26 เม.ย. 59 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุ พร้อมทั้งสอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีที่มีภาพทหารเดินแจกใบปลิวในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ เพื่อชักชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิรับร่างรัฐธรรมนูญว่าผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 หรือไม่ว่า กรณีดังกล่าวต้องแยกออกเป็น 2 กรณี ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ ในมาตรา 9 ได้ระบุว่ากกต. สามารถมอบหมายให้บุคคลหรือคณะบุคคล หน่วยงานภาครัฐ เผยแพร่และประชาสัมพันธ์สนับสนุนงานของกกต.ได้
และมาตรา 10 ระบุว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีหน้าที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจในเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญ โดยให้หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยสนับสนุนให้ความร่วมมือได้ ซึ่งถือว่าการดำเนินการของทหารที่แจกใบปลิวรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติถือว่าสามารถทำได้ เพราะการดำเนินการต่างๆเป็นไปด้วยความสุจริต และไม่ได้ผิดไปจากข้อเท็จจริง
อีกทั้งตามมาตรา 61 ผู้ใดดำเนินการเผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือในช่องทางอื่นใดที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง หรือมีลักษณะรุนแรงก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิ์ออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ถือว่ากระทำผิด ซึ่งการดำเนินการของทหารไม่ได้ขัดต่อพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายวรชัย ระบุว่าทหารไปรณรงค์ให้รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น ตามนโยบายของพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคสช.ชัดเจนอยู่แล้วว่าห้ามไปชี้นำให้ดำเนินการแค่เพียงรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ให้มากที่สุด เพื่อสนับสนุนการดำเนินให้เป็นไปตามกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย
ซึ่งประเด็นนี้นายวรชัยอาจถูกดำเนินคดีได้ในข้อหาหมิ่นประมาท ตนถามว่านายวรชัยมีหลักฐานหรือไม่ว่าทหารคนดังกล่าวไปรณรงค์ให้รับร่างรัฐธรรมนูญจริง ซึ่งตามแนวทางที่ผ่านมาการเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งส.ส. หรือส.ว. มีความชัดเจนอยู่แล้วว่ารณรงค์ได้ แต่การใช้สิทธิ์จะเป็นไปแนวทางใดนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแต่ละบุคคล นายวรชัยอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน
พ.อ.วินธัย ยังกล่าวถึงกรณีที่อ.เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว นักวิชาการจากสถาบันสิทธิมนุษยชนศึกษา และการพัฒนาสังคม ม.มหิดล แจกจ่ายเอกสารรณรงค์โหวตโนไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญว่า หากพิจารณาจากเนื้อหาในเอกสาร จำนวน 7 ข้อ ที่นำมาเผยแพร่พบว่าเนื้อหาเข้าข่ายก่อความวุ่นวายตามมาตรา 61 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 และการเผยแพร่ดังกล่าวโดยผ่านสื่อมีเนื้อหาผิดไปจากข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ถ้าไม่มั่นใจควรหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ไว้ก่อน ทั้งนี้ในข้อความตามเหตุผลทั้ง 7 ข้อในแผ่นพับเป็นเหมือนการคาดเดาใช้ความรู้สึกส่วนบุคคลที่ขาดการพิสูจน์ข้อเท็จจริงมาสนับสนุนชัดเจน หากพิจารณาดูคร่าวๆ เบื้องต้นน่าจะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 61 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 อย่างไรก็ตามถือเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะต้องดำเนินการในการเอาผิด
ที่มา :
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1461657012
✿ คสช. ยันทหารแจกใบปลิวประชามติทำได้ ส่วน อ.มหิดล แจกเอกสารโหวตโน ผิดชัดเจน...ชัดยัง ยังจะเถียงอีกมะ อิ อิ :)
26 เม.ย. 59 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุ พร้อมทั้งสอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีที่มีภาพทหารเดินแจกใบปลิวในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ เพื่อชักชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิรับร่างรัฐธรรมนูญว่าผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 หรือไม่ว่า กรณีดังกล่าวต้องแยกออกเป็น 2 กรณี ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ ในมาตรา 9 ได้ระบุว่ากกต. สามารถมอบหมายให้บุคคลหรือคณะบุคคล หน่วยงานภาครัฐ เผยแพร่และประชาสัมพันธ์สนับสนุนงานของกกต.ได้
และมาตรา 10 ระบุว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีหน้าที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจในเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญ โดยให้หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยสนับสนุนให้ความร่วมมือได้ ซึ่งถือว่าการดำเนินการของทหารที่แจกใบปลิวรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติถือว่าสามารถทำได้ เพราะการดำเนินการต่างๆเป็นไปด้วยความสุจริต และไม่ได้ผิดไปจากข้อเท็จจริง
อีกทั้งตามมาตรา 61 ผู้ใดดำเนินการเผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือในช่องทางอื่นใดที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง หรือมีลักษณะรุนแรงก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิ์ออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ถือว่ากระทำผิด ซึ่งการดำเนินการของทหารไม่ได้ขัดต่อพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายวรชัย ระบุว่าทหารไปรณรงค์ให้รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น ตามนโยบายของพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคสช.ชัดเจนอยู่แล้วว่าห้ามไปชี้นำให้ดำเนินการแค่เพียงรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ให้มากที่สุด เพื่อสนับสนุนการดำเนินให้เป็นไปตามกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย
ซึ่งประเด็นนี้นายวรชัยอาจถูกดำเนินคดีได้ในข้อหาหมิ่นประมาท ตนถามว่านายวรชัยมีหลักฐานหรือไม่ว่าทหารคนดังกล่าวไปรณรงค์ให้รับร่างรัฐธรรมนูญจริง ซึ่งตามแนวทางที่ผ่านมาการเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งส.ส. หรือส.ว. มีความชัดเจนอยู่แล้วว่ารณรงค์ได้ แต่การใช้สิทธิ์จะเป็นไปแนวทางใดนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแต่ละบุคคล นายวรชัยอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน
พ.อ.วินธัย ยังกล่าวถึงกรณีที่อ.เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว นักวิชาการจากสถาบันสิทธิมนุษยชนศึกษา และการพัฒนาสังคม ม.มหิดล แจกจ่ายเอกสารรณรงค์โหวตโนไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญว่า หากพิจารณาจากเนื้อหาในเอกสาร จำนวน 7 ข้อ ที่นำมาเผยแพร่พบว่าเนื้อหาเข้าข่ายก่อความวุ่นวายตามมาตรา 61 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 และการเผยแพร่ดังกล่าวโดยผ่านสื่อมีเนื้อหาผิดไปจากข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ถ้าไม่มั่นใจควรหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ไว้ก่อน ทั้งนี้ในข้อความตามเหตุผลทั้ง 7 ข้อในแผ่นพับเป็นเหมือนการคาดเดาใช้ความรู้สึกส่วนบุคคลที่ขาดการพิสูจน์ข้อเท็จจริงมาสนับสนุนชัดเจน หากพิจารณาดูคร่าวๆ เบื้องต้นน่าจะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 61 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 อย่างไรก็ตามถือเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะต้องดำเนินการในการเอาผิด
ที่มา : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1461657012