สวัสดีค่ะ
นี่ไม่ใช่กระทู้แรกของเรา...
(เราเสียใจมาก เราไม่ได้ทำตามแพทเทิร์นแบบกระทู้อื่นๆในพันทิปแล้ว...)
หลังจากที่กระทู้ก่อนหน้านี้มีคนสนใจและแชร์ไปเยอะมาก มีทั้งคำติชมมากมาย
ณ จุดๆนี้ เราในฐานะคนเขียนขอบคุณมากจริงๆค่ะ /กราบ
คือตอนแรกไม่นึกว่าจะมีคนอ่านด้วยซ้ำ 555
เราอ่านทุกคอมเม้นจริงๆนะคะ ถึงแม้ว่าบางอันจะไม่ได้ตอบก็ตาม..
กลับมาคราวนี้ เป็นเรื่องราวของชีวิตนักศึกษาปริญญาโทฮิปๆของเราค่ะ
เพราะหลายคนถามมาเยอะ ตั้งนานแล้ว แล้วก็ไม่ได้เขียนซักที ประกอบกับมีคนถามมาเพิ่ม และคิดว่าถึงเวลาแล้ว
ก็นั่นแหละค่ะ 555
จะแบ่งเขียนเป็น 2 พาร์ทนะคะ พาร์ทแรกจะเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และเหตุผลที่เลือกเรียนที่สวีเดน
ส่วนพาร์ทที่สองจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาในฐานะดีไซน์เนอร์ คอร์สที่เรียน งานที่ได้ทำ และประสบการณ์ประหลาดๆที่ได้พบเจอค่ะ (ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มเขียน ไม่รู้จะเขียนเสร็จเมื่อไหร่เหมือนกัน...)
ขอเชิญรับชม รับฟังกันได้
มีข้อแนะนำ ข้อถกเถียง ติชม อะไรก็มาคุยกันนะคะ อยากคุยกับคนอ่านทุกคนค่ะ
--------
Disclaimer :
(1) เราเขียนเอนทรี่นี้ขึ้นมาเพื่อบอกเล่าการใช้ชีวิตของเรา และเหตุผลของเรา ไม่ได้มาหว่านล้อมให้ทุกคนเชื่อตามกัน ทุกคนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง มาเล่ามาแชร์กันนะคะ
(2) เราไม่ได้เขียน HOW TO ในเอนทรี่ไม่ได้บอกว่าสมัครมาเรียนที่สวีเดน หรือมหาลัยเราทำยังไง เลือกคณะ มหาลัยไหนสอนอะไร ส่งเอกสารอะไร หรือจะจัดกระเป๋าแพ็คยังไง ในกรณีเรื่องวิธีสมัครยังไง ถ้าตรงการข้อมูลเหล่านั้นเชิญป้ายหน้าค่ะ เอนทรี่ยยาวเรากลัวเสียเวลาอ่านถ้าจะไม่เจอสิ่งที่อยากได้
(3) เราขออนุญาติไม่ตอบคำถามแนวจะสมัครอย่างเราทำไง อยากให้ลูกสมัครบ้าง เลือกคณะไหนดี เพราะเราเชือว่าคนที่อยากสมัครมาเรียนจำเป็นต้องรู้ภาษาอังกฤษในระดับที่อ่านเว็บมหาลัยรู้เรื่องและทำตามได้ และการเรียนต่อ ผู้เรียนควรรู้จักค้นคว้าและหาสิ่งที่ตัวเองอยากเรียนให้เจอค่ะ แต่ถ้าหากมีปัญหาสงสัยจริงๆ หาข้อมูลเบื้องต้นมาแล้วไม่เจอ สงสัยบางจุดเล็กน้อย ถามเราได้ค่ะ
(4) เราไม่ใช่เอเจนซี่ เราเขียนเพราะเราสนุก ถ้าหากตอบช้าอย่าว่ากันเลยค่ะ เราๆท่านๆถึงแม้เป็นฮิปสเตอร์ก็ต้องทำงานหาเงินเนอะ YwY
(5) เราไม่ได้อยากให้ใครเลียนตามแบบเรา ชีวิตเราไม่ได้ประสบความสำเร็จขนาดนั้น เรายังทำงานงกๆทุกวัน แต่เจียดเวลามาเขียนบล็อกก็เลยดูมีชีวิตดี ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง
(6) คิด วิเคราะห์ แยกแยกทุกข้อมูลที่ท่านรับไป ท่านอาจจะไม่ได้เจอแบบที่เราเจอ เราอาจจะไม่เจอให้แบบที่ท่านเจอ เพราะฉะนั้นก็แบ่งปันข้อมูลกันค่ะ
เรียนโทอย่างฮิปสเตอร์
นี่ไม่ใช่กระทู้แรกของเรา...
(เราเสียใจมาก เราไม่ได้ทำตามแพทเทิร์นแบบกระทู้อื่นๆในพันทิปแล้ว...)
หลังจากที่กระทู้ก่อนหน้านี้มีคนสนใจและแชร์ไปเยอะมาก มีทั้งคำติชมมากมาย
ณ จุดๆนี้ เราในฐานะคนเขียนขอบคุณมากจริงๆค่ะ /กราบ
คือตอนแรกไม่นึกว่าจะมีคนอ่านด้วยซ้ำ 555
เราอ่านทุกคอมเม้นจริงๆนะคะ ถึงแม้ว่าบางอันจะไม่ได้ตอบก็ตาม..
กลับมาคราวนี้ เป็นเรื่องราวของชีวิตนักศึกษาปริญญาโทฮิปๆของเราค่ะ
เพราะหลายคนถามมาเยอะ ตั้งนานแล้ว แล้วก็ไม่ได้เขียนซักที ประกอบกับมีคนถามมาเพิ่ม และคิดว่าถึงเวลาแล้ว
ก็นั่นแหละค่ะ 555
จะแบ่งเขียนเป็น 2 พาร์ทนะคะ พาร์ทแรกจะเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และเหตุผลที่เลือกเรียนที่สวีเดน
ส่วนพาร์ทที่สองจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาในฐานะดีไซน์เนอร์ คอร์สที่เรียน งานที่ได้ทำ และประสบการณ์ประหลาดๆที่ได้พบเจอค่ะ (ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มเขียน ไม่รู้จะเขียนเสร็จเมื่อไหร่เหมือนกัน...)
ขอเชิญรับชม รับฟังกันได้
มีข้อแนะนำ ข้อถกเถียง ติชม อะไรก็มาคุยกันนะคะ อยากคุยกับคนอ่านทุกคนค่ะ
--------
Disclaimer :
(1) เราเขียนเอนทรี่นี้ขึ้นมาเพื่อบอกเล่าการใช้ชีวิตของเรา และเหตุผลของเรา ไม่ได้มาหว่านล้อมให้ทุกคนเชื่อตามกัน ทุกคนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง มาเล่ามาแชร์กันนะคะ
(2) เราไม่ได้เขียน HOW TO ในเอนทรี่ไม่ได้บอกว่าสมัครมาเรียนที่สวีเดน หรือมหาลัยเราทำยังไง เลือกคณะ มหาลัยไหนสอนอะไร ส่งเอกสารอะไร หรือจะจัดกระเป๋าแพ็คยังไง ในกรณีเรื่องวิธีสมัครยังไง ถ้าตรงการข้อมูลเหล่านั้นเชิญป้ายหน้าค่ะ เอนทรี่ยยาวเรากลัวเสียเวลาอ่านถ้าจะไม่เจอสิ่งที่อยากได้
(3) เราขออนุญาติไม่ตอบคำถามแนวจะสมัครอย่างเราทำไง อยากให้ลูกสมัครบ้าง เลือกคณะไหนดี เพราะเราเชือว่าคนที่อยากสมัครมาเรียนจำเป็นต้องรู้ภาษาอังกฤษในระดับที่อ่านเว็บมหาลัยรู้เรื่องและทำตามได้ และการเรียนต่อ ผู้เรียนควรรู้จักค้นคว้าและหาสิ่งที่ตัวเองอยากเรียนให้เจอค่ะ แต่ถ้าหากมีปัญหาสงสัยจริงๆ หาข้อมูลเบื้องต้นมาแล้วไม่เจอ สงสัยบางจุดเล็กน้อย ถามเราได้ค่ะ
(4) เราไม่ใช่เอเจนซี่ เราเขียนเพราะเราสนุก ถ้าหากตอบช้าอย่าว่ากันเลยค่ะ เราๆท่านๆถึงแม้เป็นฮิปสเตอร์ก็ต้องทำงานหาเงินเนอะ YwY
(5) เราไม่ได้อยากให้ใครเลียนตามแบบเรา ชีวิตเราไม่ได้ประสบความสำเร็จขนาดนั้น เรายังทำงานงกๆทุกวัน แต่เจียดเวลามาเขียนบล็อกก็เลยดูมีชีวิตดี ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง
(6) คิด วิเคราะห์ แยกแยกทุกข้อมูลที่ท่านรับไป ท่านอาจจะไม่ได้เจอแบบที่เราเจอ เราอาจจะไม่เจอให้แบบที่ท่านเจอ เพราะฉะนั้นก็แบ่งปันข้อมูลกันค่ะ