กุ้งแช่แข็ง อาหารทะเลแช่แข็ง ปลาหมึกแช่แข็ง อันตรายมากๆนะคะ ถึงจะอร่อยก็เถอะ

โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต จะอันตรายมากๆ ควรหลีกเลี่ยงค่ะ
http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/renal/crf_ca.html

เราได้ข้อมูลจากที่นี่ด้วยค่ะ เกิดภาวะฟอสเฟตในเลือดสูงซึ่งทำให้มีการจับกับแคลเซียมมากขึ้น
ที่มา www.chatlert.worldmedic.com/docfile/lca.doc

กุ้งแช่แข็ง เวลาทำให้สุก เนื้อจะอุ้มน้ำใสๆกินแล้วเด้งๆ แต่อันตราย
เพราะมีการเติมสาร ฟอสเฟต
สารฟอสเฟต จะไปจับตัวกับแคลเซียม ทำให้ไตทำงานหนัก
เป็นอันตรายทำให้เกิดเป็นโรคไต ค่ะ
ปัจจุบัน ฟอสเฟต ยังไม่มีการควบคุม ทำให้มีการเอามาใช้กันมาก ลูกชิ้นก็มีการเติมฟอสเฟต
ระวังจะเป็นโรคนิ่วในไตนะคะ

ข้อมูลเพิ่มเติม
สารโพลีฟอตเฟตทำงานได้อย่างไร? สารชนิดนี้จะไปออกฤทธิ์ยับยั้งการเกิดผลึกน้ำแข็ง จึงทำให้ผลึกน้ำแข็งเกิดได้น้อยลง และส่งผลไปทำลายผนังเนื้อเยื่อของอาหารได้น้อยลงตามไปด้วย อีกทั้ง ยังไปยับยั้งการหดตัวของไมโอไฟบริลในกล้ามเนื้อของเนื้อกุ้ง จึงส่งผลให้เนื้อสัมผัสไม่นิ่มเละ และดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

    หลายคนอาจมีคำถามตามมาว่า แล้วเราจะรับประทานสารโพลีฟอตเฟตได้มากแค่ไหน คำตอบมีอยู่ว่า สารโพลีฟอตเฟตที่ปนเปื้อนอยู่ในกุ้งแช่แข็ง เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพไปเป็นสารฟอสเฟตหนึ่งหน่วย (single phosphate unit) ซึ่งจัดเป็นสารอาหารที่พบได้ทั่วไปในธรรมชาติ และถือเป็นสารที่มีอันตรายต่อร่างกายน้อยมาก แต่อย่างไรก็ตาม หากเราทานกุ้งที่มีสารฟอสเฟตตกค้างในปริมาณมากๆอย่างต่อเนื่อง ก็คงไม่เป็นผลดีต่อร่างกายมากนัก เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้เหมือนกัน

    อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นต่อร่างกายที่ว่านี้ อาจจะเห็นผลในรูปแบบของอาการระคายเคืองบริเวณผิวหนัง ซึ่งความรุนแรงจะมากน้อยเท่าไรก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณสารโพลีฟอตเฟตที่เรารับประทานเข้าไป และภูมิต้านทานของร่างกายในแต่ละบุคคล ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจได้ว่าการรับประทานกุ้งแช่แข็งจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเราและรู้สึกถึงความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ผู้บริโภคก็ควรทำความสะอาดอาหารแช่แข็งโดยการล้างด้วยน้ำสะอาดก่อนที่จะนำไปปรุงอาหารบริโภค ก็จะช่วยป้องกันอันตรายขั้นแรกได้ดีมากยิ่งขึ้น

สำหรับประเทศไทยมีการนำสารดังกล่าวเข้ามาใช้ในรูปแบบของสารเติมแต่งสำเร็จรูป มีการซื้อขายกันในเชิงการค้าเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารแช่แข็งอย่างแพร่หลาย แต่ไม่ได้มีการควบคุมปริมาณของสารฟอตเฟตที่ใช้ในอาหารอาหารแช่แข็งอย่างรัดกุมมากนัก ดังนั้น เมื่อมีการสุ่มตัวอย่างกุ้งสดแช่แข็งที่มีวางขายตามท้องตลาดเพื่อนำมาวิเคราะห์การตกค้างของสารฟอสเฟต จึงพบว่ามีการพบการตกค้างของสารฟอสเฟตในทุกตัวอย่าง และบางตัวอย่างก็พบปริมาณฟอตเฟตตกค้างเกินกว่ามาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขไทยกำหนดเอาไว้ที่ไม่เกิน 5,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งหากผู้บริโภครับประทานกุ้งที่มีสารฟอตเฟตตกค้างในปริมาณมากเกินกว่ามาตรฐานขนาดนี้ ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้และมีโอกาสสะสมในร่างกายมากยิ่งขึ้น
ทราบกันอย่างนี้แล้ว ก็ลองเลือกดูนะคะว่าอยากรับประทานกุ้งแบบไหน ระหว่าง “แบบออริจินัล” กับ “แบบประยุกต์” ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองแบบมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ก็อย่ารับประทานให้มากจนเกินไปนะคะ เพราะในกุ้งอาจจะมีสารพิษอื่นๆนอกเหนือจากสารฟอตเฟตที่กล่าวมาข้างต้นนี้ตกค้างร่วมอยู่ด้วยก็เป็นได้

จากที่มา
http://www.สุขภาพน่ารู้.com/กุ้งฟอตเฟต-กรอบนอก-อันตรายภายใน/
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 56
ในฐานะของแพทย์ และมีเรื่องทำนองนี้มาให้ต้องยุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะในประเด็นของความเชื่อของสารผิด
อยากให้เจ้าของกระทู้เข้าใจอะไรให้ถูกก่อนน่ะครับ ในเรื่องของการแพทย์และสุขภาพ เพราะมีคนเข้าใจผิดและไม่ทราบเยอะ
ข้อแรก เวบสุขภาพที่คุณนำมาอ้างอิง ไม่ใช่เวบที่น่าเชื่อถือและถูกต้องทางการแพทย์น่ะ
และผู้เขียนอ้างอิงน่าจะไม่ใช่แพทย์ ไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้ทางการแพทย์มาประกอบ
ข้อสองฟอสเฟตเป็นสารที่อยู่ในร่างกายและในอาหารที่คนทุกคนได้กิน ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ในอาหารแช่แข็ง
ในเนื้อสัตว์หรือในผักก็มีเยอะแยะ ถ้าคุณไม่หาดูก็จะพบเองว่าผักหรืออาหารบางอย่างก็มีฟอสเฟตเยอะ
แล้วถามว่ามีข้อจำกัดในการทานหรือไม่ คำตอบคือไม่มีครับทางการแพทย์ไม่เคยระบุ แต่ควรระวังในผู้ป่วยโรคไตหรือโรคบางโรค
ต้องไตวายหรือไตเสื่อมด้วยน่ะครับ เมื่อไม่มีข้อกำหนด ก็ทานได้ทั้งนั้น ตามใดที่ไตยังทำงานได้ดีก็มีการขับ
สารฟอสเฟตส่วนเกินออกได้เอง การได้รับสารฟอสเฟตจากอาหารที่ทานก้ไม่มีหลักฐานว่าก่อให้เิกโรคหรือความเจ็บป่วยอะไรโดยตรง
สามการกำหนดว่าการใส่สารฟอสเฟตไม่เกิน5000มก. ก็เป็นหลักปฏิบัติโดยปกติของ FDA หรือมาตฐานที่กำหนดระหว่างประเทศ
ที่เชื่อว่าปริมาณเท่านี้ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไรกับผู้ทาน แล้วที่จริงถ้าสูกว่านี้มีปัญหาหรือไม่
ก็ปรากฏว่าไม่มีหลักฐานทางการแพทย์อีกหล่ะว่า แล้วเท่าไหร่ถึงจะมีปัญหา อาจ10000 หรือ 20000 ก็ได้ แต่ก็ไม่มีข้อกำหนดอีกแหละ
ที่หนักกว่านั้นคือข้อสี่ แล้วที่ผ่านมาการกินอาหารแช่แข็งอย่างที่บอก มีการตรวจวัดระดับฟอสเฟตในผู้ที่ทานประจำหรือไม่
ผมก็ไม่เห็นรายงานน่ะ จริงอยู่มีประชาชนที่ทานประจำอาจเป็นไปได้ว่ารับเกินกว่า 5000 จริง แต่ได้ผ่านการตรวจพิสูจน์
หรือไม่ว่าในร่างกายมีระดับฟอสเฟตในเลือดสูงจริง เนื่องจากร่างกายสามารถปรับตัวขับออกเพื่อให้ระดับปอสเฟตในเลือดปกติ
ทานมาก แต่ระดับฟอสเฟตในเลือดปกติก็ได้
ประเด็นต่อไปคือถ้าทานมาก แล้วกลุ่มประชาชนดังกล่าวมีโรคหรือความเจ็บป่วยที่มากกว่าคนปกติหรือไม่อย่างไร
ก็ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ใดๆมาสนับสนุนประเด็นนี้น่ะ
โดยสรุปที่อยากบอกคือ จขกท เองต่างหากที่ไม่เข้าใจประเด็นเหล่านี้ รวมถึงเวบไซด์นั้นด้วย
ที่คิดเอาเอง เข้าใจเอาเอง และไม่มีหลักฐานอ้างอิงใดมาสนับสนุนข้อเขียนดังกล่าวเลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
น่าจะเอาให้หนัก คนไม่รู้สำเหนียก
อยากให้ พรานทะเลฟ้องให้เข็ดจริงๆ
โง่แล้วอวดฉลาด
ความคิดเห็นที่ 2
http://pantip.com/topic/35099343
เอาให้ครบซิคุณ  ไหน ๆ ก็ไหน ๆแล้ว  หัวเราะ
ผมว่าคุณได้ ดัง สมใจแล้วน่ะ  

ขอให้ได้ ขอให้โดน น่ะ  จะตั้งกระทู้ใหม่ทำด๋อย อะไรครับ
กระทู้เดียวก็พอ
ผมแจ้ง บริษัทเค้าไปแล้ว จขกทเค้าท้าให้ฟ้องน่ะครับ เค้าไม่กลัว ใครรู้จักบริษัทที่ได้รับความเสียหายนี้
ก็ช่วยกันแจ้งไปหน่อยครับ  จัดการคนนิสัยแย่ ๆ คนนี้ให้ได้บทเรียนด้วยครับ  เอาให้หนัก ๆ
ดุพถติกรรม ในการตั้งกระทุ้ของ จขกท แล้ว คาดว่ามีปัญญาพอสมควร  หาหมอเถอะคุณ ชีวิตจะได้ดีขึ้น
ความคิดเห็นที่ 76
ไม่ต้องไปชี้แจงหรือเถียง จขกท หรอก
เสียเวลา
อ่านมา 2 กระทู้ื รำคาญอะ เห็นคนสละเวลามาให้ข้อมูล มันจะเข้าหัวเค้าบ้างรึก็ไม่เลย

อยากเชื่ออะไรก็เชื่อไป ไม่ต้องลากคนอื่นมาโง่ด้วย
โชคดีคนพันทิปส่วนใหญ่เค้าไม่ได้สติปัญญา level เดียวกะ จขกทอะนะ

ดูท่าสมองจะอ่านแล้วประมวลได้แค่ไม่กี่คำ ฟอสเฟตๆๆๆๆ ไตเสื่อมๆๆๆๆ แค่นั้นล่ะ
ความคิดเห็นที่ 5
วันอังคาร รอการติดต่อจากทีมงาน และเร็วๆนี้ก็รอหมายด้วยครับ นำข้อมูลไม่จริงมาโพสใส่ร้ายคนอื่น โดน2กระทงเลยครับ อาญาทั้งคู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่