Review (No.22/2016)
Captain America : Civil War {ไม่มีสปอย}
ความยาว 148 นาที
Captain America: Civil War สตีฟ โรเจอร์ส นำทีมอเวนเจอร์สกลุ่มใหม่ออกปฏิบัติการ ในความพยายามปกป้องมนุษยชาติอย่างต่อเนื่อง หลังจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับเหล่าอเวนเจอร์สได้ทำให้เกิดความเสียหายและส่งผลกระทบไปสู่ผู้บริสุทธิ์อื่น ๆ กลุ่มการเมืองได้กดดันให้มีการจัดระบบขอบเขตความรับผิดชอบที่นำโดยคณะกรรมการเพื่อควบคุมและกำกับดูแลพวกเขา สถานภาพใหม่นี้ได้สร้างรอยร้าวให้กับเหล่าอเวนเจอร์ส ส่งผลให้เกิดการแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งนำทีมโดย สตีฟ โรเจอร์ และความต้องการที่จะให้อเวนเจอร์สยังคงปกป้องมนุษยชาติได้อย่างมีอิสรภาพโดยปราศจากการแทรกแซงของรัฐบาล อีกหนึ่งทีมนำโดย โทนี่ สตาร์ค และการตัดสินใจที่น่าประหลาดใจในการสนับสนุนมาตรการในการถูกควบคุมดูแลโดยรัฐบาล เตรียมตัวเลือกฝ่ายและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์แอ็คชั่นแบบนันสต็อปกับสองผู้นำทีมทั้ง 2 ฝ่าย
รีวิว
Captain America : Civil War จากเนื้อหาถือว่าเป็นหนังที่ดีที่สุดในจักรวาล Marvel แต่มีหลายอย่างที่ทำให้คะแนนไม่พุ่ง
มาพูดถึงข้อดีก่อน หนังมีสเกลที่ใหญ่เนื้อเรื่องค่อนข้างเข้มข้น สื่อให้เห็นมุมมองที่ต่างกันของ Captain America และ IRON MAN อย่างชัดเจนซึ่งเป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง Captain America : Civil War เป็นหนังของ Marvel ที่ดาร์กที่สุดเลยก็ว่าได้ หนังบิ๊วอารมณ์คนดูให้รู้ตรึงเครียดกดดันคนดูได้พอสมควร ความดราม่าในตอนท้ายคือสิ่งที่ดีที่สุดในส่วนของเนื้อเรื่อง และมีความฮาใส่เข้าไปในฉากต่อสู้เป็นอะไรที่ดีงามมาก
สิ่งที่ไม่พูดไม่ได้คือ SPIDER-MAN และ Black Panther คือความดีงามของตัวละคร
Tom Holland คือ SPIDER-MAN ที่ดีที่สุดที่เคยมีมาเหมาะสมที่สุด SPIDER-MAN ต้องแบบนี้ แถมแสดงให้เห็นได้ชัดว่าแข็งแรงมาก พูดมาก กวนประสาท และเด็กเนิร์ด คือตัวฮาของเรื่องเลยก็ว่าได้แถมที่สำคัญเคมีเข้ากับ Robert Downey Jr. มากๆ แถมป๊าเมย์แซบสุดๆ
Black Panther จะเก่งและเท่ไปไหน โคตรเท่เลยก็ว่าได้
Ant-Man ก็ถือว่าเป็นอะไรที่เซอร์ไพรใช่เล่น
ข้อเสีย การดำเนินเรื่องในช่วงครึ่งเรื่องแรกทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับ Cap 2 หนังพยายามบิ้วและปูเรื่องถึงความขัดแย้ง ใส่ความดาร์กของบทนิดๆ แต่โทนหนังที่ทำให้รู้สึกว่าบิ้วไม่ขึ้นและทำให้รู้สึกแอบมีอืดนิดๆแต่ไม่ถึงขั้นน่าเบื่อเพราะเนื้อหาที่หนังสื่อมีความสำคัญและชวนให้คนดูติดตามไป
ฉากสนามบินถือว่าดีแต่ยังไม่อลังเท่าที่ควรจะเป็นสำหรับหนังฟอร์มขนาดนี้แต่ก็บู๊คุ้มมันสะใจพอสมควร
หนังแบ่งตัวละครบางตัวไม่โอเคอย่าง รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา Ross บางฉากไม่จำเป็นต้องออกมาก็ได้และไปดึก Superhero บางตัวให้เด่นขึ้นมาดีกว่านะ ข้อนี้ส่วนตัว หนังทำให้ Scarlet Witch ดูเหมือนเด็กอ่อนต่อโลก ใสซื่อเกินไป
CG ไม่มีที่ติเหมือนเคย แต่ 3D ก็ยังคง Marvel เหมือนเดิมแต่ที่ดีขึ้นมานิดนึงคือความลึกของมิติที่ดีขึ้น
สรุป
ไม่ต้องอธิบายไรเยอะแล้วทุกคนรู้จักกันอยู่แล้วไปดูเถอะครับนานๆจะรวมกันเกือบครบขนาดนี้
แนะนำต้อง IMAX เท่านั้น ทั้งภาพที่ใหญ่และชัด เสียงที่ดังกระหึ่ม ใครไม่เคยดู IMAX แนะนำครับเพราะปีนี้มีแค่ 2 เรื่องที่ใช้กล้อง IMAX ถ่ายทำและเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายของปีนี้ด้วย
7.5/10
รีวิวจากเพจ "เกิดมาเพื่อดูหนัง"
Credit :
https://goo.gl/DN2nN2
ข้อดี ข้อเสีย Captain America : Civil War ไม่มีสปอย!!!
Captain America : Civil War {ไม่มีสปอย}
ความยาว 148 นาที
Captain America: Civil War สตีฟ โรเจอร์ส นำทีมอเวนเจอร์สกลุ่มใหม่ออกปฏิบัติการ ในความพยายามปกป้องมนุษยชาติอย่างต่อเนื่อง หลังจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับเหล่าอเวนเจอร์สได้ทำให้เกิดความเสียหายและส่งผลกระทบไปสู่ผู้บริสุทธิ์อื่น ๆ กลุ่มการเมืองได้กดดันให้มีการจัดระบบขอบเขตความรับผิดชอบที่นำโดยคณะกรรมการเพื่อควบคุมและกำกับดูแลพวกเขา สถานภาพใหม่นี้ได้สร้างรอยร้าวให้กับเหล่าอเวนเจอร์ส ส่งผลให้เกิดการแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งนำทีมโดย สตีฟ โรเจอร์ และความต้องการที่จะให้อเวนเจอร์สยังคงปกป้องมนุษยชาติได้อย่างมีอิสรภาพโดยปราศจากการแทรกแซงของรัฐบาล อีกหนึ่งทีมนำโดย โทนี่ สตาร์ค และการตัดสินใจที่น่าประหลาดใจในการสนับสนุนมาตรการในการถูกควบคุมดูแลโดยรัฐบาล เตรียมตัวเลือกฝ่ายและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์แอ็คชั่นแบบนันสต็อปกับสองผู้นำทีมทั้ง 2 ฝ่าย
รีวิว
Captain America : Civil War จากเนื้อหาถือว่าเป็นหนังที่ดีที่สุดในจักรวาล Marvel แต่มีหลายอย่างที่ทำให้คะแนนไม่พุ่ง
มาพูดถึงข้อดีก่อน หนังมีสเกลที่ใหญ่เนื้อเรื่องค่อนข้างเข้มข้น สื่อให้เห็นมุมมองที่ต่างกันของ Captain America และ IRON MAN อย่างชัดเจนซึ่งเป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง Captain America : Civil War เป็นหนังของ Marvel ที่ดาร์กที่สุดเลยก็ว่าได้ หนังบิ๊วอารมณ์คนดูให้รู้ตรึงเครียดกดดันคนดูได้พอสมควร ความดราม่าในตอนท้ายคือสิ่งที่ดีที่สุดในส่วนของเนื้อเรื่อง และมีความฮาใส่เข้าไปในฉากต่อสู้เป็นอะไรที่ดีงามมาก
สิ่งที่ไม่พูดไม่ได้คือ SPIDER-MAN และ Black Panther คือความดีงามของตัวละคร
Tom Holland คือ SPIDER-MAN ที่ดีที่สุดที่เคยมีมาเหมาะสมที่สุด SPIDER-MAN ต้องแบบนี้ แถมแสดงให้เห็นได้ชัดว่าแข็งแรงมาก พูดมาก กวนประสาท และเด็กเนิร์ด คือตัวฮาของเรื่องเลยก็ว่าได้แถมที่สำคัญเคมีเข้ากับ Robert Downey Jr. มากๆ แถมป๊าเมย์แซบสุดๆ
Black Panther จะเก่งและเท่ไปไหน โคตรเท่เลยก็ว่าได้
Ant-Man ก็ถือว่าเป็นอะไรที่เซอร์ไพรใช่เล่น
ข้อเสีย การดำเนินเรื่องในช่วงครึ่งเรื่องแรกทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับ Cap 2 หนังพยายามบิ้วและปูเรื่องถึงความขัดแย้ง ใส่ความดาร์กของบทนิดๆ แต่โทนหนังที่ทำให้รู้สึกว่าบิ้วไม่ขึ้นและทำให้รู้สึกแอบมีอืดนิดๆแต่ไม่ถึงขั้นน่าเบื่อเพราะเนื้อหาที่หนังสื่อมีความสำคัญและชวนให้คนดูติดตามไป
ฉากสนามบินถือว่าดีแต่ยังไม่อลังเท่าที่ควรจะเป็นสำหรับหนังฟอร์มขนาดนี้แต่ก็บู๊คุ้มมันสะใจพอสมควร
หนังแบ่งตัวละครบางตัวไม่โอเคอย่าง รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา Ross บางฉากไม่จำเป็นต้องออกมาก็ได้และไปดึก Superhero บางตัวให้เด่นขึ้นมาดีกว่านะ ข้อนี้ส่วนตัว หนังทำให้ Scarlet Witch ดูเหมือนเด็กอ่อนต่อโลก ใสซื่อเกินไป
CG ไม่มีที่ติเหมือนเคย แต่ 3D ก็ยังคง Marvel เหมือนเดิมแต่ที่ดีขึ้นมานิดนึงคือความลึกของมิติที่ดีขึ้น
สรุป
ไม่ต้องอธิบายไรเยอะแล้วทุกคนรู้จักกันอยู่แล้วไปดูเถอะครับนานๆจะรวมกันเกือบครบขนาดนี้
แนะนำต้อง IMAX เท่านั้น ทั้งภาพที่ใหญ่และชัด เสียงที่ดังกระหึ่ม ใครไม่เคยดู IMAX แนะนำครับเพราะปีนี้มีแค่ 2 เรื่องที่ใช้กล้อง IMAX ถ่ายทำและเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายของปีนี้ด้วย
7.5/10
รีวิวจากเพจ "เกิดมาเพื่อดูหนัง"
Credit : https://goo.gl/DN2nN2