สวัสดีค่ะทุกคนนน
หลายๆคนอาจจะรู้สึกว่า ชื่อกระทู้ดูซ้ำจนไม่น่าให้อภัย
แต่คนตั้งกระทู้เก่าและกระทู้ใหม่ ล้วนแต่เป็นเราเอง ไม่ต้องตกใจค่ะ อิอิ
ส่วนใครที่ยังไม่เคยอ่านกระทู้เก่า สามารถกลับไปอ่านได้ตามลิงค์ในสปอยล์เลยค่ะ ^^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/34836100
ก่อนอื่น ขอขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ชื่นชอบกระทู้เก่ามากๆ รู้สึกปลื้มใจจริงๆค่ะ ไม่คิดว่าผลตอบรับจะถล่มทลายขนาดนี้
คราวนี้เรามีประสบการณ์จากการทำล่ามศัลยกรรมมาเล่าให้ฟังอีกครั้งค่ะ
แต่คราวนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องที่เตือนใจคนที่จะมาทำศัลยกรรมที่เกาหลีได้ประมาณหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ
เนื่องจากเราเป็นล่ามศัลยกรรม ถึงจะไม่ได้ประจำรพ.ใดรพ.หนึ่ง แต่ก็จะมีรพ.ที่เราทำด้วยบ่อยๆ และเราสามารถติดต่อรพ.เพื่อถามราคาให้ได้อยู่
ก็เลยทำให้หลายๆคน นอกจากจะจ้างเราเป็นล่ามแล้ว ก็มักจะมาปรึกษาการทำศัลยกรรมกับเราด้วย
โดยเหตุการณ์ที่จะเล่านี้ ขอแบ่งตัวละครเป็น พี่ A พี่ B พี่ C และ คุณ ก.
เริ่มจาก...
พี่ A ได้ติดต่อทักเราเข้ามา เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการเป็นล่ามศัลยกรรม และได้ถามข้อมูลเกี่ยวกับรพ.
แต่พี่ A ก็บอกตรงๆแหละ ว่าเขาจะไปทำกับรพ.ที่ คุณ ก. เพื่อนเขาแนะนำมา โดยอาจจะให้เราไปเป็นล่ามให้
ซึ่งเราก็โอเค โดยพี่ A ก็บอกวันที่จะมาทำศัลยกรรมให้กับเรานะ แต่ว่าพี่เขาบอกว่ายังไม่แน่นอน เราก็เลยไม่ได้อะไร
เพราะพี่เขาก็ยังลังเลเรื่องรพ.ด้วย หลังจากนั้นก็มีคุยรีวิวเรื่องรพ.กันมาเรื่อยๆ เพราะเราเป็นคนไม่คิดมาก ทำงานด้านนี้
ทุกคนอยากคุยเพื่อถามความรู้ความปลอดภัยอยู่แล้ว ซึ่งเราชอบมากๆที่จะอธิบายให้คนที่เข้ามาคุยด้วยฟังนะ เพราะมันเป็นเรื่องที่เขาควรรู้
จนเวลาผ่านไปเกือบเดือน จนถึงวันที่พี่ A บอกเราไว้ว่าจะมาเกาหลี แต่พี่เขาไม่ได้ติดต่อเราเข้ามา เราก็เลยไม่ได้ทักไป
ก็คิดว่าพี่เขาอาจจะเปลี่ยนใจไม่มาทำแล้ว และเราเป็นคนไม่ชอบจิกลูกค้า 555 ถ้าเขาอยากมาทำ เขาก็มาทำ เราคิดแบบนั้น
แต่แล้ว เวลาผ่านพ้นไปจากวันที่พี่เขาบอกไว้ 2-3 วัน พี่ A ก็ไลน์มาหาเรา
แต่เนื่องจากเรามือเจ็บ เราเลยโทรไลน์กลับไปหาเขาแทน ก็เลยได้ความว่า...
พี่ A มาทำศัลยกรรมเรียบร้อยแล้ว โดยมีพี่ B และ พี่ C มาพร้อมกัน ทุกคนไม่มีใครรู้จักกันมาก่อน แต่รู้จักคุณ ก.
แล้วมีเหตุบังเอิญว่า พี่ C ไปแอบได้ยินคุณก. พูดกับเพื่อนอีกคนเรื่องค่านายหน้า ทั้งๆที่ตอนที่พาทั้ง 3 คนมา บอกว่าแค่พามาเฉยๆไม่มีค่านายหน้าใดๆ
พี่ C เลยเอาเรื่องราวมาบอก พี่ A และ พี่ B ทีนี้ ปัญหาเลยตามมา...
พี่ A และ พี่ B ต้องการไปขอใบเสร็จจากรพ. แต่เนื่องจากสื่อสารกันไม่เข้าใจ รพ. เลยไม่ยอมออกให้ บอกให้ไปคุยกับ คุณ ก. เองเท่านั้น
นั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่พี่ A ไลน์มาหาเรานั่นเอง
แต่จากที่เราทำงานด้านนี้มาสักพัก เราพอจะรู้แหละ ว่าการเป็นนายหน้า เขารับเงินกันแบบไหน ซึ่งถ้าไปคุยกับรพ. เราก็ไม่สามารถช่วยบังคับให้รพ.บอกราคาที่แท้จริงได้หรอก
คือเราก็บอกพี่ๆเขาไปตรงๆ ตัวเราก็อยากได้งานนะ แต่ถ้าเขาจ้างเราไปแล้วช่วยอะไรไม่ได้ เราว่ามันก็ไม่แฟร์กับเขาอ่ะ
แต่เราก็ถามแหละว่าพี่เขาจ่ายเงินให้รพ.โดยตรงหรือจ่ายให้กับ คุณ ก.
ซึ่งประเด็นคือเขาจ่ายให้ คุณ ก. ทั้งหมด โดยไม่มีใบเสร็จจากรพ. เราก็เลยบอกว่า ถ้างั้น เราเข้าไปขอใบเสร็จให้ได้นะ เราไม่เอาเงิน แต่เราจะไม่ทะเลาะ ไม่สู้อะไรให้มากมาย
ส่วนตัวเราเองก็ไม่อยากมีปัญหากับใครด้วย ซึ่งพี่เขาโอเคในจุดนี้
เช้าวันรุ่งขึ้นเลยนัดเจอกันที่ร้านกาแฟ ก่อนไปที่รพ. เพราะเราต้องการข้อมูลทั้งหมดก่อนไปคุย
พอเราเจอ พี่ทั้ง2 คน พี่ B ก็เลยเขียนราคาที่ทำทั้งหมดใส่กระดาษแล้วไปที่รพ.ด้วยกัน
พอไปถึง จริงๆรพ.ก็แอบมีลับลมคมในแหละ พอถามอะไร ก็โทรหาคนนั้นคนนี้ก่อน ให้รอตั้งนาน
จนต้องไปเรียกตั้ง 2 รอบ แล้วถึงจะมี เมเนเจอร์มาคุยด้วย
แต่ก่อนคุย ก็ยังให้เข้าไปเช็คแผลก่อน ซึ่งตัวเราก็รู้สึกว่ามันคือการอิดออด ที่จะให้ข้อมูลอ่ะ
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็เลยต้องเข้าไปเช็คแผลก่อน ซึ่งพี่ B แกถือโพยราคาที่แกโดนไปตลอดเวลา
ในขณะที่หมอกำลังเช็คแผลอยู่ เมเนเจอร์ก็พูดนั่นพูดนี่ แล้วหูตาแกก็ซอกแซก ไปเห็นกระดาษที่พี่ B ถือ
แกก็เลยขอมาดู แล้วเมเนเจอร์ก็ถามว่า นี่คือค่าอะไร เป็นเงินสกุลอะไร พี่ A ที่นั่งรออยู่ในห้องรอตรวจแผลเหมือนกันก็เลยมายืนข้างเรา
ให้แปลให้ว่า นี่คือเงินวอนที่เขาจ่ายเพื่อทำหน้ากันทั้งหมด
ทีนี้ เมเนเจอร์ก็ตาโดเลยสิ
เพราะ ราคาที่พี่ A จ่ายไป คือเกินจากที่รพ.ได้รับมา 2ล้านวอน และพี่ B คือ 5ล้านวอน
ถ้าเทียบเป็นเงินไทย ก็ระดับแสนบาทเลยทีเดียว
ทีนี้ เมเนเจอร์เลยบอกว่า งั้นรอก่อน จะทำใบเสร็จมาให้ โดยพี่ B ก็เป็นห่วงพี่ C ที่จะกลับไทยไปแล้ว เลยขอใบเสร็จเผื่อให้
แต่กลายเป็นว่า พี่ C ไม่โดนบวก (ตอนหลังมาทราบว่าพี่ C เป็นเพื่อนกันกับคุณ ก.)
ทีนี้ พี่ B กับ พี่ A ก็ไม่พอใจขั้นสุดแล้วค่ะ เขาก็ไปติดต่อคุยกันเอง ถึงขั้นจะแจ้งความ
จริงๆพี่ๆเขาบอกว่าจะคิดค่านายหน้าเขาก็ไม่ว่า แต่ควรบอกเขาตรงๆไม่ใช่มาหลอกเอาเงินไปแบบนี้
สรุปสุดท้าย เขาไปคุยกันเอง และได้เงินคืนครบ สบายใจไป
จากการเล่า เหมือนเรื่องดำเนินไปได้ง่ายมากๆ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย
เอาจริงๆเราก็กลัวนะ ไม่อยากมีปัญหากับใคร ไม่เอาตัวเองไปเกี่ยวข้อง
แต่ว่าก็อยากเอามาเล่าให้เป็นอุทาหรสำหรับคนที่คิดว่า ไปกับคนรู้จักไม่น่าโดนหลอก...
คือโดนคนรู้จักหลอกนี่มันน่าเจ็บใจกว่าเสียเงินให้นายหน้าอีกนะคะ
ที่สำคัญเวลามาทำศัลยกรรมที่นี่นะ ต้องจ่ายเงินที่เคาเตอร์ของโรงพยาบาลเท่านั้นนะ
อีกเรื่องคือ คนชอบเคลมว่า รพ.ที่ตัวเองทำอ่ะ เกิร์ลกรุ๊ปดังๆของเกาหลีมาทำที่นี่ตลอด คือ...
อย่าไปเชื่อมากค่ะ พวกเซเลปเวลาไปทำที่ไหนอ่ะ เขาต้องเก็บเป็นความลับตลอด ถ้าใครโม้ว่าที่นั่นที่นี่ทำให้คนนั้นคนนี้ ฟังหูไว้หูก่อนค่ะ
สุดท้ายแล้ววว เราเพิ่งเปิดเพจเพื่อแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลการทำศัลยกรรม โดยเราแปลมาจากรพ.หลายๆที่อ่ะค่ะ
ถ้าใครสนใจข้อมูลก็เข้าไปตามอ่านกันได้น้าา เป็นข้อมูลก่อนคิดจะไปทำ
ลิงค์ในสปอยล์เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/kbeautyadvisor/
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
ครั้งหนึ่งฉันเคยเป็นล่ามศัลยกรรมที่เกาหลี vol.2
หลายๆคนอาจจะรู้สึกว่า ชื่อกระทู้ดูซ้ำจนไม่น่าให้อภัย
แต่คนตั้งกระทู้เก่าและกระทู้ใหม่ ล้วนแต่เป็นเราเอง ไม่ต้องตกใจค่ะ อิอิ
ส่วนใครที่ยังไม่เคยอ่านกระทู้เก่า สามารถกลับไปอ่านได้ตามลิงค์ในสปอยล์เลยค่ะ ^^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนอื่น ขอขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ชื่นชอบกระทู้เก่ามากๆ รู้สึกปลื้มใจจริงๆค่ะ ไม่คิดว่าผลตอบรับจะถล่มทลายขนาดนี้
คราวนี้เรามีประสบการณ์จากการทำล่ามศัลยกรรมมาเล่าให้ฟังอีกครั้งค่ะ
แต่คราวนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องที่เตือนใจคนที่จะมาทำศัลยกรรมที่เกาหลีได้ประมาณหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ
เนื่องจากเราเป็นล่ามศัลยกรรม ถึงจะไม่ได้ประจำรพ.ใดรพ.หนึ่ง แต่ก็จะมีรพ.ที่เราทำด้วยบ่อยๆ และเราสามารถติดต่อรพ.เพื่อถามราคาให้ได้อยู่
ก็เลยทำให้หลายๆคน นอกจากจะจ้างเราเป็นล่ามแล้ว ก็มักจะมาปรึกษาการทำศัลยกรรมกับเราด้วย
โดยเหตุการณ์ที่จะเล่านี้ ขอแบ่งตัวละครเป็น พี่ A พี่ B พี่ C และ คุณ ก.
เริ่มจาก...
พี่ A ได้ติดต่อทักเราเข้ามา เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการเป็นล่ามศัลยกรรม และได้ถามข้อมูลเกี่ยวกับรพ.
แต่พี่ A ก็บอกตรงๆแหละ ว่าเขาจะไปทำกับรพ.ที่ คุณ ก. เพื่อนเขาแนะนำมา โดยอาจจะให้เราไปเป็นล่ามให้
ซึ่งเราก็โอเค โดยพี่ A ก็บอกวันที่จะมาทำศัลยกรรมให้กับเรานะ แต่ว่าพี่เขาบอกว่ายังไม่แน่นอน เราก็เลยไม่ได้อะไร
เพราะพี่เขาก็ยังลังเลเรื่องรพ.ด้วย หลังจากนั้นก็มีคุยรีวิวเรื่องรพ.กันมาเรื่อยๆ เพราะเราเป็นคนไม่คิดมาก ทำงานด้านนี้
ทุกคนอยากคุยเพื่อถามความรู้ความปลอดภัยอยู่แล้ว ซึ่งเราชอบมากๆที่จะอธิบายให้คนที่เข้ามาคุยด้วยฟังนะ เพราะมันเป็นเรื่องที่เขาควรรู้
จนเวลาผ่านไปเกือบเดือน จนถึงวันที่พี่ A บอกเราไว้ว่าจะมาเกาหลี แต่พี่เขาไม่ได้ติดต่อเราเข้ามา เราก็เลยไม่ได้ทักไป
ก็คิดว่าพี่เขาอาจจะเปลี่ยนใจไม่มาทำแล้ว และเราเป็นคนไม่ชอบจิกลูกค้า 555 ถ้าเขาอยากมาทำ เขาก็มาทำ เราคิดแบบนั้น
แต่แล้ว เวลาผ่านพ้นไปจากวันที่พี่เขาบอกไว้ 2-3 วัน พี่ A ก็ไลน์มาหาเรา
แต่เนื่องจากเรามือเจ็บ เราเลยโทรไลน์กลับไปหาเขาแทน ก็เลยได้ความว่า...
พี่ A มาทำศัลยกรรมเรียบร้อยแล้ว โดยมีพี่ B และ พี่ C มาพร้อมกัน ทุกคนไม่มีใครรู้จักกันมาก่อน แต่รู้จักคุณ ก.
แล้วมีเหตุบังเอิญว่า พี่ C ไปแอบได้ยินคุณก. พูดกับเพื่อนอีกคนเรื่องค่านายหน้า ทั้งๆที่ตอนที่พาทั้ง 3 คนมา บอกว่าแค่พามาเฉยๆไม่มีค่านายหน้าใดๆ
พี่ C เลยเอาเรื่องราวมาบอก พี่ A และ พี่ B ทีนี้ ปัญหาเลยตามมา...
พี่ A และ พี่ B ต้องการไปขอใบเสร็จจากรพ. แต่เนื่องจากสื่อสารกันไม่เข้าใจ รพ. เลยไม่ยอมออกให้ บอกให้ไปคุยกับ คุณ ก. เองเท่านั้น
นั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่พี่ A ไลน์มาหาเรานั่นเอง
แต่จากที่เราทำงานด้านนี้มาสักพัก เราพอจะรู้แหละ ว่าการเป็นนายหน้า เขารับเงินกันแบบไหน ซึ่งถ้าไปคุยกับรพ. เราก็ไม่สามารถช่วยบังคับให้รพ.บอกราคาที่แท้จริงได้หรอก
คือเราก็บอกพี่ๆเขาไปตรงๆ ตัวเราก็อยากได้งานนะ แต่ถ้าเขาจ้างเราไปแล้วช่วยอะไรไม่ได้ เราว่ามันก็ไม่แฟร์กับเขาอ่ะ
แต่เราก็ถามแหละว่าพี่เขาจ่ายเงินให้รพ.โดยตรงหรือจ่ายให้กับ คุณ ก.
ซึ่งประเด็นคือเขาจ่ายให้ คุณ ก. ทั้งหมด โดยไม่มีใบเสร็จจากรพ. เราก็เลยบอกว่า ถ้างั้น เราเข้าไปขอใบเสร็จให้ได้นะ เราไม่เอาเงิน แต่เราจะไม่ทะเลาะ ไม่สู้อะไรให้มากมาย
ส่วนตัวเราเองก็ไม่อยากมีปัญหากับใครด้วย ซึ่งพี่เขาโอเคในจุดนี้
เช้าวันรุ่งขึ้นเลยนัดเจอกันที่ร้านกาแฟ ก่อนไปที่รพ. เพราะเราต้องการข้อมูลทั้งหมดก่อนไปคุย
พอเราเจอ พี่ทั้ง2 คน พี่ B ก็เลยเขียนราคาที่ทำทั้งหมดใส่กระดาษแล้วไปที่รพ.ด้วยกัน
พอไปถึง จริงๆรพ.ก็แอบมีลับลมคมในแหละ พอถามอะไร ก็โทรหาคนนั้นคนนี้ก่อน ให้รอตั้งนาน
จนต้องไปเรียกตั้ง 2 รอบ แล้วถึงจะมี เมเนเจอร์มาคุยด้วย
แต่ก่อนคุย ก็ยังให้เข้าไปเช็คแผลก่อน ซึ่งตัวเราก็รู้สึกว่ามันคือการอิดออด ที่จะให้ข้อมูลอ่ะ
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็เลยต้องเข้าไปเช็คแผลก่อน ซึ่งพี่ B แกถือโพยราคาที่แกโดนไปตลอดเวลา
ในขณะที่หมอกำลังเช็คแผลอยู่ เมเนเจอร์ก็พูดนั่นพูดนี่ แล้วหูตาแกก็ซอกแซก ไปเห็นกระดาษที่พี่ B ถือ
แกก็เลยขอมาดู แล้วเมเนเจอร์ก็ถามว่า นี่คือค่าอะไร เป็นเงินสกุลอะไร พี่ A ที่นั่งรออยู่ในห้องรอตรวจแผลเหมือนกันก็เลยมายืนข้างเรา
ให้แปลให้ว่า นี่คือเงินวอนที่เขาจ่ายเพื่อทำหน้ากันทั้งหมด
ทีนี้ เมเนเจอร์ก็ตาโดเลยสิ
เพราะ ราคาที่พี่ A จ่ายไป คือเกินจากที่รพ.ได้รับมา 2ล้านวอน และพี่ B คือ 5ล้านวอน
ถ้าเทียบเป็นเงินไทย ก็ระดับแสนบาทเลยทีเดียว
ทีนี้ เมเนเจอร์เลยบอกว่า งั้นรอก่อน จะทำใบเสร็จมาให้ โดยพี่ B ก็เป็นห่วงพี่ C ที่จะกลับไทยไปแล้ว เลยขอใบเสร็จเผื่อให้
แต่กลายเป็นว่า พี่ C ไม่โดนบวก (ตอนหลังมาทราบว่าพี่ C เป็นเพื่อนกันกับคุณ ก.)
ทีนี้ พี่ B กับ พี่ A ก็ไม่พอใจขั้นสุดแล้วค่ะ เขาก็ไปติดต่อคุยกันเอง ถึงขั้นจะแจ้งความ
จริงๆพี่ๆเขาบอกว่าจะคิดค่านายหน้าเขาก็ไม่ว่า แต่ควรบอกเขาตรงๆไม่ใช่มาหลอกเอาเงินไปแบบนี้
สรุปสุดท้าย เขาไปคุยกันเอง และได้เงินคืนครบ สบายใจไป
จากการเล่า เหมือนเรื่องดำเนินไปได้ง่ายมากๆ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย
เอาจริงๆเราก็กลัวนะ ไม่อยากมีปัญหากับใคร ไม่เอาตัวเองไปเกี่ยวข้อง
แต่ว่าก็อยากเอามาเล่าให้เป็นอุทาหรสำหรับคนที่คิดว่า ไปกับคนรู้จักไม่น่าโดนหลอก...
คือโดนคนรู้จักหลอกนี่มันน่าเจ็บใจกว่าเสียเงินให้นายหน้าอีกนะคะ
ที่สำคัญเวลามาทำศัลยกรรมที่นี่นะ ต้องจ่ายเงินที่เคาเตอร์ของโรงพยาบาลเท่านั้นนะ
อีกเรื่องคือ คนชอบเคลมว่า รพ.ที่ตัวเองทำอ่ะ เกิร์ลกรุ๊ปดังๆของเกาหลีมาทำที่นี่ตลอด คือ...
อย่าไปเชื่อมากค่ะ พวกเซเลปเวลาไปทำที่ไหนอ่ะ เขาต้องเก็บเป็นความลับตลอด ถ้าใครโม้ว่าที่นั่นที่นี่ทำให้คนนั้นคนนี้ ฟังหูไว้หูก่อนค่ะ
สุดท้ายแล้ววว เราเพิ่งเปิดเพจเพื่อแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลการทำศัลยกรรม โดยเราแปลมาจากรพ.หลายๆที่อ่ะค่ะ
ถ้าใครสนใจข้อมูลก็เข้าไปตามอ่านกันได้น้าา เป็นข้อมูลก่อนคิดจะไปทำ
ลิงค์ในสปอยล์เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ