จากกระทู้ รูปนักบอลเก่าๆ ครั้งเเรก เลยนึกๆหยิบภาพสวยๆมาฝากกันอีก เเต่ฝีมือการตกเเต่งรูปของผมเท่ากับ 0 บางรูปเป็นหน้ากลางใหญ่ผมสเเกนให้เป็น 2 รูป ไว้เป็นวัตถุดิบให้ไปตัดต่อเองนะครับ
ขอเริ่มจากรูปเเรกเข้ากับเหตุการณ์ที่ จขกท เชียร์ ถ้วยเเรกของ ต่อลมหายใจของป๋าเฟอร์กี้ ก่อนโดนเด้ง จนยืนยาว ( คุ้นๆ กับ หลุยส์ ปรัชญามากๆ ) 26 ปีผ่านไป กับมาเจอกันอีกครั้ง เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : คริสตัล พาเลซ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ครั้งที่เเล้ว นัดเเรกจบ 3:3 นัดครั้งใหม่ เเมนฯยูฯ ชนะ 1:0 จากการยิงของ ลี มาร์ติน เเละครั้งนั้น อลัน พาร์ดิว คือ 1 ในนักเตะที่ลงสนามด้วย
โดยที่รอบรองชนะเลิศ เเมนยูผ่านโอลด์แฮม เเละ พาเลช ผ่าน ลิเวอร์พูลมา
ซึ่งในปีนั้น ทำให้ลิเวอร์พูลพลาดได้ ดับเบิลเเชมป์ เเละ เป็นเเชมป์ลีคสูงสุดครั้งล่าสุดของทีม 1989-1990 Champion
ด้วยความกระจอก ฝีมือเป็นศูนย์ด้านตัดต่อ ขอให้ภาพวัตถุดิบไว้ทำกันเองนะครับ
เเละฤดูกาลฟุตบอลโลกก็ตามมาหลังจบฤดูกาล
ทัพนักเตะอิตาลี่เจ้าภาพถ่ายภาพในชุดของทุกทีมที่ได้ร่วมเเข่งขัน ในภาพมี โรเเบร์โต้ มันชินี่ , คาร์โล อันเชล๊อตติ , โรเเบร์โต้ บัคโจ้ เเถวกลางเสื้อฟ้า เเละขวามือของเค้า คือ จูเซปเป้ จิอันนินี่ ( เรียกได้ว่า เจ้าชายหมาป่าเเห่งกรุงโรม ยุคนี้มีต๊อตติ ยุคนั้นก็ต้องคนนี้ เท่าน้ัน ) , เเถวหลังเสื้อน้ำเงิน เปาโล มัลดินี่ , ฟรังโก้ บาเรซี่ เสื้อเหลือง เเถวกลาง
เปิดสนามเเบบพลิกล๊อค เเคเมอรูน ดับ เเชมป์เก่า อาร์เจนติน่า ที่นำทัพมาโดย ดีเอโก้ มาราโดน่า เเม้นว่ากระท่อนกระเเท่นตลอดทาง เเต่กับได้เข้าไปชิงกับ เยอรมันตะวันตก คู่ชิงเดิมจากปี 1986 , ภาพล่างคือ จังหวะโหม่งประตูชัย เค้าคือ ฟรังซัว โอมัม บียิก ( ทำไมโดดสูงจังฟระ )
เยอรมันตะวันตก ( ยังไม่รวมประเทศ ) นำมาโดย คนๆนี้
เเต่นัดชิงที่เป็นต่อ อาร์เจนติน่ามาสุดกู่ กับทำอะไรไม่ได้ จนมาได้จุดโทษ ช่วงท้ายเกมเเละ โลธ่าร์ มัธเธอุส ซึ่งทำหน้าที่ยิงจุดโทษมาตลอดกับไม่กล้ายิง เเล้วปล่อยให้ เเบ็คซ้ายของทีมเป็นผู้สังหาร (พิมพ์ไปขนลุกไป) ผ่าน เซอร์จิโอ กอยโกเชีย ประตูจอมเชฟจุดโทษ ที่ดับทีมต่างๆในรอบก่อนหน้านี้มาด้วยการดวลจุดโทษ ทั้ง อิตาลี่ เจ้าภาพในรอบรองชนะเลิศ ในเวลาเสมอ 1:1 , ดับยูโกสลาเวีย ด้วยจุดโทษ ในเวลาเสมอ 0:0
ฝากรูปชุดสุดท้ายที่ ยูโร 96 เจ้าภาพคือ อังกฤษ ส่วนภาพผมทำให้ต่อกันไม่ได้ จึงให้เป็นภาพเเยกมานะครับ ในนี้มีนักเตะดังๆหลายคนที่ร่วมรายการ เช่น สเปน มี หลุยส์ เอ็นริเก้ ผจก บาร์ช่า ในปัจจุบัน , เดนมาร์ค ยุคท้ายๆของ ปีเตอร์ ชไมเคิล กับ 2 พี่น้อง เลาร์ดรูปร์ ( ยูโร 92 ที่ เดนมาร์ค พลิกปฐพีคาเเชมป์เเบบพลิกล็อคนั้น มีเเค่ ไบรอัน เลาร์ดรูปร์ ไม่มี ไมเคิล ผู้พี่ ) , โครเอเชียยุค โรเบิร์ต โปรซิเนคกี้ กับ ดาวอร์ ซูเคอร์ คนยืนเสื้อเบอร์ 6 นั่นคือ สลาเวน บิลิช ผจก ทีม เวสเเฮม ในปัจจุบันครับ , อิตาลี่ ยุค จิอันฟรังโก้ โซล่า , โรเเบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ที่ตอนหลังก็ย้ายมาเชลซี , ฮอลเเลนด์ ประตูคนโย่งๆ นั่นคือ เอ็ดวิน ฟาน เดอซาร์ , มาร์ค โอเวอมาร์ , เเพทริค ไคลเวิร์ต , คลาเรนซ์ ซีดอฟต์ เเละเบอร์ 3 นั่นคือ เเดนนี่ บลินด์ ผู้พ่อของ ดาร์ลี่ย์ บลินด์ ที่เล่นให้เเมนยู ในทุกวันนี้ เเละผู้พ่อตอนนี้ก็รับหน้าที่ ผจก ทีมชาติ ฮอลเเลนด์ด้วย ,บัลกาเรีย ยุคทอง ที่มีพึ่งเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก94 ที่อเมริกามา นำโดย ฮริสโต้ สตอยคอฟ , ยอร์ดาน เลฟคอฟ , คราซิเมียร์ บาลาคอฟ , ฝรั่งเศส สูงๆ 2 คนหลังคือ โลร๊อง บล๊อง กับ มาร์เเซล เดอไซยี่ ครับ
ส่วนผลนัดชิง คือ เยอรมัน (รวมชาติเเล้ว) ชนะ สาธารณรัฐเชค ยุค วลาดิเมีย์ ชมิเซอร์ , เเพทริค เบอร์เกอร์ , คาเรล โพบอลสกี้ ไปด้วยโกลเด้นโกลด์ จากการยิงของ โอลิเวอร์ เบียโฮฟ ผู้ถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองเเละยิง 2 ประตูเเซง สาธารธรัฐเชค ได้เเชมป์ไปเเบบสมศักดิ์ศรี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อย่าลืมว่า ถ้าเชคได้เเชมป์ปี 96 ไปล่ะก็ เเสดงว่าเเชมป์ยุโรปนี่ 12 ปี ไม่มีทีมใหญ่เลย เพราะ ปี 92 เทพนิยายเดนร์ ปี 2000 คือเทพนิยายกรีซ นั่นเอง
รูปนักบอลเก่าๆ 2
ขอเริ่มจากรูปเเรกเข้ากับเหตุการณ์ที่ จขกท เชียร์ ถ้วยเเรกของ ต่อลมหายใจของป๋าเฟอร์กี้ ก่อนโดนเด้ง จนยืนยาว ( คุ้นๆ กับ หลุยส์ ปรัชญามากๆ ) 26 ปีผ่านไป กับมาเจอกันอีกครั้ง เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : คริสตัล พาเลซ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยที่รอบรองชนะเลิศ เเมนยูผ่านโอลด์แฮม เเละ พาเลช ผ่าน ลิเวอร์พูลมา
ซึ่งในปีนั้น ทำให้ลิเวอร์พูลพลาดได้ ดับเบิลเเชมป์ เเละ เป็นเเชมป์ลีคสูงสุดครั้งล่าสุดของทีม 1989-1990 Champion
ด้วยความกระจอก ฝีมือเป็นศูนย์ด้านตัดต่อ ขอให้ภาพวัตถุดิบไว้ทำกันเองนะครับ
เเละฤดูกาลฟุตบอลโลกก็ตามมาหลังจบฤดูกาล
ทัพนักเตะอิตาลี่เจ้าภาพถ่ายภาพในชุดของทุกทีมที่ได้ร่วมเเข่งขัน ในภาพมี โรเเบร์โต้ มันชินี่ , คาร์โล อันเชล๊อตติ , โรเเบร์โต้ บัคโจ้ เเถวกลางเสื้อฟ้า เเละขวามือของเค้า คือ จูเซปเป้ จิอันนินี่ ( เรียกได้ว่า เจ้าชายหมาป่าเเห่งกรุงโรม ยุคนี้มีต๊อตติ ยุคนั้นก็ต้องคนนี้ เท่าน้ัน ) , เเถวหลังเสื้อน้ำเงิน เปาโล มัลดินี่ , ฟรังโก้ บาเรซี่ เสื้อเหลือง เเถวกลาง
เปิดสนามเเบบพลิกล๊อค เเคเมอรูน ดับ เเชมป์เก่า อาร์เจนติน่า ที่นำทัพมาโดย ดีเอโก้ มาราโดน่า เเม้นว่ากระท่อนกระเเท่นตลอดทาง เเต่กับได้เข้าไปชิงกับ เยอรมันตะวันตก คู่ชิงเดิมจากปี 1986 , ภาพล่างคือ จังหวะโหม่งประตูชัย เค้าคือ ฟรังซัว โอมัม บียิก ( ทำไมโดดสูงจังฟระ )
เยอรมันตะวันตก ( ยังไม่รวมประเทศ ) นำมาโดย คนๆนี้
เเต่นัดชิงที่เป็นต่อ อาร์เจนติน่ามาสุดกู่ กับทำอะไรไม่ได้ จนมาได้จุดโทษ ช่วงท้ายเกมเเละ โลธ่าร์ มัธเธอุส ซึ่งทำหน้าที่ยิงจุดโทษมาตลอดกับไม่กล้ายิง เเล้วปล่อยให้ เเบ็คซ้ายของทีมเป็นผู้สังหาร (พิมพ์ไปขนลุกไป) ผ่าน เซอร์จิโอ กอยโกเชีย ประตูจอมเชฟจุดโทษ ที่ดับทีมต่างๆในรอบก่อนหน้านี้มาด้วยการดวลจุดโทษ ทั้ง อิตาลี่ เจ้าภาพในรอบรองชนะเลิศ ในเวลาเสมอ 1:1 , ดับยูโกสลาเวีย ด้วยจุดโทษ ในเวลาเสมอ 0:0
ฝากรูปชุดสุดท้ายที่ ยูโร 96 เจ้าภาพคือ อังกฤษ ส่วนภาพผมทำให้ต่อกันไม่ได้ จึงให้เป็นภาพเเยกมานะครับ ในนี้มีนักเตะดังๆหลายคนที่ร่วมรายการ เช่น สเปน มี หลุยส์ เอ็นริเก้ ผจก บาร์ช่า ในปัจจุบัน , เดนมาร์ค ยุคท้ายๆของ ปีเตอร์ ชไมเคิล กับ 2 พี่น้อง เลาร์ดรูปร์ ( ยูโร 92 ที่ เดนมาร์ค พลิกปฐพีคาเเชมป์เเบบพลิกล็อคนั้น มีเเค่ ไบรอัน เลาร์ดรูปร์ ไม่มี ไมเคิล ผู้พี่ ) , โครเอเชียยุค โรเบิร์ต โปรซิเนคกี้ กับ ดาวอร์ ซูเคอร์ คนยืนเสื้อเบอร์ 6 นั่นคือ สลาเวน บิลิช ผจก ทีม เวสเเฮม ในปัจจุบันครับ , อิตาลี่ ยุค จิอันฟรังโก้ โซล่า , โรเเบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ที่ตอนหลังก็ย้ายมาเชลซี , ฮอลเเลนด์ ประตูคนโย่งๆ นั่นคือ เอ็ดวิน ฟาน เดอซาร์ , มาร์ค โอเวอมาร์ , เเพทริค ไคลเวิร์ต , คลาเรนซ์ ซีดอฟต์ เเละเบอร์ 3 นั่นคือ เเดนนี่ บลินด์ ผู้พ่อของ ดาร์ลี่ย์ บลินด์ ที่เล่นให้เเมนยู ในทุกวันนี้ เเละผู้พ่อตอนนี้ก็รับหน้าที่ ผจก ทีมชาติ ฮอลเเลนด์ด้วย ,บัลกาเรีย ยุคทอง ที่มีพึ่งเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก94 ที่อเมริกามา นำโดย ฮริสโต้ สตอยคอฟ , ยอร์ดาน เลฟคอฟ , คราซิเมียร์ บาลาคอฟ , ฝรั่งเศส สูงๆ 2 คนหลังคือ โลร๊อง บล๊อง กับ มาร์เเซล เดอไซยี่ ครับ
ส่วนผลนัดชิง คือ เยอรมัน (รวมชาติเเล้ว) ชนะ สาธารณรัฐเชค ยุค วลาดิเมีย์ ชมิเซอร์ , เเพทริค เบอร์เกอร์ , คาเรล โพบอลสกี้ ไปด้วยโกลเด้นโกลด์ จากการยิงของ โอลิเวอร์ เบียโฮฟ ผู้ถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองเเละยิง 2 ประตูเเซง สาธารธรัฐเชค ได้เเชมป์ไปเเบบสมศักดิ์ศรี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้