รีวิวจะบ้าตายที่พักเกาะช้าง
พอดีเราเพิ่งมีเวลามาโพส
มีเรื่องขาวๆเอ้ย! คาวๆมาเล่าให้ทุกคนได้อ่าน
อ่านขำขำสนุกๆไปก็ได้ไม่ว่ากัน ชีวิตจริงขำไม่ออก 55555
เรื่องมีอยู่ว่า เรา แฟนเราและเพื่อนๆเราได้ตกลงกันว่า จะไปเกาะช้าง ในวันที่ 13-15 เมษา สงกรานต์ที่ผ่านมาไม่นานมานี้ ถ้าถามทำไมเพิ่งออกมาพูด คือเอ่อ เพิ่งมีเวลาเนาะ วันนี้ว่างๆพร้อมมาเล่าแล้ว เรามาตั้งใจตลกกันเถอะ 5555555
อะอะต่อ แถวน้ำไป เรามาเนื้อๆ
ไม่ขอเล่าการเดินทาง และการไปเกาะช้างใดๆ เพราะไม่ได้เตรียมตัวจะมารีวิวแต่แรก แต่ด้วยเกิดเหตุสะพรึง ขอเล่าแต่ประเด้นที่ได้รับ
เราได้เดินทางไปเกาะช้างในช่วงเทศกาล สงกรานต์ 13-15 เมษาที่ผ่านมา
จองโรงแรม ชื่อ( นามย่อ ชื่อการ์ตูนเรื่องนึงที่อยู่ในป่า ทซ. ) ( ถ้าอยากสอบถาม inbox มานะจ้า) ผ่าน เว๊ป booking ด้วยราคาห้องละ 800 บาทไทย เป็นบังกะโลเป็นห้องเล็กๆ ซึ่งเราโอเคถ้าดูจากรูปเราก็โอเคนะ จุดพีคกำลังจะเริ่มตรงนี้ อะห้ะ เราจองล่วงหน้าเป็นเดือน ดูจากหลักฐานการจอง ซึ่งการเตรียมตัวของทางโรงแรมควรจะพรอมถูกต้องไหมฮ๊าาา?
(เหตุผลที่เลือกที่นี่ด้วยราคานี้ ปกติเราเป็นคนที่เที่ยวไม่เน้นโรงแรม ของที่พักมีแอร์มีห้องน้ำ ในห้องสะอาดๆพอ ไม่ขอไรมากมาย เป็นเรื่องเบสิคที่ทุกทางโรงแรมจะถูกจะแพงก็ควรต้องมี )

อัลบั้ม
แต่แล้วฝันก็สลายไปในพริบตา เราจองไว้ 2 ห้อง ห้องเราก็ปกติดี อาจจะมีฝุ่นไรบ้างเล็กๆน้อยๆไม่ว่ากัน แต่ห้องเพื่อนเรานี่สิ ห้องนางแอร์น้ำรั่วไหล ถามว่าเยอะ ก็เยอะนะเต็มหมอนและผ้าปูตรงหัวเตียง และทีวีไม่มี (แต่ในส่วนห้องเรามีนะ ) เรื่องทีวีไม่เป็นไร ก็จะพยายามเฉยๆเพราะยังไงคงไม่ได้ดู แต่แค่แอบคิดว่าทำไมมาตราฐานไม่เท่ากัน จองก็จองล่วงหน้า ราคาก็เท่ากัน แต่มีไม่เหมือนกัน // มาต่อเรื่องของห้องเพื่อน ขอจัดแจงมาเป็นเรื่องๆนะ
1. รอบแรกไปแจ้งพนักงานว่าทางห้องเพื่อนไม่มีทีวี ทางโรงแรมก็ไม่ได้จัดการไรให้ โอเคๆไม่เป็นไรคงไม่ดู ช่างมัน
2. เดินไปรอบสอง แจ้งเรื่องน้ำแอร์ในห้องไหลจนคิดว่าไม่โอเค ขอเปลี่ยนห้อง (มีรูป)

3. พอขอเปลี่ยนห้องไปห้องใหม่ ตาเถรรรรร! มดเต็มแอร์ ลามมายันหมอนหนุนที่นอน จะบ้าตายนี่เกิดไรขึ้นหนูนี่งง (มีรูป)

3. อะอะเปลี่ยนไปดูห้องอื่นต่อ เจอไฟในห้องน้ำ *โครตตตตตตตสลัวจนเกือบมืด ถ้าอาบน้ำคงฟิวแบบหน้ากลัวมาก ขอเปลี่ยนอีก พนง.คงคิดแลดูนังนี่เรื่องมากเหลือเกิน (ตรงนี้ไม่ได้ถ่าย)
4. ตามมาอีกห้อง แอร์เปิดไม่ติดอีก มาถึงจุดนี้แล้ว คิดว่าหลายๆคนถ้ามายืนตรงนี้โครตเฟลแน่ๆ คือเดินทาง 5-6 ชั่วโมงมาเหนื่อยๆ มันใช่หรอที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เหนื่อยกว่ามันไม่ใช่แค่ห้องพัก ! แต่มันคือ คน! คนที่ว่าคือใคร !! อ่อ " เจ้าของโรงแรม "
ถึงจุดนี้ยอมรับเลย หัวเสียและหน้าตาเริ่มไม่โอเค แต่มารยาทยังคงมีเหมือนเดิม เจ้าของโรงแรมมาเคลียเอง เพราะเราต้องการขอเงินคืนในส่วนนี้ ต้องการเช็คเอ้าออก เพราะไม่โอเคแล้ว ขอเล่าคร่าวๆ ซึ่งคำพูดความหมายประมาณนี้คงไม่เป๊ะตามในวันนั้น แต่ไม่มีการปรับแต่งเพิ่มเติมใดๆแน่นอน เอาหัวเป็นประกัน555
( * ที่นี่พนักงานมีไม่กี่คน เลยเป็นเจ้าของและครอบครัวดูแลเอง )
เพื่อนเรา : ขอย้ายออกเพราะหนูว่าอะไรๆก็ไม่พร้อมเลย
เจ้าของโรงแรม: ก็แล้วแต่** (คำนี้จำแม่นมากและนางก็หยักไหล่) ย้ายออกได้นะค่ะ แต่ไม่คืนเงิน
เพื่อนเรา: อ้าวพี่ มันไม่ใช่ความผิดหนูแล้วทำไมพี่ไม่รับผิดชอบละคะ?
เจ้าของโรงแรม : เราเสียค่าคอมให้ทางเว็ป booking ไปแล้ว เรารับเปลี่ยนห้องให้แต่ลูกค้าก็ไม่เอา
(จุดนี้ช็อกนะคำพูดของคนที่ขึ้นชื่อเป็นเจ้าของ ฮัลโหล สะกดคำว่า " เห็นแก่ตัว / เอาเปรียบ " เป็นหรือไม่? )
เพื่อน : เอิ่ม พี่ค่ะ ให้หนูนอนยังไงคะไหนบอก? แต่ละห้องของพี่ไม่ได้จะโอเคเลยนะ
เจ้าของโรงแรม : งั้นเอางี้นะค่ะ เดี๋ยวเอาห้องข้างๆให้ แต่จริงๆมีลูกค้าจองไว้แล้ว งั้นน้องไปอยู่แทนก็ได้คะ
(ต้องการบอกไร เราผิดรึไง โอเคจุดนี้หน้าหนาละ ห้องใครไม่รู้ คุณบอกให้ย้ายไปห้องนั้น เราก็จะย้าย คุณต้องจัดการระบบของคุณเอง )
เรากับเพื่อนๆก็ช่วยกันย้ายของ แต่พี่เจ้าของคนเดิมก็มาคุยว่า ถ้าอีกสักพักลูกค้าข้างๆไม่มา เข้าไปได้เลย
ทีนี้เพื่อนเราเลยถือโอกาศต่อว่า ด้วย เหตุผล*
เพื่อนเรา : พี่ค่ะการที่พี่หยักไหล แล้วพูดว่าก็แล้วแต่ มันไม่ใช่นิสัยที่คนเป็นเจ้าของโรงแรมควรทำนะค่ะ พี่คงจะเข้าใจ
จากนั้นเจ้าของโรงแรมก็บอกขอโทษ เรื่องก็เหมือนจะจบ
ต่อกันตรงที่ช่วยกันย้ายของไปอีกห้องข้างๆ ย้ายยังไม่เสร็จดี
มีผู้หญิงเจ้าของโรงแรมอีกคน เดินมาแบบฟึดฟัด ด้วยอารมณ์เหมือนคนจะหาเรื่อง เพราะนางตะโกนเสียงดังมากแล้วบอกว่า
เจ้าของโรงแรมอีกคน : ไหนมีปัญหาอะไรนักหนา จะเอาเงินค่นใช่ไหม คืนไปเลย
เราและเพื่อนๆก็ต่างไม่โอเค แล้วถามด้วยกันว่าพี่มีปัญหาอะไร? นี้เคลียกันจบไปแล้ว?
เจ้าของโรงแรมอีกคน : ก็น้องไปพูดจาไม่ดีกับน้องของพี่อีกคน แล้วบอกจะเอาเงินคืนไม่ใช่หรอ? พี่เห็นคุยหลายทีแล้ว นี่กะจะไม่พูดเองแต่อดไม่ได้ น้องก็ไม่ได้อยู่ห้องทั้งวันอยู่แล้วไม่ใช่หรอ?
พวกเรา : เห้ยพี่ นี่ไม่ใช่ความผิดพวกหนู นี่จ่ายเงินไม่ใช่อยู่ฟรี
เพื่อนเรา : จริงๆนี่ไปมาหลายจังหวัดหลายประเทศไม่เคยเจอเซอร์วิสมายด์ได้แย่ขนาดนี้
เจ้าของโรงแรมอีกคน: แล้วทำไมน้องไม่ไปหาโรงแรมแพงๆอยู่ละ?
เพื่อนเรา : มันเป็นสิทธิ์ที่พวกเราจะเลือกว่าอยากอยู่ที่ไหน หน้าที่ของโรงแรมคือการดูแลไม่ใช่หรอ? นี่อะไร? แต่ละห้องแย่มาก พี่รู้จักโลกโซเชี่ยวไหม ? พันทิปหรือเฟสบุครู้จักไหม?
(ยอมรับตอนจุดนี้แค่อยากขู่ให้นางรู้สึกว่า เห้ยคุณควรพูดจาให้มันดีหน่อยนะ ไม่ไก้กะจะทำจริง )
เจ้าของโรงแรมอีกคน: แล้วยังไงก็แค่คนไทยเล่นปะ คนไทยก็แบบนี้แหละเรื่องมาก. เรื่องเยอะ ต่างชาติเค้าไม่มาสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้
แค่คำพูดพวกนี้เราจำแม่นมาก ก็เถียงๆกันสักพัก สรุปคือจะคืนเงินให้ห้องเดียวคือ1600 / สำหรับ1 ห้อง2คืน อีกห้องไม่คืนให้เพราะห้องนั้นไม่มีปัญหาอะไร แต่มันถูกต้องแล้วเข้าใจ
หลังจากนั้นพวกเราก็ทนไม่ไหว รวมทั้งเราด้วยที่เป็นคนจองห้องทั้งหมดเอง ร่วมใจย้ายออกมันทั้งสองห้องนี้แหละ
เราก็ไปเอาเงินคืนพร้อมตักเตือนพี่เค้าไปบางส่วนแบบดีๆด้วยเหตุและผล ว่าทำไมยังไงแล้วไม่ควรทำแบบนี้กับลูกค้าไม่ว่าจะคนไทยหรือคนชาติไหน ก็จบกันไปกับโรงแรมแบบนี้ หลังจากที่ออกมาก็คิดแล้วละถ้ามีเวลาจะมานั่งร่ายให้ฟังกัน
หลังจากนั้นเราก็ขับรถหาโรงแรมที่ว่าง ซึ่งในช่วงเทศกาลหายากหาเย็น แต่จุดจบตลกมากกกก
ได้เจอโรงแรมพนง. น่ารัก
ห้องดี มีสระว่ายน้ำ สะอาด
แอร์เย็นเจี้ยบบ ในราคา 1000 เท่านั้น
ชื่อโรงแรมก็เข้าใจกับการตั้งชื่อให้เราในวันนั้นมาก ชื่อโรงแรม. " ไม่เป็นไร "
มาถึงจุดนี้ยิ้มออกเลย55555
ขอขอบคุณประสบการ์ณบ้าๆบอๆที่ทำให้เข้าใจว่า คนไทยบางกลุ่มมักง่าย และคนไทยบางกลุ่มน่ารักกับเรามากๆ
สิ่งต้องการสื่อจากเรื่องนี้
1. ต่อว่าการพูดการจาของเจ้าของโรงแรมทั้งสองคน
2. การบริการ ไม่โทษตัวเอง แต่โทษลูกค้าเรื่องมาก
3. เราอยากแชร์ประสบการ์ณที่ได้รับมา
เรา ลบ ชื่อโรงแรมออก โดยใช้ตัวย่อ
ใครอยากสอบถามรายละเอียด inbox มานะจ้า
หลักๆคือคำพูดและบริการที่ไม่คิดว่าจะเจอ* เซย์บาย
[CR] รีวิวจะบ้าตายที่พักเกาะช้างจังหวัดตราด
พอดีเราเพิ่งมีเวลามาโพส
มีเรื่องขาวๆเอ้ย! คาวๆมาเล่าให้ทุกคนได้อ่าน
อ่านขำขำสนุกๆไปก็ได้ไม่ว่ากัน ชีวิตจริงขำไม่ออก 55555
เรื่องมีอยู่ว่า เรา แฟนเราและเพื่อนๆเราได้ตกลงกันว่า จะไปเกาะช้าง ในวันที่ 13-15 เมษา สงกรานต์ที่ผ่านมาไม่นานมานี้ ถ้าถามทำไมเพิ่งออกมาพูด คือเอ่อ เพิ่งมีเวลาเนาะ วันนี้ว่างๆพร้อมมาเล่าแล้ว เรามาตั้งใจตลกกันเถอะ 5555555
อะอะต่อ แถวน้ำไป เรามาเนื้อๆ
ไม่ขอเล่าการเดินทาง และการไปเกาะช้างใดๆ เพราะไม่ได้เตรียมตัวจะมารีวิวแต่แรก แต่ด้วยเกิดเหตุสะพรึง ขอเล่าแต่ประเด้นที่ได้รับ
เราได้เดินทางไปเกาะช้างในช่วงเทศกาล สงกรานต์ 13-15 เมษาที่ผ่านมา
จองโรงแรม ชื่อ( นามย่อ ชื่อการ์ตูนเรื่องนึงที่อยู่ในป่า ทซ. ) ( ถ้าอยากสอบถาม inbox มานะจ้า) ผ่าน เว๊ป booking ด้วยราคาห้องละ 800 บาทไทย เป็นบังกะโลเป็นห้องเล็กๆ ซึ่งเราโอเคถ้าดูจากรูปเราก็โอเคนะ จุดพีคกำลังจะเริ่มตรงนี้ อะห้ะ เราจองล่วงหน้าเป็นเดือน ดูจากหลักฐานการจอง ซึ่งการเตรียมตัวของทางโรงแรมควรจะพรอมถูกต้องไหมฮ๊าาา?
(เหตุผลที่เลือกที่นี่ด้วยราคานี้ ปกติเราเป็นคนที่เที่ยวไม่เน้นโรงแรม ของที่พักมีแอร์มีห้องน้ำ ในห้องสะอาดๆพอ ไม่ขอไรมากมาย เป็นเรื่องเบสิคที่ทุกทางโรงแรมจะถูกจะแพงก็ควรต้องมี )
แต่แล้วฝันก็สลายไปในพริบตา เราจองไว้ 2 ห้อง ห้องเราก็ปกติดี อาจจะมีฝุ่นไรบ้างเล็กๆน้อยๆไม่ว่ากัน แต่ห้องเพื่อนเรานี่สิ ห้องนางแอร์น้ำรั่วไหล ถามว่าเยอะ ก็เยอะนะเต็มหมอนและผ้าปูตรงหัวเตียง และทีวีไม่มี (แต่ในส่วนห้องเรามีนะ ) เรื่องทีวีไม่เป็นไร ก็จะพยายามเฉยๆเพราะยังไงคงไม่ได้ดู แต่แค่แอบคิดว่าทำไมมาตราฐานไม่เท่ากัน จองก็จองล่วงหน้า ราคาก็เท่ากัน แต่มีไม่เหมือนกัน // มาต่อเรื่องของห้องเพื่อน ขอจัดแจงมาเป็นเรื่องๆนะ
1. รอบแรกไปแจ้งพนักงานว่าทางห้องเพื่อนไม่มีทีวี ทางโรงแรมก็ไม่ได้จัดการไรให้ โอเคๆไม่เป็นไรคงไม่ดู ช่างมัน
2. เดินไปรอบสอง แจ้งเรื่องน้ำแอร์ในห้องไหลจนคิดว่าไม่โอเค ขอเปลี่ยนห้อง (มีรูป)
3. พอขอเปลี่ยนห้องไปห้องใหม่ ตาเถรรรรร! มดเต็มแอร์ ลามมายันหมอนหนุนที่นอน จะบ้าตายนี่เกิดไรขึ้นหนูนี่งง (มีรูป)
3. อะอะเปลี่ยนไปดูห้องอื่นต่อ เจอไฟในห้องน้ำ *โครตตตตตตตสลัวจนเกือบมืด ถ้าอาบน้ำคงฟิวแบบหน้ากลัวมาก ขอเปลี่ยนอีก พนง.คงคิดแลดูนังนี่เรื่องมากเหลือเกิน (ตรงนี้ไม่ได้ถ่าย)
4. ตามมาอีกห้อง แอร์เปิดไม่ติดอีก มาถึงจุดนี้แล้ว คิดว่าหลายๆคนถ้ามายืนตรงนี้โครตเฟลแน่ๆ คือเดินทาง 5-6 ชั่วโมงมาเหนื่อยๆ มันใช่หรอที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เหนื่อยกว่ามันไม่ใช่แค่ห้องพัก ! แต่มันคือ คน! คนที่ว่าคือใคร !! อ่อ " เจ้าของโรงแรม "
ถึงจุดนี้ยอมรับเลย หัวเสียและหน้าตาเริ่มไม่โอเค แต่มารยาทยังคงมีเหมือนเดิม เจ้าของโรงแรมมาเคลียเอง เพราะเราต้องการขอเงินคืนในส่วนนี้ ต้องการเช็คเอ้าออก เพราะไม่โอเคแล้ว ขอเล่าคร่าวๆ ซึ่งคำพูดความหมายประมาณนี้คงไม่เป๊ะตามในวันนั้น แต่ไม่มีการปรับแต่งเพิ่มเติมใดๆแน่นอน เอาหัวเป็นประกัน555
( * ที่นี่พนักงานมีไม่กี่คน เลยเป็นเจ้าของและครอบครัวดูแลเอง )
เพื่อนเรา : ขอย้ายออกเพราะหนูว่าอะไรๆก็ไม่พร้อมเลย
เจ้าของโรงแรม: ก็แล้วแต่** (คำนี้จำแม่นมากและนางก็หยักไหล่) ย้ายออกได้นะค่ะ แต่ไม่คืนเงิน
เพื่อนเรา: อ้าวพี่ มันไม่ใช่ความผิดหนูแล้วทำไมพี่ไม่รับผิดชอบละคะ?
เจ้าของโรงแรม : เราเสียค่าคอมให้ทางเว็ป booking ไปแล้ว เรารับเปลี่ยนห้องให้แต่ลูกค้าก็ไม่เอา
(จุดนี้ช็อกนะคำพูดของคนที่ขึ้นชื่อเป็นเจ้าของ ฮัลโหล สะกดคำว่า " เห็นแก่ตัว / เอาเปรียบ " เป็นหรือไม่? )
เพื่อน : เอิ่ม พี่ค่ะ ให้หนูนอนยังไงคะไหนบอก? แต่ละห้องของพี่ไม่ได้จะโอเคเลยนะ
เจ้าของโรงแรม : งั้นเอางี้นะค่ะ เดี๋ยวเอาห้องข้างๆให้ แต่จริงๆมีลูกค้าจองไว้แล้ว งั้นน้องไปอยู่แทนก็ได้คะ
(ต้องการบอกไร เราผิดรึไง โอเคจุดนี้หน้าหนาละ ห้องใครไม่รู้ คุณบอกให้ย้ายไปห้องนั้น เราก็จะย้าย คุณต้องจัดการระบบของคุณเอง )
เรากับเพื่อนๆก็ช่วยกันย้ายของ แต่พี่เจ้าของคนเดิมก็มาคุยว่า ถ้าอีกสักพักลูกค้าข้างๆไม่มา เข้าไปได้เลย
ทีนี้เพื่อนเราเลยถือโอกาศต่อว่า ด้วย เหตุผล*
เพื่อนเรา : พี่ค่ะการที่พี่หยักไหล แล้วพูดว่าก็แล้วแต่ มันไม่ใช่นิสัยที่คนเป็นเจ้าของโรงแรมควรทำนะค่ะ พี่คงจะเข้าใจ
จากนั้นเจ้าของโรงแรมก็บอกขอโทษ เรื่องก็เหมือนจะจบ
ต่อกันตรงที่ช่วยกันย้ายของไปอีกห้องข้างๆ ย้ายยังไม่เสร็จดี
มีผู้หญิงเจ้าของโรงแรมอีกคน เดินมาแบบฟึดฟัด ด้วยอารมณ์เหมือนคนจะหาเรื่อง เพราะนางตะโกนเสียงดังมากแล้วบอกว่า
เจ้าของโรงแรมอีกคน : ไหนมีปัญหาอะไรนักหนา จะเอาเงินค่นใช่ไหม คืนไปเลย
เราและเพื่อนๆก็ต่างไม่โอเค แล้วถามด้วยกันว่าพี่มีปัญหาอะไร? นี้เคลียกันจบไปแล้ว?
เจ้าของโรงแรมอีกคน : ก็น้องไปพูดจาไม่ดีกับน้องของพี่อีกคน แล้วบอกจะเอาเงินคืนไม่ใช่หรอ? พี่เห็นคุยหลายทีแล้ว นี่กะจะไม่พูดเองแต่อดไม่ได้ น้องก็ไม่ได้อยู่ห้องทั้งวันอยู่แล้วไม่ใช่หรอ?
พวกเรา : เห้ยพี่ นี่ไม่ใช่ความผิดพวกหนู นี่จ่ายเงินไม่ใช่อยู่ฟรี
เพื่อนเรา : จริงๆนี่ไปมาหลายจังหวัดหลายประเทศไม่เคยเจอเซอร์วิสมายด์ได้แย่ขนาดนี้
เจ้าของโรงแรมอีกคน: แล้วทำไมน้องไม่ไปหาโรงแรมแพงๆอยู่ละ?
เพื่อนเรา : มันเป็นสิทธิ์ที่พวกเราจะเลือกว่าอยากอยู่ที่ไหน หน้าที่ของโรงแรมคือการดูแลไม่ใช่หรอ? นี่อะไร? แต่ละห้องแย่มาก พี่รู้จักโลกโซเชี่ยวไหม ? พันทิปหรือเฟสบุครู้จักไหม?
(ยอมรับตอนจุดนี้แค่อยากขู่ให้นางรู้สึกว่า เห้ยคุณควรพูดจาให้มันดีหน่อยนะ ไม่ไก้กะจะทำจริง )
เจ้าของโรงแรมอีกคน: แล้วยังไงก็แค่คนไทยเล่นปะ คนไทยก็แบบนี้แหละเรื่องมาก. เรื่องเยอะ ต่างชาติเค้าไม่มาสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้
แค่คำพูดพวกนี้เราจำแม่นมาก ก็เถียงๆกันสักพัก สรุปคือจะคืนเงินให้ห้องเดียวคือ1600 / สำหรับ1 ห้อง2คืน อีกห้องไม่คืนให้เพราะห้องนั้นไม่มีปัญหาอะไร แต่มันถูกต้องแล้วเข้าใจ
หลังจากนั้นพวกเราก็ทนไม่ไหว รวมทั้งเราด้วยที่เป็นคนจองห้องทั้งหมดเอง ร่วมใจย้ายออกมันทั้งสองห้องนี้แหละ
เราก็ไปเอาเงินคืนพร้อมตักเตือนพี่เค้าไปบางส่วนแบบดีๆด้วยเหตุและผล ว่าทำไมยังไงแล้วไม่ควรทำแบบนี้กับลูกค้าไม่ว่าจะคนไทยหรือคนชาติไหน ก็จบกันไปกับโรงแรมแบบนี้ หลังจากที่ออกมาก็คิดแล้วละถ้ามีเวลาจะมานั่งร่ายให้ฟังกัน
หลังจากนั้นเราก็ขับรถหาโรงแรมที่ว่าง ซึ่งในช่วงเทศกาลหายากหาเย็น แต่จุดจบตลกมากกกก
ได้เจอโรงแรมพนง. น่ารัก
ห้องดี มีสระว่ายน้ำ สะอาด
แอร์เย็นเจี้ยบบ ในราคา 1000 เท่านั้น
ชื่อโรงแรมก็เข้าใจกับการตั้งชื่อให้เราในวันนั้นมาก ชื่อโรงแรม. " ไม่เป็นไร "
มาถึงจุดนี้ยิ้มออกเลย55555
ขอขอบคุณประสบการ์ณบ้าๆบอๆที่ทำให้เข้าใจว่า คนไทยบางกลุ่มมักง่าย และคนไทยบางกลุ่มน่ารักกับเรามากๆ
สิ่งต้องการสื่อจากเรื่องนี้
1. ต่อว่าการพูดการจาของเจ้าของโรงแรมทั้งสองคน
2. การบริการ ไม่โทษตัวเอง แต่โทษลูกค้าเรื่องมาก
3. เราอยากแชร์ประสบการ์ณที่ได้รับมา
เรา ลบ ชื่อโรงแรมออก โดยใช้ตัวย่อ
ใครอยากสอบถามรายละเอียด inbox มานะจ้า
หลักๆคือคำพูดและบริการที่ไม่คิดว่าจะเจอ* เซย์บาย