รู้สึกเหมือนถูกทิ้ง เมื่อย้ายร.ร.ตอนขึ้นม.ปลาย

กระทู้นี้มีเพื่อ ระบาย
     ถ้าอ่านแล้วอยากด่า เชิญ ปิด ได้เลยค่ะ

     กระทู้นี้มีเพื่อ ระบาย
     ระบายค่ะระบาย
     ระบายความรู้สึกที่อัดอั้นไว้ให้มีคนรับรู้บ้าง
     เก็บไว้ก็กลัวจะทำให้ตัวเองถูกคนอื่นหามไปโรง'บาลศรีธัญญา (เป็นบ้า +_-)

     ฉะนั้น!  เมื่อเข้ามาแล้ว 'ตั้งสติ' และคิดตาม 'เหตุผล' ที่ควรเป็น

     งงมั้ย ไม่งงนะ ...ช่างมัน!



     หลายคนอาจมองเป็นเรื่องปกติและธรรมดา ที่จะย้ายร.ร.ตอนขันม.ปลาย แต่นั้นคือ เราอยากยัายดัวยใจเราเอง
     แต่! ถ้าเราย้ายโดยที่ไม่อยากย้ายล่ะคะ?

     เราเชื่อนะว่า เด็กม.ต้นเกิน60% ไม่อยาก ย้ายร.ร.เมื่อขึ้นม.ปลาย อยากเรียนต่อในร.ร.เดิมที่เราเรียน เพราะเกิดจาก ความผูกพันธ์ ศักดิ์ศรี พ่อแม่ เพื่อน สังคมรอบข้าง ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้น

     แต่40%ที่อยากย้ายร.ร.อาจเป็นเพราะว่า ทนไม่ไหวแล้วกับร.ร.นี้ อยากย้ายเพราะสังคมรอบข้างที่ทนทุกข์มาตลอด3ปี(หรือมากกว่านั้น) หรือย้ายตามแฟน ตามเพื่อน หรืออยากย้ายแต่ย้ายไม่ไดั อันนี้ไม่ว่ากัน แล้วแต่ชะตากรรม

     เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่อยากย้ายแต่ต้องย้าย! เอาจริงๆแล้ว เรานั้นต้องมารับชะตากรรมที่ตัวเองทำเอาไว้ต่างหาก คือง่ายๆ เราขี้เกียจ ในเรื่องของงานน่ะ กฎระเบียบผิดน้อยมากถึงมากที่สุด และผลของการขี้เกียจคือ
     'ไม่มีโควต้า'
     เป็นความจริงที่เจ็บปวดแสนสาหัสที่หลายๆคนเจอเหมือนกัน
     แน่นอน! เราต้องโทษตัวเอง เพราะทำตัวเอา
     ซึ่งมันก็สมควร (ด่าตัวเอง -_-)

     ต่อไปนั้น ชะตาชีวิตขึ้นอยู่กับการ 'สอบเข้า' แน่นอนว่า สอบไม่ติด (ม.1สอบติดนะ แต่มันจะช่วยอะไรได้ในตอนนี้) ร.ร.เราเป็นร.ร.ประจำจังหวัดที่ใครๆรู้จักดี ฉะนั้นการที่เด็กร.ร.อื่นมาสอบเข้าที่นี่ พวกเขานั้นต้องมีความพร้อมที่ดีและความมั่นใจมากที่จะสอบเข้ามา

     และเมื่อสอบไม่ติด ก็ต้องอยู่ในหมวด 'เงื่อนไขพิเศษ' หรือ 'ฝาก'
     เราไม่มีอำนาจมากพอที่จะถีบตัวเองกลับไปในร.ร.ดังที่แสนเข้มงวดกฎระเบียบนัได้ มันจึงตัดข้อนี้ไป

     การแก้ปัญหาขั้นต่อไปคือ 'ย้ายร.ร.'
     ร.ร.ของเราตอนประถม ม.ต้น และร.ร.ที่กำลังจะย้าย อยู่ในตัวเมืองเดียวกัน และละแวกใกล้กัน(มาก) และเมื่อเราต้องย้ายร.ร.เพื่อแก้ไขปัญหา สิ่งที่ต้องเผชิญคือ...
     'เพื่อนเก่าตอนประถม'
     หลายคนอาจไม่แคร์ แต่ฉันบอกเลยว่าฉันแคร์!

     เราเป็นคนที่เข้าหาคนอื่นไม่ค่อยเป็น เป็นประเภทที่รอคนอื่นทักก่อน และคนมองว่า 'หยิ่ง' แต่หารู้มั้ยว่าเราอยากตะโกนอัดหน้าว่า
     "กูไม่ได้หยิ่งโว้ยยย กูแค่ไม่รู้จะเริ่มต้นเข้าหาก่อนยังไง เข้าใจม้ายยย" (ขออภัยในความหยาบ)
     แต่ตลอด3ปีตอนม.ต้น เราก็พยายามปรับตัวได้ระดับหนึ่งแล้วนะ แต่ไม่มากนัก เพราะคิดว่าม.ปลายคงได้อยู่ร.ร.เดิมไม่ต้องอะไร มากและรู้จักกันอยู่
     หารู้ไม่ว่า ตัวเองคิดผิดแค่ไหนเมื่อมาอยู่ ณ จุดนี้

     สังคมรอบข้างที่สิ่งที่คนในปัจจุบันมีอยู่ตลอดเวลา หากขาดมัน มันจะทำให้คุณเป็น 'คนถ้ำ'
     สังคนเพื่อนประถม เป็นสังคมจอมปลอมและบางเบาที่สุด(ในความคิดของเรา) เพราะคุณไม่ค่อยจำมันได้สักเท่าไร แล่ไม่อยากจำ

     และเมื่อเราต้องย้ายไปร.ร.แห่งนั้น เราต้องกลับไปในความทรงจำที่เกลียดแสนเกลียด เจอคนที่ไม่อยากเจอเพราะคิดว่าหลุดพ้นมาแล้วคงไม่ได้เจอกันอีก แต่กลายเป็นว่าต้องกลับไปหามัน
     สิ่งที่ตามมาเมื่อคุณพบกับบุคคลเหล่านั้น คือ คำดูถูก เหยียดหยาม เบียน นินทา เยาะเย้ย ความแค้นที่ฝังลึกในความทรงจำวัยเด็ก
     เรายอมรับเลยว่ากลัวและไม่อยากเจอมากที่สุด และเราก็คงต้องทำใจและยอมรับมัน (แม้ว่าไม่อยากทำก็ตาม)
     เอาจริงๆนะ เราโกรธเพื่อนกลุ่มเดียวกันที่ได้อยู่ร.ร.เดิม และเรารู้ว่าเราไม่ควรโกรธ เพราะพวกเขาไม่ผิด แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกทิ้งนะ แม้รู้ว่าเราไม่ควรรู้สึกอย่างนั้นเพราะถ้าพวกเขารู้ว่าเรารู้สึกยังไง พวกเขาคงรู้สึกแย่
     พวกเขาไม่ผิด และไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ในเรื่องนี้ จะให้พวกเขาย้ายตามเรามาก็ใช่เรื่อง
     คือเอาตรงๆ เราทำใจไม่ได้ เราตัดใจไม่ได้ที่จะไม่ได้เรียนกับพวกเขา กินข้าวเที่ยงกับพวกเขา พูดคุย(เม้าท์)กับพวกเขา (กลุ่มเรามี4คน ญ. ล้วน) พวกเขาคือ 'เพื่อน' จริงๆ เป็นเพื่อนที่ดี เป็นเพื่อนที่เราเปิดใจให้มากที่สุด อย่างที่เราบอกข้างต้อน ร.ร.เป็นร.ร.ดังอยู่ในพระอุมปทัมภ์ คนรู้จักเยอะ ในชั้นเรียนมี14ห้อง แต่ละห้องเฉลี่ยมี50คน เพราะฉะนั้น การหาเพื่อนจากคนหมู่มากแบบนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก พวกเขาเราสามารถเรียกได้ว่าคือเพื่อนจริงๆที่บุคคลๆหนึ่งพึ่งได้เจอ และในเมื่อเราได้เจอแล้ว เราก็ไม่ต้องการให้มันหายไป
     เรารู้...ว่าสิ่งที่เราควรทำคือ ตัดใจกับอดีต และเปิดใจซะ เราคิดว่ามันคงทำให้อะไรๆดีขึ้น...หวังว่านะ

     แหละนี้คือสารขัอความช่วยเหลือของเราที่อยากให้คนอ่านได้ตอบ เพื่อนำทางชะตาชีวิตของเราบ้าง

     เราควรทำยังไงเมื่อเจอ 'เพื่อนเก่า'
     เราควรตอบโต้ยังไงกับคำถามสารทุกข์สุขดิบ แต่มันคือคำประชดและเยาะเย้ยจาก 'เพื่อนเก่า'
     เราควรทำยังไงให้ตัดใจจากร.ร.เก่าให้ได้
     และอันนี้สำคัญ เราควรเข้าหาคนอื่นยังไง เพื่อสร้างพัธมิตร และดูว่าเขาคนนั้นเชื่อใจได้ และไม่รังเกียจหรือดูถูกเรา


     บอกไว้ก่อนว่า
     เราต้องการคอมเม้นที่ชี้แนะ ให้ความรู้ การเอาตัวรอด และกำลังใจจากคนที่มีชะตามกรรมคล้ายกันหรือร้ายแรงกว่าหรือประสงค์อยากตอบ ก็ย่อมได้

     แต่เราไม่ต้องการคอมเม้นที่ต้อกการด่าหรือซ้ำเติม และมีความคิดที่ 'ต่ำ' ว่าเรานั้น โง่ งี่เง่า ปัญหาอ่อน หรือไร้สาระอะไรเทือกๆนั้น เพราะเรารู้ตัวเองดี และเราก็ด่าตัวเองอยู่แล้ว เราไม่ต้องการคำพูดหรือความคิดแย่ๆของใครอีก

     เรารู้ว่าประเด็นหลักๆในความคิดของเรานั้นคือ
     'เพื่อน'
     เพื่อน...คือ สังคมรอบข้าง
     นั้นแหละที่ทุกข์ใจสำหรับเรามากที่สุด


ขอบคุณที่อ่านมาถึงจุดจุดนี้
ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่