มาถึงตอน 31 กันแล้วนะครับ
วันนี้ร้อนจนนึกอะไรพูดเปิดเรื่องไม่ออก ขอเข้าสู่เรื่องหลักเลยละกันครับ
ภาพแรก
ภาพวาดของเรย์โกะที่เจ้าโอะจัดแจงลงสีจนสมบูรณ์แล้ว
แอ็บสแตร็กสมเป็นรูปฝีมือเจ้าโอะจริงๆ
ภาพต่อมา
วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ ว่าด้วยอาซาโกะจะไปหาเจ้าโอะได้ยังไง
เดินๆ อยู่ก็มีรถฮัมวีของ HAMMR มาจอดใกล้ๆ อาซาโกะจำพวก HAMMR ได้ เลยลากขาไปเคาะรถขอให้พาไปหาพวกลุงนักวิทย์ฯ เอาดื้อๆ เลย
ฉากที่ชอบในตอนนี้ถึงจะไม่ที่สุด
ฉากเจ้าโอะแสดงความเชื่อใจนางาเระจนวินาทีสุดท้าย ทั้งที่นางาเระแสดงทีท่าเป็นศัตรูอย่างโจ่งแจ้งถึงขนาดนั้น
ก่อนจะโดนกระทืบเละแล้วด่าซ้ำที่เป็นไอ้โง่โดนเขาหลอกมาตั้งนาน
อนึ่ง ฟังดีๆ จะรู้สึกได้ว่าเสียงนางาเระตอนแหกปากตอนนี้ฟังเหมือนกำลังกลัวมากกว่าเยาะเย้ยแฮะ
เมื่อไม่มีทางเลือก ก็ต้องสู้กัน โดยโทร่าเป็นคนอยู่สู้ถ่วงเวลาให้เจ้าโอะไล่ตามกองเรือดำน้ำที่จะไปถล่มเสาหินที่แม่เจ้าโอะอยู่แทน
กลายเป็นที่มาของรอยร้าวเล็กๆ ในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน
"ถ้าแกฆ่าพี่นางาเระละก็ ฉันไม่ยกโทษให้แกแน่"
นางาเระ VS โทร่า
ลุงหมดไฟกับไอ้แว่นนักขับเรือดำน้ำขนาดเล็ก
ตัวช่วยสำคัญของเจ้าโอะในการไปห้ามทัพในครั้งนี้ (ไปคุยกับพวกกองกำลังป้องกันตนเองแล้วทางนั้นไม่เชื่อ เพราะนางาเระมาล็อบบี้ไว้ก่อนแล้วว่าเจ้าโอะเป็นพวกฮะกุเม็ง)
เจ้าโอะหนีจากการโดน JDF ไล่ตามในฐานมาเข้ามาในห้องลุงพอดี ลุงเห็นแววตาจริงจังของเจ้าโอะ ดูออกว่าไม่ใช่พวกโกหก เลยยอมช่วยเจ้าโอะด้วยการแกล้งโดนจับให้พาไปถึงเรือดำน้ำเล็กของพวกตัวเอง
โทร่า VS นางาเระภาคต่อ
กับบท Monologue ว่าด้วยความอ้างว้างในฐานะอัจฉริยะของนางาเระ
ด้านเจ้าโอะเอาหอกคุมลุงกับแว่นไปถึงเรือดำน้ำ โดยมีพวกกองกำลังป้องกันตนเองถือปืนตามไปไม่ห่างโดยกะหาจังหวะที่เจ้าโอะเผลอยิงให้ร่วง
แต่ไม่ทันสั่งยิง ฮ.ลำเลียงของ HAMMR ก็มาขวางไว้เสียก่อน พร้อมกับการปรากฏตัวของอาซาโกะที่นั่งมากับฮ.ด้วย
อาซาโกะมาห้ามไม่ให้เจ้าโอะไป เพราะรู้มาจากลุงนักวิทย์ฯ HAMMR ว่าเจ้าโอะใช้พลังมากเกินจนร่างกายจวนเจียนจะเป็นสมิงอีกรอบแล้ว
ชอบฉากนี้แฮะ มุกคลาสสิคของคนเขียนเวลาเขียนฉากเสียความทรงจำของตัวละครที่ว่า
"แม้ความทรงจำจะหายไป แต่ความรักและความอาลัยยังคงอยู่"
แต่ด้วยหน้าที่ในฐานะลูกและหน้าที่ในฐานะผู้ถือครองหอกสมิง เจ้าโอะจึงจำต้องมุ่งหน้าไปในครั้งนี้ แม้จะรู้ว่าเส้นทางที่มุ่งไปอาจเป็นขาไปที่ไม่มีขากลับก็ตาม
เมื่อเห็นว่าไม่มีทางห้ามเจ้าโอะได้แล้ว อาซาโกะจึงตัดสินใจส่งเครื่องสั่นอนุภาคคิลเลี่ยนขนาดเล็กที่ลุงนักวิทย์ฯ ทั้งสองฝากมาให้ให้เจ้าโอะก่อนที่เจ้าโอะจะเข้าไปในเรือดำน้ำ
ฉากที่รอดูที่สุดในตอนนี้
"อาซาโกะ ซารังแฮะ"
เครื่องเร่งอนุภาคคิลเลี่ยน
"อลิซ"
ของฝากที่พวกลุงนักวิทย์ฯ ฝากมาให้กองกำลังป้องกันตนเอง (จริงๆ คือช่วยถ่วงเวลากองเรือดำน้ำของอาซึซาวะไว้ ให้เจ้าโอะไล่ตามกองเรือดำน้ำไปให้ทัน)
ไม้ตายก้นหีบของนางาเระ
อัดพลังเวทเพิ่มพลังให้ร่างกายจนแข็งแกร่งเทียบเท่าอสูร (ในฉบับมังงะบอกว่านางาเระใช้วิชานี้ได้เทพกว่าเคียวร่าอีก)
อดีตอันแสนอ้างว้างของนางาเระ
ชีวิตที่เกิดมาก็เก่งไปหมดทุกอย่าง ทำได้ดีไปหมดทุกอย่างโดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร ไม่ว่าจะเรื่องการเรียนหรือกีฬา จนกลายเป็นตัวตนแปลกแยกในหมู่มนุษย์ ถูกรังเกียจและขับไล่ไสส่งจนครอบครัวพินาศ
และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้นางาเระไม่เคยสู้หรือทำอะไรแบบเอาจริงสักครั้ง
แต่การเกิดมาเป็นอัจฉริยะระดับ
"รู้ทุกอย่าง เข้าใจทุกอย่างได้เองโดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร" ก็สร้างปมขนาดใหญ่ในชีวิตของนางาเระอีกอย่าง
นั่นคือ
"ไม่อาจสนุกกับความพยายามในการทำอะไรได้เลย"
และฮะกุเม็งก็อาศัยช่องว่างในจิตใจตรงนั้น ดึงนางาเระเข้ามาเป็นพวกของตนเองได้อย่างง่ายดาย
สิ่งที่ทำให้นางาเระเจ็บปวดที่สุดจนถึงกับต้องเลือกไปอยู่ฝั่งฮะกุเม็ง
สายตาซื่อบริสุทธิ์ไม่เคยคิดระแวงพวกเดียวกันของเจ้าโอะ สายตาที่ทำให้นางาเระนึกเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้จนทนไม่ไหว
แต่โทร่ามองออกว่าแท้จริงในใจนางาเระรู้สึกอย่างไร ก็เลยแกล้งหัวเราะเยาะนางาเระจนเลือดขึ้นหน้าอาละวาดซัดไม่ยั้ง จนเปิดช่องว่างให้สวนกลับเอาได้
แต่นางาเระยังไม่ยอมแพ้ ยิงชาร์จช็อตเต็มกำลังสวนใส่โทร่าจนแขนกระจุย
แต่ก็เจอโทร่ายืดคองับคอหอยสวนปิดเกมไปในพริบตา
วาระสุดท้ายของนางาเระ ลูกพี่ใหญ่ผู้แพ้จิตใจตัวเอง
เอาจริงตอนนี้เป็นตอนที่แก้ปัญหาเนื้อหาต่างๆ ที่โดนตัดออกไปได้ง่ายดีแฮะ ง่ายซะจนอึ้งเลยว่าเล่นรวบเนื้อหากันแบบนี้เลยทีเดียว ถึงในแง่คนที่อ่านต้นฉบับเดิมมาก่อนอาจรู้สึกไม่ดีอยู่บ้าง แต่ถ้ามองในแง่การใช้เวลาที่จำกัดให้เป็นประโยชน์แล้วถือว่าเข้าใจจัดสรรดีจริงๆ
ฉากที่ชอบที่สุดในตอนนี้ก็ฉากบอกรักของเจ้าโอะนี่แหละ จำได้ว่าตอนอ่านในมังงะทีแรกนี่โคตรซึ้งเลยแฮะ เพราะการ์ตูนสายโชเน็นจ๋าแถมมีพระเอกสายโชเน็นจ๋าแบบนี้นี่หายากมากที่จะให้พระเอกบอกรักนางเอกออกจากปากแบบชัดๆ แบบนี้ เรียกว่าได้ยินครั้งแรกก็จากปากเจ้าโอะนี่แหละ (ตัวอื่นนึกไม่ออกแฮะว่ามีใครอีกบ้างที่กล้าพูดแบบนี้)
ถึงจะแอบน่าเสียดายที่ฉากไม่มีพลังเท่าที่ควรเพราะตัดเรื่องไปเยอะ แต่ก็ถือเป็นฉากที่น่าจดจำฉากหนึ่งแฮะ
ส่วนเรื่องของนางาเระนี่พูดยากแฮะว่าต่อกันเนียนหรือไม่เนียน เพราะเรื่องเดิมอ.แกเล่นแก้ปัญหาด้วยการให้นางาเระเป็นโคตรอัจฉริยะรอบด้าน เทพจนแกล้งทำเป็นไม่เอาจริงได้เนียนไปหมด ทำให้บอกได้ยากว่าตกลงตั้งแต่แรกที่เจอเจ้าโอะนี่คือมันแกล้งทำเกือบหมดเลยงั้นเหรอ (แต่ก็ยังสงสัยอยู่ว่าถ้ามันเทพขนาดนี้จริง อีตอนสู้กับโมริซึนะรึตอนสู้กับโกเลมนี่จะมัวงำประกายทำไมอยู่ ทำไมไม่เอาจริงซัดให้ร่วงไปเลย)
แต่ไม่ว่าสิ่งที่นางาเระทำจะมาจากสาเหตุอะไร ใจจริงนางาเระคิดยังไงกันแน่ แต่ที่แน่ๆ อย่างหนึ่งก็คือการเปลี่ยนข้างของนางาเระเป็นการสร้างรอยแผลลึกที่สุดให้กับเจ้าโอะเลยก็ว่าได้ เพราะนิสัยเจ้าโอะเป็นคนเชื่อใจเพื่อนพ้องมาก ชนิดที่ว่าลองเชื่อใครแล้วไม่มีการระแวงเลยก็ไม่ผิด ดังนั้นพอนางาเระกลายเป็นคนทรยศไปย่อมเป็นการทำลายสิ่งที่เจ้าโอะยึดมั่นมาตลอดอย่างแรงที่สุด ทำให้เจ้าโอะเสียศูนย์ไปเลยก็ว่าได้
ยิ่งกว่านั้น เหตุครั้งนี้ยังกลายเป็นรอยร้าวใหญ่ที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าโอะกับโทร่าที่เกิดขึ้นก่อนศึกใหญ่ครั้งสุดท้าย ซึ่งเป็นจุดให้ฮะกุเม็งเอาไปใช้ประโยชน์ได้หากต้องเผชิญหน้ากับเจ้าโอะกับโทร่าพร้อมกันอีก
เรียกว่าเป็นอะไรที่น่าดูชมในตอนหน้าจริงๆ
[Spoil] ล่าอสูรกาย ภาคอนิเมทีวี #31 - สู่ทะเลคลั่ง...
มาถึงตอน 31 กันแล้วนะครับ
วันนี้ร้อนจนนึกอะไรพูดเปิดเรื่องไม่ออก ขอเข้าสู่เรื่องหลักเลยละกันครับ
ภาพแรก
ภาพวาดของเรย์โกะที่เจ้าโอะจัดแจงลงสีจนสมบูรณ์แล้ว
แอ็บสแตร็กสมเป็นรูปฝีมือเจ้าโอะจริงๆ
ภาพต่อมา
วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ ว่าด้วยอาซาโกะจะไปหาเจ้าโอะได้ยังไง
เดินๆ อยู่ก็มีรถฮัมวีของ HAMMR มาจอดใกล้ๆ อาซาโกะจำพวก HAMMR ได้ เลยลากขาไปเคาะรถขอให้พาไปหาพวกลุงนักวิทย์ฯ เอาดื้อๆ เลย
ฉากที่ชอบในตอนนี้ถึงจะไม่ที่สุด
ฉากเจ้าโอะแสดงความเชื่อใจนางาเระจนวินาทีสุดท้าย ทั้งที่นางาเระแสดงทีท่าเป็นศัตรูอย่างโจ่งแจ้งถึงขนาดนั้น
ก่อนจะโดนกระทืบเละแล้วด่าซ้ำที่เป็นไอ้โง่โดนเขาหลอกมาตั้งนาน
อนึ่ง ฟังดีๆ จะรู้สึกได้ว่าเสียงนางาเระตอนแหกปากตอนนี้ฟังเหมือนกำลังกลัวมากกว่าเยาะเย้ยแฮะ
เมื่อไม่มีทางเลือก ก็ต้องสู้กัน โดยโทร่าเป็นคนอยู่สู้ถ่วงเวลาให้เจ้าโอะไล่ตามกองเรือดำน้ำที่จะไปถล่มเสาหินที่แม่เจ้าโอะอยู่แทน
กลายเป็นที่มาของรอยร้าวเล็กๆ ในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน
"ถ้าแกฆ่าพี่นางาเระละก็ ฉันไม่ยกโทษให้แกแน่"
นางาเระ VS โทร่า
ลุงหมดไฟกับไอ้แว่นนักขับเรือดำน้ำขนาดเล็ก
ตัวช่วยสำคัญของเจ้าโอะในการไปห้ามทัพในครั้งนี้ (ไปคุยกับพวกกองกำลังป้องกันตนเองแล้วทางนั้นไม่เชื่อ เพราะนางาเระมาล็อบบี้ไว้ก่อนแล้วว่าเจ้าโอะเป็นพวกฮะกุเม็ง)
เจ้าโอะหนีจากการโดน JDF ไล่ตามในฐานมาเข้ามาในห้องลุงพอดี ลุงเห็นแววตาจริงจังของเจ้าโอะ ดูออกว่าไม่ใช่พวกโกหก เลยยอมช่วยเจ้าโอะด้วยการแกล้งโดนจับให้พาไปถึงเรือดำน้ำเล็กของพวกตัวเอง
โทร่า VS นางาเระภาคต่อ
กับบท Monologue ว่าด้วยความอ้างว้างในฐานะอัจฉริยะของนางาเระ
ด้านเจ้าโอะเอาหอกคุมลุงกับแว่นไปถึงเรือดำน้ำ โดยมีพวกกองกำลังป้องกันตนเองถือปืนตามไปไม่ห่างโดยกะหาจังหวะที่เจ้าโอะเผลอยิงให้ร่วง
แต่ไม่ทันสั่งยิง ฮ.ลำเลียงของ HAMMR ก็มาขวางไว้เสียก่อน พร้อมกับการปรากฏตัวของอาซาโกะที่นั่งมากับฮ.ด้วย
อาซาโกะมาห้ามไม่ให้เจ้าโอะไป เพราะรู้มาจากลุงนักวิทย์ฯ HAMMR ว่าเจ้าโอะใช้พลังมากเกินจนร่างกายจวนเจียนจะเป็นสมิงอีกรอบแล้ว
ชอบฉากนี้แฮะ มุกคลาสสิคของคนเขียนเวลาเขียนฉากเสียความทรงจำของตัวละครที่ว่า "แม้ความทรงจำจะหายไป แต่ความรักและความอาลัยยังคงอยู่"
แต่ด้วยหน้าที่ในฐานะลูกและหน้าที่ในฐานะผู้ถือครองหอกสมิง เจ้าโอะจึงจำต้องมุ่งหน้าไปในครั้งนี้ แม้จะรู้ว่าเส้นทางที่มุ่งไปอาจเป็นขาไปที่ไม่มีขากลับก็ตาม
เมื่อเห็นว่าไม่มีทางห้ามเจ้าโอะได้แล้ว อาซาโกะจึงตัดสินใจส่งเครื่องสั่นอนุภาคคิลเลี่ยนขนาดเล็กที่ลุงนักวิทย์ฯ ทั้งสองฝากมาให้ให้เจ้าโอะก่อนที่เจ้าโอะจะเข้าไปในเรือดำน้ำ
ฉากที่รอดูที่สุดในตอนนี้
"อาซาโกะ ซารังแฮะ"
เครื่องเร่งอนุภาคคิลเลี่ยน "อลิซ"
ของฝากที่พวกลุงนักวิทย์ฯ ฝากมาให้กองกำลังป้องกันตนเอง (จริงๆ คือช่วยถ่วงเวลากองเรือดำน้ำของอาซึซาวะไว้ ให้เจ้าโอะไล่ตามกองเรือดำน้ำไปให้ทัน)
ไม้ตายก้นหีบของนางาเระ
อัดพลังเวทเพิ่มพลังให้ร่างกายจนแข็งแกร่งเทียบเท่าอสูร (ในฉบับมังงะบอกว่านางาเระใช้วิชานี้ได้เทพกว่าเคียวร่าอีก)
อดีตอันแสนอ้างว้างของนางาเระ
ชีวิตที่เกิดมาก็เก่งไปหมดทุกอย่าง ทำได้ดีไปหมดทุกอย่างโดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร ไม่ว่าจะเรื่องการเรียนหรือกีฬา จนกลายเป็นตัวตนแปลกแยกในหมู่มนุษย์ ถูกรังเกียจและขับไล่ไสส่งจนครอบครัวพินาศ
และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้นางาเระไม่เคยสู้หรือทำอะไรแบบเอาจริงสักครั้ง
แต่การเกิดมาเป็นอัจฉริยะระดับ "รู้ทุกอย่าง เข้าใจทุกอย่างได้เองโดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร" ก็สร้างปมขนาดใหญ่ในชีวิตของนางาเระอีกอย่าง
นั่นคือ "ไม่อาจสนุกกับความพยายามในการทำอะไรได้เลย"
และฮะกุเม็งก็อาศัยช่องว่างในจิตใจตรงนั้น ดึงนางาเระเข้ามาเป็นพวกของตนเองได้อย่างง่ายดาย
สิ่งที่ทำให้นางาเระเจ็บปวดที่สุดจนถึงกับต้องเลือกไปอยู่ฝั่งฮะกุเม็ง
สายตาซื่อบริสุทธิ์ไม่เคยคิดระแวงพวกเดียวกันของเจ้าโอะ สายตาที่ทำให้นางาเระนึกเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้จนทนไม่ไหว
แต่โทร่ามองออกว่าแท้จริงในใจนางาเระรู้สึกอย่างไร ก็เลยแกล้งหัวเราะเยาะนางาเระจนเลือดขึ้นหน้าอาละวาดซัดไม่ยั้ง จนเปิดช่องว่างให้สวนกลับเอาได้
แต่นางาเระยังไม่ยอมแพ้ ยิงชาร์จช็อตเต็มกำลังสวนใส่โทร่าจนแขนกระจุย
แต่ก็เจอโทร่ายืดคองับคอหอยสวนปิดเกมไปในพริบตา
วาระสุดท้ายของนางาเระ ลูกพี่ใหญ่ผู้แพ้จิตใจตัวเอง
เอาจริงตอนนี้เป็นตอนที่แก้ปัญหาเนื้อหาต่างๆ ที่โดนตัดออกไปได้ง่ายดีแฮะ ง่ายซะจนอึ้งเลยว่าเล่นรวบเนื้อหากันแบบนี้เลยทีเดียว ถึงในแง่คนที่อ่านต้นฉบับเดิมมาก่อนอาจรู้สึกไม่ดีอยู่บ้าง แต่ถ้ามองในแง่การใช้เวลาที่จำกัดให้เป็นประโยชน์แล้วถือว่าเข้าใจจัดสรรดีจริงๆ
ฉากที่ชอบที่สุดในตอนนี้ก็ฉากบอกรักของเจ้าโอะนี่แหละ จำได้ว่าตอนอ่านในมังงะทีแรกนี่โคตรซึ้งเลยแฮะ เพราะการ์ตูนสายโชเน็นจ๋าแถมมีพระเอกสายโชเน็นจ๋าแบบนี้นี่หายากมากที่จะให้พระเอกบอกรักนางเอกออกจากปากแบบชัดๆ แบบนี้ เรียกว่าได้ยินครั้งแรกก็จากปากเจ้าโอะนี่แหละ (ตัวอื่นนึกไม่ออกแฮะว่ามีใครอีกบ้างที่กล้าพูดแบบนี้)
ถึงจะแอบน่าเสียดายที่ฉากไม่มีพลังเท่าที่ควรเพราะตัดเรื่องไปเยอะ แต่ก็ถือเป็นฉากที่น่าจดจำฉากหนึ่งแฮะ
ส่วนเรื่องของนางาเระนี่พูดยากแฮะว่าต่อกันเนียนหรือไม่เนียน เพราะเรื่องเดิมอ.แกเล่นแก้ปัญหาด้วยการให้นางาเระเป็นโคตรอัจฉริยะรอบด้าน เทพจนแกล้งทำเป็นไม่เอาจริงได้เนียนไปหมด ทำให้บอกได้ยากว่าตกลงตั้งแต่แรกที่เจอเจ้าโอะนี่คือมันแกล้งทำเกือบหมดเลยงั้นเหรอ (แต่ก็ยังสงสัยอยู่ว่าถ้ามันเทพขนาดนี้จริง อีตอนสู้กับโมริซึนะรึตอนสู้กับโกเลมนี่จะมัวงำประกายทำไมอยู่ ทำไมไม่เอาจริงซัดให้ร่วงไปเลย)
แต่ไม่ว่าสิ่งที่นางาเระทำจะมาจากสาเหตุอะไร ใจจริงนางาเระคิดยังไงกันแน่ แต่ที่แน่ๆ อย่างหนึ่งก็คือการเปลี่ยนข้างของนางาเระเป็นการสร้างรอยแผลลึกที่สุดให้กับเจ้าโอะเลยก็ว่าได้ เพราะนิสัยเจ้าโอะเป็นคนเชื่อใจเพื่อนพ้องมาก ชนิดที่ว่าลองเชื่อใครแล้วไม่มีการระแวงเลยก็ไม่ผิด ดังนั้นพอนางาเระกลายเป็นคนทรยศไปย่อมเป็นการทำลายสิ่งที่เจ้าโอะยึดมั่นมาตลอดอย่างแรงที่สุด ทำให้เจ้าโอะเสียศูนย์ไปเลยก็ว่าได้
ยิ่งกว่านั้น เหตุครั้งนี้ยังกลายเป็นรอยร้าวใหญ่ที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าโอะกับโทร่าที่เกิดขึ้นก่อนศึกใหญ่ครั้งสุดท้าย ซึ่งเป็นจุดให้ฮะกุเม็งเอาไปใช้ประโยชน์ได้หากต้องเผชิญหน้ากับเจ้าโอะกับโทร่าพร้อมกันอีก
เรียกว่าเป็นอะไรที่น่าดูชมในตอนหน้าจริงๆ