สวัสดีครับ เนื่องด้วยผมใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดมาได้สักพักแล้ว แรกๆผมก็อยู่บ้านบ้างอยู่คอนโดบ้าง แต่ตอนนี้มาอยู่คอนโดแบบถาวร พอได้มาอยู่แบบจริงจังและได้นั่งทำงานในห้องไปด้วย ผมก็เริ่มมีปัญหาเรื่องแสงไฟในห้องมันสว่างไม่พอและแสงในห้องก็เป็นแสงสีส้มซะส่วนใหญ่ซึ่งไม่ชอบเวลาต้องทำงานครับ
ก็ งง อยู่นาน แต่ก็พอคิดวิธีที่จะทำให้มันสว่างขึ้นได้โดยการรรรรรรร ซื้อใหม่ซะเลย 555+ จะได้เปลี่ยนแสงสีของหลอดด้วยเพราะชอบแบบสีขาวมากกว่า แต่ก็คงต้องดูค่าความสว่างให้เป็นก่อนเลยทำวิธีการง่ายๆคือปิดไฟแล้วหมุนหลอดออกมาดูเลยครับสรุปได้ว่าที่หลอดเขียนแบบนี้
11w / 2 u , Warm White , 220 – 240 V , 50/60 Hz , 605 Lumen , 55 lm/W
ถามว่างงไหมโคตรครับแต่ก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดไม่ได้รู้หมดเลยนะ ผมรู้เลยว่ากินไฟ 11W (รู้อยู่ตัวเดียว) ตอนนี้ผมรู้ค่าการกินไฟละต่อไปค่าความสว่างมันคืออันไหนเลยลองหาจากเน็ต ในที่สุดผมก็เจอแล้วครับว่าความสว่างมันคือ Lumen ขอบคุณเว็บนี้ครับ สำหรับข้อมูลการดูรายละเอียดของหลอดไฟแบบพื้นๆ
http://yusabuy.com/2015/02/25/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%9F/
ตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าหลอดของผมกินไฟ 11w มีสีเป็น Warm White ให้ความสว่าง 605 Lumen ถึงเวลาต้องไปซื้อแล้ว นับในส่วนที่ใช้งานในห้องได้ 5 ดวง อีกอย่างหลอดผมเป็นหลอดตะเกียบ พอรู้ครบแล้วก็ตรงดิ่งไปซื้อทันที
พอไปถึงร้านบุญถาวรรัชดา ผมก็ตรงดิ่งไปที่แผนกขายหลอดไฟทันทีแล้วบอกพนักงานว่า พี่ครับผมจะเปลี่ยนหลอดไฟเอาสว่างกว่านี้ครับ แล้วยื่นหลอดให้เค้าดูบวกกับที่จดมาว่า กินไฟ 11w ความสว่าง 605 Lumen แสง Warm White พี่เค้าก็เลยแนะนำหลอดที่เป็น LED มาครับ ซึ่ง วัตมันน้อยกว่าแต่ให้ความสว่างเยอะกว่า เออดีวะกินไฟน้อยกว่าสว่างกว่าอีก แต่ยังครับผมยังไม่ตัดสินใจในทันที และแล้วผมเหลือบไปเห็นของเล่นที่ไม่คิดว่าจะมีแบบนี้ด้วยคือหลอดสลับแสงสีใช้เปิดปิดเปลี่ยนสีได้ ผมก็เลย งง อยู่พักนึงครับ เลยคิดว่าจะลองเอามาเล่นดีไหม เพราะรู้สึกว่ามันใหม่และน่าลองดี แล้วผมก็ถามพี่เค้าว่าพี่ครับมันต่างกันยังไงเลยได้คำตอบว่า หลอดนี้มันสามารถกดเปิดปิดเพื่อสลับสีของหลอดได้ เช่น เปิด 1 ครั้งได้สีส้ม ปิดและเปิดอีก 1 ครั้งได้สีขาว แบบนี้ชอบเลยเหมาะสำหรับคนพื้นที่น้อยๆแบบผมมาก เลยถามพี่เค้าครั้งสุดท้ายว่าพี่ครับ มันสว่างพอผมใช้ได้ไหมครับ พี่เค้าเลยตอบว่า ครับ เหมือนพี่เค้าจะรำคาญละ สรุปผมก็เลยจัดมา 5 หลอดครบตามจำนวนไฟที่ห้องครับ ราคาต่อหลอดจะอยู่ที่ 279 บาท ถ้าเทียบกับหลอดไฟ LED แบบปกติและวัตเท่ากันจะอยู่ที่ 199 บาท ซึ่งถามว่าคุ้มไหมผมคิดว่าก็โอเคนะ เพราะผมจะได้ทั้งไฟสีขาวตอนนั่งทำงานและยังได้ไฟสีส้มตอนนั่งชิวๆจิบเบียร์ดูบอลไปได้ด้วย
มาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่าพูดไปมากละ
หลอดที่ได้มาเป็นหลอด Philips LED Scene Switch ครับ กินไฟ 9.5 w สว่าง 806 Lumen (สว่างกว่าหลอดเก่า 201 Lumen กินไฟน้อยกว่า 2.5 w ) หลอดสามารถเปิดแสงได้ 2 แสงครับ อย่างเจ๋งอะ คือ 1. Cool daylight 2. Warm white พูดง่ายๆก็คงแสงขาวแสงส้มแหละครับ บางคนอาจจะคิดแล้วถ้าเราเกิดกดปิดไปแล้วอยากได้แสงเดิมละทำไง ผมไปอ่านข้างๆกล่องมาครับเห็นเขียนว่า ถ้าปิดไฟไปแล้วทิ้งไว้ประมาณ 6 วินาที ไม่ว่าจะเปิดเป็นแสงไหนเอาไว้ แสงจะถูกปรับกลับไปให้เป็นแสงสีขาว Cool daylight ทันทีครับ พูดง่ายๆก็คงถ้าเปิดปิดเร็วๆจะเปลี่ยน ถ้าทิ้งไว้แสงจะเด้งกลับไปที่สีขาว
นี่คือหลอดเก่าที่ยังไม่ได้เปลี่ยนนะครับเป็นแบบนี้ พี่ที่ขายเค้าบอกว่าหมุนออกแล้วเอาใส่แทนที่ได้เลย
เริ่มแรกผมจะเปลี่ยนในส่วนของห้องนั่งเล่นก่อนนะครับ ห้องนั่งเล่นผมใช้ทำแทบทุกอย่าง ทำงาน ดูทีวี อ่านหนังสือ กินข้าว และ เวลาพักผ่อนที่ไม่ได้หลับครับ เปลี่ยนทั้งหมด 2 ดวง 2 จุดด้วยกัน
หลังจากเปลี่ยนหลอดแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ
แต่ก่อนที่จะเปลี่ยนได้ยินว่าหลอด LED แบบนี้มันใช้งานได้นานครับผมถึงติดแถบวันที่และเวลาเอาเปลี่ยนเอาไว้ว่าจะใช้งานได้นานจริงรึเปล่า
สภาพแสงของห้องนั่งเล่นตอนใช้หลอดเก่าครับจะสังเกตได้ว่าแสงจะดูส้มๆและไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่
สภาพแสงของห้องตอนเปลี่ยนเป็นหลอด Philips LED Scene Switch จะสังเกตได้ว่าสว่างขึ้นนิดหน่อยครับและสีส้มจะอ่อนลงไปบ้างดูสบายตาดีครับ และที่ดีกว่านั้นคือมันสลับสีได้ครับ
มาดูในส่วนของโต๊ะทำงานบ้างครับ สว่างขึ้นพอใช้ได้ครับแถมมีแสงสีขาวให้ใช้ได้ในเวลางานอีกด้วย แถมอยากนั่งฟังเพลงชิวๆผมก็เปลี่ยนเป็นแสงสีส้มได้เลยครับ
ตอนนี้เวลาผมอ่านหนังผมก็ใช้แสงสีขาวได้แล้วครับอ่านง่ายสบายตาดี ปกติใช้แสงสีส้มอ่านแล้วชอบง่วงครับ
ถ้าเปิดแสงสีส้มแบบนี้ก็เอาไว้นั่งชิวๆจิบเบียร์เบาๆเหมาะมากๆได้ฟิวสุดๆครับ
ลองเปรียบเทียบแสงจากจุดต่างๆภายในห้องครับ
มาดูในส่วนของห้องนอนกัน ห้องนอนก็เปลี่ยน 2 ดวงเหมือนกัน แต่หลอดเก่ามันเป็นสีขาว 1 หลอด สีส้ม 1 หลอด ก็แปลกดีนะครับ 1 ห้อง 2 อารมณ์
มาดูหลังจากเปลี่ยนมาใช้ Philips LED Scene Switch กันบ้างครับ สว่างขึ้นครับ แต่คงจะบวกกับที่ผมปรับกล้องเพิ่มอีกนิดหน่อยด้วยนะครับ แต่ยังไงก็สว่างขึ้นอยู่ดี
มาดูหลังจากเปลี่ยนมาใช้ Philips LED Scene Switch กันบ้างครับ สว่างขึ้นครับ แต่คงจะบวกกับที่ผมปรับกล้องเพิ่มอีกนิดหน่อยด้วยนะครับ แต่ยังไงก็สว่างขึ้นอยู่ดี
ผมมักจะทำงานในห้องนอนบ้างในตอนกลางคืน หรือบางทีก็อ่านหนังสือเล่น ถ้าจะอ่านหนังสือผมก็จะใช้แสงสีขาว แต่ถ้าใกล้เวลานอนแล้วคงจะเปลี่ยนเป็นสีส้มเพื่อบิ้วให้หลับง่ายขึ้นเพราะผมอยู่ในแสงสีส้มทีไรง่วงทุกทีครับ
ลองเปรียบเทียบแสงในห้องนอนดูครับ
จุดตกของแสงไฟครับ
ลองถ่ายที่มีวัตถุบ้างครับน่าจะเห็นความเปรียบต่างกันได้ชัดเจนขึ้น
มาดูห้องครัวกันบ้างดีกว่า เป็นพื้นที่ที่ได้ใช้น้อยที่สุดเลยครับ เปลี่ยน 1 หลอด หลอดเก่าก็เป็นหลอดตะเกียบเหมือนกันครับ จริงๆห้องครัวอยากได้แสงสีขาวเพราะมันดูเวลาทำอะไรแล้วมันดูเป็นธรรมชาติดีครับ
เปลี่ยนเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับผมสว่างขึ้นแสงดีขึ้น กดเปิดปิดสลับไปมาสนุกดีครับ
ส่วนตัวชอบสีขาวมากกว่าครับ รู้สึกอยากล้างจานมากกว่า ไม่รู้เกี่ยวกันไหม อยู่ในแสงสีส้มทีไรรู้สึกอยากนอนขึ้นมาทันที
จบรีวิวไปเป็นที่เรียบร้อยครับ สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนไฟใหม่ผมก็แนะนำเลยครับเหมาะสำหรับคนที่ใช้พื้นที่เดียวทำหลายอย่างทั้งพักผ่อนทั้งทำงานอยากได้แสงหลายๆแบบในดวงเดียวไม่ต้องใช้โคมไฟเพิ่มให้เปลืองไฟกว่าเดิมครับ แต่ถ้าใครคิดว่าใช้แบบสีเดียวดีกว่าก็ใช้ได้เหมือนกันครับ
เช่น ถ้าชอบสีของแสงแบบนี้ก็แนะนำแสงสีส้ม Warm White ครับ
หรือถ้าชอบสีของแสงประมาณนี้ก็แนะนำให้ใช้แสงสีขาว Cool daylight
ขอบคุณที่สละเวลามานั่งอ่านกันนะครับ ส่วนถ้าใครอยากจะเปลี่ยนมาใช้ก็ลองไปหาซื้อกันได้เลย ราคา 279 บาท ตามห้างทั่วไปน่าจะมีให้ซื้อกันหรือถ้าอยากไปแล้วเจอเลยก็แนะนำให้ไปซื้อที่บุญถาวรสาขารัชดาแบบผมนะครับ
สำหรับตัวผมให้คะแนนความแปลกใหม่ของหลอด Philips LED Scene Switch ตัวนี้ 8.5/10 ครับ
ส่วนเรื่องความประหยัดและความคงทนคงต้องวัดกันอีกทีครับ แค่ประหยัดและทนมากกว่าหลอดไฟแบบเก่าผมก็โอแล้วครับ
ขอบคุณทุกคนมากครับ
[CR] [CR] ลองของใหม่ พื้นที่น้อยใช้หลอดไฟตัวเดียวมีครบทุกอารมณ์
ก็ งง อยู่นาน แต่ก็พอคิดวิธีที่จะทำให้มันสว่างขึ้นได้โดยการรรรรรรร ซื้อใหม่ซะเลย 555+ จะได้เปลี่ยนแสงสีของหลอดด้วยเพราะชอบแบบสีขาวมากกว่า แต่ก็คงต้องดูค่าความสว่างให้เป็นก่อนเลยทำวิธีการง่ายๆคือปิดไฟแล้วหมุนหลอดออกมาดูเลยครับสรุปได้ว่าที่หลอดเขียนแบบนี้
11w / 2 u , Warm White , 220 – 240 V , 50/60 Hz , 605 Lumen , 55 lm/W
ถามว่างงไหมโคตรครับแต่ก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดไม่ได้รู้หมดเลยนะ ผมรู้เลยว่ากินไฟ 11W (รู้อยู่ตัวเดียว) ตอนนี้ผมรู้ค่าการกินไฟละต่อไปค่าความสว่างมันคืออันไหนเลยลองหาจากเน็ต ในที่สุดผมก็เจอแล้วครับว่าความสว่างมันคือ Lumen ขอบคุณเว็บนี้ครับ สำหรับข้อมูลการดูรายละเอียดของหลอดไฟแบบพื้นๆ
http://yusabuy.com/2015/02/25/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%9F/
ตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าหลอดของผมกินไฟ 11w มีสีเป็น Warm White ให้ความสว่าง 605 Lumen ถึงเวลาต้องไปซื้อแล้ว นับในส่วนที่ใช้งานในห้องได้ 5 ดวง อีกอย่างหลอดผมเป็นหลอดตะเกียบ พอรู้ครบแล้วก็ตรงดิ่งไปซื้อทันที
พอไปถึงร้านบุญถาวรรัชดา ผมก็ตรงดิ่งไปที่แผนกขายหลอดไฟทันทีแล้วบอกพนักงานว่า พี่ครับผมจะเปลี่ยนหลอดไฟเอาสว่างกว่านี้ครับ แล้วยื่นหลอดให้เค้าดูบวกกับที่จดมาว่า กินไฟ 11w ความสว่าง 605 Lumen แสง Warm White พี่เค้าก็เลยแนะนำหลอดที่เป็น LED มาครับ ซึ่ง วัตมันน้อยกว่าแต่ให้ความสว่างเยอะกว่า เออดีวะกินไฟน้อยกว่าสว่างกว่าอีก แต่ยังครับผมยังไม่ตัดสินใจในทันที และแล้วผมเหลือบไปเห็นของเล่นที่ไม่คิดว่าจะมีแบบนี้ด้วยคือหลอดสลับแสงสีใช้เปิดปิดเปลี่ยนสีได้ ผมก็เลย งง อยู่พักนึงครับ เลยคิดว่าจะลองเอามาเล่นดีไหม เพราะรู้สึกว่ามันใหม่และน่าลองดี แล้วผมก็ถามพี่เค้าว่าพี่ครับมันต่างกันยังไงเลยได้คำตอบว่า หลอดนี้มันสามารถกดเปิดปิดเพื่อสลับสีของหลอดได้ เช่น เปิด 1 ครั้งได้สีส้ม ปิดและเปิดอีก 1 ครั้งได้สีขาว แบบนี้ชอบเลยเหมาะสำหรับคนพื้นที่น้อยๆแบบผมมาก เลยถามพี่เค้าครั้งสุดท้ายว่าพี่ครับ มันสว่างพอผมใช้ได้ไหมครับ พี่เค้าเลยตอบว่า ครับ เหมือนพี่เค้าจะรำคาญละ สรุปผมก็เลยจัดมา 5 หลอดครบตามจำนวนไฟที่ห้องครับ ราคาต่อหลอดจะอยู่ที่ 279 บาท ถ้าเทียบกับหลอดไฟ LED แบบปกติและวัตเท่ากันจะอยู่ที่ 199 บาท ซึ่งถามว่าคุ้มไหมผมคิดว่าก็โอเคนะ เพราะผมจะได้ทั้งไฟสีขาวตอนนั่งทำงานและยังได้ไฟสีส้มตอนนั่งชิวๆจิบเบียร์ดูบอลไปได้ด้วย
มาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่าพูดไปมากละ
หลอดที่ได้มาเป็นหลอด Philips LED Scene Switch ครับ กินไฟ 9.5 w สว่าง 806 Lumen (สว่างกว่าหลอดเก่า 201 Lumen กินไฟน้อยกว่า 2.5 w ) หลอดสามารถเปิดแสงได้ 2 แสงครับ อย่างเจ๋งอะ คือ 1. Cool daylight 2. Warm white พูดง่ายๆก็คงแสงขาวแสงส้มแหละครับ บางคนอาจจะคิดแล้วถ้าเราเกิดกดปิดไปแล้วอยากได้แสงเดิมละทำไง ผมไปอ่านข้างๆกล่องมาครับเห็นเขียนว่า ถ้าปิดไฟไปแล้วทิ้งไว้ประมาณ 6 วินาที ไม่ว่าจะเปิดเป็นแสงไหนเอาไว้ แสงจะถูกปรับกลับไปให้เป็นแสงสีขาว Cool daylight ทันทีครับ พูดง่ายๆก็คงถ้าเปิดปิดเร็วๆจะเปลี่ยน ถ้าทิ้งไว้แสงจะเด้งกลับไปที่สีขาว
นี่คือหลอดเก่าที่ยังไม่ได้เปลี่ยนนะครับเป็นแบบนี้ พี่ที่ขายเค้าบอกว่าหมุนออกแล้วเอาใส่แทนที่ได้เลย
เริ่มแรกผมจะเปลี่ยนในส่วนของห้องนั่งเล่นก่อนนะครับ ห้องนั่งเล่นผมใช้ทำแทบทุกอย่าง ทำงาน ดูทีวี อ่านหนังสือ กินข้าว และ เวลาพักผ่อนที่ไม่ได้หลับครับ เปลี่ยนทั้งหมด 2 ดวง 2 จุดด้วยกัน
หลังจากเปลี่ยนหลอดแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ
แต่ก่อนที่จะเปลี่ยนได้ยินว่าหลอด LED แบบนี้มันใช้งานได้นานครับผมถึงติดแถบวันที่และเวลาเอาเปลี่ยนเอาไว้ว่าจะใช้งานได้นานจริงรึเปล่า
สภาพแสงของห้องนั่งเล่นตอนใช้หลอดเก่าครับจะสังเกตได้ว่าแสงจะดูส้มๆและไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่
สภาพแสงของห้องตอนเปลี่ยนเป็นหลอด Philips LED Scene Switch จะสังเกตได้ว่าสว่างขึ้นนิดหน่อยครับและสีส้มจะอ่อนลงไปบ้างดูสบายตาดีครับ และที่ดีกว่านั้นคือมันสลับสีได้ครับ
มาดูในส่วนของโต๊ะทำงานบ้างครับ สว่างขึ้นพอใช้ได้ครับแถมมีแสงสีขาวให้ใช้ได้ในเวลางานอีกด้วย แถมอยากนั่งฟังเพลงชิวๆผมก็เปลี่ยนเป็นแสงสีส้มได้เลยครับ
ตอนนี้เวลาผมอ่านหนังผมก็ใช้แสงสีขาวได้แล้วครับอ่านง่ายสบายตาดี ปกติใช้แสงสีส้มอ่านแล้วชอบง่วงครับ
ถ้าเปิดแสงสีส้มแบบนี้ก็เอาไว้นั่งชิวๆจิบเบียร์เบาๆเหมาะมากๆได้ฟิวสุดๆครับ
ลองเปรียบเทียบแสงจากจุดต่างๆภายในห้องครับ
มาดูในส่วนของห้องนอนกัน ห้องนอนก็เปลี่ยน 2 ดวงเหมือนกัน แต่หลอดเก่ามันเป็นสีขาว 1 หลอด สีส้ม 1 หลอด ก็แปลกดีนะครับ 1 ห้อง 2 อารมณ์
มาดูหลังจากเปลี่ยนมาใช้ Philips LED Scene Switch กันบ้างครับ สว่างขึ้นครับ แต่คงจะบวกกับที่ผมปรับกล้องเพิ่มอีกนิดหน่อยด้วยนะครับ แต่ยังไงก็สว่างขึ้นอยู่ดี
มาดูหลังจากเปลี่ยนมาใช้ Philips LED Scene Switch กันบ้างครับ สว่างขึ้นครับ แต่คงจะบวกกับที่ผมปรับกล้องเพิ่มอีกนิดหน่อยด้วยนะครับ แต่ยังไงก็สว่างขึ้นอยู่ดี
ผมมักจะทำงานในห้องนอนบ้างในตอนกลางคืน หรือบางทีก็อ่านหนังสือเล่น ถ้าจะอ่านหนังสือผมก็จะใช้แสงสีขาว แต่ถ้าใกล้เวลานอนแล้วคงจะเปลี่ยนเป็นสีส้มเพื่อบิ้วให้หลับง่ายขึ้นเพราะผมอยู่ในแสงสีส้มทีไรง่วงทุกทีครับ
ลองเปรียบเทียบแสงในห้องนอนดูครับ
จุดตกของแสงไฟครับ
ลองถ่ายที่มีวัตถุบ้างครับน่าจะเห็นความเปรียบต่างกันได้ชัดเจนขึ้น
มาดูห้องครัวกันบ้างดีกว่า เป็นพื้นที่ที่ได้ใช้น้อยที่สุดเลยครับ เปลี่ยน 1 หลอด หลอดเก่าก็เป็นหลอดตะเกียบเหมือนกันครับ จริงๆห้องครัวอยากได้แสงสีขาวเพราะมันดูเวลาทำอะไรแล้วมันดูเป็นธรรมชาติดีครับ
เปลี่ยนเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับผมสว่างขึ้นแสงดีขึ้น กดเปิดปิดสลับไปมาสนุกดีครับ
ส่วนตัวชอบสีขาวมากกว่าครับ รู้สึกอยากล้างจานมากกว่า ไม่รู้เกี่ยวกันไหม อยู่ในแสงสีส้มทีไรรู้สึกอยากนอนขึ้นมาทันที
จบรีวิวไปเป็นที่เรียบร้อยครับ สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนไฟใหม่ผมก็แนะนำเลยครับเหมาะสำหรับคนที่ใช้พื้นที่เดียวทำหลายอย่างทั้งพักผ่อนทั้งทำงานอยากได้แสงหลายๆแบบในดวงเดียวไม่ต้องใช้โคมไฟเพิ่มให้เปลืองไฟกว่าเดิมครับ แต่ถ้าใครคิดว่าใช้แบบสีเดียวดีกว่าก็ใช้ได้เหมือนกันครับ
เช่น ถ้าชอบสีของแสงแบบนี้ก็แนะนำแสงสีส้ม Warm White ครับ
หรือถ้าชอบสีของแสงประมาณนี้ก็แนะนำให้ใช้แสงสีขาว Cool daylight
ขอบคุณที่สละเวลามานั่งอ่านกันนะครับ ส่วนถ้าใครอยากจะเปลี่ยนมาใช้ก็ลองไปหาซื้อกันได้เลย ราคา 279 บาท ตามห้างทั่วไปน่าจะมีให้ซื้อกันหรือถ้าอยากไปแล้วเจอเลยก็แนะนำให้ไปซื้อที่บุญถาวรสาขารัชดาแบบผมนะครับ
สำหรับตัวผมให้คะแนนความแปลกใหม่ของหลอด Philips LED Scene Switch ตัวนี้ 8.5/10 ครับ
ส่วนเรื่องความประหยัดและความคงทนคงต้องวัดกันอีกทีครับ แค่ประหยัดและทนมากกว่าหลอดไฟแบบเก่าผมก็โอแล้วครับ
ขอบคุณทุกคนมากครับ