ลังจากที่มีข่าวลือหนาหูว่า iPhone 7 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนกันยายนปีนี้ แอปเปิลจะเตรียมตัดช่องเสียบหูฟังทิ้ง เพื่อให้ตัวเครื่องนั้นบางลง และอาจจะหันมาแถมหูฟังแบบบลูทูธ หรือว่าหูฟังที่เป็นพอร์ต USB-C แทน
แต่ล่าสุดได้มีข่าวว่า Intel ก็เตรียมผลักดันพอร์ต USB-C เพื่อใช้เป็นช่องเสียบหูฟังแทนพอร์ต 3.5 mm กับเค้าบ้างแล้ว ซึ่งข้อดีของการที่หูฟังรอบรับพอร์ต USB-C นั่นก็คือ เราอาจจะเห็นหูฟังที่มีฟีเจอร์เด็ด ๆ ที่อาจจะไม่ใช่เป็นแค่หูฟังแบบเดิม ๆ เราอาจจะเห็นหูฟังเทพ ๆ ล้ำ ๆ เพราะว่าพอร์ตนี้สามารถส่งได้ทั้งเสียงหรือจะเป็นข้อมูล
ยกตัวอย่างเช่น เราอาจจะเห็นหูฟังที่สามารถวัดอุณหภูมิ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ หรือข้อมูลด้านสุขภาพอื่น ๆ แบบ Real-time ไปยังสมาร์ทโฟนของเรา ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมด หรือต้องกังวลว่าจะชาร์จเมื่อไหร่ เหมือนหูฟังบลูทูธตามท้องตลาด
อย่างไรก็ตาม Intel และแอปเปิล ก็มีแผนพัฒนาไปในทางเดียวกัน เราอาจจะเห็นการร่วมเมื่อพัฒนามาตรฐานพอร์ต USB-C ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก และไม่แน่ในอนาคต USB-C อาจจะเป็นพอร์ตพื้นฐานที่ทุกอุปกรณ์ต้องมีไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน หรือแม้กระทั่ง iPhone, iPad เองก็ตาม
ทีมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.macthai.com/2016/04/29/intel-wants-to-eliminate-3-5-mm-headphone-jack-like-rumored-iphone-7-suggests-usb-c-as-replacement/?utm_source=dlvr.it&utm_medium=facebook
ถ้าต่อไปนี้ไม่มี Jack 3.5mm สำหรับต่อหูฟัง , ลำโพง แต่จะเปลี่ยนมาใช้ USB-C แทน จะดีหรือเปล่า?
ทุกวันนี้ถ้าพูดกันถึงเรื่อง Port การเชื่อมต่อ Audio Jack หรือว่าช่องเสียบหูฟัง ช่องเสียบลำโพง อะไรก็แล้วแต่ที่จะเรียกกัน แทบทุกคนก็น่าจะนึกถึง Jack 3.5mm เป็นอันดับแรก เพราะว่ามันเป็น Universal หรือว่าพอร์ตที่ Basic ที่สุดแล้ว เราสามารถพบเจอมันได้กับอุปกรณ์ระดับ Mainstream แทบทุกอย่างที่เน้นเป็นอุปกรณ์สำหรับการใช้แบบส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นหลัง PC , Smartphone, และอุปกรณ์พกพาอื่นๆอีกมากมาย
แต่ ณ เวลานี้ มันกำลังถูกตัดอนาคตโดยอุปกรณ์เหล่านี้เอง เพราะว่าตอนนี้ทาง Intel ก็ได้เข้าร่วมกับ LeEco เพื่อที่จะแสดงจุดยืนการซัพพอร์ต USB-C Connector ให้เป็นมาตรฐานใหม่ของการเชื่อมต่อแบบ Universal หรือประมาณว่าต่ออย่างเดียวเบ็ดเสร็จใช้ได้ทุกอย่าง และทำให้เจ้า Jack 3.5mm นี้เป็นพอร์ตการเชื่อมต่อแห่งอดีตไป..
หลายๆคนอาจจะไม่เคยได้ยินว่า LeEco คืออะไร และมีบทบาทอะไรอยู่ตอนนี้ ?
ทาง LeEco ก็จะเป็นบริษัทประเภท Holding ที่เน้นกลุ่มการลงทุนในหมวดเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการผลิตมือถือ หรือว่าอุปกรณ์ไฮเทคอื่นๆอีกมากมาย จนไปถึงรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยแบรนด์ LeEco ไม่นานนี้ก็ได้เปิดตัว Smartphone สามรุ่นซึ่งก็คือ Le 2, Le 2 Pro, และ Le Max 2 ทั้งสามรุ่นนี้จะเป็น Smartphone ที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน
ตัวท๊อป Le Max 2 จะมีหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 820 , และ RAM ขนาด 6GB แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะว่าประเด็นที่น่าสนใจที่แท้จริงคือมือถือทั้งสามรุ่นที่ได้เปิดตัวมาใหม่นี้ ไม่มี Jack 3.5mm มาให้แล้วครับ เพราะเช่นนั้นถ้าอยากต่อ Audio Output ก็ต้องต่อผ่าน USB-C เพียงอย่างเดียว และช่อง USB-C ของมันก็จะเป็นช่องเดียวกันกับที่ชาร์จไฟและโอนถ่ายข้อมูลอีกด้วย ..
พูดง่ายๆว่าพยายามจะทำให้ทุกอย่างเป็น Universal นั่นแหละ คือพอร์ตเดียวใช้งานมันทุกอย่างเลย ตั้งแต่ชาร์จยันฟังเพลง
ภายในงาน Shenzhen Developer Forum ที่ทาง Intel จัดขึ้นในเดือนนี้ก็มีข้อมูลออกมาด้วยว่าทาง Intel นั้นกำลังสนับสนุนการใช้งาน Jack 3.5mm และกำจัดมันออกจากอุปกรณ์พกพาอย่างเช่น Smartphone และ Tablet / ว่าแต่ Jack 3.5mm ที่ใช้กันอยู่ตอนนี้เนี่ยมันมีอะไรไม่ดีเหรอ ทำไมถึงผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงกัน ?
อย่างแรกเลยคือมันเป็น Analog และออกแบบมาสำหรับจุดประสงค์เดียวคือเป็นพอร์ต Audio-Out ที่อยู่บนอุปกรณ์ Hi-Tech ที่ออกแบบมาให้ทำได้หลายอย่าง (พวก Smartphone หรือ Tablet) ซึ่งถ้าพูดกันตรงๆคือมันก็ล้าหลังนั่นแหละครับ เพราะว่าเทคโนโลยีเดียวนี้ อุปกรณ์หนึ่งอย่างควรจะทำได้หลายอย่าง แต่ไอเจ้าช่องเสียบหูฟังเนี่ย มันไม่สามารถเอาไปทำประโยชน์อื่นๆได้เลยหน่ะสิ แต่ว่าถ้าใช้ USB-C ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ และมีความสามารถสูง ทั่งการโอนถ่ายไฟล์ความเร็วสูง ประสิทธิภาพการชาร์จไฟที่สูง และการต่อพ่วงหลายอุปกรณ์ได้พร้อมๆกัน ..
ฟีเจอร์เหล่านี้ของ USB-C ก็จะเปิดโอกาสให้มีการคิดค้นว่า ถ้าเอาสัญญาณเสียง Output ออกมาเป็น Digital แทน ส่วนเรื่องการแปลงสัญญาณเป็น Analog นั้น ผู้ผลิตอุปกรณ์เสียงอย่างเช่นหูฟังหรือว่าลำโพงก็จำเป็นต้องมี DAC ในตัวเพื่อแปลงสัญญาณเสียง Digital จาก Source เช่น Smartphone หรือ Tablet ไปเป็น Analog เพื่อขับออกมาเป็นเสียงให้ผู้ใช้ได้ยินกันต่อไป ซึ่งถามว่าอันนี้เป็นอะไรที่ใหม่หรือเปล่า ก็คงไม่ เพราะว่าปัจจุบันนี้แล้วก็มีหูฟังหรือลำโพง ที่ใช้พอร์ตการเชื่อมต่อเป็น USB วางขายกันอย่างแพร่หลาย และมีมานานแล้วด้วย ตั้งแต่ระดับราคาชิวๆ ไปจนถึงอุปกรณ์ระดับ High End ก็มี..
จุดประสงค์ของอุปกรณ์เหล่านี้ก็คือต้องการควบคุมคุณภาพเสียงให้ดีขึ้น เพราะว่า Source อาจจะไม่มี Digital to Analog Converter ที่ดีเพียงพอ เลยตัดปัญหาซะด้วยการเอาสัญญาณ Digital มาแปลงเองซะเลย .. แต่ปัญหาก็คือพวกอุปกรณ์ที่เราพูดถึงกันอยู่นี่มันเป็น USB Type-A หรือว่า USB หน้าตามาตรฐานที่เห็นกันบ่อยที่สุดนั่นแหละครับ .. ด้วยขนาดของ USB Type-A เอง ก็น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่ามันไม่เหมาะสำหรับอุปกรณ์พกพาเช่น Smartphone หรือ Tablet ซักเท่าไหร่
ซึ่งไม่นานมานี้ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับโทรศัพท์ Apple iPhone 7 ว่ามันจะไม่มี Jack 3.5mm สำหรับหูฟังมาอีกต่อไป และจะให้ไปใช้ Port Lightning ของ Apple แทน เพื่อให้ตัวเครื่องนั้นบางลง ..
ข่าวนี้ก็โดนกระแสสังคมต่อต้านกันอย่างกว้างขวาง เพราะว่าดูจากทรงแล้ว ประเด็นหลักๆก็คือจะขาย Accessories ที่ใช้กับ Port Lightning ของตัวเองหน่ะสิไม่ว่า แต่ตอนนี้ก็มีประเด็นใกล้เคียงกันขึ้นมา ซึ่งหลักๆแล้วก็เหมือนกันทุกอย่าง
แต่ว่า Interface การเชื่อมต่อที่กำลังพูดถึงจะเปลี่ยนจาก Lightning เป็น USB-C ก็ต้องรอดูกันว่าคราวนี้จะมีกระแสโจมตีหรือต่อต้านหรือเปล่า แต่ส่วนตัว Admin เองก็คิดว่าน่าจะไม่แรงเท่าในรอบของ Apple เพราะว่า USB-C นี้มันเป็นอะไรที่มาตรฐานมากกว่า Universal มากกว่า และยืดหยุ่นมากกว่า Lightning Connector ที่จำกัดว่าอยู่ในอุปกรณ์ของ Apple เพียงอย่างเดียว
ณ เวลานี้เองก็มีโปรดักส์ที่ออกมารองรับตรงนี้แล้ว อย่างเช่น หูฟังของ JBL ที่มี Interface การเชื่อมต่อเป็น USB-C
การเปลี่ยนแปลงจากยุคที่สัญญาณเสียง Analog เป็นมาตรฐานไปเป็นยุคที่ Interface Digital เป็นมาตรฐานนี้ก็น่าจะมีผลกระทบอยู่ไม่น้อย เพราะว่าหูฟังดีๆ ลำโพงดีๆที่เราใช้กันอยู่เกือบจะทุกตัวในปัจจุบันและราว 30 ปีที่ผ่านมา จะใช้ Interface การเชื่อมต่อแบบ 3.5mm หรือ 6.35mm เป็นหลัก และนั่นก็หมายความว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะกลายเป็นใช้ไม่ได้ในทันที และจะต้องหา Adaptor มาแปลงสัญญาณ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากอีก ไหนจะเป็นการเลือกคุณภาพ Adaptor ที่ต้องมี DAC คุณภาพสูงในตัว ถึงจะทำให้เสียงมันฟังโอเค และปัญหาอีกมากมายที่ผู้ใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าอาจจะต้องเจอ / อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าช้าหรือเร็ว และซักวันพอร์ตการเชื่อมต่อทุกอย่างก็ต้องกลายเป็น Digital รวมไปถึง Audio Port ด้วยเช่นกัน
ที่มา
http://www.overclockzone.com/news/3894
Intel เตรียมบอกลาพอร์ต 3.5 mm หันมาใช้ USB-C ตามรอย Apple
แต่ล่าสุดได้มีข่าวว่า Intel ก็เตรียมผลักดันพอร์ต USB-C เพื่อใช้เป็นช่องเสียบหูฟังแทนพอร์ต 3.5 mm กับเค้าบ้างแล้ว ซึ่งข้อดีของการที่หูฟังรอบรับพอร์ต USB-C นั่นก็คือ เราอาจจะเห็นหูฟังที่มีฟีเจอร์เด็ด ๆ ที่อาจจะไม่ใช่เป็นแค่หูฟังแบบเดิม ๆ เราอาจจะเห็นหูฟังเทพ ๆ ล้ำ ๆ เพราะว่าพอร์ตนี้สามารถส่งได้ทั้งเสียงหรือจะเป็นข้อมูล
ยกตัวอย่างเช่น เราอาจจะเห็นหูฟังที่สามารถวัดอุณหภูมิ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ หรือข้อมูลด้านสุขภาพอื่น ๆ แบบ Real-time ไปยังสมาร์ทโฟนของเรา ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมด หรือต้องกังวลว่าจะชาร์จเมื่อไหร่ เหมือนหูฟังบลูทูธตามท้องตลาด
อย่างไรก็ตาม Intel และแอปเปิล ก็มีแผนพัฒนาไปในทางเดียวกัน เราอาจจะเห็นการร่วมเมื่อพัฒนามาตรฐานพอร์ต USB-C ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก และไม่แน่ในอนาคต USB-C อาจจะเป็นพอร์ตพื้นฐานที่ทุกอุปกรณ์ต้องมีไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน หรือแม้กระทั่ง iPhone, iPad เองก็ตาม
ทีมา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถ้าต่อไปนี้ไม่มี Jack 3.5mm สำหรับต่อหูฟัง , ลำโพง แต่จะเปลี่ยนมาใช้ USB-C แทน จะดีหรือเปล่า?
ทุกวันนี้ถ้าพูดกันถึงเรื่อง Port การเชื่อมต่อ Audio Jack หรือว่าช่องเสียบหูฟัง ช่องเสียบลำโพง อะไรก็แล้วแต่ที่จะเรียกกัน แทบทุกคนก็น่าจะนึกถึง Jack 3.5mm เป็นอันดับแรก เพราะว่ามันเป็น Universal หรือว่าพอร์ตที่ Basic ที่สุดแล้ว เราสามารถพบเจอมันได้กับอุปกรณ์ระดับ Mainstream แทบทุกอย่างที่เน้นเป็นอุปกรณ์สำหรับการใช้แบบส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นหลัง PC , Smartphone, และอุปกรณ์พกพาอื่นๆอีกมากมาย
แต่ ณ เวลานี้ มันกำลังถูกตัดอนาคตโดยอุปกรณ์เหล่านี้เอง เพราะว่าตอนนี้ทาง Intel ก็ได้เข้าร่วมกับ LeEco เพื่อที่จะแสดงจุดยืนการซัพพอร์ต USB-C Connector ให้เป็นมาตรฐานใหม่ของการเชื่อมต่อแบบ Universal หรือประมาณว่าต่ออย่างเดียวเบ็ดเสร็จใช้ได้ทุกอย่าง และทำให้เจ้า Jack 3.5mm นี้เป็นพอร์ตการเชื่อมต่อแห่งอดีตไป..
หลายๆคนอาจจะไม่เคยได้ยินว่า LeEco คืออะไร และมีบทบาทอะไรอยู่ตอนนี้ ?
ทาง LeEco ก็จะเป็นบริษัทประเภท Holding ที่เน้นกลุ่มการลงทุนในหมวดเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการผลิตมือถือ หรือว่าอุปกรณ์ไฮเทคอื่นๆอีกมากมาย จนไปถึงรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยแบรนด์ LeEco ไม่นานนี้ก็ได้เปิดตัว Smartphone สามรุ่นซึ่งก็คือ Le 2, Le 2 Pro, และ Le Max 2 ทั้งสามรุ่นนี้จะเป็น Smartphone ที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน
ตัวท๊อป Le Max 2 จะมีหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 820 , และ RAM ขนาด 6GB แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะว่าประเด็นที่น่าสนใจที่แท้จริงคือมือถือทั้งสามรุ่นที่ได้เปิดตัวมาใหม่นี้ ไม่มี Jack 3.5mm มาให้แล้วครับ เพราะเช่นนั้นถ้าอยากต่อ Audio Output ก็ต้องต่อผ่าน USB-C เพียงอย่างเดียว และช่อง USB-C ของมันก็จะเป็นช่องเดียวกันกับที่ชาร์จไฟและโอนถ่ายข้อมูลอีกด้วย ..
พูดง่ายๆว่าพยายามจะทำให้ทุกอย่างเป็น Universal นั่นแหละ คือพอร์ตเดียวใช้งานมันทุกอย่างเลย ตั้งแต่ชาร์จยันฟังเพลง
ภายในงาน Shenzhen Developer Forum ที่ทาง Intel จัดขึ้นในเดือนนี้ก็มีข้อมูลออกมาด้วยว่าทาง Intel นั้นกำลังสนับสนุนการใช้งาน Jack 3.5mm และกำจัดมันออกจากอุปกรณ์พกพาอย่างเช่น Smartphone และ Tablet / ว่าแต่ Jack 3.5mm ที่ใช้กันอยู่ตอนนี้เนี่ยมันมีอะไรไม่ดีเหรอ ทำไมถึงผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงกัน ?
อย่างแรกเลยคือมันเป็น Analog และออกแบบมาสำหรับจุดประสงค์เดียวคือเป็นพอร์ต Audio-Out ที่อยู่บนอุปกรณ์ Hi-Tech ที่ออกแบบมาให้ทำได้หลายอย่าง (พวก Smartphone หรือ Tablet) ซึ่งถ้าพูดกันตรงๆคือมันก็ล้าหลังนั่นแหละครับ เพราะว่าเทคโนโลยีเดียวนี้ อุปกรณ์หนึ่งอย่างควรจะทำได้หลายอย่าง แต่ไอเจ้าช่องเสียบหูฟังเนี่ย มันไม่สามารถเอาไปทำประโยชน์อื่นๆได้เลยหน่ะสิ แต่ว่าถ้าใช้ USB-C ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ และมีความสามารถสูง ทั่งการโอนถ่ายไฟล์ความเร็วสูง ประสิทธิภาพการชาร์จไฟที่สูง และการต่อพ่วงหลายอุปกรณ์ได้พร้อมๆกัน ..
ฟีเจอร์เหล่านี้ของ USB-C ก็จะเปิดโอกาสให้มีการคิดค้นว่า ถ้าเอาสัญญาณเสียง Output ออกมาเป็น Digital แทน ส่วนเรื่องการแปลงสัญญาณเป็น Analog นั้น ผู้ผลิตอุปกรณ์เสียงอย่างเช่นหูฟังหรือว่าลำโพงก็จำเป็นต้องมี DAC ในตัวเพื่อแปลงสัญญาณเสียง Digital จาก Source เช่น Smartphone หรือ Tablet ไปเป็น Analog เพื่อขับออกมาเป็นเสียงให้ผู้ใช้ได้ยินกันต่อไป ซึ่งถามว่าอันนี้เป็นอะไรที่ใหม่หรือเปล่า ก็คงไม่ เพราะว่าปัจจุบันนี้แล้วก็มีหูฟังหรือลำโพง ที่ใช้พอร์ตการเชื่อมต่อเป็น USB วางขายกันอย่างแพร่หลาย และมีมานานแล้วด้วย ตั้งแต่ระดับราคาชิวๆ ไปจนถึงอุปกรณ์ระดับ High End ก็มี..
จุดประสงค์ของอุปกรณ์เหล่านี้ก็คือต้องการควบคุมคุณภาพเสียงให้ดีขึ้น เพราะว่า Source อาจจะไม่มี Digital to Analog Converter ที่ดีเพียงพอ เลยตัดปัญหาซะด้วยการเอาสัญญาณ Digital มาแปลงเองซะเลย .. แต่ปัญหาก็คือพวกอุปกรณ์ที่เราพูดถึงกันอยู่นี่มันเป็น USB Type-A หรือว่า USB หน้าตามาตรฐานที่เห็นกันบ่อยที่สุดนั่นแหละครับ .. ด้วยขนาดของ USB Type-A เอง ก็น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่ามันไม่เหมาะสำหรับอุปกรณ์พกพาเช่น Smartphone หรือ Tablet ซักเท่าไหร่
ซึ่งไม่นานมานี้ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับโทรศัพท์ Apple iPhone 7 ว่ามันจะไม่มี Jack 3.5mm สำหรับหูฟังมาอีกต่อไป และจะให้ไปใช้ Port Lightning ของ Apple แทน เพื่อให้ตัวเครื่องนั้นบางลง ..
ข่าวนี้ก็โดนกระแสสังคมต่อต้านกันอย่างกว้างขวาง เพราะว่าดูจากทรงแล้ว ประเด็นหลักๆก็คือจะขาย Accessories ที่ใช้กับ Port Lightning ของตัวเองหน่ะสิไม่ว่า แต่ตอนนี้ก็มีประเด็นใกล้เคียงกันขึ้นมา ซึ่งหลักๆแล้วก็เหมือนกันทุกอย่าง
แต่ว่า Interface การเชื่อมต่อที่กำลังพูดถึงจะเปลี่ยนจาก Lightning เป็น USB-C ก็ต้องรอดูกันว่าคราวนี้จะมีกระแสโจมตีหรือต่อต้านหรือเปล่า แต่ส่วนตัว Admin เองก็คิดว่าน่าจะไม่แรงเท่าในรอบของ Apple เพราะว่า USB-C นี้มันเป็นอะไรที่มาตรฐานมากกว่า Universal มากกว่า และยืดหยุ่นมากกว่า Lightning Connector ที่จำกัดว่าอยู่ในอุปกรณ์ของ Apple เพียงอย่างเดียว
ณ เวลานี้เองก็มีโปรดักส์ที่ออกมารองรับตรงนี้แล้ว อย่างเช่น หูฟังของ JBL ที่มี Interface การเชื่อมต่อเป็น USB-C
การเปลี่ยนแปลงจากยุคที่สัญญาณเสียง Analog เป็นมาตรฐานไปเป็นยุคที่ Interface Digital เป็นมาตรฐานนี้ก็น่าจะมีผลกระทบอยู่ไม่น้อย เพราะว่าหูฟังดีๆ ลำโพงดีๆที่เราใช้กันอยู่เกือบจะทุกตัวในปัจจุบันและราว 30 ปีที่ผ่านมา จะใช้ Interface การเชื่อมต่อแบบ 3.5mm หรือ 6.35mm เป็นหลัก และนั่นก็หมายความว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะกลายเป็นใช้ไม่ได้ในทันที และจะต้องหา Adaptor มาแปลงสัญญาณ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากอีก ไหนจะเป็นการเลือกคุณภาพ Adaptor ที่ต้องมี DAC คุณภาพสูงในตัว ถึงจะทำให้เสียงมันฟังโอเค และปัญหาอีกมากมายที่ผู้ใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าอาจจะต้องเจอ / อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าช้าหรือเร็ว และซักวันพอร์ตการเชื่อมต่อทุกอย่างก็ต้องกลายเป็น Digital รวมไปถึง Audio Port ด้วยเช่นกัน
ที่มา http://www.overclockzone.com/news/3894