จริงๆจะตั้งกระทู้ตั้งแต่เมือวานละแต่ไม่ว่าง เคยทักมาตั้งแต่นัดศรีสะเกษละว่า มันเข้าท่านะ เดี๋ยวเจอ บรร จะไหวเปล่า
ผลปรากฏ ก็ตามที่เห็นชนะ 3-0
ไม่มั่นใจว่าเริ่มใช้ตั้งแต่นัดราชนาวีหรือเปล่า เพราะไม่ได้ดู
แต่ 3 นัดหลัง ยิงกระจุยมาก ยิงได้ 11 ลูก และที่สำคัญคือไม่มีใครเจาะ ไข่แดงได้ ไม่เสียประตูเลย
ตามผังน่ะมัน 4-3-3
ตามนี้
กองหน้า fC 3 ตัว
เครตัน กลอฟ์ มุ้ย
cm (มิดฟิลด์ตัวกลาง)
เจ ตัง
มิดฟิลด์ตัวรับ DM
ตั้ม ธนบูณร์
แบ็กซ้าย (LB)
ชายพี (พีรพัฒน์)
แบ็กขวา (RB)
โด
เซนเตอร์ คู่ (CB)
อาโอยาม่า มาริโอ อาบันเต้
ตามผังมันเป็นแบบนี้
แต่พอเล่นจริงๆ มันเหมือน 4-4-2 แบบ BOX ที่บราซิล ยุค 80-ต้น90 เป็นคนเริ่มใช้
อันนี้เป็นตัวอย่าง รูปแบบ 4-4-2 แบบ box ของบราซิล
แต่ที่ต่างกันนิดหน่อย คือ ของเมืองทองจะวางแบบนี้
กองหน้า fC 2 ตัว
เครตัน กลอฟ์
AM (มิดฟิลด์ตัวรุก)
เจ มุ้ย
CM มิดฟิลด์ตัวกลาง
สารัช
มิดฟิลด์ตัวรับ DM
ตั้ม ธนบูณร์
แบ็กซ้าย (LB)
ชายพี (พีรพัฒน์)
แบ็กขวา (RB)
โด
เซนเตอร์ คู่ (CB)
อาโอยาม่า มาริโอ อาบันเต้
มุ้ยเป็น มิดฟิลด์ไม่ใช่กองหน้าแล้ว ยืนไลน์เดียวกับ เจ โดยมีสารัช คอยรับบอล จากตั้ม คอยวางบอลยาวไปให้กองหน้า เพื่อลดเวลา
แต่ถ้าเล่นเร็วไม่ได้ เจ กับมุ้ย จะเข้ามารับบอล เพื่อเล่นสั้น แทน และตั้มจะไม่เติมเกมส์ แต่จะเป็นตัวชนก่อนถึง คู่เซนเตอร์ สังเกตดูได้ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์กับบรร หรือศรีสะเกษ น้อยมากที่จะเจาะตรงกลาง เพราะ ตรงกลางจะมีนักเตะอย่างน้อย 3ตัวในกรอบ
และที่น่าสนใจคือ เวลา ฟูลแบ็กเติมเกม ที่ผ่านมาเคยเป็นจุดอ่อน เวลาฟูลแบ็กลงไม่ทัน
ตะวันเปลี่ยนใหม่
ให้ทีมแปลงร่างเป็น 3-5-2 ในทันที (หรือในบางครั้ง 3-4-3)
โดยตั้ม จะถอยลงมาเป็น เซนเตอร์ ส่วนคู่เซนเตอร์จะไปรับผิดชอบหน้าที่ โซนป้องกัน ของฟูลแบ็กแทน และสารัช จะเข้ามาเป้นมิดฟิลด์ตัวรับแทนที่ตั้ม ถ้ากองหน้า ถอยออกไปเล่นโอเวอร์แลป มุ้ยจะสอดไปเป็นกองหน้าแทนที่ ส่วน เจ จะ ถอยลงมาต่ำนิดหนึ่ง เพื่อคอย รีบาวด์ บอลหน้ากรอบ
อันนี้ผังเวลา ฟูลแบ็ก over lab
ระบบนี้ ผมพึ่งเคยเห็นทีมในไทยลีคใช้ เคยเห็นแต่เมืองนอก นับว่าเป็นของใหม่ก็ว่าได้ เคยเห็นแมนยู ยุคป๋า (ยุคเจตโด้ ปลายๆ)
แต่มีคนบอกว่า บาเยินร์ก็ใช้
แต่อย่าพึ่งดีใจไป ระบบนี้ไม่ใช่ของง่าย แม้แต่เมืองนอกยังไม่เห็นบ่อยนัก นักเตะต้องเก่งเอามากๆ และต้องเก่งทุกตำแหน่ง เก่งในที่นี้ไม่ใช่ว่าเลี้ยงหลบสาม หรือจ่ายฉัวะเดียว หลุด คือ ต้องเข้าใจตำแหน่ง และมีวินัย เอามากๆ (กไก่ 20 ตัว) และเล่นได้หลากหลายนอกจากตำแหน่งประจำตัว
และ ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งไม่ทำตามหน้าที่ ระบบจะเสียทันที และต้องรู้ว่าเวลาไหนต้อง ทำอะไรเล่น บอลสั้น หรือบอลยาว
ต้องอคยสังเกตเพื่อนร่วมทีมตลอดเวลา
และที่สำคัญคือต้อง ต้องฟิตเอามากๆ เพราะ จะต้องเคลื่อนที่ตามเพื่อนตลอด 90นาที
ที่น่าห่วงคืออายุของคู่เซนเตอร์ (30+ทั้งคู่) และตำแหน่งของ ธนบรูณ์ ซึ่ง DM ที่เล่นเซนเตอร์ได้ วิ่งเร็วพอจะโควฟเวอร์เพื่อนได้ เล่นลูกกลางอากาศได้ ในไทยไม่ค่อยเห็นบ่อยนักที่มีคนเล่นได้แบบนี้ ถ้าตั้ม ลงไม่ได้ด้วยเหตุผลใดๆ ก็แล้วแต่ คนที่จะมาแทนที่ตั้ม คือคำถาม
คุยกันหลังเกมส์ จุดแข็ง-จุดอ่อน ระบบใหม่เมืองทอง
ผลปรากฏ ก็ตามที่เห็นชนะ 3-0
ไม่มั่นใจว่าเริ่มใช้ตั้งแต่นัดราชนาวีหรือเปล่า เพราะไม่ได้ดู
แต่ 3 นัดหลัง ยิงกระจุยมาก ยิงได้ 11 ลูก และที่สำคัญคือไม่มีใครเจาะ ไข่แดงได้ ไม่เสียประตูเลย
ตามผังน่ะมัน 4-3-3
ตามนี้
กองหน้า fC 3 ตัว
เครตัน กลอฟ์ มุ้ย
cm (มิดฟิลด์ตัวกลาง)
เจ ตัง
มิดฟิลด์ตัวรับ DM
ตั้ม ธนบูณร์
แบ็กซ้าย (LB)
ชายพี (พีรพัฒน์)
แบ็กขวา (RB)
โด
เซนเตอร์ คู่ (CB)
อาโอยาม่า มาริโอ อาบันเต้
ตามผังมันเป็นแบบนี้
แต่พอเล่นจริงๆ มันเหมือน 4-4-2 แบบ BOX ที่บราซิล ยุค 80-ต้น90 เป็นคนเริ่มใช้
อันนี้เป็นตัวอย่าง รูปแบบ 4-4-2 แบบ box ของบราซิล
แต่ที่ต่างกันนิดหน่อย คือ ของเมืองทองจะวางแบบนี้
กองหน้า fC 2 ตัว
เครตัน กลอฟ์
AM (มิดฟิลด์ตัวรุก)
เจ มุ้ย
CM มิดฟิลด์ตัวกลาง
สารัช
มิดฟิลด์ตัวรับ DM
ตั้ม ธนบูณร์
แบ็กซ้าย (LB)
ชายพี (พีรพัฒน์)
แบ็กขวา (RB)
โด
เซนเตอร์ คู่ (CB)
อาโอยาม่า มาริโอ อาบันเต้
มุ้ยเป็น มิดฟิลด์ไม่ใช่กองหน้าแล้ว ยืนไลน์เดียวกับ เจ โดยมีสารัช คอยรับบอล จากตั้ม คอยวางบอลยาวไปให้กองหน้า เพื่อลดเวลา
แต่ถ้าเล่นเร็วไม่ได้ เจ กับมุ้ย จะเข้ามารับบอล เพื่อเล่นสั้น แทน และตั้มจะไม่เติมเกมส์ แต่จะเป็นตัวชนก่อนถึง คู่เซนเตอร์ สังเกตดูได้ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์กับบรร หรือศรีสะเกษ น้อยมากที่จะเจาะตรงกลาง เพราะ ตรงกลางจะมีนักเตะอย่างน้อย 3ตัวในกรอบ
และที่น่าสนใจคือ เวลา ฟูลแบ็กเติมเกม ที่ผ่านมาเคยเป็นจุดอ่อน เวลาฟูลแบ็กลงไม่ทัน
ตะวันเปลี่ยนใหม่
ให้ทีมแปลงร่างเป็น 3-5-2 ในทันที (หรือในบางครั้ง 3-4-3)
โดยตั้ม จะถอยลงมาเป็น เซนเตอร์ ส่วนคู่เซนเตอร์จะไปรับผิดชอบหน้าที่ โซนป้องกัน ของฟูลแบ็กแทน และสารัช จะเข้ามาเป้นมิดฟิลด์ตัวรับแทนที่ตั้ม ถ้ากองหน้า ถอยออกไปเล่นโอเวอร์แลป มุ้ยจะสอดไปเป็นกองหน้าแทนที่ ส่วน เจ จะ ถอยลงมาต่ำนิดหนึ่ง เพื่อคอย รีบาวด์ บอลหน้ากรอบ
อันนี้ผังเวลา ฟูลแบ็ก over lab
ระบบนี้ ผมพึ่งเคยเห็นทีมในไทยลีคใช้ เคยเห็นแต่เมืองนอก นับว่าเป็นของใหม่ก็ว่าได้ เคยเห็นแมนยู ยุคป๋า (ยุคเจตโด้ ปลายๆ)
แต่มีคนบอกว่า บาเยินร์ก็ใช้
แต่อย่าพึ่งดีใจไป ระบบนี้ไม่ใช่ของง่าย แม้แต่เมืองนอกยังไม่เห็นบ่อยนัก นักเตะต้องเก่งเอามากๆ และต้องเก่งทุกตำแหน่ง เก่งในที่นี้ไม่ใช่ว่าเลี้ยงหลบสาม หรือจ่ายฉัวะเดียว หลุด คือ ต้องเข้าใจตำแหน่ง และมีวินัย เอามากๆ (กไก่ 20 ตัว) และเล่นได้หลากหลายนอกจากตำแหน่งประจำตัว
และ ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งไม่ทำตามหน้าที่ ระบบจะเสียทันที และต้องรู้ว่าเวลาไหนต้อง ทำอะไรเล่น บอลสั้น หรือบอลยาว
ต้องอคยสังเกตเพื่อนร่วมทีมตลอดเวลา
และที่สำคัญคือต้อง ต้องฟิตเอามากๆ เพราะ จะต้องเคลื่อนที่ตามเพื่อนตลอด 90นาที
ที่น่าห่วงคืออายุของคู่เซนเตอร์ (30+ทั้งคู่) และตำแหน่งของ ธนบรูณ์ ซึ่ง DM ที่เล่นเซนเตอร์ได้ วิ่งเร็วพอจะโควฟเวอร์เพื่อนได้ เล่นลูกกลางอากาศได้ ในไทยไม่ค่อยเห็นบ่อยนักที่มีคนเล่นได้แบบนี้ ถ้าตั้ม ลงไม่ได้ด้วยเหตุผลใดๆ ก็แล้วแต่ คนที่จะมาแทนที่ตั้ม คือคำถาม