ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่นานๆจะได้เข้ากรุงเทพทีก็ตอนปิดเทอม เพื่อมาหาพ่อแม่ที่ทำงานอยู่ในเมืองหลวงที่เช่า อพาร์ตเม้นอยู่แถวห้วยขวาง ไอ้เรื่องเพื่อนน่ะหรอ เด็กต่างจังหวัดอย่างเราจะไปมีเพื่อนที่ไหน คนที่จะเล่นด้วยก็มีแต่น้องสาวห้องข้างกันที่เธอชื่อมิ้ล และน้องชายของเธอที่ชื่อมิ๊กกี้ มิ้ลกับมิ๊กกี๊นี้เป็นเด็กเมืองกรุงครับ แต่พื้นเพจะเป็นคนเหนือ (แต่ผมคนอีสาน) วันดีคืนดี เด็กเล่นด้วยกันแล้วทะเลาะกัน ผมโดนโวยเป็นภาษาเหนือ ฟังแทบไม่ทันเลย ส่วนนึงก็รู้สึกดีน่ะที่ไม่รู้เรื่อง แต่อีกใจก็อยากรู้ว่าเค้าพูดว่าไงบ้าง 5555 เอาเป็นว่าเรื่องเด็กทะเลาะกันพอไว้ก่อน ผมมีความทรงจำดีๆกับน้องทั้งสองคนนี้คือ เวลาเค้าจะไปเที่ยว หรือไปข้างนอกมักจะมาชวนผมออกไปด้วยอยู่เสมอ เพราะผมอยู่คนเดียวคงจะกลัวผมเหงา แต่ด้วยความที่อยู่ไปเล่นกันไปทุกวันก็เลยเป็นความผูกพันที่มันยังติดอยู่ในใจ ทำให้ยังคิดถึงน้องทั้งสองคนอยู่ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาได้อย่างไร เท่าที่นึกได้ก็คงจะมีแค่พันทิปเท่านั้นที่เป็นที่ระบายให้เราได้หายคิดถึง และหวังว่าน้องมิ้ลกับมิ๊กกี้จะได้อ่านเรื่องราวแล้วติดต่อกับมา นับจากวันที่เราจากกันคือวันที่ผมเปิดเรียนและต้องกลับต่างจังหวัดแล้ว ผมจึงได้ไปร่ำลาน้องทั้งสองคนว่าพี่จะกลับแล้วน่ะ แล้วมาเจอกันใหม่ปิดเทอมหน้า แต่นั้นคงเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย เพราะเมื่อปิดเทอมรอบใหม่ผมลงมาก็ไม่เจอน้องทั้งสองคนแล้ว ถามพ่อกับแม่ก็ได้แต่บอกว่าเค้าได้ย้ายออกจากอพาร์ตเม้นไปแล้ว ส่วนที่อยู่ใหม่กับเบอร์โทรที่เคยฝากแม่ไว้ให้เราก็ไม่อยู่แล้ว แม่บอกว่าแม่ทำหายไป
เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเปิดเรื่องที่เกิดสมัยตอนที่ผมอยู่ ป.6 ซึ่งน่าจะช่วง พ.ศ. 2546 ซึ่งน้องมิ้ลก็อยู่ประมาน ป.4 จำได้ว่าเรียนอยู่โรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ที่ห้วยขวาง ถ้าหากน้องทั้งสองยังจำได้และได้อ่านเรื่องราวนี้ พี่อยากบอกว่าคิดถึงน้องๆนะ ยังรอการติดต่อกลับมาเสมอ อยากเจออีกครั้ง แต่ครั้งนี้พี่จะขอเป็นฝ่ายดูแลน้องๆเอง
กว่าจะรู้ว่ารัก เราก็จากกันไปแล้ว...
เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเปิดเรื่องที่เกิดสมัยตอนที่ผมอยู่ ป.6 ซึ่งน่าจะช่วง พ.ศ. 2546 ซึ่งน้องมิ้ลก็อยู่ประมาน ป.4 จำได้ว่าเรียนอยู่โรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ที่ห้วยขวาง ถ้าหากน้องทั้งสองยังจำได้และได้อ่านเรื่องราวนี้ พี่อยากบอกว่าคิดถึงน้องๆนะ ยังรอการติดต่อกลับมาเสมอ อยากเจออีกครั้ง แต่ครั้งนี้พี่จะขอเป็นฝ่ายดูแลน้องๆเอง