สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนนะคะ ^^ สืบเนื่องจากสงกรานต์ที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไปเยือนเกาะช้าง เกาะที่ได้ยินคำร่ำรือมานานว่ามีทะเลและหาดที่สวยมาก เราก็เลยชวนกันเก็บกระเป๋าเอาความเศร้าความเหนื่อยไปโยนทิ้งลงทะเล ...พร้อมหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปเที่ยวเกาะช้างกัน....
      เกาะช้าง มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากภูเก็ต แถมมีเกาะเล็กเกาะใหญ่ มากกว่า 40 เกาะ ให้เราเลือกว่าจะไปนอนกินลมชมวิวสวยๆที่ไหน นอกจากชายหาดและทะเลแล้ว เกาะช้างยังมีน้ำตกและภูเขา รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ให้ทำอีกมากมายเลยค่ะ เรียกได้ว่ามาเกาะช้างที่เดียวได้ครบทุกบรรยากาศ ^^
แผนที่เกาะช้าง (รูปจากเว็ปkapook)        ทริปนี้เราซื้อแพ็กเกจทัวร์จากงานไทยเที่ยวไทย ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (3 - 6 มีนาคม 2559) เหตุเกิดจากความเหงา ความเปลี่ยวของสาวน้อยตัวเล็กๆ 2 คน ที่สงกรานต์ยังว่างเปล่าไร้แฟนไร้แพลน ก็เลยชวนกันไปเดินที่งานค่ะ
         เป้าหมายที่ตั้งไว้คือ "เกาะช้าง"  เดินๆๆไปรอบงาน ก็ไปสะดุดเข้ากับบูธของ "สยามบีช รีสอร์ท" หาดสวย ทะเลงาม รีอสร์ทเลิศ เงียบสงบ (ดูจากรูปเอานะคะ 555) แถมมีโปรน่าสนใจแล้วจะทนได้ไง เรากับเพื่อนก็เลยตกลงปลงใจเลือกที่นี่เลยค่ะ  
         แพ็กเกจที่เราเลือกคือ แพ็กเกาะช้าง 3 วัน 2 คืน (15-17 เม.ย.) ราคาแพ็กเกจคนละ 3790 บาท  จ่ายมัดจำในงาน 300 บาท สามารถเอาไปเป็นส่วนลดในวันเข้าพักได้ค่ะ ห้องที่เราจองเป็นห้องพักแบบดีลักษ์ซีวิว โซนสระว่ายน้ำ (โซน A นะคะ ที่รีสอร์ทจะมีห้องพักหลายรูปแบบหลายโซน) แพ็คนี้รวมอาหารที่รีสอร์ท 5 มื้อ บนเรืออีก 2 มื้อ รวมแพ็กเกจดำน้ำดูประการังทักทายน้องปลาสวยๆใต้ทะเล [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ราคานี้ไม่รวมค่าเรือเฟอร์รี่ ไม่รวมค่ารถเข้ารีสอร์ทนะคะ หลังจากจองประมาณ 1 อาทิตย์ให้เราโทรไปคอนเฟิร์มกับทางรีอสร์ทแล้วโอนเงินมัดจำไปครึ่งนึง ที่เหลือไว้จ่ายวันเข้าพัก
         สำหรับการเดินทางไปเกาะช้างสามารถไปได้หลายวิธีค่ะ ทั้งรถยนต์ส่วนตัว (ขับขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะช้างได้นะคะ) รถทัวร์ (ขึ้นที่เอกมัยหรือหมอชิต) รถตู้ (อนุสาวรีย์ฯ) ค่ารถก็จะอยู่ที่ 250-320 บาท ใช้เวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯไปถึงท่าเรือ ประมาณ 5-6 ชั่วโมง ((แต่ทริปนี้เราจะเดินทางกันด้วยรถตู้ค่ะ))
      

---

        เช้าวันที่ 15 เมษายน 59 ...

         วันนี้เราตื่นกันแต่เช้านั่งบีทีเอสไปลงที่สถานีอนุสาวรีย์ฯ เพื่อซื้อตั๋วรถตู้เดินทางไปยังจังหวัดตราดค่ะ ลงจากบีทีเอสแล้วให้ออกทางออกที่ 2 (ฝั่งเซนจูรี) คิวรถตู้จะแอบอยู่ในซอกเล็กๆ ข้างๆเซนจูรีเลยค่ะ (หาง่ายมาก มีป้ายอยู่ตรงทางเข้าเลยค่ะ)
         เราไปถึงกันตอน 07.00 น. คนก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่ จัดแจงซื้อตั๋วในราคาคนละ 320 บาท (ค่ารถตู้จากกรุงเทพฯไปถึงตราด 300 บาท อีก 20 บาทเป็นค่ารถสองแถวจากจุดจอดรถตู้ไปยังท่าเรือค่ะ (จ่ายทีเดียวตอนซื้อตั๋วรถตู้ พอไปถึงไม่ต้องจ่ายเพิ่มนะคะ แค่ยื่นตั๋วให้เค้าดู)

         เราใช้เวลาเดินทางจากอนุสาวรีย์ประมาณ 5 ชั่วโมงก็ถึงจุดหมายค่ะ รถตู้จะเอาเราไปปล่อยลงที่คิวรถสองแถว ก่อนเข้าตัวเมืองตราด ที่นั่นจะเป็นร้านค้าและเป็นจุดจำหน่ายตั๋วเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะช้างค่ะ
         จากที่นี่เราสามารถซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่ได้ทั้งขาไปและขากลับค่ะ โดยสามารถระบุวันกลับได้เลย แต่เวลากลับแล้วแต่ท่านสะดวก จะกลับรอบไหนก็ได้ ขอแค่อยู่ในวันนั้นๆที่ระบุไว้บนบัตร ค่าตั๋วไปกลับคนละ 150 บาท (ต้องเก็บตั๋วเรือกลับไว้ดีๆนะคะ เพราะถ้าหายคุณจะต้องซื้อใหม่) ตั๋วพร้อมแล้ว คนก็พร้อมแล้ว ออกเดินทางต่อค่ะ Go GoGo ... นั่งบนสองแถวประมาณ 30 นาทีก็ถึงท่าเรือค่ะ
         สำหรับคนที่มีตั๋วแล้วก็เดินเข้าไปข้างในได้เลย ส่วนใครที่ยั่งไม่มีก็ติดต่อซื้อตั๋วให้เรียบร้อย แล้วออกเดินทางกัน ^___^         ตอนที่เราเข้าไปถึงเรือเฟอร์รี่ลำโตตรงหน้ากำลังจะออกจากท่าค่ะ เอ้าวิ่งสิคะ วิ่งๆๆๆ "ลุงคะรอด้วยค่ะ ไปด้วยๆๆๆ" มันเป็นการวิ่งตามเรือท่ามกลางแสงแดดและอากาศที่ร้อนสุดๆ แต่การวิ่งครั้งนี้เราไม่วิ่งอย่างโดดเดี่ยวนะคะ เรามีเพื่อนๆร่วมวิ่งด้วยเยอะเลยค่ะ ทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง สนุกสนานกันเลยทีเดียว 555         เรือเฟอร์รี่เกาะช้างเป็นเรือข้ามฝากขนาดใหญ่มาก มี 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นลานจอดรถยนต์ ชั้นบนเป็นส่วนที่นั่งของผู้โดยค่ะ สำหรับคนที่นำมารถมา เมื่อจอดรถเรียบร้อยเค้าจะให้ขึ้นไปนั่งรอข้างบนค่ะ         ชั้นบนของเรือจัดเป็นส่วนที่นั่งผู้โดยสารซึ่งเป็นเก้าอี้ไม้ยาวๆ (เก่าๆหน่อย) ให้นั่งชมวิว บนเรือมีร้านค้าด้วยนะ มีขายทั้งชากาแฟ ขนมนมเนยก็มีค่ะ ราคาก็บวกจากปกติประมาณ 5-15 บาท         และเนื่องจาก จขกท.กับเพื่อนตื่นเช้ามาก จึงยังไม่ได้กินอะไร ก็เลยสอยมาม่ามาโซ้ยกันคนละคัพ
ภาพนี้เป็นเรือเฟอร์รี่อีกลำที่ข้ามกลับมาจากฝั่งเกาะช้างค่ะ         เริ่มออกเดินทาง Let's go...         น้ำทะเลที่นี่เป็นสีฟ้าครามออกเขียวๆ ตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าและสีเขียวสดของต้นไม้ คือแบบ สวยมากค่ะ           นั่งชื่นชมความงามของทะเลกับท้องฟ้าได้สักพักใหญ่ๆ เสียงเครื่องยนต์ชั้นล่างก็ดังกระหึ่มค่ะ ถึงแล้วสินะ เกาะช้างจ๋า ^___^ ป่ะๆๆ ลงไป say hello เกาะช้างกัน       ออกจากเรือปุ๊บก็หยิบโทรศัพท์โทรหารีสอร์ทเพื่อนสอบถามการเดินทางไปยังรีสอร์ททันทีค่ะ ได้ความว่าเราต้องนั่งรถ Taxi เกาะช้าง (รถสองแถวสีขาว) ไปกันค่ะ เดินออกจากท่าเรือมาจะเจอกองทัพรถ Taxi เยอะมาก หากไม่รู้จะขึ้นคันไหนให้เดินไปถามเลยค่ะว่า ถ้าจะไปที่นั่นที่นี่ต้องขึ้นคันไหน รถ Taxi ที่นี่จะขับตามทางไปเรื่อยๆ ส่งผู้โดยสารตามที่พักต่างๆ ตามที่ได้แจ้งไว้ตอนจ่ายเงิน ที่พักของเรา "สยามบีช รีสอร์ท" ตั้งอยู่ที่หาด Lonely Beach อยู่เลยจากหาดไก่แบ้ไปอีกหน่อย ค่าโดยสารคนละ 100 บาท (ตรงกับที่รีสอร์ทแจ้งมาเลยค่ะว่า ค่ารถคนละ 100 บาทไม่ขาดไม่เกิน)        อันนี้เป็นป้ายบอกทางไปหาดต่างๆค่ะ แต่ทำไมไม่มีหาดของเราก็ไม่รู้ 5555         ถนนหนทางบนเกาะช้างค่อนข้างโหดถึงโหดมากโหดสุดๆค่ะ เป็นถนน 2 เลนรถสวน โค้งซ้ายโค้งขวา โค้งหักศอก หักโครตศอก แถมขึ้นๆลงๆ อย่างกับนั่งรถไฟเหาะ **แนะนำนะคะ สำหรับคนที่นำรถยนต์ไป ควรให้ผู้ที่มีความชำนาญสูงเป็นคนขับค่ะ  เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะขนาดเรานั่งรถสองแถว ซึ่งเค้าคงจะชำนาญเส้นทางมาก เรายังเสียวๆเลยค่ะ สวดมนต์ตลอดทาง (อันนี้เวอร์ไปนิด 555)
แต่ๆๆๆ ในความน่ากลัวมีความงามซ่อนอยู่ค่ะ วิวข้างทางสวยมาก มีบางช่วงมองลงไปเห็นทะเลด้วย         และในขณะที่นั่งรถเพลินๆนั้น โบ้ม... ร่างกายสัมผัสได้ถึงมวลน้ำเย็นๆที่ถูกสาดเข้ามาภายในตัวรถ (สงกรานต์ยังไม่จบอย่าเพิ่งวางใจ) เปียกทั้งตัวค่ะ ชุ่มฉ่ำมาก เรานี่เก็บกล้องแทบไม่ทัน 5555 เพื่อนร่วมทางชาวจีนก็กรี๊ดกร๊าดหัวเราะชอบใจกันใหญ่ ถึงขั้นหยิบอาวุธ(ปืนฉีดน้ำอันโต) ขึ้นมาตอบโต้ .... เอาล่ะ สงครามผ่านไป ในที่สุดก็มาถึงที่พักของเราค่ะ "สยามบีท รีสอร์ท" @Lonely Beach... แรกพบสบตาก็ตกหลุมรัก บรรยากาศดีมาก ร่มรื่นมาก ชอบมากค่ะ         แต่เนื่องจากเราไปถึงก่อนเวลาเช็คอินก็เลยฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้แล้วไปเดินชมรอบๆรีสอร์ทกันค่ะ คุณขาดูสิคะ นี่คือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรา หาดทราย ต้นไม้ ทะเล ท้องฟ้า ก้อนเมฆ         หาดทรายสีขาวสะอาดตา น้ำทะเลสีสวย ท้องฟ้าแสนสดใส อื้อหือ มัน อื้อหือมากๆค่ะ         ลูกค้าที่นี่ประมาณ 80% เป็นชาวยุโรป  คนไทย 10% และคนจีน+ญี่ปุ่นอีกประมาณ 10% แน่นอนว่าตลอดเวลา 3 วัน 2 คืน เราเห็นบิกินี่สีสันสดใสกับซิกแพคล่ำๆเต็มหาดเลยค่ะ 5555        บริเวณหาดมีชิงช้าให้นั่งถ่ายรูปด้วยนะคะ โรแมนติกมาก><จขกท. ชอบมุมนี้เป็นพิเศษ         เดินเล่นจนเพลินก็ได้เวลาเช็คอินละค่ะ