อังกฤษ + สกอตแลนด์ + อังกฤษ 12วัน 11คืน สองคนไม่ถึง 300,000

สมัยเด็กๆ ผมจะได้ยินคุณพ่อคุณแม่ และบรรดาญาติคุยกันเรื่องสมัยที่ใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ ซึ่งบรรดาลูกพี่ลูกน้องรอบๆ ตัวก็แห่กันไปเรียนต่อที่อังกฤษกัน มีแต่ผมคนเดียวที่รู้สึกไม่อยากไปเรียนที่อังกฤษเลย เพราะไม่ชอบ “หางตาตก” ตามสไตล์ผู้ดีอังกฤษ จากที่ฟังคุณแม่เล่าเรื่องการใช้ชีวิตที่อังกฤษสมัยสาวๆ รวมไปถึงสภาพบ้านเมืองที่ฟังดูอึมครึม และช่างแตกต่างกับอเมริกาที่ผมเคยไปวิ่งเล่นอยู่พักนึงอย่างมาก ยิ่งทำให้ผมไม่อยากไปประเทศนี้เลยครับ
แต่ในช่วงที่ผมเรียนและทำงาน (เป็นล่าม) ที่ออสเตรเลีย มีเพื่อนฝรั่งเล่าให้ฟังว่า ถ้าชอบเหล้า Single Malt จะต้องไป Scotland ให้ได้ เพราะเหล้าดีที่ดีที่สุดในโลกอยู่ที่ Scotland นั่นหมายความว่าผมสามารถหาข้ออ้างให้กับตัวเองได้แล้วว่าจะไปอังกฤษเพื่ออะไร OK เริ่มเก็บเงิน
กลับมาที่ไทย ผมเริ่มวางแผนในการท่องเที่ยวตามประเทศต่างๆ เพื่อที่จะได้เก็บเงินได้ถูก และผมก็ทราบดีว่า ถ้าเก็บเป็นเงินไทย ยังไงผมคงต้องเอามาใช้ก่อนแน่นอน เพราะฉะนั้นการทยอยแลกเงินเป็นเรื่องที่ผมเลือกทำครับ
อังกฤษ England UK…ไหนๆ ก็ต้องทำ VISA แล้ว ขอเที่ยวให้คุ้มครับ ตอนแรกดูไว้ 7วัน แต่มาดูตามขีดความสามารถของผู้ติดตามในทริปนี้แล้ว วันนึงคงไปได้ไม่กี่ที ผมเลยยืดระยะเวลาออกเป็น 12วัน11คืนครับ
3คืนแรก พักที่ Hampton by Hilton, East Croydon, England
Website : http://goo.gl/LWV9x4
Google Map : https://goo.gl/maps/t9WRwVYthES2

4คืนถัดมา พักที่ Sheraton Grand Hotel and Spa, Edinburgh, Scotland
Website : http://goo.gl/rUJeqn
Google Map : https://goo.gl/maps/qXraRaPk3WA2

4คืนสุดท้าย พักที่ Conrad, London, England
Website : http://goo.gl/5gmfQd
Google Map : https://goo.gl/maps/pSgCe4XrZfu

เปิดดูตามเวปของโรงแรมต่างๆ ทราบข้อมูลว่า
Hampton ค่าพัก ห้อง Queen Room with Sofa Bed + Non Smoking คืนละ GBP80 พัก 3คืน ก็ GBP240 (12,000บาท)
Sheraton (Scotland) ค่าห้องพัก City View + Non Smoking คืนละ GBP 225 พัก 4คืน ก็ GBP900 (45,000บาท)
Conrad ค่าห้องพัก King Deluxe Room คืนละ GBP320 พัก 4คืน ก็ GBP1,280 (62,500บาท)
ส่วนค่าเดินทางไปกลับ สายการบิน EVA คนละ 24,000บาท (ตั๋ว promotion) เดินทาง 2คน คิดเป็นเงิน 48,000บาท (48,000บาท)
ค่าเรื่องบินไปกลับ London – Edinburgh คนละ GBP160 + ค่าน้ำหนักที่เกินมา GBP60 = GBP380 (19,000บาท)
ค่าเดินทางในเมือง + Shopping + ค่ากิน ผมตั้ง Budget ไว้ คนละ GBP1,000 สองคนก็ GBP2,000 ครับ (100,000บาท)
(อัตราแลกเปลี่ยนคิดกลมๆ GBP1 = 50บาท)
รวมที่ต้องเก็บเงินคือ 286,500บาท ครับ

แต่ในความโหดร้ายของการเก็บเงิน ก็มีโชคดีอยู่บ้างคือ มีน้องสนิทคนนึงสนใจและอยากไปเที่ยวด้วย และการที่เค้าทำงานในสายโรงแรม (เครือ Hilton/Conrad) เค้าจึงสามารถขอส่วนลดในเครือโรงแรมที่เค้าทำงานได้ นั่นก็คือโรงแรม Hilton + Conrad ครับ ได้ส่วนลดไปเลย 50%
เพราะฉะนั้น ค่าที่พักที่ Hampton และ Conrad จึงเหลือแค่ 37,250บาทเท่านั้นครับ
นอกจากนั้นตอนที่ไป Scotland ทาง Travel Agent (Napira Travel Stylist : https://www.facebook.com/TravelStylistNapira ) ที่ผมใช้บริการประจำแนะนำว่า เดี๋ยวเค้าจะจัดการจองที่พัก + ตั๋วเครื่องบินแบบเป็น Package ให้ จากเดิมที่ต้องเสียประมาณ (45,000 + 19,000 = 64,000) กลับเหลือเพียง 44,000บาท เท่านั้นครับ
รวมส่วนลด (37,250 + 20,000) 57,250บาทครับ
นั่นหมายความว่าผมเก็บเงินจริงๆ แค่ 286,500-57,250 = 229,250บาทครับ


เอาหละครับ มาวางแผนการเก็บเงินกันครับ
ค่าเดินทางในเมือง + Shopping + ค่ากิน ผมตั้ง Budget ไว้ คนละ GBP1,000 สองคนก็ GBP2,000 ครับ (100,000) รายการนี้ต้องแลกเป็นเงินสดเก็บไว้เลยครับ ถ้าเก็บเงิน 24เดือน หรือ ประมาณ 100สัปดาห์ จะต้องทยอยแลกเงิน 1,000บาท (หรือ GBP20)ต่อสัปดาห์ครับ ดูไม่เยอะเลยใช่มั้ยครับ แต่ถ้าในแต่ละปีคุณต้องเก็บเงินเพื่อไปหลายประเทศ นั้นหมายความว่าคุณต้องบริหารการเงินดีๆ ครับ

ส่วนผม ถ้าเพื่อการเที่ยวแล้ว ผมขอเที่ยวแบบสบายๆ กินแบบไม่อดอยากครับ พวกเที่ยวแบบแสวงบุญ 3วัน2คืน งบไม่เกิน 5,500บาท หรือ 7วัน5คือ 12,000 ลืมไปได้เลยครับ เพราะมันไม่ได้ทำให้คุณได้เรียนรู้อะไรนอกจากการท่องเที่ยวอย่างยากลำบากรวมไปถึงการที่ไม่สามารถเข้าไปในบางสถานที่ๆควรจะต้องเข้าไปชมครับ ในเมื่อเสียเงินค่าตั๋วเครื่องบินและค่า VISA แล้ว ควรไปเที่ยวให้คุ้ม อย่าไปเที่ยวเพียงเพื่อไป check-in ว่ามาเที่ยวต่างประเทศครับ มันเสียโอกาส เพราะเราไม่มีทางรู้ว่า เราจะได้กลับไปเที่ยวประเทศเหล่านั้นอีกเมื่อไหรครับ

ส่วนค่าตั๋วและค่าที่พักอีก 129,250บาท หาร 100สัปดาห์ หมายความว่าผมต้องเก็บเงินค่าสัปดาห์ละประมาณ1,230บาท …รวมผมต้องเตรียมเงินไว้เพื่อการท่องเที่ยวอังกฤษ สัปดาห์ละ 2,230บาทสำหรับ ผมและแฟนครับ หรือถ้าใครที่ไม่มีเวลาทยอยแลกแต่มีระเบียบวินัยในการเก็บเงิน ก็สามารถแลกเป็นก้อนใหญ่ได้ทีเดียวโดยดูอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่คุณคิดว่าดีที่สุด สมัยนี้ดูผ่านเวปหรือ App ได้แล้วครับ ยิ่งเจ้าประจำที่ผมใช้คือ SuperRich (สีเขียว) นอกจากมี app เพื่อเช็คอัตราค่าแลกเปลี่ยนแล้ว ยังสามารถดูได้ว่า ณ ที่ๆ คุณอยู่ใกล้กับจุดแลกเงินที่ไหนบ้าง หรือถ้าขี้เกียจเปิดเวป หรือ app ก็สามารถโทรไปสอบถามได้ที่ call center ว่าที่ไหนมีเงินพร้อมให้คุณ เพราะบางทีถ้าคุณไปช้า เงินอาจไม่พอตามจำนวนที่คุณอยากจะแลกครับ (เบอร์ SuperRich : 02-254-4444) สำหรับใครที่ไม่สะดวกไปที่สำนักงานใหญ่ ผมแนะนำตามห้างอย่างเช่น Siam Paragon หรือ Emporium เลยครับ จะมีร้านสาขาของ SuperRich ตั้งอยู่ครับ ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะสะดวกที่ Emporium มากกว่าเพราะมักจะไปดูหนังที่ The Emprive ผมว่าดรงหนังที่นี่ดีสุดแล้วหละครับ
SuperRich Thailand
Website : http://www.superrichthailand.com/
Facebook : https://www.facebook.com/superrichth
App (iOS) : https://itunes.apple.com/th/app/superrichth/id812291664?mt=8
App (Android) : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.toobaya.mobile.superrichthailand


วันเดินทาง บินออกจากประเทศไทยโดยสายการบิน EVA ( https://www.evaair.com ) ข้อดีของสายการบินนี้คือ leg room และขนาดของที่นั่งจะใหญ่กว่าการบินไทยเล็กน้อย ถึง log room จะเพิ่มมาเล็กน้อยแต่ก็เป็นขนาดที่ทำให้การงีบหลับบนเครื่องตลอด 10ชั่วโมงไม่เป็นเรื่องโหดร้าย ส่วนอาหาร โดยส่วนตัวผมว่าอร่อยกว่าการเบินไทยนะครับ แต่เรื่องหนังที่ให้ดูกับการบริการ สู้การบินไทยไม่ได้เลยครับ ปรกติถ้าผมต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำงานคนเดียว ผมจะแลกไมล์ของการบินไทย นั่ง Business Class ของการบินไทย ผมว่าการบริการสะดวกสบายมากกว่าเจ้าอื่น ถ้าไม่นับเรื่องอาหารที่การบินไทยควรปรับปรุงโดยด่วนนะครับ ถ้าถามว่าควรปรับปรุงอย่างไร เรื่องรสชาติอย่างเดียวรึเปล่า ผมบอกเลยครับ ว่าอาหารของ Business class เมื่อก่อนดีกว่าสมัยนี้เยอะเลยครับ สมัยนี้ผมเห็นอาหารของ Business class แล้วนึกถึงอาหารชั้นประหยัดแต่ถูกนำมาเรียงใส่จานให้ดูดีขึ้นครับ ฝากทางผู้บริหารการบินไทยพิจารณาด้วยนะครับ

เดินทางมาลงที่ Heathrow ( https://goo.gl/maps/ocYybwU3yDk ) ช่วงกลางคืนที่ฝนตก และหนาวมาก จำได้ว่า 2C เดินทางกันสามคนแบบลืมเช็คเส้นทางไปที่พัก ฝนก็ตกกระเป๋าก็เยอะ (แฟนผมลากกระเป๋ามาสองใบครับ ส่วนผมใบเดียว) ด้วยความที่มากันสามคน จึงตัดสินใจเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวอังกฤษด้วย London Taxi ด้วยการที่คิดมโนเอาเองว่า ยังไงค่า Taxi มันคงไม่เกิน 3,000บาท หึหึหึ จากสนามบินไปที่พัก Hampton by Hilton (East Croydon) เกิน 3,000นิดๆ แต่เป็น 3,000ต่อคนนะครับ อุแม่จ้าวววว ค่า Taxi เกือบหมื่นบาท 5555555

มาถึงที่พักสำหรับ 3คืนแรก ที่ Hampton by Hilton เป็น Budget hotel ที่ดีมากๆ สำหรับคนที่งบน้อยแต่อยากได้ที่พักดีๆ ปลอดภัยๆ ครับ และที่ดีกว่านั้นคือ จากโรงแรมเดินไปไม่ถึง 5นาที จะพบกับสถานีรถไฟ ที่มีลิฟท์ให้สำหรับคนที่เดินทางมาพร้อมกับกระเป๋าลาก คือไม่ต้องแบกประเป๋าขึ้นลง
Google Map : https://goo.gl/OAtlFz
จากที่พักเข้าเมืองโดยรถไฟ มาลงที่ Victoria Station ใช้เวลาไม่นานประมาณ 30นาทีครับ มาถึงสถานีกันแล้ว โอ้วววว อากาศในเมืองหนาวกว่านอกเมืองอีกครับ คนท้องถิ่นที่อังกฤษ ตามที่คุณแม่ผมเล่าให้ฟังคือเม่อก่อนจะพกร่มติดตัว แต่สมัยนี้ผมไม่เห็นมีใครพกร่มเลยหนะครับ และที่ชอบใจคือ สาวอังกฤษ ยกกระเป๋า Brand name อย่าง Chanel หรือ Hermes ขึ้นมาบังละอองฝนครับ
ทริปครั้งนี้เป็นทริปแนว ตื่นสาย ไม่รีบ เดินเล่นและหาของกินไปเรื่อยๆ ทำตัวคล้ายกับใช้ชีวิตอยุ่ที่อังกฤษในช่วงปิดเทอมและไม่ต้องทำงาน 5555 เชิญชมภาพครับ ภาพตลอดทั้งทริปจะเป็น HTC M8, HTC ReCamera, Sony NEX6 และ Samsung Note4 นะครับ…จริงๆ แล้วมีรูปเยอะกว่านี้ แต่ผมหาไม่เจอ ไม่ทราบว่าเอารูปไปเก็บไว้ที่Drive ไหน เลยเอารูปมาจาก Facebook และ Instagram ของผมและแฟนหนะครับ
Pub & Restaurant เก่าแก่รวมร้อยปีมั้งครับ


taylor walker pub since 1730 ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องพายครับ







the kensington creperie ร้านนี้สำหรับสายแข็งต้องลอง Crepe Normandes เหล้าแรงมากครับ











สำหรับนักกินสาย Shabu หรือ Buffet ผมขอแนะร้าน Hotpot Buffet คล้าย Nobu บ้านเราเพียงแต่ว่าเนื้อวัวของเค้าอลังการ และมีช่องน้ำซุปให้ถึง 3 ช่องครับ และเมนูที่ไม่ควรพลาดคือเนื้อแกะย่างเครื่องเทศเสียบไม้ครับ อร่อยมากครับ
Little Lamb Hotpot

Google Map : https://goo.gl/maps/iizKWL7SPu62

เดี๋ยวผมเขียนเพิ่มนะครับ เพราะว่า การตั้งกระทู้เค้าจำกัดที่ 10,000ตัวอักษร ซิ่งแค่นี้ก็ใช้ไปเกือบ 9,500ตัวอักษรแล้วครับ

หมายเหตุ : แก้ชื่อสายการบิน