บทที่ 1 : ปฐมบท
ไปไหนดี ?
คำถามนี้ผุดขึ้นในวงสนทนาระหว่างผมและเพื่อนทันทีที่รู้ว่าต้องไปออกทริป Backpack
ทุกคนในกลุ่มก็เสนอที่นั่นที่นี่ ซึ่งมันก็น่าสนใจกันไปคนละแบบ
แต่ประเด็นคือไม่ใครก็ใครมันต้องเคยไปที่ไหนซักที่ที่เสนอกันขึ้นมา
ปัญหาเลยกลายเป็นว่า ที่ไหนบ้างที่เราไม่เคยไป และมันยังคงสดใหม่
สวยงามมากพอให้เราไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์
หลังจากการสนทนาวันนั้นผ่านไปเกือบ 2 อาทิตย์ เรากลับมาคุยกันอีกครั้งพร้อมกับข้อเสนอใหม่ ๆ ของแต่ละคน
และสุดท้ายก็มาจบด้วยที่แห่งหนึ่งที่เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มแนะนำมา ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากซีรี่ย์เรื่องหนึ่งที่ผมไม่เคยดู
แต่มันน่าสนใจตรงที่มันสดใหม่ ใหม่ถึงขนาดไม่มีใครรู้จักที่นี่เลยซักคน
แล้วอีกอย่าง มันมีสถานที่ใกล้เคียงที่ก็ไปแวะเที่ยวได้อยู่หลายที่
เราเลยตกลงปลงใจว่าจะมุ่งหน้าสู่ที่นั่น ไม่นานเราก็จองตั๋วรถ เตรียมเงิน เตรียมของ
มุ่งหน้าสู่ บ้านนาต้นจั่น หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัยด้วยพลังใจเกินร้อย
หลังจากที่ตกลงปลงใจว่าจะไปสุโขทัย เราก็จองที่พัก จองรถ และเตรียมเงินสำหรับทริปนี้
เราเลือกเดินทางด้วยรถ บขส. เพราะประหยัดกว่าเครื่องบินและรวดเร็วกว่ารถไฟ
ผมหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตว่ามีรถบริษัทอะไรบ้างที่ไปอำเภอศรีสัชนาลัยได้
แล้วผมก็เจออยู่ 2 บริษัท คือ สุโขทัยวินทัวร์ และพิษณุโลกยานยนต์
จริง ๆ ที่ผมดูข้อมูลมันก็ได้มีบริษัทไหนแย่นะ แต่ผมตัดสินใจเลือกวินทัวร์ เพราะไปสุโขทัย ก็ต้องนั่งรถสุโขทัยสิ 5555
เราจองรถรอบ 21.30 น. วันที่ 27 มีนาคมไว้ เพื่อให้ไปถึงอำเภอศรีสัชนาลัยทันตลาดเช้า
และเราก็มาถึงหมดชิตกันเกือบ ๆ 21.00 น. กะว่าเดินหาอะไรลองท้องหน่อยก็จะได้ขึ้นรถละออกเดินทางเลย
แต่พี่ที่ชานชาลาบอกว่ารถรอบ 21.30 น. คือเข้าชานชาลา 21.30 น. และออกเดินทาง 22.00 น. !
เงิบ ! นั่งเบื่อกันไปอีกเกือบชั่วโมง
ประมาณ 21.40 น. รถก็เข้ามาจอดที่ชานชาลา เป็นรถสองชั้นสายกรุงเทพ-อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
พวกเราที่นั่งเบื่อ ๆ กันอยู่เลยขึ้นรถทันที อย่างน้อยไปนั่งเบื่อบนรถมันก็ไม่ร้อนเท่านั่งเบื่อตอนนี้ 5555
แต่ไม่ทันไรก็เฟลตั้งแต่เริ่ม ผมนั่งหลังครอบครัว ๆ หนึ่งที่มีพ่อ แม่ และลูกสาว ซึ่งผมนั่งตรงกับคนเป็นแม่
เขาเอนเบาะนอน จนเกือบจะกลายเป็นเตียงนอนที่บ้าน
ตอนแรกก็อึ้งไป แต่ก็พยายามทำให้เขารู้ตัวทั้งดันทั้งเขย่า พูดกับเพื่อนเสียง ๆ ให้เขารู้ตัวว่ามันเบียด
แต่ป้าเขาคงใส่สมอลทอล์ค ไม่รู้ไม่เห็นสิ่งที่ผมทำซักอย่าง ยังคงนั่ง (เกือบนอน) สบายบนเก้าตัวนั้น
จนผมท้อใจ และกลับมาอยู่ในมุมแคบ ๆ ของผมเช่นเดิม
เวลาประมาณ 4 ทุ่ม รถก็เคลื่อนตัวออกจากชานชาลาของหมอชิต หลังจากพี่บัสโฮสเตสแจกขนมแจกน้ำเสร็จเขาก็ปิดไฟ
ความมืดและความเงียบจึงเข้ามานั่งข้าง ๆ เป็นเพื่อนเรา
ผมนั่งฟังเพลงพลางมองข้างทางที่รถเคลื่อนผ่าน จนความมืดและความเงียบกลายเป็นความเหงา
การได้อยู่กับความเงียบแบบนี้ก็เป็นเหมือนการฟังความรู้สึกตัวเอง บวกกับเสียงเพลงเบา ๆ มันช่างเข้ากันดีเสียจริง
(ถ้าไม่โดนป้าเบาะเบียดหน้าผมคงซึ้งน้ำตาไหลไปละ)
ไม่นานผมก็เผลอหลับไปแล้วมาตื่นอีกทีประมาณเกือบ ๆ ตี 2
รถพักจอดให้เราลงไปทานข้าว แต่ผมไม่ได้กินหรอก อัดขนมปังมา 2 ชิ้นตั้งแต่ก่อนขึ้นรถละ
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็เดินทางต่อ พี่บัสโฮสเตสบอกผมว่าจะถึงประมาณเกือบ ๆ 6 โมง
ซึ่งจะมีตลาดเช้าตรงท่ารถ เราเลยคิดว่าจะไปหาไรกินที่นั่นก่อนออกเที่ยวตามแผน
ประมาณเกือบ ๆ ตี 5 ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เพราะได้ยินเสียงคนหลายคนกำลังลงรถ
ตอนนี้รถจอดอยู่ที่อำเภอเมืองสุโขทัย พอรถออกมาผมก็ไม่ได้หลับอีกเลย
มองข้างทางเพลิน ๆ ในช่วงเช้ามืดแบบนี้ ก็เป็นอีกอย่างที่ผมได้ทำในทริปนี้เป็นครั้งแรก
ไม่นานรถก็เริ่มชะลอความเร็ว ไฟในรถถูกเปิดขึ้น เสียงพี่บัสโฮสเตสดังผ่านลำโพงว่าเรากำลังจะถึงที่หมาย
ผมเลยจัดแจงเก็บของจนเรียบร้อย ยังไม่ทันได้บิดขี้เกียจรถก็จอด ผมเลยต้องลงไปบิดขี้เกียจข้างล่าง
ระหว่างนั้นผมก็สูดหายใจเข้าเต็มปอด และด้วยความที่รถมันจอดใกล้ร้านหมูปิ้ง
สัมผัสแรกของผมมันจึงเป็นอ็อกซิเจนที่ชวนหิวยิ่งนัก
บ้านนาต้นจั่น ศรีสัชนาลัย | ดินแดนธรรมชาติ ถิ่นประวัติศาสตร์มรดกโลก
ไปไหนดี ?
คำถามนี้ผุดขึ้นในวงสนทนาระหว่างผมและเพื่อนทันทีที่รู้ว่าต้องไปออกทริป Backpack
ทุกคนในกลุ่มก็เสนอที่นั่นที่นี่ ซึ่งมันก็น่าสนใจกันไปคนละแบบ
แต่ประเด็นคือไม่ใครก็ใครมันต้องเคยไปที่ไหนซักที่ที่เสนอกันขึ้นมา
ปัญหาเลยกลายเป็นว่า ที่ไหนบ้างที่เราไม่เคยไป และมันยังคงสดใหม่
สวยงามมากพอให้เราไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์
หลังจากการสนทนาวันนั้นผ่านไปเกือบ 2 อาทิตย์ เรากลับมาคุยกันอีกครั้งพร้อมกับข้อเสนอใหม่ ๆ ของแต่ละคน
และสุดท้ายก็มาจบด้วยที่แห่งหนึ่งที่เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มแนะนำมา ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากซีรี่ย์เรื่องหนึ่งที่ผมไม่เคยดู
แต่มันน่าสนใจตรงที่มันสดใหม่ ใหม่ถึงขนาดไม่มีใครรู้จักที่นี่เลยซักคน
แล้วอีกอย่าง มันมีสถานที่ใกล้เคียงที่ก็ไปแวะเที่ยวได้อยู่หลายที่
เราเลยตกลงปลงใจว่าจะมุ่งหน้าสู่ที่นั่น ไม่นานเราก็จองตั๋วรถ เตรียมเงิน เตรียมของ
มุ่งหน้าสู่ บ้านนาต้นจั่น หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัยด้วยพลังใจเกินร้อย
หลังจากที่ตกลงปลงใจว่าจะไปสุโขทัย เราก็จองที่พัก จองรถ และเตรียมเงินสำหรับทริปนี้
เราเลือกเดินทางด้วยรถ บขส. เพราะประหยัดกว่าเครื่องบินและรวดเร็วกว่ารถไฟ
ผมหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตว่ามีรถบริษัทอะไรบ้างที่ไปอำเภอศรีสัชนาลัยได้
แล้วผมก็เจออยู่ 2 บริษัท คือ สุโขทัยวินทัวร์ และพิษณุโลกยานยนต์
จริง ๆ ที่ผมดูข้อมูลมันก็ได้มีบริษัทไหนแย่นะ แต่ผมตัดสินใจเลือกวินทัวร์ เพราะไปสุโขทัย ก็ต้องนั่งรถสุโขทัยสิ 5555
เราจองรถรอบ 21.30 น. วันที่ 27 มีนาคมไว้ เพื่อให้ไปถึงอำเภอศรีสัชนาลัยทันตลาดเช้า
และเราก็มาถึงหมดชิตกันเกือบ ๆ 21.00 น. กะว่าเดินหาอะไรลองท้องหน่อยก็จะได้ขึ้นรถละออกเดินทางเลย
แต่พี่ที่ชานชาลาบอกว่ารถรอบ 21.30 น. คือเข้าชานชาลา 21.30 น. และออกเดินทาง 22.00 น. !
เงิบ ! นั่งเบื่อกันไปอีกเกือบชั่วโมง
ประมาณ 21.40 น. รถก็เข้ามาจอดที่ชานชาลา เป็นรถสองชั้นสายกรุงเทพ-อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
พวกเราที่นั่งเบื่อ ๆ กันอยู่เลยขึ้นรถทันที อย่างน้อยไปนั่งเบื่อบนรถมันก็ไม่ร้อนเท่านั่งเบื่อตอนนี้ 5555
แต่ไม่ทันไรก็เฟลตั้งแต่เริ่ม ผมนั่งหลังครอบครัว ๆ หนึ่งที่มีพ่อ แม่ และลูกสาว ซึ่งผมนั่งตรงกับคนเป็นแม่
เขาเอนเบาะนอน จนเกือบจะกลายเป็นเตียงนอนที่บ้าน
ตอนแรกก็อึ้งไป แต่ก็พยายามทำให้เขารู้ตัวทั้งดันทั้งเขย่า พูดกับเพื่อนเสียง ๆ ให้เขารู้ตัวว่ามันเบียด
แต่ป้าเขาคงใส่สมอลทอล์ค ไม่รู้ไม่เห็นสิ่งที่ผมทำซักอย่าง ยังคงนั่ง (เกือบนอน) สบายบนเก้าตัวนั้น
จนผมท้อใจ และกลับมาอยู่ในมุมแคบ ๆ ของผมเช่นเดิม
เวลาประมาณ 4 ทุ่ม รถก็เคลื่อนตัวออกจากชานชาลาของหมอชิต หลังจากพี่บัสโฮสเตสแจกขนมแจกน้ำเสร็จเขาก็ปิดไฟ
ความมืดและความเงียบจึงเข้ามานั่งข้าง ๆ เป็นเพื่อนเรา
ผมนั่งฟังเพลงพลางมองข้างทางที่รถเคลื่อนผ่าน จนความมืดและความเงียบกลายเป็นความเหงา
การได้อยู่กับความเงียบแบบนี้ก็เป็นเหมือนการฟังความรู้สึกตัวเอง บวกกับเสียงเพลงเบา ๆ มันช่างเข้ากันดีเสียจริง
(ถ้าไม่โดนป้าเบาะเบียดหน้าผมคงซึ้งน้ำตาไหลไปละ)
ไม่นานผมก็เผลอหลับไปแล้วมาตื่นอีกทีประมาณเกือบ ๆ ตี 2
รถพักจอดให้เราลงไปทานข้าว แต่ผมไม่ได้กินหรอก อัดขนมปังมา 2 ชิ้นตั้งแต่ก่อนขึ้นรถละ
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็เดินทางต่อ พี่บัสโฮสเตสบอกผมว่าจะถึงประมาณเกือบ ๆ 6 โมง
ซึ่งจะมีตลาดเช้าตรงท่ารถ เราเลยคิดว่าจะไปหาไรกินที่นั่นก่อนออกเที่ยวตามแผน
ประมาณเกือบ ๆ ตี 5 ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เพราะได้ยินเสียงคนหลายคนกำลังลงรถ
ตอนนี้รถจอดอยู่ที่อำเภอเมืองสุโขทัย พอรถออกมาผมก็ไม่ได้หลับอีกเลย
มองข้างทางเพลิน ๆ ในช่วงเช้ามืดแบบนี้ ก็เป็นอีกอย่างที่ผมได้ทำในทริปนี้เป็นครั้งแรก
ไม่นานรถก็เริ่มชะลอความเร็ว ไฟในรถถูกเปิดขึ้น เสียงพี่บัสโฮสเตสดังผ่านลำโพงว่าเรากำลังจะถึงที่หมาย
ผมเลยจัดแจงเก็บของจนเรียบร้อย ยังไม่ทันได้บิดขี้เกียจรถก็จอด ผมเลยต้องลงไปบิดขี้เกียจข้างล่าง
ระหว่างนั้นผมก็สูดหายใจเข้าเต็มปอด และด้วยความที่รถมันจอดใกล้ร้านหมูปิ้ง
สัมผัสแรกของผมมันจึงเป็นอ็อกซิเจนที่ชวนหิวยิ่งนัก