หมดเวรหมดกรรมกับเพื่อนประเภทนี้สักที

เราอยู่สวีเดนมาเกือบเก้าปี จะไม่ค่อยมีเพื่อนคนไทยเพราะมัวแต่ยุ่งกับครอบครัว แต่ถ้าเราเจอคนไทยเราก็ชอบที่จะเข้าไปคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ มาเข้าเรื่องเลยคะ เราเป็นคนขี้เกรงใจคน แฟนเรายังถามเราเลย ชีวิตนี้พูดคำว่าไม่เป็นไหม เพราะเห็นเราชอบช่วยเพื่อนตลอด เรารู้จักพี่คนไทยครั้งแรกตอนเราเรียน sfi ทุกวันนี้เราเรียนจบมีงานทำแล้ว แต่พี่เขายังเรียนไม่จบเลย แต่เขาก็มีงานทำเหมือนกัน สมัยเรียนก็ชอบให้เราสอนการบ้าน หรือถามข้อสอบเรา เราก็ช่วยเพราะถือว่าเป็นคนไทยเหมือนกัน แต่ตลอดเวลาที่คบกันมาพี่เขาชอบใช้ให้เราโอนเงินไปไทย โดยใช้บัญชีเราส่งไป ตอนแรกแฟนเราก็ไม่รู้ แต่ความลับไม่มีในโลก แฟนเราก็เตือนบอกระวังเถอะ สมัยก่อนเราไม่มีรายได้อะไร เป็นแค่แม่บ้านหากรัฐเช็คขึ้นมา ปีๆ หนึ่งเราโอนเงินกลับไทยครั้งละเยอะ ระวังจะมีปัญหา เราก็ยังดื้อรั้นช่วยพี่เขา เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่น้องสาวเรามีปัญหาเรื่องเงิน แล้วไปยืมเงินพี่เขาประมาณห้าหมื่นบาท พี่เขาก็ให้ยืมโดยให้เราเป็นคนการันตี เราถึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องช่วยพี่เขาทุกครั้งที่เขาต้องการ จนมาเมื่อเดือน กพ พี่เขาใช้ให้เราโอนเงินไปให้พระสร้างศาลาให้พ่อเขา ลืมบอกไปทุกครั้งที่โอนเงิน บางทีเราต้องสำรองเงินเราไปก่อน เพราะบางทีเราไม่ว่าง หรือขี้เกียจออกนอกบ้าน พี่เขาก็จะนัดให้ไปเอาในเมือง บางทีเราขอนัดเอาเงินคืนพี่เขาก็จะไม่ค่อยพอใจ เรายังคิดเงินของเราออกให้ก่อนทำไมต้องโกรธเราด้วยวะ เราโอนให้เรียบร้อย อีกไม่กี่วันพี่เขาส่งข้อความมา ขอยืมเงินเราสี่หมื่นบาท เราบอกไม่มี อีก สองวันต่อมาส่งมาอีกคราวนี้ขอยืมหกหมื่นบาท เราบอกไม่มี เรายังนึก พี่นี่ชักยังๆ ไง ยังไงแล้ว ล่าสุดบอกเลย ขอยืมสองแสน เราบอกจะไปเอาที่ไหน เราไม่มี พี่เขาบอกเขารู้ว่าเรามีเงิน เพราะเราเริ่มทำงานและเราไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายในบ้าน เราเลยบอกเรามีแต่ถ้าพี่กล้ามายืมกับแฟนหนูพี่ก็มาเลย แล้วพี่เขาก็งอลเรา ทุกวันนี้ไม่ว่าพี่จะส่งข้อความอะไรมาเราจะไม่ตอบกลับทั้งสิ้น จนพี่เขาส่งมาว่ากลัวเขายืมเงินไง เราเลยไม่รู้ว่าเขาแกล้งลองใจเราหรือเปล่า แต่เราก็ตัดสินใจที่จะเลิกคบพี่เขาแล้ว เพราะตลอดเวลาที่คบกันมาพี่เขาใช้เราตลอด เวลาเรากลับไทยก็โทรจิกเราให้ซื้อของหิ้วของกลับมาให้ แต่พอตัวเองกลับไทยไม่เคยบอกเราสักคำ หรือจะเลื่อนตั๋วเครื่องบินแม่ของตัวเองก็ยังจะใช้เรา เราเลยคิดว่าจบกันสักทีเพื่อนแบบนี่
    คนที่สองนี่หนักกว่า น้องเขาอายุน้อยกว่าเรา คบกันได้เกือบสองปี เพิ่งเลิกคบไปเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ยังนึกเราทนกับคนประเภทนี้ได้ไงวะ เจอกันครั้ง
แรกน้องเขาก็บอกเลยว่า ไม่คบคนไทย คนไทยเรื่องมาก ชอบคุยอวด ชอบขายหอย ที่เด็ดคือน้องบอกน้องเป็นองค์ของกุมารทอง เราเชื่อเรื่องนี้ เราเลยชอบปรึกษาปัญหาชีวิตเรื่องแฟนเราชอบเข้มงวดกับเราบ้างละ ปัญหาของน้องๆ เรา หรือปัญหาสุขภาพของแม่แฟน ซึ่งน้องเขาก็คอยให้คำแนะนำเราตลอด แต่ชีวิตน้องเขาดีจริงๆ ไม่เคยมีปัญหาครอบครัว แฟนน้องก็ใจดี แต่น้องเขาชอบมาว่าอาของเขาให้ฟัง ว่าอาของเขาว่า ว่าเขาเนรคุณช่วยให้มาเจอผู้ชายที่สวีเดนแล้วก็ลืมอา อาของเขาสงสัยจะโดนของเพราะหน้าดำ เราก็ได้แต่อือออไปกับเขา หรือน้องเขาไม่ชอบคนไทยที่ทำงานด้วยที่ชอบมาคุยว่าสามีของคนไทยคนนั้นยกบ้านให้ น้องเขาก็สั่งเราว่าอย่าไปพูดกับคนไทยคนนี้ เราก็ไม่สนเพราะเราไม่ได้มีปัญหากับพี่เขาสักหน่อยเจอกันที่ซุปเปอร์ที่พี่เขาทำงานเราก็ทักตามประสาคนไทย แต่พักหลังๆ น้องชอบส่งข้อความ ส่งรูป มาทางโทรศัพท์ ว่าซื้อกระเป๋าราคาแพงมียี่ห้อ อวดเรา หรือทำงานได้เงินเดือนๆ ละเกือบแสน  อันนี้เราต้องฟังจากน้องเขาทุกเดือนเรื่องเงินเดือน กลับไทยทีก็ใช้เงินครั้งละห้าแสน ส่งเงินให้พ่อแม่ปลูกบ้าน แบบคนมันมีตังอะ เราเลยคิดว่าน้องคนนี้ต้องมีปมด้อยแหงๆ ครั้งหนึ่งเราเคยทดสอบส่งรูปเสื้อกันหนาวไปว่าเราซื้อมาตัวละหกพันบาท น้องเขารีบส่งรูปเสื้อกันหนาวกลับมาเลย แล้วบอกว่าของเขาราคาแปดพันบาท แพงกว่าของเราอีกคือยังไงๆ น้องเขาต้องขอเหนือกว่าเรา แต่ไอ้ที่สุดทนก็คือ แต่ก่อนน้องเขาไม่เคยเล่น facebook แต่พอเล่น ก็ขอแอดเราเป็นเพื่อน เหตุก็เลยเกิดเพพราะเราดันโพสรูปใบประกาศที่เราเรียนจบครอสเรียนสายอาชีพ ใน Facebook เรามีเพื่อนเรามากด like และแสดงความยินดีกันล้นหลาม น้องเขาก็โพสประมาณ-ดันว่า ที่จบมาได้ต้องไปขอบคุณหัวหน้าด้วยนะที่ช่วยทำการบ้านให้ เราจะบอกเลยถ้าใครติดตาม Facebook เราจะรู้ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่เราเรียน ฝึกงาน และทำงาน เราไม่เคยบอกเลยว่าตัวเองเก่ง จะบอกตลอดการบ้านทุกข้อหัวหน้ากับแฟนเราช่วยทำตลอด เพราะเราพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง และเราก็ยอมรับเกรด E ที่ครูให้เราทุกวิชา น้องยังไม่หยุดส่งข้อความมาทางโทรศัพท์ ว่าทำไมต้องโพสอวดด้วย น้องเขาก็เรียนจบแบบเราเขายังไม่เห็นต้องอวดเลย แถมเอาโพสเราให้เพื่อนร่วมงานน้องดูทุกคนหัวเราะเยาะกันใหญ่ เราไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า อีกเรื่องเรานัดเพื่อนคนอื่นมากินก๋วยเตี๋ยวที่บ้านเรา น้องเขาก็โพส เพื่อนกันไปจำเป็นต้องมาเจอกัน ขอให้นึกถึงกันก็พอ เราไม่รู้หมายถึงใคร แต่วันที่เราทำก๋วยเตี๋ยวเราสัญญาว่าจะเอาไปให้น้องเขาเหมือนกัน แต่เราผิดเองดันคุยกับเพื่อนติดลมเลยเอาไปให้ไม่ได้ เลยบอกให้แฟนน้องเขา กับเขาขับรถมาเอา บ้าน้องเขาห่างจากบ้านเราประมาณสิบนาที น้องเขาก็มาเอา แต่ตอนที่มาเอาเราก็ตักน้ำซุปใส่กระป๋องไว้ให้ แต่ฝนมันตกน้องเขาจะเอาหมวกที่เสื้อแจ๊คเก๊ตคลุมหัว แต่ดันพลาดทำกล่องน้ำซุปหล่นกระจายหน้าบ้านเราเลย แล้วน้องเขาก็บอกเราว่ากุมารของเขาคงไม่พอใจที่เราเอาของเหลือมาให้เลยปัดของหก เราบอกมันไม่ใช่ของเหลือนะ เพราะเราก็ตุ๋นและตักกินไปเรื่อยๆ เท่านั้นเอง เพียงแต่น้องเขาเป็นคนสุดท้าย วันรุ่งขึ้นส่งข้อความมาต่อว่าเรา ว่าเอาของเหลือให้กินเลยทำให้เขาไม่สบาย ทีหลังไม่ต้องทำอะไรมาให้กินแล้ว ตั้งแต่นั้นมาเราเลยไม่ตอบหรือส่งข้อความใดๆกลับทั้งสิ้น แล้วน้องเขาก็ unfriend เราที่ Facebook เรายังคิดดี ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก แต่น้องเขาคงทนไม่ได้ ส่งข้อความมาอีก แต่ไม่วายเสียดสีเรา บอกว่าเราเรียนจบแล้วมีใบประกาศ ลองมาสมัครที่ซุปเปอร์ที่เขาทำงานดิ แต่ที่นี่เขารับแต่คนฉลาด ที่พูดภาษาสเวนรู้เรื่องนะ เราไม่ตอบ หรือ มีคนไทยจะช่วยให้ฝากเข้าทำงาน แต่ไม่อยากช่วย เพราะเดี๋ยวจะเนรคุณแบบคนบางคน อันนี้น้องเขาหมายถึงเรา เพราะตอนที่เราไปขอฝึกงานซุปเปอร์ที่เราทำงานอยู่ทุกวันนี้น้องเขาไปกับเราด้วย น้องเขาบอกเราดวงไม่ดี ที่ได้ที่ฝึกงานเพราะกุมารเขาช่วยไว้ ล่าสุดส่งมา บอกว่าถ้าเรารับไม่ได้กับที่จะคบเพื่อนที่จริงใจและพูดแรงอย่างเขาก็ไม่ต้องมาคบกัน แต่ขอบอกเขายังรู้อะไรดีๆของเราเยอะที่กุมารไม่ให้บอก เราเลยคิดช่างเถอะ แล้วเล่าเรื่องที่เลิกคบกับเพื่อนสองคนนี้ให้แฟนฟัง แฟนเราก็ยิ้มและพูดว่าตลอดเวลามีเมียเป็นควาย วันนี้เมียเขาเป็นคนไม่มีเขาแล้ว หัดคบคนดีๆ ที่ไม่เอาเปรียบเรา และหยุดใจดีซะที เราเลยคิดหมดเวรหมดกรรมสักทีกับเพื่อนประเภทนี้ แต่เราก็ไม่รู้จะทำยังไงถ้าเจอหน้ากับสองคนนี้แบบจังๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่