ที่กระทรวงการคลัง นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ในปี 2559 ลงเหลือ 3.3% โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.0 – 3.6% และลดคาดการส่งออกติดลบ 0.7% ซึ่งปรับตัวเลขลดลงจากเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่ประเมินว่าเศรษฐกิจขยายตัว 3.7% และส่งออกบวก 0.1% ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง การใช้จ่ายภาครัฐยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านคมนาคมขนส่ง โครงการบริหารจัดการน้ำและพัฒนาระบบขนส่งทางถนน และกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนปี 2559 ที่เพิ่มขึ้น
สำหรับการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน มีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามแนวโน้มการจ้างงาน และรายได้นอกภาคเกษตรยังอยู่ในเกณฑ์ดี รวมทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันที่ลดลง และอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ อาทิ โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวประชารัฐ มีส่วนช่วยการขยายตัวการใช้จ่ายภายในประเทศ
“การส่งออกสินค้าของไทยในปีนี้ คงมีข้อจำกัด จากความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และปัญหาเชิงโครงสร้างในภาคส่งออก คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าของไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำลงจากที่คาดการณ์ครั้งก่อน ” นายวโรทัย กล่าว
นายวโรทัย กล่าวต่อว่า ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจของไทยยังคงแข็งแกร่ง คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปปี 2559 อยู่ที่ 0.3% โดยมีช่วงประมาณการที่ 0.0-0.6% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ตามแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น แต่อัตรายังคงระดับต่ำตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกมีทิศทางลดลง ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศ คาดดุลการค้าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมูลค่านำเข้าสินค้าจะหดตัวตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลประมาณ 38.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 9.7% ของจีดีพี
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท รองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ช่วงไตรมาส1/2559 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 3% ดังนั้น หากจะให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ต้องโตมากกว่า 3% โดยเศรษฐกิจไทยเดือนมีนาคมและไตรมาสแรกปีนี้ ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี การลงทุนเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น แต่การส่งออกสินค้ายังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ลดลง และกระทบต่อการบริโภคภาคเอกชนให้ชะลอลง
JJNY : เศรษฐกิจดี๊ดี....คลังหั่นคาดการณ์จีดีพี เหลือ 3.3% มองส่งออกติดลบ 0.7%
สำหรับการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน มีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามแนวโน้มการจ้างงาน และรายได้นอกภาคเกษตรยังอยู่ในเกณฑ์ดี รวมทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันที่ลดลง และอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ อาทิ โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวประชารัฐ มีส่วนช่วยการขยายตัวการใช้จ่ายภายในประเทศ
“การส่งออกสินค้าของไทยในปีนี้ คงมีข้อจำกัด จากความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และปัญหาเชิงโครงสร้างในภาคส่งออก คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าของไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำลงจากที่คาดการณ์ครั้งก่อน ” นายวโรทัย กล่าว
นายวโรทัย กล่าวต่อว่า ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจของไทยยังคงแข็งแกร่ง คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปปี 2559 อยู่ที่ 0.3% โดยมีช่วงประมาณการที่ 0.0-0.6% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ตามแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น แต่อัตรายังคงระดับต่ำตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกมีทิศทางลดลง ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศ คาดดุลการค้าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมูลค่านำเข้าสินค้าจะหดตัวตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลประมาณ 38.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 9.7% ของจีดีพี
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท รองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ช่วงไตรมาส1/2559 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 3% ดังนั้น หากจะให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ต้องโตมากกว่า 3% โดยเศรษฐกิจไทยเดือนมีนาคมและไตรมาสแรกปีนี้ ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี การลงทุนเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น แต่การส่งออกสินค้ายังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ลดลง และกระทบต่อการบริโภคภาคเอกชนให้ชะลอลง