รีวิว Civil War ฉบับบ่นความในใจ ใครดูแล้วมาคุยกันครับ (อาจสปอย)

ขอพูดแต่กับบทและความรู้สึกหลังดู ไหนๆก็เรียนวิเคราะห์วิจารณ์มาแล้ว ถ้าไม่ใช้คงเสียดายแย่ ขอเอาเกรด C- เป็นเดิมพัน

****ถ้ายังไม่ได้ไปดู ระวังจะเสียอรรถรส****

ก่อนอื่นเลยอยากขอเตือนไว้ว่าใครคิดจะพาบุตรหลานน้องๆเด็กเล็กๆที่ชื่นชอบซุปเปอร์ฮีโร่ไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ละก็ ผมว่าปลี่ยนแผนยังทันนะ เพราะหนังมันโคตรจะไม่เหมาะกับเด็กเลย ถ้าเด็กหวังว่าจะเข้าไปดูตัวละครที่เขาชื่นชอบ ไปดูความเฟี้ยวเงาะของซุปเปอร์ฮีโร่ในดวงใจล่ะก็คงจะทำให้เด็กๆผิดหวังเลยทีเดียว เพราะตัวหนังมันค่อนข้างจะหนักมากๆ มีความจริงจัง เหมาะสำหรับผู้ใหญ่หรือเด็กโตมากกว่า มันมีปมในไดอะล็อก มีจุดให้เราครุ่นคิด บางอย่างต้องมีการคิดวิเคราะห์ตามกันไปเป็นทอดๆ มีการย้อนอดีตอ้างอิงถึงภาคก่อนหน้าไปต่างๆนาๆ ถ้าเด็กยังไม่สันทัดหรือยังวิเคราะห์ไตร่ตรองอะไรไม่เก่ง ถ้าหวังจะเข้าไปดูฮีโร่มาแลกหมัดเหวี่ยงมาเขี่ยปากกันทั้งเรื่องคงต้องบอกว่าไสเจียเลยคุณน้อง เพราะมีอยู่แค่สองสามฉากเท่านั้นแหละ ใครที่หวังจะไปชมฉากบู๊ละก็ระวังเซ็งนะ ตัวผมก็เซ็งนึกว่าจะเจอเยอะกว่านี้ แต่ก็นะ มันก็เต็มอิ่มเพียงพอละสำหรับบู๊ระเบิดภูเขาเผาสนามบิน ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉากบู๊มันไม่ใช่ประเด็นหลักซักหน่อย!!

เขียนเตือนไปโคตรเยอะ แล้วคนมันจะอ่านมาถึงตรงนี้ไหมเนี่ย

เอาเหอะ บ่นต่อเลยละกัน

ทุกๆอย่างที่ได้เห็นในกัปตันภาคนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ในโลกนี้ กับ จักรวาลภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ของมาเวลสตูดิโอไปตลอดกาลเลย ไม่ได้เวอร์นะเว้ย แต่มันคือปรากฏการณ์อะ พี่น้องรุซโซ่พวกเล่นเปิดศักราชใหม่ให้กับวงการหนังซุปเปอร์ฮีโร่กันเลยทีเดียว เป็นหลักไมล์ใหม่ที่ทำเอาสะเทือนไปทั้งวงการ

เคยคิดๆกันไหมว่าหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่เราเห็นผ่านตากันมา มักจะลงอีหรอปเดิมเกือบทุกเรื่อง เริ่มมาเลยก็ปูปมให้กับพระเอก จากนั้นพระเอกก็ได้รับพลังมา เจอเหล่าร้าย ปะทะเหล่าร้าย ปราบเหล่าร้ายสำเร็จ โอเคจบ ดูกี่เรื่องๆมันก็วกไปวนมาอยู่แบบนี้ตลอดเลย มีดีมีชั่ว มีขาวมีดำ มีฮีโร่ มีเหล่าร้าย มีนางเอกสวยๆน่ารัก มีชุดเฟี้ยวๆ ระเบิดตู้มตาม เหมือนเป็นกฏตายตัวไปซะอย่างนั้น ว่า เฮ้ย เวลาคุณจะทำหนังฮีโร่คุณต้องมีวัตถุดิบพวกนี้เป็นหลักนะ คุณจะไม่มีไม่ได้ ไม่งั้นมันไม่ใช่อะ

แต่ แต่ แต่ แต่ กัปตันภาคนี้ฉีกทุกอย่างที่ว่ามาทิ้งจากนั้นก็นำไปเคี้ยวๆแล้วคายลงคลองแสนแสบอย่างไร้ความปราณี ในซีวิลวอร์ ไม่มีพระเอก นางเอก คนร้าย คนดี ความถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ทุกอย่างเป็นสีเทา ทุกอย่างหม่นหมอง ตัวละครทุกตัวเป็นทั้ง Hero และ villain ในเวลาเดียวกัน หลังจากดูจบผมมีความรู้สึกอึดอัดในใจ คือมันเหมือนกับว่าเราเข้าไปวิ่งเล่นในใจของตัวละครแต่ละคน ได้รู้จักและคุ้นเคยกับพวกเขามากขึ้น รับรู้/เรียนรู้ถึงทัศนคติและความนึกคิดของเขาที่มีต่อสิ่งต่างๆเหตุการ์ต่างๆหรือคนรอบตัว ได้เห็นอีกด้านของตัวละครที่เราชื่นชอบ สัมผัสความอ่อนแอ กรี๊ดร้องและกร่นด่าด้านมืดของฮีโร่ที่เราคิดกันไปเองว่า คนคนนี้คือตัวแทนแห่งแสงสว่าง ความขาวสะอาด ความถูกต้อง แต่แท้จริงแล้วเขาก็เหมือนกันกับเราๆนี่แหละ มีโกรธ มีหลง มีรัก มีอิจฉา มีความเคียดแค้น หรือแม้กระทั่งความเห็นแก่ตัว ตัวละครที่มีมิติมากขึ้นจนคุณอาจจะหลงรักหรือเกลียดพวกเขาไปเลย ผมว่ากัปตันภาคนี้เป็นหนังที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบในแง่ของการพัฒนาของตัวละคร ปมหลายๆอย่างถูกเปิดและคลี่คลายออกมา มีบทสรุปในเรื่องที่ถูกผูกไว้ก่อนหน้านี้ และปมใหม่ๆก็เริ่มผูกขึ้นในภาคนี้เช่นกัน มันเหมือนเป็นจุดสำคัญ เป็นจุดเปลี่ยนแปลงในเฟร์นไชน์ภาพยนตร์ชุดนี้ เปิดประตูก้าวขึ้นไปอีกขั้น จักรวาลดูเหมือนกว้างขึ้นและลึกขึ้นไปอีก

แต่ถ้าเราถอยออกมาไกลๆ มองดูภาพรวมดีๆ วิเคราะห์ตามกันไปช้าๆ จะเห็นได้ว่าทุกอย่างมีความสัมพันธ์กันแบบคลื่นระลอก เหตุการณ์ในซีวิลวอร์เกิดมาจากเรื่องราวในภาคก่อนๆแทบทั้งนั้น ผลของสิ่งที่พวกเขาทำลงไป ทุกอย่างดูเหมือนค่อยๆขยายตัวและเริ่มส่งผลกระทบกันไปมา สุดท้ายก็มาบรรจบในซีวิลวอร์ ตัวละครตัวหนึ่งที่ผมชอบมากที่สุดในเรื่องนั้น ไม่ใช่เหล่า Avengers แต่อย่างใด แต่เป็นตัวละครที่ถูกคลื่นของการกระทำของเหล่าผู้ที่เรียกตัวเองว่าฮีโร่ ทำลายความเป็นตัวตนของเขาไปจนหมดสิ้น ตัวร้ายที่บงการและสร้างเรื่องทั้งหมด แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้ เพราะ Avengers นั่นแหละที่สร้างเขาขึ้นมา เท่ากับว่าผลของการกระทำของพวกเขาย้อนกลับมาเอาคืน

"อ้าวเมื่อกี้บอกไม่มีตัวร้ายแล้วนี้ตอนนี้มาบอกว่ามีเฮ้ยยังไงกันแน่วะ"

ใช่ครับ ผมบอกไปตอนต้นว่า เรื่องนี้ไม่มีคนดี คนชั่ว ทุกคนสีเทา แล้วทำไมผมถึงเอ่ยถึงตัวร้ายของเรื่องขึ้นมาละ ผมมองในมุมมองของผมน่ะครับ ในความเป็นจริงแล้ว จะฝ่ายพระเอก หรือ ฝ่ายตัวร้าย เราก็จะเห็นกันแบบจะๆโต่งๆอยู่แล้ว ใครดีใครชั่ว แต่พอผมมองด้วยเหตุผลของการกระทำมากกว่า จะเห็นได้ว่าตัวละครทุกตัวเท่ากันหมด แม้กระทั่งตัวร้ายที่ผู้กำกับวางไว้ว่าเป็นตัวต้นเหตุของทุกอย่างในเรื่อง แต่โดยส่วนตัวผมมองว่า เฮ้ย ตัวละครตัวนี้ไม่ได้เป็นตัวร้ายซักหน่อย เขาเป็นตัวละครที่ทำในสิ่งที่เขาคิดว่าถูก เหมือนกับพวกฝ่ายฮีโร่คิดว่าตัวเองถูกนั่นแหละ พื้นเพเขาก็ไม่ได้ร้าย  ยิ้ม เลวทรามอะไรเลย เขามีเหตุผลที่จะร้าย และเหตุผลนั้นก็หนักพอที่จะทำให้เหล่า Avengers กราบตีนเขาได้เลย ในอีกด้านหนึ่งเขาก็เก่งเอามากๆ มันทำให้นึกถึงโจ๊กเกอร์ของฝั่ง the dark knight เลยทีเดียว ดูจบแล้วรู้สึกรักและชอบมาก เป็นตัวร้ายที่เจ๋งกว่าโลกิหลายเท่าเลย

และถึงแม้จะมีตัวละครในเรื่องเยอะแยะทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า พวกแอบมาแจมหรือพวกจงใจเปิดตัว แต่ก็ไม่มีตัวไหนถูกเททิ้ง หรือ สักแต่จะใส่ๆมาสักกะตัว ทุกตัวมีน้ำหนัก มีเหตุผล ไม่หนักหรือเบาเกินไป ไม่เยอะจนกลายเป็น Avengers Civil War มันยังคงเป็นเวทีของสตีฟ โรเจอร์ ยังเป็น Captain America Civil War ตั้งแต่ต้นจนจบ

แล้วมันดีไหม มันคุ้มรึเปล่า ที่จะไปดู ผมคงตอบไม่ได้ เพราะมันอยู่ที่รสนิยมของแต่ละคน ถ้าคุณจำฟีลลิ่งหลังดู winter solider ได้ แล้วมันไปในทางบวก โอเค ผมว่าคุณต้องชอบมันแน่ แปลกใหม่ ตื่นเต้น มีความเป็นหนังประเภทอื่นมากกว่าหนังฮีโร่ตามสูตรสำเร็จทั่วไป แต่ถ้าคุณคิดจะเข้าไปดูเพียงเพราะเคยได้ยินมาว่า Civil war คือ Event ที่ฮีโร่จะมาสู้กัน เลยคิดว่าเวอร์ชั่นภาพยนตร์จะมีตีกันแบบเอาเป็นเอาตายละก็ มันอาจมีอะไรที่ดูรุนแรงเหมือนกันในบางฉาก แต่ก็ไม่ได้มากพอจะตอบโจทย์เหมือนนั่งดูหุ่นยนตร์สะบั้นหน้ากันในทรานฟอร์เมอร์ละนะ แต่ดูเอามันส์ก็มันส์ ฉากสนามบินนี่สุดๆ ทั้งเซอร์ไพรซ์ตระการตา คิวบู๊แต่ละอย่างนี่ได้ใจ เนื้อชนเนื้อ เอ็นชนเอ็น รุนแรงและปรานีตสุดๆ

สรุปมันยังไง? เอาแบบย่อๆ
หนังหนักแน่นทางด้านเนื้อหา มีปม มีความรุนแรง มีการพัฒนา การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นและมันจะทำให้ Avengers ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทุกอย่างเติบโตไปในทางของมัน ตัวละครหลายตัวก้าวเดินไปทางของตนเอง จักรวาลกว้างขึ้น เชื่อว่ามาเวลหลุดจากกรอบไปแล้ว เขามีอะไรให้เล่นอีกเยอะมากๆ มันเป็นการก้าวครั้งสำคัญของภาพยนตร์ชุดนี้ และเชื่อได้เลยว่าหมัดต่อไปของมาเวลต้องหนักกว่านี้ รุนแรงกว่านี้ และยอดเยี่ยมกว่านี้อีกหลายเท่าตัวแน่นอน

ปล.อาจใช้ภาษาตามใจปากไปนิด ขอโทษด้วยครับ อารมณ์มันพุ่งพล่าน

แก้ไขคำหยาบเท่าที่เห็น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่