ปักกิ่ง นครแห่งความหลัง ตอนที่ 2 : พระราชวังต้องห้ามในม่านพญามังกร   http://pantip.com/topic/35103309
ปักกิ่ง นครแห่งความหลัง ตอนที่ 3 : พระราชวังต้องห้ามในม่านพญามังกร   http://pantip.com/topic/35106096/
ปักกิ่ง นครแห่งความหลัง ตอนที่ 4 : อี้เหอหยวน ความงามที่แม้แต่เทพยดายังต้องเหลียวมองhttp://pantip.com/topic/35113470
ปักกิ่ง นครแห่งความหลัง ตอนจบ : ปักกิ่งแบบจับฉ่ายรวมมิตร รังนก วัดลามะ สวนดอกไม้ ย่านเฉียนเหมิน และโอนิซึกะที่ฮ่องกง http://pantip.com/topic/35122578/

ถ้าคุณยังไม่ได้มาปักกิ่ง คุณจะไม่รู้จักเมืองจีน ถ้าคุณยังไม่ได้ปืนกำแพงเมืองจีน ไม่ได้มาพระราชวังต้องห้าม ไม่ได้ไปยืนที่พระราชวังฤดูร้อน เพื่อดูสายน้ำแห่งทะเลสาบคุนหมิง คุณก็จะไม่มีวันเข้าใจความยิ่งใหญ่แห่งประวัติศาสตร์ของชาวจีน



ผมไปจีนมา 2 ครั้ง
   - คุนหมิง ลี่เจียง ต้าหลี่ จงเตี้ยน จงเตี้ยนนั้นไปมาตั้งแต่ก่อนกู่เฉิงจะถูกเผา เสียดายมากเพราะชอบบรรยากาศของเมืองโบราณจงเตี้ยน
   - ฉงชิ่ง เฉิงตู จิ่วจ้ายโก่ว สัมผัสสายน้ำที่ขึ้นชื่อว่างามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

แต่ปักกิ่งเป็นเมืองที่อยากไปมานานมากแล้ว แต่ยังไม่ได้ไป สาเหตุเพราะว่าเป็นคนชื่นชอบประวัติศาสตร์จีน ศึกษาประวัติศาสตร์จีนมาพอสมควร ทั้งนิยายจีน มังกรหยก แปดเทพอสูรมังกรฟ้า เจาะเวลาหาจิ๋นซี มังกรคู่สู้สิบทิศ หนังจีนกำลังภายในติดงอมแงม การ์ตูนจีนที่ดัง ๆ มีสะสมไว้เกือบครบทุกเรื่อง โดยเฉพาะสามก๊กนั้น เหมือนซึมอยู่ในสายเลือด

เคยดูสารคดี ภาพยนตร์ เกี่ยวกับกำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม อ่านประวัติซูสีไทเฮา ค้นคว้าว่าทำไมแมนจูถึงมาปกครองจีนฮั่นได้ สงสัยว่าทำไมคนจีนถึงต้องโกนหัวและไว้ผมเปีย สิ่งเหล่านี้ติดอยู่ในความทรงจำมาตั้งแต่เด็ก ๆ จึงทำให้อยากไปดูด้วยตา สัมผัสเข้าถึงด้วยตนเอง ปักกิ่งจึงเป็นนครที่อยากไปเที่ยวมาก ๆ

แต่ปักกิ่งเหมือนอยู่ไกลเกินฝัน เนื่องด้วยราคาตั๋วที่แพง และปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทำให้ยังไม่มีโอกาสได้ไปเสียที

จนมาเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ผมลอง search หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกเล่น ๆ จนไปเจอสายการบิน Hongkong Airline จองไปกลับปักกิ่งได้ราคาถูกเพียงไปกลับประมาณ 8,800 บาทเท่านั้น แต่ต้องไป transit ที่ฮ่องกง (ใช้เวลารอ Transit ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น) ผมไม่รอช้า รีบคว้าไว้ทันที โดยขากลับผมเลือก Stop Over ที่ฮ่องกง 2 คืน เพื่อแวะเที่ยวช้อปปิ้งที่ฮ่องกง สักหน่อย
      และ Hongkong Airline ยังให้น้ำหนักกระเป๋า 20 kg อาหารบนเครื่องบินด้วยครับ
   

      ขาไป ผมเลือกออกจากสุวรรณภูมิ 01.15 ถึงฮ่องกง 05.05 (เวลาบวก 1 ชั่วโมงแล้ว)
      รอ transit ประมาณ 2 ชัวโมงครึ่ง เป็นครั้งแรกของผมที่ Transit ก็ไม่ยากลำบากอะไร นอนพักเอาแรงหน้า Gate สักงีบหนึ่ง ถึงปักกิ่ง 11.05


     ขากลับ ผมเลือกออกจากปักกิ่ง 12.10 ถึงฮ่องกง 15.55 แวะนอนฮ่องกง 2 คืน ออกจากฮ่องกงเที่ยวดึก 23.15 ถึงสุวรรณภูมิ 01.10


     โดยเริ่มออกเดินทาง วันที่ 18 เมษายน 2016 กลับถึงเมืองไทยเช้ามืดวันที่ 26 เมษายน 2016 จองล่วงหน้านานพอสมควรครับทริปนี้ แต่ก็ทำให้ได้ตั๋วราคาค่อนข้างถุก เที่ยวปักกิ่ง และยังได้ช้อปปิ้งฮ่องกงอีกด้วย ถือว่าลงตัวสำหรับผม

    - ทริปนี้ผมพาแฟนกับแม่ไปด้วย แม่อายุ 65 แล้ว แถมไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศมาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรก แต่แม่ยังค่อนข้างแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ตอนแรกก็กลัวว่าจะเดินไหวไหม เพราะเที่ยวปักกิ่งสถานที่เที่ยวแต่ละแห่งค่อนข้างกว้างใหญ่ เดินค่อนข้างเยอะ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี แม่ใจสู้มาก
    -  ขอวีซ่าจีน เป็นครั้งแรกที่ผมไปขอที่ใหม่ อาคารธนภูมิ ชั้น5 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เสียค่าใช้จ่าย 1,500 บาท แพงกว่าเดิม แต่เจ้าหน้าที่ให้บริการดีขึ้น พูดจาเพราะ ยิ้มแย้มแจ่มใส ต่างกับที่เดิมที่หน้าบึ้งตึง และชอบตวาดคนมาทำวีซ่า
    - เนื่องด้วยอากาศปักกิ่งค่อนข้างแย่ ก่อนไปลุ้นพอสมควรว่าจะมีมลพิษขนาดไหน โชคดีพอไปถึงจริง ๆ อากาศค่อนข้างดีครับ
    - วันที่ผมไปอากาศกำลังเย็นสบาย ไม่หนาวจนเกินไป ประมาณ 18-24 องศาเซลเซียส กำลังชิลล์ ดูพยากรณ์อากาศไปก่อนเลยไม่ได้เตรียมเสื้อหนาวแบบหนา ๆ ไป และนับว่าเหมาะสม เพราะถ้าหนาวมาก ผมกลัวแม่ทนไม่ไหวเหมือนกัน
    - ก่อนไปผมเปิดบริการ Data Roaming ของ True ไป เพราะมีโปรใช้ Data Roaming วันละ 250 บาท ปรากฎว่าเอาเข้าจริงไม่ได้ความเลยครับ ช้ามาก ๆ ใช้อยู่วันเดียวแล้วเลิกใช้เลย
    - ที่ปักกิ่งผมจองโรงแรมที่ Happy Dragon Hostel ไป ซึ่งอยู่ใกล้ MTR Dongsi Station แต่พอไปถึงจริง ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ทำให้ต้องเปลี่ยนโรงแรมกระทันหัน

     พร้อมแล้วไปผจญภัยปักกิ่งกับเราสามคนกันเลย