[CR] สวัสดี Mt. Fuji-San ในที่สุดเราก็ได้พบกัน : First Time in Japan 9 days/8 nights (Kawaguchiko - Kyoto - Tokyo)

ญี่ปุ่น...ประเทศในฝันของใครหลายๆคน แต่ก่อนจะไปเที่ยวทีต้องวุ่นวายขอวีซ่า ค่าตั๋วก็แพง แต่ในช่วง 2 - 3 ปีหลังๆญี่ปุ่นได้ยกเลิกการขอวีซ่าในการเข้าไปท่องเที่ยวประเทศ ความฝันที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นเลยอยู่ใกล้ขึ้นมาอีก หนึ่งในนั้นก็มีลิงน้อยเนี่ยแหล่ะที่ฝันเหมือนกัน ฝันอยากไปญี่ปุ่น อยากไปถ่ายภาพ อยากไปชมความงดงามสักครั้ง ประเทศที่ถูกกล่าวขานกันว่าผู้คนมีวินัย อาหารอร่อย และการคมนาคมที่ดีเลิศ

นั่งดูรีวิวญี่ปุ่นตามรีวิว Web ต่างๆ คลิ๊กเมาส์ไปมา เอาว่ะ!!!ลองไปมันดูสักครั้ง ว่าแล้วก็ชวนเพื่อน จองตั๋วเลย ทริปนี้ลิงน้อยและคณะเดินทางไปสู่ดินแดนในฝันกันด้วยสายการบิน ANA ซื้อตั๋วล่วงหน้าเป็นปีเลย ได้ราคาถูกกว่าซื้อใกล้ๆวันเดินทาง ยิ่งวางแผนจะเที่ยวช่วงซากุระแล้ว ต้องรีบซื้อก่อนโดยด่วน เพราะแน่นอนการที่ไปช่วง High Season ของญี่ปุ่นตั๋วเครื่องบินและที่พักแพงกระฉูดแน่ วางแผนกันแต่เนิ่นๆดีกว่า สำหรับค่าที่พักอันนี้ Control ไม่ได้นะจองเร็วของช้าในช่วง High Season ราคาก็แพงเหมือนกันดีที่ถ้าจองเร็วก็ได้ที่พักดีที่หมายตาไว้หน่อย เดินทางกันช่วงวันที่ 8-16 เมษายนครับ

ทริปนี้ใช้เวลาเที่ยวที่ญี่ปุ่น 9 วัน เน้น 3 เมืองคือ Kawaguchiko Kyoto และสุดท้ายกลับมาช๊อปปิ้งต่อที่ Tokyo เลยซื้อ JR Pass เอาไว้ใช้เดินทาง JR Pass ซื้อที่บริษัททัวญี่ปุ่นแถวๆออฟฟิศ ได้ราคาลด 7% ถ้าจ่ายเงินสด และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้คือ Wifi เช่า Pocket Wifi ไปด้วยเผื่อหาข้อมูล ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆได้ตลอด

เอาหล่ะมาเริ่มกันที่ Kawaguchiko ก่อนเลยนะ ความตั้งใจที่ไปเมืองนี้คืออยากไปเห็น Mt.Fuji ออกตัวไว้ก่อนว่า Review นี้จะไม่ได้แนะนำขั้นตอนการเดินทาง ไม่ได้เน้นประหยัด เรื่องการเดินทางต่างๆคาดว่ามีเซียนญี่ปุ่นแนะนำไว้เยอะแล้ว อีกอย่างที่ไม่อยากแนะนำคือไปกันแบบหลงๆงงๆแต่ก็ถึงเว้ยเฮ้ย ขืนแนะนำเกิดผิดหรือลำบากกว่าเดิมจะโดนสรรเสริญภายหลังเอา 555+

เพราะหาข้อมูลจากรีวิวและเชื่อหมดใจ 100% เนี่ยแหล่ะ ตารางการเดินทางของลิงน้อยและชาวคณะเลยเปลี่ยนเลย ดังนั้นเชื่อข้อมูลการเดินทางของประเทศที่จะไปปัจจุบันดีกว่า เพราะเดิมที่วางแผนไว้จะไป Kawaguchiko โดยรถบัสจาก Shinjuku จองที่นั่ง Online ไว้ 13.30 น. ทำตามขั้นการจอง Online ตาม Review เป๊ะ ปรากฎว่ามีถึงสนามบินนาริตะ 08.30 น. ติดอยู่ตรงตม.เกือบชั่วโมง ออกมาและ JR Pass แถวยาวเหยียดใช้เวลาอีกพักใหญ่ พอได้ JR Pass มาปรากฎตารางเวลา JR ที่จะไป Shinjuku ไม่ทันไปรับตั๋วรถบัส อ่ะก็ไม่เป็นไรไปซื้อที่หน้า Counter แล้วกัน เดินทางไปจุดขึ้นรถบัสตาม Review หากันอยู่นานปรากฎจุดขึ้นรถย้ายไปที่ NewoMan ชั้น 4 แล้ว อ๊าาาาาาาาเอางัยดี เดินไปจนเจอแต่ตั๋วเต็มหมดทุกรอบ สุดท้ายตัดสินใจเปิด Hyperdia ไปรถไฟมันซะเลย จากเดินที่กะว่าจะไปถึง Mt.Fuji สักบ่ายสามขี่จักรยานรอบทะเลสาปชิคๆ เลยไปถึงกันจะห้าโมงเย็นเลยจ๊าาา เรื่องนี้ต้องโทษตัวเองเต็มๆที่เช็คข้อมูลไม่ดี 555+

แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ดัชนีความสุขของพวกเราลดลงนะ เพราะระหว่างทางที่นั่งรถไฟไปข้างทางมันสวยงามมากๆเพลินลืมเหนื่อยเลย

เอาหล่ะเวิ่นมาเยอะเข้าเรื่องกันเลย ที่ฟูจิ พวกเราเลือกพักที่ Lake Weekend Shuffle จองล่วงหน้าตั้งแต่ตอนที่ระบบเริ่มเปิดให้จอง 6 เดือนก่อนวันเข้าพัก เห็นเว็บว่าสวยแล้วของจริงสวยกว่าอีก อันนี้ไม่ได้อวยนะ และไม่ได้ SR ด้วยมันสวยจริง















คุณ Teppei เจ้าของที่พักใจดีมากๆออกมาต้อนรับ แนะนำข้อมูลต่างๆ ดูแลดีตั้งแต่วันเข้าพักจนวันกลับเลย ที่พักเดินทางสะดวกนะนั่ง Retro Bus มาลงสถานี 17 หรือ 18 ก็ได้อยู่ระหว่าง 2 สถานี ใกล้จุดชมซากุระ มีจักรยานให้ขี่ เลิศแบบนี้ให้ดาวเต็มฟ้าเลยจ๊าาาาา

ถึงเวลาไปตามหา Mt. Fuji กันหล่ะ วันที่อยู่ที่ Kawaguchiko ท้องฟ้าโปร่งเห็นคุณฟูจิทุกวันเลย ว่าแล้วก็ออกไปทักทายกันหน่อย





มันสวยงามจริงๆนะ หยิกแก้มตัวเองเบาๆไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยเคยเห็นแต่ในรูปของจริงมันสวยสง่าและอลังการมากๆให้ยืนมองกันทุกวันก็ไม่มีเบื่อ

เสียดายช่วงที่ไปซากุระเพิ่งเริ่มออกดอก แต่ยังไม่ออกเต็มเลยไม่ได้เก็บภาพวิวฟูจิกับดอกซากุระ Full Bloom เลย แต่แค่นี้ก็ฟินแล้ว คุ้มค่าเหนื่อยที่เดินทางกว่าจะมาถึง















ที่ Kawaguchiko มีที่เที่ยวหลายจุดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะตามสถานีต่างๆ แต่เนื่องจากเวลามีน้อยเลยขอเน้นที่สำคัญๆก่อน พวกเราไปกันที่เจดีย์แดง Chureito Pagoda เจดีย์ 5 ชั้นมุมมหาชนที่หลายคนคงคุ้นตา เดินขึ้นบันได 400 ขั้นชมความงดงามระหว่างทาง ดอกไม้สวยๆ และซากุระที่เริ่มแข่งกันออกดอกใหันักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงดงาม เสียดายที่มุมมหาชนคุณฟูจิถูกเมฆบังซะงั้น รออยู่เป็นชั่วโมงฟ้าก็ยังไม่โปร่ง เลยเดินลงเพื่อจะไปเที่ยวที่อื่นกันต่อ ปรากฏฟ้าเปิดตอนลงมาถึงข้างล่างแล้ว จะให้เดินกลับขึ้นไปอีก 400 ขั้น คงไม่ไหว แปะไว้ก่อนรอบหน้ามาแก้มือกันใหม่นะ

















ออกจาก Chureito Pagoda ก็แวะไปหาของกินในเมือง เดินเพลินไปหน่อย เรายังมีต้องไป Kachi Kachi Ropeway ดูนาฬิกาเฮ้ยจะ 4 โมงแล้ว ได้ขึ้นกระเช้ากันรอบสุดท้ายพอดีข้อดีของการไปช่วงเย็นคือคนน้อย อยากถ่ายรูปมุมไหนเดินไปได้เลย ไม่ต้องเกรงใจต่อแถวรอกัน ข้อเสียคือแสงหมด 555+ ได้ภาพแบบแสงโพล้เพล้ๆมา







ระหว่างจะไปร้านอาหารกินอาหารเย็นกันขอแวะถ่ายรูปจุดชมซากุระช่วงเย็นสักหน่อยมีประดับไฟ และ Light Up รอช่วง Full Bloom อยู่


เมนูประจำที่กินกัน และคิดว่าใครมาเมืองนี้คงไม่พลาดเมนูนี้แน่ๆ คือ Hoto Noodles อร่อยชอบฟักทองมากหวานฝุดๆ ร้านแถวๆที่พักจำชื่อไม่ได้ แต่ร้านที่เปิดช่วงเย็นๆมีไม่กี่ร้านหรอก แถวนั้นร้านค้าปิดไวมาก





ช่วงเช้าออกมาขี่จักรยานถ่ายรูปเล่นรอบทะเลสาบทักทายคุณฟูจิก่อนไปกินอาหารเช้าและเตรียมตัวเดินทางไปเกียวโตกันต่อฮ่ะ





ระยะเวลา 3 วัน 2 คืนมันน้อยไปจริงๆที่จะเก็บจุด Landmark สวยๆอีกหลายที่ ถ้าเพิ่มอีกสักวันคงดี แต่มีโปรแกรมต้องไปเกียวโตต่อ แน่นอนติดใจซะขนาดนี้ มันต้องมีซ้ำอีกรอบแน่นอน คราวหน้าต้องวางแผนเดินทางดีๆกว่านี้จะได้มีเวลาเที่ยวได้รอบๆ เอาไว้เจอกันอีกนะคุณฟูจิ

เดี๋ยวเจอกันต่อใน Part เกียวโตนะฮ่ะ ระหว่างนี้แวะเข้ามาคุยกันได้ตามภาษาคนชอบเที่ยว https://www.facebook.com/Lingnoiphotography/?ref=hl หรือ https://www.facebook.com/lingnoiphotographer

ขอบคุณที่แวะมาอ่านกันน๊าาาา