เห็นเด็กๆ กำลังเล่นแฮชแท็กนี้กันใน facebook
การเล่นคือ ถ้าใครมาไลค์ก็จะได้รับฟีดแบคจากเจ้าของโพสต์ แต่ต้องเดาเอาเองอีกว่าใคร
ไอ้เราโตแล้ว คงไม่มีอารมณ์มาประดิษฐ์ถ้อยคำสมมติกันแล้ว มีอะไรเดินไปบอกตรงๆ จบ.
จากกระแสนี้ หากดูไปดูมา แบบเผินๆ ก็น่ารักดีนะ กับการสมมุติตัวตนเพื่อระบายความในใจ
แต่ทว่า มองให้ลึก... เรามองเห็นถึงปัญหาความไม่กล้าแสดงออก ทางความรู้สึก ของเด็กไทย
ทำไม คนไทย มีอะไรเราไม่พูดบอกกันตรงๆ
เราเคยอยู่ในสังคมฝรั่ง ใครทำดี เขาพูด appreciate กันต่อหน้าคนอื่นโต้งๆ เลย
อย่างคำว่า Thank you จะได้ยินบ่อยมากกกกกกกกกก
หรือถ้าใครทำผิด ก็โดนด่าไป บอกว่า you ทำผิดตรงนี้ๆ นะ แบบตรงๆ
และจะไม่มีมาแอบนินทากันลับหลังอีก เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ใช้ชีวิตให้ง่าย
เราจึงนิยมการบอกรักกันทุกวัน เราชอบเขาตรงไหน เขาทำตัวไม่ดีอย่างไร พูดบอกให้รู้
ไม่ใช่พอเขาทำผิดก็ไปตีโพยตีพาย ทั้งๆที่เราอมพะนำ ไม่บอกว่า dislike อย่างไร เจ้าตัวเขาก็ไม่รู้
ไฉน... คนไทย มีความรู้สึกแล้ว จึงต้องเก็บไว้ในใจ
หลายคนรอให้รำเลิกบุญคุณจนสุกงอมได้ที่ถึงค่อยเปิดเผยความในใจ
ซึ่งส่วนใหญ่มักสายไป อย่างที่รู้ๆกันดี
เหมือนคนไทยเรายังไม่ก้าวข้าม
มันมีเครื่องกีดขวางบางอย่าง ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร
ทำให้ไม่เกิดการบอกความรู้สึกกันตรงๆ ไม่ว่าเรื่องในทางบวก หรือลบ
เดาว่าคงกลัวเสียหน้า ??? รึเปล่า (ทั้งเสียหน้าตัวเอง และทำคนอื่นเสียหน้า)
เพราะเท่าที่รู้จักคนไทยแท้ๆ เป็นคนที่โคตรรักษาหน้าของตนเองเลยนะ
จะทำอย่างไรให้คนไทยมีนิสัย ชื่นชมยินดี และกล้าติเตียนคนอื่น
ไม่เก็บงำ จนเหมือนรับรู้อยู่คนเดียว หรือสุมไฟความเกลียดชัง แทนที่จะบอกให้เขาปรับพฤติกรรม
อยากถามชาวพันทิปช่วยวิเคราะห์กันหน่อย ผ่านกระแส hashtag ที่ว่านี้
ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเราบอกความรู้สึกต่อหน้ากันตรงๆ ได้ มันจะเป็นอะไรที่รู้สึกดีมากๆ !!!!
เพราะรับรู้ว่าคนนี้มองเราแบบนี้ รับรู้เราแบบนี้ บลาๆ มันจะโล่งอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
อยากให้คนไทยได้ลองบอกความรู้สึกกันแบบแมนๆ ไม่แน่ว่า ผลลัพธ์อาจแตกต่าง
''จะพูดความรู้สึกแบบไม่กั๊กกับคนที่มาไลค์โดยไม่บอกชื่อ'' < กระแสนี้มันสะท้อนอะไรคนไทยอยู่รึเปล่า !?
การเล่นคือ ถ้าใครมาไลค์ก็จะได้รับฟีดแบคจากเจ้าของโพสต์ แต่ต้องเดาเอาเองอีกว่าใคร
ไอ้เราโตแล้ว คงไม่มีอารมณ์มาประดิษฐ์ถ้อยคำสมมติกันแล้ว มีอะไรเดินไปบอกตรงๆ จบ.
จากกระแสนี้ หากดูไปดูมา แบบเผินๆ ก็น่ารักดีนะ กับการสมมุติตัวตนเพื่อระบายความในใจ
แต่ทว่า มองให้ลึก... เรามองเห็นถึงปัญหาความไม่กล้าแสดงออก ทางความรู้สึก ของเด็กไทย
ทำไม คนไทย มีอะไรเราไม่พูดบอกกันตรงๆ
เราเคยอยู่ในสังคมฝรั่ง ใครทำดี เขาพูด appreciate กันต่อหน้าคนอื่นโต้งๆ เลย
อย่างคำว่า Thank you จะได้ยินบ่อยมากกกกกกกกกก
หรือถ้าใครทำผิด ก็โดนด่าไป บอกว่า you ทำผิดตรงนี้ๆ นะ แบบตรงๆ
และจะไม่มีมาแอบนินทากันลับหลังอีก เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ใช้ชีวิตให้ง่าย
เราจึงนิยมการบอกรักกันทุกวัน เราชอบเขาตรงไหน เขาทำตัวไม่ดีอย่างไร พูดบอกให้รู้
ไม่ใช่พอเขาทำผิดก็ไปตีโพยตีพาย ทั้งๆที่เราอมพะนำ ไม่บอกว่า dislike อย่างไร เจ้าตัวเขาก็ไม่รู้
ไฉน... คนไทย มีความรู้สึกแล้ว จึงต้องเก็บไว้ในใจ
หลายคนรอให้รำเลิกบุญคุณจนสุกงอมได้ที่ถึงค่อยเปิดเผยความในใจ
ซึ่งส่วนใหญ่มักสายไป อย่างที่รู้ๆกันดี
เหมือนคนไทยเรายังไม่ก้าวข้าม
มันมีเครื่องกีดขวางบางอย่าง ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร
ทำให้ไม่เกิดการบอกความรู้สึกกันตรงๆ ไม่ว่าเรื่องในทางบวก หรือลบ
เดาว่าคงกลัวเสียหน้า ??? รึเปล่า (ทั้งเสียหน้าตัวเอง และทำคนอื่นเสียหน้า)
เพราะเท่าที่รู้จักคนไทยแท้ๆ เป็นคนที่โคตรรักษาหน้าของตนเองเลยนะ
จะทำอย่างไรให้คนไทยมีนิสัย ชื่นชมยินดี และกล้าติเตียนคนอื่น
ไม่เก็บงำ จนเหมือนรับรู้อยู่คนเดียว หรือสุมไฟความเกลียดชัง แทนที่จะบอกให้เขาปรับพฤติกรรม
อยากถามชาวพันทิปช่วยวิเคราะห์กันหน่อย ผ่านกระแส hashtag ที่ว่านี้
ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเราบอกความรู้สึกต่อหน้ากันตรงๆ ได้ มันจะเป็นอะไรที่รู้สึกดีมากๆ !!!!
เพราะรับรู้ว่าคนนี้มองเราแบบนี้ รับรู้เราแบบนี้ บลาๆ มันจะโล่งอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
อยากให้คนไทยได้ลองบอกความรู้สึกกันแบบแมนๆ ไม่แน่ว่า ผลลัพธ์อาจแตกต่าง