coverage
ราคา 1,620 บาท ซื้อตอนลด 10% ค่ะ (ราคาเต็ม Refill 1,250 บาท ตลับ 550บาท)
สีที่เราใช้คือ O-01 ค่ะ
การปกปิด – ปกปิดในระดับกลาง สามารถปกปิดรอยสิวได้ระดับนึงค่ะ
ความสบายผิว – ไม่เหนียวเหนอะหนะ รู้สึกได้ถึงความเย็นสบายผิว มีกลิ่นหอมบางๆตามสไตล์ Lancome
ความกระจ่างใส – ใช้แล้วหน้าสว่างผ่อง (เพื่อนทักเวลาใช้แทบทุกครั้ง) ด้วยความที่เบอร์ O-01 เป็นโทนออกชมพูหน่อยๆจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หน้าสว่างด้วยค่ะ
Packaging – ตัวเนื้อ Cushion อยู่ในผ้าตาข่ายค่ะ พัฟปกติแบบพัฟ Cushion ทั่วไป ตัวตลับเรียบหรู ดูสะอาด แต่ไม่น่าตื่นเต้น 5555
ถ้าหมดแล้วจะซื้อต่อหรือไม่ : ซื้อค่ะ เพราะชอบเนื้อสัมผัสและการปกปิดในระดับกลาง ราคาไม่สูงมากด้วย
YSL LE CUSHION ENCRE DE PEAU Fusion Ink Cushion Foundation
ราคา 2,070 บาท ซื้อตอนลด 10% ค่ะ
สีที่เราใช้คือเบอร์ 20 ค่ะ
การปกปิด – ปกปิดในระดับ light to medium สามารถปกปิดรอยสิวได้นิดหน่อยค่ะ
ความสบายผิว – เนื้อบางเบาสบายผิวบวกกับกลิ่นหอมผู้ดีๆของ YSL คือใช่เลย นี่ถ้าไม่เคยใช้ Fusion Ink Cushion Foundation มาก่อน ต้องกรี๊ดระเบิดแน่ (แต่เราเคยใช้ตัวรองพื้น Fusion Ink แล้ว เลยอดว้าวดังเลย เนื้อมันตัวเดียวเลยค่ะ)
ความกระจ่างใส – ใช้แล้วหน้าสว่างค่ะ เป็นโทนออกชมพูเลย ตอนทาวูบแรกตกใจมากเพราะหน้าลอยเลยทีเดียว ต้องรอให้เซตตัวแป๊บนึงถึงจะโอเค
Packaging – ตัวเนื้อ Cushion อยู่ในฟองน้ำค่ะ พัฟปกติแบบพัฟ Cushion ทั่วไป ตัวตลับสวยหรูมาก ชอบที่สุด ที่ซื้อเพราะตลับนี่พูดเลย
ถ้าหมดแล้วจะซื้อต่อหรือไม่ : น่าจะซื้อค่ะ กัดฟันซื้อ ราคาแรงมาก แต่ชอบ Packaging และผิวสัมผัสที่เบาสบาย
ESTEE LAUDER double wear cushion BB
ราคา 1,665 บาท ซื้อตอนลด 10% ค่ะ
สีที่เราใช้คือ 1W2 ค่ะ
การปกปิด – ปกปิดในระดับ light to medium สามารถปกปิดรอยสิวได้ระดับนึงค่ะ
ความสบายผิว – แอบรู้สึกเหนอะหนะหน้านิดหน่อยค่ะ แต่เนื้อไม่หนาหรือหนักหน้านะคะ
ความกระจ่างใส – ใช้แล้วยังไม่รู้สึกผ่องค่ะ อันนี้ไม่แน่ใจเพราะ BA เลือกสีให้ไม่ถูกรึเปล่า เพราะสีดรอปกว่าหน้าคือช่วยเรื่องการปกปิดได้แต่ไม่กระจ่างใสค่ะ
Packaging – ตัวเนื้อ Cushion อยู่ในฟองน้ำค่ะ พัฟปกติแบบพัฟ Cushion ทั่วไป ตัวตลับตลับสีน้ำเงินของ Estee แบบเรียบๆปกติค่ะ แต่ชอบสีตลับเพราะแบรนด์อื่นเล่นไปทางขาวกับดำซะมากกว่า (ตัวพัฟแอบโดนน้ำแล้วสีตกด้วย TT)
ถ้าหมดแล้วจะซื้อต่อหรือไม่ : คิดว่าอาจจะไม่ซื้อค่ะ
GIVENCHY Teint Couture Cushion
ราคา 1,981 บาท ซื้อตอนลด 10% ค่ะ
สีที่เราใช้คือ 2 Fresh Shell 5x01 ค่ะ
การปกปิด – ปกปิดในระดับ light ปกปิดไม่ได้เลย ซึ่งทาง BA ก็แจ้งก่อนซื้อนะคะ
ความสบายผิว – เนื้อมีความหนืดแต่บางเบาค่ะ
ความกระจ่างใส – เป็นโทนออกชมพูมากๆเลยค่ะ เพราะว่าบางเบามากและปกปิดในระดับ light จึงไม่ค่อยช่วยเรื่องความกระจ่างใส
Packaging – ตัวเนื้อ Cushion อยู่ใน.ใต้แผ่นเหล็กค่ะ แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ เพราะทางแบรนด์กล่าวว่าจะช่วยในเรื่องการรักษาคุณภาพของเนื้อสินค้า แต่ก็มีข้อเสียนะคะ เพราะเมื่อกดให้เนื้อ Cushion ออกมาแล้ว พอสัมผัสกับใบหน้าจะเป็นตัว G ตามรูของแผ่นเหล็กค่ะ ต้องตบซับหลายๆรอบ พัฟปกติแบบพัฟ Cushion ทั่วไป ตัวตลับสีดำเรียบหรู นี่ก็ซื้อเพราะ Packaging ค่ะ พูดเลย!
ถ้าหมดแล้วจะซื้อต่อหรือไม่ : คิดว่าไม่ซื้อค่ะ
SHU Uemura Blanc Chroma Cushion
ราคา 1,530 บาท ซื้อตอนลด 15% ค่ะ (ราคาเต็ม Refill 1,200 บาท ตลับกับพัฟมาคู่กันในราคา 500 บาท พัฟขนแยกได้ชิ้นละ 200 บาท) ตอนซื้อมาเค้าแถมแป้งฝุ่นให้ด้วยค่ะ ดีมากๆเลย
สีที่เราใช้คือ 764 – medium light beige ค่ะ
การปกปิด – ปกปิดในระดับ medium to full coverage คือปกปิดได้น่าตกใจมาก นึกว่าเป็นเนื้อรองพื้นซะอีก
ความสบายผิว – ในเมื่อปกปิดขนาดนี้ เนื้อต้องหนักกว่าแบรนด์อื่นๆอยู่แล้วค่ะ แต่ก็ไม่ถึงขั้นหนามากจนรำคาญผิวนะคะ
ความกระจ่างใส – เป็นโทนออกเหลืองค่ะ ความกระจ่างใสไม่มากค่ะ อยู่ในระดับกลางๆ
Packaging – ตัวเนื้อ Cushion อยู่ในผ้าตาข่ายค่ะ พัฟปกติแบบพัฟขนๆนุ่มนิ่ม ซึ่งหลายๆคนอาจคิดว่ามันจะกินเนื้อ Cushion มากหรือไม่ จะเปลืองรึเปล่า จริงๆแล้วมันโอเคเลยนะคะ เพราะพอลงหน้ากับหน้าแล้วตัวเนื้อ Cushion จะอยู่ที่หน้าเราค่ะ แทบไม่หลงเหลืออยู่ในพัฟอย่างที่กังวลเลยค่ะ ส่วนตัวตลับเรียบหรู ดูสะอาด ธรรมดาปกติค่ะ
ถ้าหมดแล้วจะซื้อต่อหรือไม่ : ซื้อค่ะ เพราะชอบการปกปิดที่ดีมากและราคาไม่สูงด้วยค่ะ ในวันที่ต้องการหน้าแน่นนี่พกติดตัวไว้เลยค่ะ
ลองลงกันผิวหน้าจะต่างกับที่ลองบนมือนะคะ เลยทำตัวเปรียบเทียบมาให้ดูด้วยเลย
อาจจะช่วยได้แค่การเปรียบเทียบเรื่องการปกปิดนะคะ ดูจากรอยแผลแดงระหว่างคิ้ว รูป Before อาจจะดูหน้าแดงๆนะคะ เป็นปกติของผิวหน้าเราเองเวลาอากาศร้อน
เรียงลำดับการปกปิด
SHU > LANCOME > ESTEE > YSL > GIVENCHY
เรียงลำดับความกระจ่างใส
YSL > LANCOME > SHU > GIVENCHY > ESTEE
เรียงลำดับความฉ่ำวาว
YSL > ESTEE > GIVENCHY > LANCOME > SHU
เรื่องการคุมมันกับการดรอปของ Cushion ไม่ขอพูดถึงนะคะ ตัว Cushion มีความฉ่ำวาวอยู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดความมันของหน้ามากน้อยต่างกันไป จึงไม่คิดว่าจะสามารถควบคุมความมันได้ค่ะ ยิ่งถ้าใช้หน้าร้อนนี่เยิ้มเลยที่เดียว 555
โดยส่วนตัวแล้วถ้าสำหรับใช้ทุกวัน ส่วนใหญ่จะหยิบไม่ Lancome ก็ YSL มาใช้ค่ะ แต่ส่วนถ้าวันไหนต้องการความหน้าแน่นหรือมีรอยสิวหนักๆหน่อยก็จะหยิบ Shu มาใช้แทนค่ะ แต่สำหรับ Shu ถ้าลงทับซ้ำหลายรอบก็มีปัญหาเรื่องความหนาจนทำให้เป็นคราบได้เหมือนกันนะคะ เวลาจะเติม Cushion ในระหว่างวัน ถ้าหน้าเยิ้มมากเราจะซับมันก่อน แล้วฉีดสเปร์ยน้ำแร่ จากนั้นซับหน้าให้แห้งก่อนจะลง Cushion ทับ ก็สามารถกลับมาหน้าเด้งได้เหมือนกันค่ะ
หวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^^