ปฐมบท
ผมเชื่อว่าทุกคนก็เคยเป็นเหมือนกันเวลาจะไปไหน ก็จะมีปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆที่จะทำให้ทริปในฝันของเราๆนั้นต้องล่มหรือเลื่อนออกไป ซึ่งสาเหตุนั้นมันก็แตกต่างกันไป บางคนก็ติดตรงที่ว่า
“ไม่มีเพื่อนไปด้วยหว่ะ เวลาว่างไม่ค่อยตรงกันอ่ะ” , “กลัวไปคนเดียว หลงขึ้นมา โดนหลอกขึ้นมา ตรูจะทำไงฟร่ะ” , “ไม่เคยไปเลยไอ้ที่นั่นอ่ะ กูว่าไม่รอดแน่หว่ะ แค่ลงหนามบินกูก็ตายห่าล่ะ” , “เชี่ย! ไปคนเดียว กูเหงานะเมิง” , “แมร่ง!! ภาษาอังกฤษ กูไม่ถนัดหว่ะ กูจะคุยกะใครเค้ารู้เรื่องวะ หิวก็ไม่รุจา-รัย”
ผมเลยลองเขียนรีวิวนี้ขึ้นมาเพื่อให้คนที่อยากเดินทางแต่ยังไม่กล้าเพราะต้องไปคนเดียวลองอ่านดูครับ
ผมก็เป็นคนที่ติดไอ้เรื่องพวกนี้เหมือนกัน มันก็ทำให้ทริปที่ผมดีไซน์ขึ้นนั้นล้มมานักต่อนักล่ะ แล้วก็ยังมีอีกไอ้ที่ว่า จองทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วทั้งโรงแรม เที่ยวบิน แล้วสุดท้ายก็มีงานด่วนขนาดที่ “ ถ้า

ไม่อยู่เคลียร์ในวันนั้น ภูเขาไฟร้อยลูกจะมาระเบิดพร้อมกันหน้าบ้านเมิง 5555 “ สุดท้ายก็ต้องเลือกงานไว้ก่อนเนอะ แต่รอบนี้ …………
ผมวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้กับเพื่อน 3 คน ในช่วงปีใหม่ในระหว่างสนทนากลางวงแอลกอฮอลล์ ว่าอยากไปเที่ยวพม่ากันจุงเบยย ไหนๆมันก็เปิดประเทศล่ะ วีซ่าก็ไม่ต้องทำ ก็เลยต้องจัดกันซักรอบแล้ว
หลังจากตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยก็รอโปรครับ โปรสายการการบินนี่แหละ
แล้วมันก็มาครับ โปรแอร์เอเชีย ไป-กลับ ขาละ 990 บาท เดือนมีนาคม 2559 แต่เสียดายมัณฑะเลย์ไม่มีโปร มันแพงไป เลยต้องซื้อตั๋วไป-กลับย่างกุ้งแทน ถ้าอยากไปเมืองเหนือแล้วค่อยนั่งรถนอนกันไป สรุปตามนี้ “จอง” จบ!!!
ก่อนออกเดินทาง 1 เดือน :
เพื่อนคนที่หนึ่งโทรมาบอก : “ เห้ยย กูไปไม่ได้แล้วหว่ะ เหตุผล =+&#$%@!*&@$# “
I am : ไม่เป็นไรเพื่อน กูไปกันสองคนได้อยู่ ชิวๆ
และผมก็วางแผนและคุยกะเพื่อนเหมือนเดิม ไปไหนกันดี พักตรงไหน เดินทางหนัก เราจะเหนื่อยกันมั๊ย
ก่อนเดินออกทาง 1 สัปดาห์ :
เพื่อนคนที่สองก็โทรมาหาด้วยประโยคที่ว่า “ เห้ยเมิง กูไปไม่ได้แล้วหว่ะ เหตุผล =+&#$%@!*&@$# “
I am : “ เชี่ยยยย เอาอีกแล้วไง เหมือนเดิมเปี๊ยะ เอาไงดีวะกรู ล่มอีกแล้วหรอวะเนี่ย ”
สุดท้ายผมมานั่งทบทวนและใช้เวลาคิดอยู่ช่วงหนึ่งเลย ว่าจะเอายังไงดีกะทริปนี้ จะยกเลิกไปเพราะเหตุผลที่ต้องไปคนเดียว กลัวต่างๆนานา และตัวผมนี่ไปไหนคนเดียวก็ไม่ค่อยชิน แค่ในประเทศเที่ยวคนเดียวยังไม่เคยเลยแต่นี่ต้องไปต่างประเทศอีก ภาษาอังกฤษผมบอกเลยไม่ค่อยกระดิกจริงๆ Toiec สอบมาได้แค่ 300 จะเอาไงดีวะตรู
ก่อนออกเดินทาง 3 วัน : ผมตัดสินใจล่ะ “ ไปก็ไปว่ะ” หลังจากนั้นผมก็จัดการเปลี่ยนแผนเอาตามที่ตัวเองอยากไปจริงๆ อยากจะเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ เดินทางแบบที่เราไม่ต้องเร่งรีบอะไรมากมาย ดูวิถีชิวิตผู้คน การค้าขายของชาวพม่า เศรษฐกิจ สังคม (นี่!!! วิชาการมาล่ะ 555) ทริปจึงวางแผนมาดังนี้ครับ
Day 1 : ลงเครื่อง 9:00 น. แล้วไปนั่งรถทัวร์เที่ยวสิบโมง ไปมะละแหม่ง เมืองหลวงของรัฐมอญ เที่ยวยามเย็น
Day 2 : เที่ยวรอบเมืองมะละแหม่ง ตอนบ่ายๆนั่งรถมาคิมปุนแคมป์ รอขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน
Day 3 : ขึ้นไปเที่ยวพระธาตุอินทร์แขวน ลงมาบ่ายแวะเที่ยวพะโค (หงสาวดี) แล้วกลับไปนอนย่างกุ้ง
Day 4 : เที่ยวรอบเมืองย่างกุ้ง
Day 5 : ซื้อของฝากและกลับเมืองไทย ไฟร์ท 12.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น



ว่าแล้ว ในใจก็อย่างที่คนเดินทางคนเดียวมักจะเป็นตอนแรกๆแหละครับ ใจนึงก็ตื่นเต้น อีกใจนึงกล้าๆกลัวๆยังไงบอกไม่ถูก แต่เด๋วนี้มีพวกบล็อกเกอร์เขียนเรื่องการไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากมาย และที่ผมใส่ใจอ่านมากกว่าหน่อยนึง คือ เรื่องข้อดีในการเดินทางคนเดียวครับ ผมก็มานั่งไล่อ่านหลายๆบทความเลยครับ และก็เปิดดูรายการท่องเที่ยวให้มากๆทั้งของพี่เรย์ หนังพาไป สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองหน่อย 5555 เค้าทำได้ เราก็ทำได้ ว่างั๊น 555 และที่สำคัญต้องหาข้อมูลการท่องเที่ยวในสายที่เราจะไปให้เยอะๆด้วยครับ
ก่อนออกเดินทาง 1 วัน : ผมจัดเตรียมสำภาระและสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ไปให้ครบ โดยการไปพม่าที่ขาดไม่ได้เลย คือ รองเท้าแตะครับ เพราะว่าเราต้องเข้าวัดหลายๆวัด ใส่ๆถอดๆมันคงวุ่นวายน่าดู และที่ขาดไม่ได้สำหรับ Backpacker เลยครับ คือ อุปกรณ์ถ่ายภาพ เก็บกระเป๋าไปโทรศัพท์ก็โทรหาเพื่อนคนโน้นคนนี้ไป ว่ากูจะไปพม่าแล้วนะ (เผื่อมีพวกเปลี่ยนใจ 555) จัดกระเป๋าไปอาการป็อดก็เริ่มเข้ามาเรื่อยๆ ไปๆมาๆกลัวหว่ะ ไม่เคยไปไหนคนเดียว เอาไงดีวะๆๆๆๆๆๆ หลายๆครั้งในหัว สุดท้ายมีเพื่อนคนนึงโทรมาคุยเกี่ยวกับเรื่องพม่า ซึ่งมันก็อยากไปแต่ไม่มีโอกาส มันคุยกะผมแบบว่าอิจฉาผมจัดๆที่ได้ไป แถมมันยังฝากภารกิจมาให้อีก 1 อย่าง คือ ถ่ายรูปเซลฟี่กะบุรุษในตำนานของพม่าอย่างผู้ชนะสิบทิศ บาเยงนอง “ อ้าว ซะงั๊น สาสสส กูป็อดอยู่นะโว้ย “ (คิดในใจ) แต่เอาวะไปก็ไป ลุยๆๆๆๆๆๆๆๆ
สำหรับการเดินทางคนเดียวของนักท่องเที่ยวมือใหม่ในต่างแดนอย่างผม บอกเลย มันก็ไม่ง่ายครับ ผิดแผนนี่ บ่อยมากๆเลย เนื่องจากเพื่อนคู่คิดเราก็ไม่มี ปัญหาเฉพาะหน้ามันก็ต้องคิดและแก้ปัญหาเดี๋ยวนั้นเลย ที่เราหาข้อมูลมามันก็เป็นแค่ตัวอักษรที่เราไม่ได้เจอต่อหน้าจริงๆ บรรยากาศห้วงเวลานั้นจริงๆ งั๊นเดี๋ยวมาลองดูกันครับ ว่าผมจะผิดแผนกี่ครั้ง พลาดกี่ครั้ง ตรงไหน อย่างไรบ้างง


Day 1 : ผมเดินทางโดยเที่ยวบิน FD251 ของสายการบิน Air Asia เวลาเครื่องออก 7.15 น. ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองครับ ทุกอย่างพร้อมเดินทาง ผมเดินออกจากบ้านด้วยความตื่นเต้นสุดขีดด หลังจากเช็คอินเข้าเกต รอเวลาที่จะออกจากสนามบินดอนเมือง ผมก็นั่งหาที่พักในย่างกุ้งไปเพลินๆ เวลาเจอคนไทยที่ไปไฟร์ทเดียวกันก็ชวนเค้าคุยว่า “ไปทำอะไร ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เดินทางไปยังไง” (ในใจผมคิด คือว่า ต้องการคนมาหารค่าแท็กซี่เข้าย่างกุ้งเท่านั้นเอง 555 ) เมื่อได้เวลาที่ประชาสัมพันธ์เรียกให้ไปขึ้นรถบัสเพื่อไปขึ้นเครื่องแล้วครับ เวลาประมาณ 6.50 น.
Wrong plan #1 : หลังจากที่ผมขึ้นรถจู่ๆเจ้าหน้าที่สนามบินก็เรียกให้ผู้โดยสารทั้งหมดลงจากรถทันที เนื่องจากไฟร์ทดีเลย์ เพราะทัศนวิสัยที่เมืองย่างกุ้งไม่สามารถให้เครื่องบินลงจอดได้ “อ้าว

ล่ะกู รอบแรกก็ซวยซะล่ะ “ ในใจผมคิดนะ และแล้วผมก็ต้องเปลี่ยนแผนเที่ยวกะทันหัน เนื่องจาก ผมไม่ทันรถไปเมืองมะละแหม่ง ล่ะ เอางี้ล่ะกัน เที่ยวย่างกุ้งไปก่อนแล้วค่อยวางแผนใหม่ สุดท้ายก็ได้เวลาเครื่องออกล่ะครับ ไปล่ะ Go Go Goal

บรรยากาศตอนขึ้นเครื่อง
เครื่องออกจากสนามบินประมาณ 8.30 น. โชคดีแรกของผมเรย คือ ผมนั่งริมหน้าต่างชมวิวซะด้วย 5555 ใช้เวลาประมาณชัวโมงครึ่งก็ถึงกรุงย่างกุ้ง ( ยานโกน ภาษาถิ่น ที่ชาวพม่าเรียกกัน ) เป็นเวลาประมาณเกือบ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

ใบขออนุญาตผ่าน ตม.พม่า

บรรยากาศภายในสนามบินย่างกุ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต
หลังจากเดินออกมาจากอุโมงค์งวงช้าง ด้วยความที่ไม่เคยไป ผมก็เดินตามเค้าแหละ จนมาถึงด่านตรวจ ต.ม.พม่า โชคดีมาอีกแล้ว คือ ผมเจอเพื่อนที่รู้จัก ก็เลยคุยกันเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่นี่ ทีมเค้ามาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับเลยครับ ด้วยความที่ผมก็ยังไม่คุ้นกับการไปเที่ยวต่างประเทศจึงขอร่วมเดินทางไปกะเค้าก่อนเพื่อทำความคุ้นเคยสถานที่และเมืองที่ไม่คุ้นเคยไปก่อนในวันแรก ( ไหนๆก็คงไม่ทันมะละแหม่ง ตามแผนแล้วนี่ )
สามสิ่งแรกที่ต้องทำ ก่อนออกจากสนามบินไปท่องเที่ยว
1. แลกเงินเลยครับ จากสกุลดอลล่าร์ US ที่เราเตรียมมาให้เป็นสกุล จ๊าต ( Kyat ) ของพม่าก่อนครับ แต่อย่างเพิ่งแลกหมดนะครับ บางที่ เช่น โรงแรมก็จ่ายเป็น US ได้ ซึ่งวันนี้ผมโชคร้ายครับ เพราะสกุลเงินพม่าอ่ะ แข็งขึ้นมา จากที่หาข้อมูลมา 1 US dollar = 1350 Kyat แต่ผมแลกได้ 1 US dollar = 1220 Kyat
2. หาแผนที่ในเมืองที่เรากำลังจะเที่ยวครับ ผมก็ได้แผนที่เมืองย่างกุ้งอย่างละเอียดจากซุ้มให้บริการเช่ารถที่สนามบินแหละครับ
3. ซิมอินเตอร์เน็ต เพราะผมติดโซเชียลไง 555+ แต่มันก็ดีนะครับ หากเราเดินทางคนเดียว เพราะเราจะหาข้อมูล เส้นทาง แหล่งท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น มีไว้ไม่เสียหลายครับ ส่วนยี่ห้อที่ผมใช้คือ OREDOO (อ่านว่า ออเรดู ครับ) ราคา 10 US Dollar ความเร็ว 1 GB ใช้ได้ 1 เดือน หลังจากเปิดใช้งานครับ
ส่วนเพื่อนผมเค้าต่อรองราคาค่าแท็กซี่ได้แล้วครับ ราคาอยู่ที่ 9 US Dollar ครับ จากสนามบินไปที่วัดเทพทันใจ หรือ เจดีย์โบตาทาวน์
ป่ะ!! ไปลุยกันเลย


[CR] เมื่อผมพกความกล้าออกเดินทางคนเดียวครั้งแรก
ผมเชื่อว่าทุกคนก็เคยเป็นเหมือนกันเวลาจะไปไหน ก็จะมีปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆที่จะทำให้ทริปในฝันของเราๆนั้นต้องล่มหรือเลื่อนออกไป ซึ่งสาเหตุนั้นมันก็แตกต่างกันไป บางคนก็ติดตรงที่ว่า
“ไม่มีเพื่อนไปด้วยหว่ะ เวลาว่างไม่ค่อยตรงกันอ่ะ” , “กลัวไปคนเดียว หลงขึ้นมา โดนหลอกขึ้นมา ตรูจะทำไงฟร่ะ” , “ไม่เคยไปเลยไอ้ที่นั่นอ่ะ กูว่าไม่รอดแน่หว่ะ แค่ลงหนามบินกูก็ตายห่าล่ะ” , “เชี่ย! ไปคนเดียว กูเหงานะเมิง” , “แมร่ง!! ภาษาอังกฤษ กูไม่ถนัดหว่ะ กูจะคุยกะใครเค้ารู้เรื่องวะ หิวก็ไม่รุจา-รัย”
ผมเลยลองเขียนรีวิวนี้ขึ้นมาเพื่อให้คนที่อยากเดินทางแต่ยังไม่กล้าเพราะต้องไปคนเดียวลองอ่านดูครับ
ผมก็เป็นคนที่ติดไอ้เรื่องพวกนี้เหมือนกัน มันก็ทำให้ทริปที่ผมดีไซน์ขึ้นนั้นล้มมานักต่อนักล่ะ แล้วก็ยังมีอีกไอ้ที่ว่า จองทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วทั้งโรงแรม เที่ยวบิน แล้วสุดท้ายก็มีงานด่วนขนาดที่ “ ถ้า
ผมวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้กับเพื่อน 3 คน ในช่วงปีใหม่ในระหว่างสนทนากลางวงแอลกอฮอลล์ ว่าอยากไปเที่ยวพม่ากันจุงเบยย ไหนๆมันก็เปิดประเทศล่ะ วีซ่าก็ไม่ต้องทำ ก็เลยต้องจัดกันซักรอบแล้ว
หลังจากตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยก็รอโปรครับ โปรสายการการบินนี่แหละ
แล้วมันก็มาครับ โปรแอร์เอเชีย ไป-กลับ ขาละ 990 บาท เดือนมีนาคม 2559 แต่เสียดายมัณฑะเลย์ไม่มีโปร มันแพงไป เลยต้องซื้อตั๋วไป-กลับย่างกุ้งแทน ถ้าอยากไปเมืองเหนือแล้วค่อยนั่งรถนอนกันไป สรุปตามนี้ “จอง” จบ!!!
ก่อนออกเดินทาง 1 เดือน :
เพื่อนคนที่หนึ่งโทรมาบอก : “ เห้ยย กูไปไม่ได้แล้วหว่ะ เหตุผล =+&#$%@!*&@$# “
I am : ไม่เป็นไรเพื่อน กูไปกันสองคนได้อยู่ ชิวๆ
และผมก็วางแผนและคุยกะเพื่อนเหมือนเดิม ไปไหนกันดี พักตรงไหน เดินทางหนัก เราจะเหนื่อยกันมั๊ย
ก่อนเดินออกทาง 1 สัปดาห์ :
เพื่อนคนที่สองก็โทรมาหาด้วยประโยคที่ว่า “ เห้ยเมิง กูไปไม่ได้แล้วหว่ะ เหตุผล =+&#$%@!*&@$# “
I am : “ เชี่ยยยย เอาอีกแล้วไง เหมือนเดิมเปี๊ยะ เอาไงดีวะกรู ล่มอีกแล้วหรอวะเนี่ย ”
สุดท้ายผมมานั่งทบทวนและใช้เวลาคิดอยู่ช่วงหนึ่งเลย ว่าจะเอายังไงดีกะทริปนี้ จะยกเลิกไปเพราะเหตุผลที่ต้องไปคนเดียว กลัวต่างๆนานา และตัวผมนี่ไปไหนคนเดียวก็ไม่ค่อยชิน แค่ในประเทศเที่ยวคนเดียวยังไม่เคยเลยแต่นี่ต้องไปต่างประเทศอีก ภาษาอังกฤษผมบอกเลยไม่ค่อยกระดิกจริงๆ Toiec สอบมาได้แค่ 300 จะเอาไงดีวะตรู
ก่อนออกเดินทาง 3 วัน : ผมตัดสินใจล่ะ “ ไปก็ไปว่ะ” หลังจากนั้นผมก็จัดการเปลี่ยนแผนเอาตามที่ตัวเองอยากไปจริงๆ อยากจะเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ เดินทางแบบที่เราไม่ต้องเร่งรีบอะไรมากมาย ดูวิถีชิวิตผู้คน การค้าขายของชาวพม่า เศรษฐกิจ สังคม (นี่!!! วิชาการมาล่ะ 555) ทริปจึงวางแผนมาดังนี้ครับ
Day 1 : ลงเครื่อง 9:00 น. แล้วไปนั่งรถทัวร์เที่ยวสิบโมง ไปมะละแหม่ง เมืองหลวงของรัฐมอญ เที่ยวยามเย็น
Day 2 : เที่ยวรอบเมืองมะละแหม่ง ตอนบ่ายๆนั่งรถมาคิมปุนแคมป์ รอขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน
Day 3 : ขึ้นไปเที่ยวพระธาตุอินทร์แขวน ลงมาบ่ายแวะเที่ยวพะโค (หงสาวดี) แล้วกลับไปนอนย่างกุ้ง
Day 4 : เที่ยวรอบเมืองย่างกุ้ง
Day 5 : ซื้อของฝากและกลับเมืองไทย ไฟร์ท 12.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ว่าแล้ว ในใจก็อย่างที่คนเดินทางคนเดียวมักจะเป็นตอนแรกๆแหละครับ ใจนึงก็ตื่นเต้น อีกใจนึงกล้าๆกลัวๆยังไงบอกไม่ถูก แต่เด๋วนี้มีพวกบล็อกเกอร์เขียนเรื่องการไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากมาย และที่ผมใส่ใจอ่านมากกว่าหน่อยนึง คือ เรื่องข้อดีในการเดินทางคนเดียวครับ ผมก็มานั่งไล่อ่านหลายๆบทความเลยครับ และก็เปิดดูรายการท่องเที่ยวให้มากๆทั้งของพี่เรย์ หนังพาไป สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองหน่อย 5555 เค้าทำได้ เราก็ทำได้ ว่างั๊น 555 และที่สำคัญต้องหาข้อมูลการท่องเที่ยวในสายที่เราจะไปให้เยอะๆด้วยครับ
ก่อนออกเดินทาง 1 วัน : ผมจัดเตรียมสำภาระและสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ไปให้ครบ โดยการไปพม่าที่ขาดไม่ได้เลย คือ รองเท้าแตะครับ เพราะว่าเราต้องเข้าวัดหลายๆวัด ใส่ๆถอดๆมันคงวุ่นวายน่าดู และที่ขาดไม่ได้สำหรับ Backpacker เลยครับ คือ อุปกรณ์ถ่ายภาพ เก็บกระเป๋าไปโทรศัพท์ก็โทรหาเพื่อนคนโน้นคนนี้ไป ว่ากูจะไปพม่าแล้วนะ (เผื่อมีพวกเปลี่ยนใจ 555) จัดกระเป๋าไปอาการป็อดก็เริ่มเข้ามาเรื่อยๆ ไปๆมาๆกลัวหว่ะ ไม่เคยไปไหนคนเดียว เอาไงดีวะๆๆๆๆๆๆ หลายๆครั้งในหัว สุดท้ายมีเพื่อนคนนึงโทรมาคุยเกี่ยวกับเรื่องพม่า ซึ่งมันก็อยากไปแต่ไม่มีโอกาส มันคุยกะผมแบบว่าอิจฉาผมจัดๆที่ได้ไป แถมมันยังฝากภารกิจมาให้อีก 1 อย่าง คือ ถ่ายรูปเซลฟี่กะบุรุษในตำนานของพม่าอย่างผู้ชนะสิบทิศ บาเยงนอง “ อ้าว ซะงั๊น สาสสส กูป็อดอยู่นะโว้ย “ (คิดในใจ) แต่เอาวะไปก็ไป ลุยๆๆๆๆๆๆๆๆ
สำหรับการเดินทางคนเดียวของนักท่องเที่ยวมือใหม่ในต่างแดนอย่างผม บอกเลย มันก็ไม่ง่ายครับ ผิดแผนนี่ บ่อยมากๆเลย เนื่องจากเพื่อนคู่คิดเราก็ไม่มี ปัญหาเฉพาะหน้ามันก็ต้องคิดและแก้ปัญหาเดี๋ยวนั้นเลย ที่เราหาข้อมูลมามันก็เป็นแค่ตัวอักษรที่เราไม่ได้เจอต่อหน้าจริงๆ บรรยากาศห้วงเวลานั้นจริงๆ งั๊นเดี๋ยวมาลองดูกันครับ ว่าผมจะผิดแผนกี่ครั้ง พลาดกี่ครั้ง ตรงไหน อย่างไรบ้างง
Day 1 : ผมเดินทางโดยเที่ยวบิน FD251 ของสายการบิน Air Asia เวลาเครื่องออก 7.15 น. ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองครับ ทุกอย่างพร้อมเดินทาง ผมเดินออกจากบ้านด้วยความตื่นเต้นสุดขีดด หลังจากเช็คอินเข้าเกต รอเวลาที่จะออกจากสนามบินดอนเมือง ผมก็นั่งหาที่พักในย่างกุ้งไปเพลินๆ เวลาเจอคนไทยที่ไปไฟร์ทเดียวกันก็ชวนเค้าคุยว่า “ไปทำอะไร ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เดินทางไปยังไง” (ในใจผมคิด คือว่า ต้องการคนมาหารค่าแท็กซี่เข้าย่างกุ้งเท่านั้นเอง 555 ) เมื่อได้เวลาที่ประชาสัมพันธ์เรียกให้ไปขึ้นรถบัสเพื่อไปขึ้นเครื่องแล้วครับ เวลาประมาณ 6.50 น.
Wrong plan #1 : หลังจากที่ผมขึ้นรถจู่ๆเจ้าหน้าที่สนามบินก็เรียกให้ผู้โดยสารทั้งหมดลงจากรถทันที เนื่องจากไฟร์ทดีเลย์ เพราะทัศนวิสัยที่เมืองย่างกุ้งไม่สามารถให้เครื่องบินลงจอดได้ “อ้าว
บรรยากาศตอนขึ้นเครื่อง
เครื่องออกจากสนามบินประมาณ 8.30 น. โชคดีแรกของผมเรย คือ ผมนั่งริมหน้าต่างชมวิวซะด้วย 5555 ใช้เวลาประมาณชัวโมงครึ่งก็ถึงกรุงย่างกุ้ง ( ยานโกน ภาษาถิ่น ที่ชาวพม่าเรียกกัน ) เป็นเวลาประมาณเกือบ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ใบขออนุญาตผ่าน ตม.พม่า
บรรยากาศภายในสนามบินย่างกุ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต
หลังจากเดินออกมาจากอุโมงค์งวงช้าง ด้วยความที่ไม่เคยไป ผมก็เดินตามเค้าแหละ จนมาถึงด่านตรวจ ต.ม.พม่า โชคดีมาอีกแล้ว คือ ผมเจอเพื่อนที่รู้จัก ก็เลยคุยกันเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่นี่ ทีมเค้ามาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับเลยครับ ด้วยความที่ผมก็ยังไม่คุ้นกับการไปเที่ยวต่างประเทศจึงขอร่วมเดินทางไปกะเค้าก่อนเพื่อทำความคุ้นเคยสถานที่และเมืองที่ไม่คุ้นเคยไปก่อนในวันแรก ( ไหนๆก็คงไม่ทันมะละแหม่ง ตามแผนแล้วนี่ )
สามสิ่งแรกที่ต้องทำ ก่อนออกจากสนามบินไปท่องเที่ยว
1. แลกเงินเลยครับ จากสกุลดอลล่าร์ US ที่เราเตรียมมาให้เป็นสกุล จ๊าต ( Kyat ) ของพม่าก่อนครับ แต่อย่างเพิ่งแลกหมดนะครับ บางที่ เช่น โรงแรมก็จ่ายเป็น US ได้ ซึ่งวันนี้ผมโชคร้ายครับ เพราะสกุลเงินพม่าอ่ะ แข็งขึ้นมา จากที่หาข้อมูลมา 1 US dollar = 1350 Kyat แต่ผมแลกได้ 1 US dollar = 1220 Kyat
2. หาแผนที่ในเมืองที่เรากำลังจะเที่ยวครับ ผมก็ได้แผนที่เมืองย่างกุ้งอย่างละเอียดจากซุ้มให้บริการเช่ารถที่สนามบินแหละครับ
3. ซิมอินเตอร์เน็ต เพราะผมติดโซเชียลไง 555+ แต่มันก็ดีนะครับ หากเราเดินทางคนเดียว เพราะเราจะหาข้อมูล เส้นทาง แหล่งท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น มีไว้ไม่เสียหลายครับ ส่วนยี่ห้อที่ผมใช้คือ OREDOO (อ่านว่า ออเรดู ครับ) ราคา 10 US Dollar ความเร็ว 1 GB ใช้ได้ 1 เดือน หลังจากเปิดใช้งานครับ
ส่วนเพื่อนผมเค้าต่อรองราคาค่าแท็กซี่ได้แล้วครับ ราคาอยู่ที่ 9 US Dollar ครับ จากสนามบินไปที่วัดเทพทันใจ หรือ เจดีย์โบตาทาวน์ ป่ะ!! ไปลุยกันเลย