สัพเพเหระธรรม
เรื่อง โรงทาน งานบุญใหญ่ที่ไม่ยากและไม่ง่าย 


โดย มนสิการ
จาก หนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 39 ค่ะ
เมื่อสามปีก่อน เราได้มีโอกาสไปงานกฐินที่วัดบุญญาวาส
ครั้งนั้นเราไปแบบผู้ร่วมงาน เห็นผู้คนมาทำบุญกฐิน
เห็นผู้คนมาออกโรงทานแจกอาหาร ซึ่งใจก็อนุโมทนาบุญแล้ว
แต่มาสะดุดเมื่อคนหนึ่งพูดขึ้นว่า
"ปีหน้า เราลองดูมั้ย"
เราจึงตั้งใจกันว่า ปีหน้าเราจะมาที่นี่
ไม่ได้มาในฐานะผู้ร่วมงาน แต่มาในฐานะผู้ให้อีกคน
พวกเราเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เล่น pantip.com ใหม่ๆ
๑๐ ปีผ่านไปแล้วที่เราได้รู้จักกัน และรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมมากมาย
กินข้าว ดูหนัง ถ่ายรูป สรวลเสเฮฮา เที่ยวต่างจังหวัด
จนกระทั่งหลังๆเราเริ่มไปวัดด้วยกัน
แต่ยังไม่เคยมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันแบบเป็นผู้ให้จริงๆจังๆเลย
แต่ยังไม่เคยมีกิจกรรมแบบเป็นผู้ให้ที่ทำร่วมกันจริงๆจังๆเลย
ซึ่งแค่การคิดอย่างเดียวคงไม่ทำให้เรื่องนี้สำเร็จลงได้
เพราะงานกฐินที่วัดบุญญาวาสไม่ได้มีคนมาร่วมงานแค่หลักสิบ
แต่เป็นหลักร้อยซึ่งอาจจะไปถึงหลักพันก็เป็นได้
และพวกเราก็ไม่ได้เป็นมืออาชีพทำอาหาร
แต่ละคนมีหน้าที่การงานต่างกันไป
เกือบทุกคนเป็นพนักงานออฟฟิศ
ที่เวลาทำงานหน้าคอมอาจจะมากกว่าเวลานอนเสียอีก
โจทย์ที่ถูกตั้งขึ้นสำหรับเราโจทย์แรกคือ งบประมาณ
ปกติเราทำบุญกันเต็มที่ก็แค่หลักพัน ตามประสามนุษย์เงินเดือน
ไม่เคยเลยที่จะคิดฝันว่า จะทำบุญถึงหลักหมื่น
แต่ถ้าเรามีโจทย์นี้มาก็ต้องตีให้แตกให้ได้ก่อน
ไม่เช่นนั้นเราก็ทำอย่างอื่นไม่ได้
สิ่งแรกที่ทำคือ เปิดบัญชีแยกออกมา
ให้เป็นบัญชีสะสมเงิน สำหรับการนี้โดยเฉพาะ
ให้เพื่อนๆได้ใส่เงินตั้งแต่ต้นปี เก็บสะสมกันไปจนถึงปลายปี
ก็น่าจะพอมีเงินพอเพียงสำหรับงานนี้ได้
หลายเดือนผ่านไป เมื่องบประมาณไม่ใช่ปัญหา
เรื่องถัดมาคือ เราจะทำอะไรไปแจกดี
เพราะว่าเราไม่ใช่ร้านอาหาร เราไม่มีอุปกรณ์ทำอาหารแบบคนอื่นเค้า
จึงต้องคิดเมนูแบบที่ไม่ต้องใช้ความร้อน
สามารถปรุงเสร็จจากบ้านได้เลย
คิดกันไปสารพัดแบบ เมนูนั้น เมนูนี้
ก็มาจบลงที่คานาเป้ (Canape)
คานาเป้เป็นอาหารที่น้อยคนจะได้ยินชื่อ
แต่ถ้าชี้ให้ดูก็จะร้องอ๋อ
เพราะคือ อาหารที่เสิร์ฟตามงานค็อกเทลต่างๆ
มีฐานทำจากขนมปังบ้าง แครกเกอร์บ้าง หน้าต่างๆกันไป
ความเหมาะสมของคานาเป้คือ
เป็นอาหารที่เตรียมไว้ก่อน
สามารถนำไปประกอบร่างหน้างานได้ไม่ยาก
และเสิร์ฟแบบเย็นได้ โดยยังคงรสชาติอยู่
ตกลงเรื่องเมนูได้ ต่อไปคือ แล้วจะทำอย่างไร
แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอาหารกันอยู่แล้ว
ก็เลยเปิดตำราแล้วลองซ้อมทำกันดูก่อนหนึ่งครั้ง
เพื่อทดสอบหน้าตามเมนู
นอกจากเพื่อทดลองมือในการทำให้คล่องแล้ว
ก็เป็นการทดสอบรสชาติว่า ถ้าทำตามเมนูแล้ว
คานาเป้หน้านั้นๆจะออกมาเป็นอย่างไร
และยังรวมไปถึงการกะปริมาณที่จะทำออกมา
เพื่อจะได้ซื้อวัตถุดิบให้ถูกต้องอีกด้วย
เรื่อง โรงทาน งานบุญใหญ่ที่ไม่ยากและไม่ง่าย โดย มนสิการ จาก หนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 39 ค่ะ
เรื่อง โรงทาน งานบุญใหญ่ที่ไม่ยากและไม่ง่าย
โดย มนสิการ
จาก หนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 39 ค่ะ
เมื่อสามปีก่อน เราได้มีโอกาสไปงานกฐินที่วัดบุญญาวาส
ครั้งนั้นเราไปแบบผู้ร่วมงาน เห็นผู้คนมาทำบุญกฐิน
เห็นผู้คนมาออกโรงทานแจกอาหาร ซึ่งใจก็อนุโมทนาบุญแล้ว
แต่มาสะดุดเมื่อคนหนึ่งพูดขึ้นว่า
"ปีหน้า เราลองดูมั้ย"
เราจึงตั้งใจกันว่า ปีหน้าเราจะมาที่นี่
ไม่ได้มาในฐานะผู้ร่วมงาน แต่มาในฐานะผู้ให้อีกคน
พวกเราเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เล่น pantip.com ใหม่ๆ
๑๐ ปีผ่านไปแล้วที่เราได้รู้จักกัน และรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมมากมาย
กินข้าว ดูหนัง ถ่ายรูป สรวลเสเฮฮา เที่ยวต่างจังหวัด
จนกระทั่งหลังๆเราเริ่มไปวัดด้วยกัน
แต่ยังไม่เคยมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันแบบเป็นผู้ให้จริงๆจังๆเลย
แต่ยังไม่เคยมีกิจกรรมแบบเป็นผู้ให้ที่ทำร่วมกันจริงๆจังๆเลย
ซึ่งแค่การคิดอย่างเดียวคงไม่ทำให้เรื่องนี้สำเร็จลงได้
เพราะงานกฐินที่วัดบุญญาวาสไม่ได้มีคนมาร่วมงานแค่หลักสิบ
แต่เป็นหลักร้อยซึ่งอาจจะไปถึงหลักพันก็เป็นได้
และพวกเราก็ไม่ได้เป็นมืออาชีพทำอาหาร
แต่ละคนมีหน้าที่การงานต่างกันไป
เกือบทุกคนเป็นพนักงานออฟฟิศ
ที่เวลาทำงานหน้าคอมอาจจะมากกว่าเวลานอนเสียอีก
โจทย์ที่ถูกตั้งขึ้นสำหรับเราโจทย์แรกคือ งบประมาณ
ปกติเราทำบุญกันเต็มที่ก็แค่หลักพัน ตามประสามนุษย์เงินเดือน
ไม่เคยเลยที่จะคิดฝันว่า จะทำบุญถึงหลักหมื่น
แต่ถ้าเรามีโจทย์นี้มาก็ต้องตีให้แตกให้ได้ก่อน
ไม่เช่นนั้นเราก็ทำอย่างอื่นไม่ได้
สิ่งแรกที่ทำคือ เปิดบัญชีแยกออกมา
ให้เป็นบัญชีสะสมเงิน สำหรับการนี้โดยเฉพาะ
ให้เพื่อนๆได้ใส่เงินตั้งแต่ต้นปี เก็บสะสมกันไปจนถึงปลายปี
ก็น่าจะพอมีเงินพอเพียงสำหรับงานนี้ได้
หลายเดือนผ่านไป เมื่องบประมาณไม่ใช่ปัญหา
เรื่องถัดมาคือ เราจะทำอะไรไปแจกดี
เพราะว่าเราไม่ใช่ร้านอาหาร เราไม่มีอุปกรณ์ทำอาหารแบบคนอื่นเค้า
จึงต้องคิดเมนูแบบที่ไม่ต้องใช้ความร้อน
สามารถปรุงเสร็จจากบ้านได้เลย
คิดกันไปสารพัดแบบ เมนูนั้น เมนูนี้
ก็มาจบลงที่คานาเป้ (Canape)
คานาเป้เป็นอาหารที่น้อยคนจะได้ยินชื่อ
แต่ถ้าชี้ให้ดูก็จะร้องอ๋อ
เพราะคือ อาหารที่เสิร์ฟตามงานค็อกเทลต่างๆ
มีฐานทำจากขนมปังบ้าง แครกเกอร์บ้าง หน้าต่างๆกันไป
ความเหมาะสมของคานาเป้คือ
เป็นอาหารที่เตรียมไว้ก่อน
สามารถนำไปประกอบร่างหน้างานได้ไม่ยาก
และเสิร์ฟแบบเย็นได้ โดยยังคงรสชาติอยู่
ตกลงเรื่องเมนูได้ ต่อไปคือ แล้วจะทำอย่างไร
แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอาหารกันอยู่แล้ว
ก็เลยเปิดตำราแล้วลองซ้อมทำกันดูก่อนหนึ่งครั้ง
เพื่อทดสอบหน้าตามเมนู
นอกจากเพื่อทดลองมือในการทำให้คล่องแล้ว
ก็เป็นการทดสอบรสชาติว่า ถ้าทำตามเมนูแล้ว
คานาเป้หน้านั้นๆจะออกมาเป็นอย่างไร
และยังรวมไปถึงการกะปริมาณที่จะทำออกมา
เพื่อจะได้ซื้อวัตถุดิบให้ถูกต้องอีกด้วย