[SR] ยุโรป 5 ประเทศ 13 วัน

หลังจากวางแผนมานานว่าจะเที่ยวยุโรปก่อนอายุ 40 ปี (อ๊ายยย แก่แย้ววๆ)

ในที่สุดทริปก็คลอดค่ะ เริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 9 - 22 เมย. ลางาน 7 วันเท่านั้น ดีงามค่ะ

รีวิวนี้จะไม่พูดถึงที่เที่ยวทั่วไปนะคะ เข้าใจว่าคงหาอ่านได้จากหลายบล๊อกเลย  แต่จะแชร์ข้อมูลที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลเที่ยวยุโรป เช่นที่เราทำก่อนเดินทางค่ะ

ทริปนี้เราเดินทางกัน 7 คน ค่ะ เข่ารถขับออกจากปารีสไปจบที่เวียนนา แล้วนั่งรถไฟนอนจากเวียนนาไปลงเวนิซ ค่อยขึ้นเครื่องกลับจากเวนิซค่ะ

หลายคนบอกว่าเที่ยวเยอะเกินจะเที่ยวได้ครบมั๊ย หลังจากกลับมาคิดว่าโอเคเลยค่ะ ไม่ได้รีบมาก และก็มีเวลาพักผ่อนด้วยน๊ะ อมยิ้ม04



เริ่มต้นปารีส......

ที่พักที่เราพักคือ St Christopher's inns  ใกล้สถานีรถไฟ Gare du Nord มาก แค่เดินข้ามถนน 2 สายเล็กๆ ก็ถึงแล้ว ราคา คืนละ 1,500 บาท เป็นห้องนอนรวม 8 เตียง (เตียง 2 ชั้น 4 เตียงค่ะ) แต่บนเตียงสบายอยู่ค่ะ มีที่ชาร์ตแบต มีสวิตช์ไฟ เรียบร้อย ถึงแม้ว่าจะนอนรวมกันค่ะ ในห้องพักมีอ่างล้างหน้าให้ด้วยค่ะ โชคดีท่ี่ติดกับห้องเราเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ เลยไม่ต้องเดินไกล สะดวกดี ส่วนไมโครเวฟจะอยู่ชั้นล่างสุด  ส่วนห้องซักผ้า อบผ้า อยู่ชั้นบนสุด (ค่าหยอดเหรียญ รวมกันแล้ว 4 euro) ใครสนใจลองเข้าไปดูในเว็บนะคะ จะมีห้องให้เลือกหลายแบบค่ะ ห้องเรา มี ฝรั่งนอนอยู่เดิมแล้ว 1 คน รวมพวกเราอีก 7 คน ก็เต็มห้องพอดี แต่คืนที่สอง นางก็ย้ายไปนอนห้องอื่นค่ะ เพราะพวกเราแอบเสียงดัง ทำนู่นนี่ตลอดเลยอะ ร้องไห้  เก๊าขอโทษ  

ส่วนอาหารเช้าเราว่า โอเคเลยนะ มีของกินเยอะดีอะ ชอบๆ ทริปนี้กินขนมปังจนอ้วนเลย

ว่าด้วยเรื่องรถเช่านะคะ เนื่องจากไปกัน 7 คน เลยต้องเช่ารถใหญ่ ได้รถเช่าของ europcar มาค่ะ เป็นเกียร์กระปุก ตอนแรกเมล์ไปถามหลายเจ้ามากว่ามีคันใหญ่เป็นเกียร์ออโต้ป่าว แต่เค้าตอบมาว่าไม่มีค่ะ เลยต้องเลือกเกียร์กระปุกไป ทั้งที่ขับกันไม่ค่อยจะคล่อง

เรื่องที่อยากแชร์คือ เราเคยเช่ารถในเมกา ญุปุ่น ออสเตรเลีย แต่ไม่เคยเจอเหมือนของฝั่งยุโรปค่ะ คือ งงมาก

ได้รับกุญแจมาแล้ว เค้าบอกให้ไปเอารถเองที่ที่จอดรถชั้นใต้ดินอยู่อีกตึกนึง นางบอกแค่นี้ ไม่มีว่าต้องมาเช็ครถก่อนนะ หรืออะไรทั้งสิ้น



กว่าจะหารถเจอ กว่า่จะ start รถเป็น (คือปกติขับกันแต่รถญี่ปุ่นค่ะ ไม่เคยขับเบนซ์แวนกันมาก่อนนะจ๊ะ มั่วกันมาก 555)
เรื่องของรถ มีเรื่องให้ตื่นเต้นแทบจะทุกวันแรกๆ ของการขับรถค่ะ (ทั้งทริปขับเกียร์กระปุกเป็น 1 คน และไม่ใช่เรา หัวเราะ )
ก่อนจะจบเรื่องรถคือ จะบอกว่า ตอนคืนรถ เค้าให้ขับไปคืนที่ที่จอดรถชั้นใต้ดินได้เลย แล้วทิ้งกุญแจรถไว้ในกล่องแถวนั้น คือ แค่นี้จริงๆ อะ ถ้ารถมีปัญหาอะไร เค้าถึงจะเมลล์มาแจ้งค่ะ (คือเป็นระบบที่ไว้วางใจคนมากเลยนะ ว่ามั๊ย)
สำหรับใครที่กลัวเรื่องค่าปรับ ขอบอกว่าหายห่วงค่ะ อมยิ้ม07  เพราะเก๊าโดนมาแล้ว จ่ายค่าปรับสะดวกมาก จะจ่ายที่ธนาคารไหนก็ได้กลุ่มประเทศยุโรปค่ะ สะดวกมาก คือ เราจอดเกิน 2 ชั่วโมง ขี้เกียจกลับไปเอารถเลยโดนค่าปรับที่ Innsbruck ไป 25 เหรียญ แล้วก็ไปจ่ายที่ bank ที่เวียนนา แต่โดนค่าธรรมเนียมไปอีก 6 เหรียญ ค่ะ (เผื่อใครโดนใบสั่งก็ตามนี้เลยนะคะ ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ)






ก่อนเข้าเยอรมนี แวะเที่ยว 2 เมืองชายแดนฝรั่งเศส  Colmar & Riquewihr....
อยากบอกว่า ทั้ง 2 เมืองมีความน่ารักคล้ายกัน ต่างกันที่ Colmar เป็นเมืองใหญ่กว่ามาก ส่วน Riquewihr น่ารัก ไม่เป็นเมืองท่องเที่ยวเกินไป ทำให้ได้เห็นบรรยากาศของคนท้องถิ่นที่เค้าอยู่กันจริงๆ มากกว่า แต่ถ้าจะนอนพักแนะนำให้พักที่ Colmar มากกว่าค่ะ เพราะเมืองใหญ่กว่าจริงๆ มีความสะดวกอยู่เยอะ ที่พักที่ Colmar เราประทับใจนะ เป็นห้องใหญ่มาก นอนได้ทั้ง 7 คนเลย มีครัวให้ด้วย ถ้าสนใจลอง search ดูนะ ชื่อ Traditional Loft แต่ที่พักหายากนิดนึง แบบว่า ตกใจว่าใช่ที่นี่เหรอ แต่พอเปิดห้องไปแล้ว โอเคค่ะ ห้องใหญ่มาก มีพร้อมทุกอย่าง สบายจริงๆ ตกคนละ 1,100 บาท ค่ะ อ้อ 2 เมืองนี้ห่างกันแค่ 12 กิโลเมตรนะคะ



เข้ามาถึงเยอรมนี อันนี้พลาดค่ะ ที่พักเราดันไปปพักอยู่ที่ Weissenburg อยู่ห่างจาก Rothenberg ตั้ง 90 โล แหน่ะ ตอนจองที่พักเพราะเห็นว่าราคาถูกไง แค่คืนละ 500 บาทเอง แต่สุดท้าายแล้วก็ประทับใจนะ เป็น homestay พักกับเจ้าของบ้าน เค้านอนชั้นล่าง ให้เรานอนชั้นสองทั้งชั้น เลยได้บรรยากาศของคนที่นั่นจริงๆ ว่าเค้าอยู่นอนกันยังไง แถมอาหารเช้าก็ทำให้ดีเลย ดูแลอย่างดีเลยนะ host น่ะ

อ้อ ลืมบอก Rothenberg แนะนำให้หาทางเดินขึ้นกำแพงไปมองจุดสูงของตัวเมืองนะคะ ถึงจะไม่สูงมาก แต่ก็ได้บรรยากาศอีกแบบ ที่สำคัญ ฟรีค่ะ และคนไม่ค่อยจะเดินขึ้นไปกันแหะ  



Fussen ต้องบอกเลยว่า ระหว่างทางที่ขับเข้า Fussne สวยมากกกกหัวใจ  จะพักตรงไหนของเมืองก็ได้ค่ะ เมืองไม่ใหญ่มาก แต่ปิดเร็วมาก 6 โมงก็ทยอยปิดร้านกันแล้วนะ  





Innsbruck: ไม่ขึ้นเขาแล้วจะพลาดอย่างแรง!!!
เยี่ยม แนะนำเลยค่ะ มา Innsbruck แล้ว อย่าลืมขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปเขา Hafelekar นะ อยู่ด้านหลังตัวเมือง เดินไปเรื่อยๆ เข้าหาภูเขานะจ๊ะ  
ขึ้นไปแล้วจะแบบว่า อารมณ์เหมือนอยู่เขาที่สวิส ไม่เคยไปค่ะ มโนเอา อิอิ




ที่พักที่ Salzburg ที่นี่เราก็ชอบนะ น่ารักดี ห้องอาหารเช้าก็น่ารักมาก  คืนละ 1,000 บาทค่ะ มา Salzburg แนะนำซื้อ ticket 24 ชั่วโมงเลยค่ะ คุ้มมาก เข้าที่เที่ยวได้ฟรีหลายแห่งมาก ถ้าอยู่ 1 วันเต็มนี่ คุ้มมากๆ เลยนะ ค่าขึ้นรถก็ฟรีด้วยค่ะ ticket ราคา ใบละ 24 เหรียญ แพงหน่อย แต่ว่าค่าเข้าแต่ละแห่งก็ปาไป 10 กว่าเหรียญแล้ว แค่ไป 2 ที่ก็คุ้มแล้วค่ะ รถก็ฟรี แถมได้นั่งเรือด้วยนะ อมยิ้ม21  แนะนำเลยค่ะ นั่งเรือเที่ยว รอบแรก 13.00 น. มั้ง ถ้าจำไม่ผิด highlight จะอยู่ตอนเรือจะกลับฝั่งค่ะ จะได้เห็นวิว 360 องศา เพราะเรือจะหมุนติ้วๆๆๆ เลย เริ่ดมาก กรีส กันทั้งลำค่ะ



เช้านี้ที่ Hallstatt หนาวดีค่ะ แต่ขอสวยๆ ออกกำลังกายยามเช้า วิ่งรอบเมืองสักหน่อย หายหนาวเลย เสื้อยืด 1 เสื้อทับ 1 เอาอยู่ค่ะ แต่ต้องวิ่งตลอดนะ
เมืองนี้ เดินทางมาลำบากนิดนึงนะเราว่า เพราะ GPS พาพี่มาเดินเล่นแถวชนบทแทนที่จะเป็นถนนใหญ่จ๊ะ แหม เสียวเลย ว่าจะถึง Hallstatt ตอนดึกเกินไปป่าวนะ มาที่นี่ช่วงเดือนเมษา เราว่า เสี่ยงเหมือนกันนะ อย่างเราเจออากาศดีวันแรก แต่พอวันที่สองฝนตกแต่เช้า ฟ้าครึ้มมาก โชคดีที่ได้เที่ยววันแรกจนจุใจแล้ว





ประเทศเชค นี่ สรุปจากเพื่อนๆ ได้เลยค่ะว่า หนาวมากกกกกก เดินๆ ไป น้ำมูกไหลอะ คิดดูสิ อมยิ้ม24
CK นี่ สำหรับเราและเพื่อนๆ เริ่มเฉยๆ แล้ว แบบว่า เริ่มเอียนกับเมืองเก่า 55555
Prague นี่ บอกได้เลย มีที่เดินเยอะมาก และอย่างที่บอกค่ะ ห้ามพลาดวิวกลางคืนเด็ดขาด ทั้งเมืองไม่ต้องนั่งรถเลย เดินเที่ยวได้ทั้งเมือง ไม่ยากเลย ดูตามแผนที่แล้วเดินเที่ยวได้เลยค่ะ






คือบ้านคุณยายก็ไม่ใช่เป็นแบบในภาพหรอกนะคะ แต่เจ้าของบ้านอายุ 78 แล้ว แข็งแรงมาก เป็นที่พักแรกที่เราหาได้เองไม่หลง เค้าล้อเล่นไม่เอาไม่พูดประหลาดใจประหลาดใจ  เพราะคุณยายบอกทางละเอียดมาก ที่พักราคา 1300 บาทต่อคน มีอาหารเช้าแบบเวียนนาพร้อม ห้องใหญ่ กว้าง นอนกันได้เป็น 10 คนเลย แต่ที่พักคุณยายไกลจากสถานีรถไฟไปหน่อยนะ แต่เราก็เดินกันได้ค่ะ เดินไปเรื่อยๆ กิโลกว่าเอง สบายๆ อากาศดีๆ มาเวียนนาซ์้อตั๋วรถแบบ 24 ชั่วโมงก็สะดวกดีค่ะ ราคา 7.6 เหรียญค่ะ เพราะถ้านั่งขานึงก็ปาไป 2.2 เหรียญแล้ว

อยากบอกว่า สำหรับคนที่อยากเที่ยววัง แวร์ซายส์ กับ เชิงบรุน เราเข้าไปแล้วทั้ง 2 ที่ อยากบอกว่า เชิงบรุน น่าเข้ากว่าเยอะเลยค่ะ สำหรับเรานะ แวร์ซายส์อาจดูยิ่งใหญ่ สวนสวยจริง และหรูหราสไตล์หลุยส์แท้ๆ แต่เชิงบรุน ภายในวัง เข้าไปแล้วจะให้อารมณ์บ้านที่มีการอยู่อาศัยจริง ทุกห้องมี design ที่น่าสนใจ และมีเรื่องราวของแต่ละห้องที่ถ้าถามเราแล้ว เราชอบ เชิงบรุนมากกว่าแวร์ซายส์นะ ถ้ามองจากตึกภายนอกแล้วอาจจะเฉยๆ แต่ข้างในห้องนี่เรียกว่า ประทับใจกันเลยแหล่ะ สำหรับเรากับเพื่อนๆ











เวนิซ เวลาซื้อตั๋วเรือ ใช้ได้ 70 นาทีนะคะ แต่ว่า เอาเข้าจริง แค่เดินให้ทั่วเกาะเวนิซ ก็ใช้เวลาทั้งวันแล้วค่ะ และอยากบอกว่า อย่าลืมซ์้อเครื่องหนังที่เมืองนี้นะ แต่แอบสังเกตว่า บางร้านเป็นคนเอเชียขาย มีหลายร้านเลยแหล่ะ แล้วก็ติดป้ายว่า หนังแท้  ดูจากสภาพหนังแล้ว ก็ของแท้จริงค่ะ แต่คิดว่าน่าจะเป็น made in china มากกว่า แต่อย่างที่บอก แท้เหมือนกัน ใช้ได้ค่ะ สวยด้วย ราคาไม่แพง ส่วนร้านที่มี design นิดนึง มีแบรนด์หน่อย จะบอกเลยว่า made in Italy ราคาก็จะแพงกว่าค่ะ ลองเข้าแต่ละร้านดู จะรู้ได้เองเลยค่ะ

อ้อ ที่เวนิซ พักที่บ้านพี่เป้า ดูได้จากรีวิวในพันทิป ดีมากๆ ค่ะ แนะนำเลย ไปอีกครั้งก็คงจะพักที่นี่แหล่ะค่ะ เดินทางก็สะดวกด้วยค่ะ  

Bye-Byeอมยิ้ม16
ชื่อสินค้า:   ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย เชค อิตาลี
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่