เมื่อตุ๊ดคนนึง อยากสมัครทหาร ประสบการณ์การเป็นทหารฉบับตุ๊ดจึงเกิดขึ้น (ทหารอากาศ)

สวัสดีครับ ผมชื่อบาส เป็นเกย์ธรรมดาทั่วไป ออกสาวบางอารมณ์ ปกติจะเป็นคนเงียบๆ แต่ถ้ารวมแก๊งซ์กับเพื่อนสาวเมื่อไหร่คือ "ร้านพัง" เอาล่ะครับ ปกติผมจะเป็นคนชอบอ่านและติดตามเรื่องต่างๆ ในพันทิปอยู่เสมอ และด้วยเหตุการณ์การเป็นทหารของตนเองจึงอยากแชร์ประสบการณ์ให้สำหรับเพศที่ 3 หรือชายแท้ ที่ติดทหารหรือสมัคร ได้อ่านกันว่าการเป็นทหารมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เราคิดว่าสนุกด้วยซ้ำ และ นี่จึงเป็นงานเขียนเรื่องแรกของผม ...... (โดยในเนื้อหาบางช่วงมีภาษาใต้แต่ผมจะซับตามหลังให้)

เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อตอนเรียนปี 4 ม.อ. หาดใหญ่ เห็นรุ่นพี่นางนึงอัพรูปเป็นทหาร คือชั้ลเห็นแล้วอย่างเท่ห์และอยากเป็นมาก ซึ่งปกติก่อนหน้านี้ แอนตี้เรื่องการเป็นทหารมาก แต่ด้วยว่าเราไม่ได้เรียน รด. และข่าวทหารที่ออกมาแต่ละข่าว ปวดกระดองใจมาก จนจบปริญญาชั้ลก็กลับบ้านและชวนเพื่อนตอนเรียน ม.ปลาย โดยมี โฉย และปอยแต่เพื่อนในห้องเรียกว่าอีซิ้ม ชวนไปดูหมอดูกันซึ่งวันนั้นเราไปดูกัน 3 ที่ โดยทั้ง 3 ที่ฟันธงเป็นเสียงเดียวกันว่า ต่อให้จับก็ติด เพราะชีวิตเธอมาทางสายนี้

โฉย : ว่าพรือ ( ภาษาใต้ : เอาไง )
อีซิ้ม : เอาต๊ะ ดีเล่า เป็นหน้าเป็นตาห่ายที่เริน ( ภาษาใต้ : เป็นหน้าเป็นตาให้ที่บ้าน )
ชั้ล : กรอกตา มองบนเลยคะ

ชั้ลครุ่นคิดเรื่องนี้ถึงขั้นนอนไม่หลับ จนในที่สุด รุ่งเช้า

ชั้ล : หลังบวชเสร็จบาส สมัครทหารนะ
พ่อ : เดี๋ยวน่ะ ลูกพูดว่าอะไรน่ะ
ชั้ล : หลังบวช บาสจะสมัครทหาร (คือตอนนั้นเราก็อยากบวชเพราะเราเรียนจบรับปริญญาแล้วมันก็ถึงเวลาทดแทนพระคุณ)
พ่อ : จะบวชเหรอ
บาส : คับ
พ่อ :  ไม่พูดอะไร เดินออกไป สตาร์ทรถมอไซค์ บิดเครื่องพร้อมซิ่ง
บาส : พ่อ ไปไหน
พ่อ : กุจะไปวัดดูฤกษ์ให้ไง
บาส : แต่นี่จะทุ่มนึงแล้วน่ะพ่อ
พ่อ : .............

หลังจากบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่เสร็จ ก็มาถึงโค้งสุดท้ายในชีวิตที่ชั้ลอยากเป็น คือการเป็นทหาร

วันที่ 2 เมษายน 2558 ณ ที่ว่าการอำเภอนาโยง
เป็นที่รู้ๆกันว่า การคัดเลือกทหารกองประจำการทุกปีๆ การตรวจร่างกาย เค้าต้องถอดเสื้อ ใครที่ใส่เกงขายาวต้องพับขากางเกง เผยให้เห็นช่วงขามากที่สุด

             ด้วยความที่ตนเองเป็นคนมีความมั่นใจสูง การแต่งกาย ณ วันนั้นคือ เสื้อคอวี เอาเสื้อไว้ในกางเกง ใส่กางเกงขาสั้น ตามด้วยพร๊อบแว่น เรย์แบน (ก๊อป)สีดำ กางเกงถามว่าสั้นแบบไหน คุณลองนึกถึงพี่สาวของชั้ล Taylor Swift อัลบั้ม Red ดู พอชั้ลย่างกรายเข้าอาคารตรวจเลือกปุ๊บ ทุกสายตาคือ มองมาที่ชั้ลคือ มองแล้ว ซุ๊บซิบ ไปมา แต่ก็ไม่ได้สนใจ ทำหน้าที่ของเราต่อไป
            เมื่อมาถึงเค้าจะเรียกชื่อ เราขานรับ ยื่นบัตรประชาชน มีพี่ทหารเค้าเขียนเลขที่แขน รอตรวจร่างกายตรวจเสร็จ เค้าถามว่าจับหรือสมัคร ชั้ลบอกสมัคร และด้วยความที่ชั้ลสายตาสั้น แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคอะไร ก็คัดแล้วอยู่ประเภทที่ 1 คือ สมบูรณ์ดี และก็ถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการกรอกประวัติ แต่สำหรับชั้ลมันมีเหตุการณ์โชว์หัว* เกิดขึ้น (*โชว์หัว ศัพท์ที่เด็กศิลปศาสตร์ มอ. หาดใหญ่ ใช้กันแพร่หลายทั้งในและทั่วมหาลัย ซึ่งหมายถึง เรื่องตลก ที่เกิดขึ้นต่อหน้าผู้คนหลายคนทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ )

พี่ทหาร : เอ้า เขียนเสร็จแล้ว รอจับเลยไป รอประมาณ บ่าย 2 น่ะ
ชั้ล : อ่อ ไม่คับ ผมสมัครคับ
พี่ทหาร : เห้ย เอาจริงดิ ! เอาเหล่าอะไร ?
ชั้ล : เอาทหารอากาศคับ
พี่ทหาร : ทหารอากาศ เหลือ ผลัด 2 แล้วก็เหลืออีก 2 คนแล้วน่ะ
ชั้ล : ห๊าาาาา !
( ความตั้งใจของชั้ลคือสมัครผลัดแรก ซึ่งปลดเดือนพฤษจิกา มันจะได้จบๆ ไป แต่นี่ ผิดแผน อยากจะร้องไห้ แล้วที่นี้เอาไง ทำไมคนสมัครเยอะจัง เหลือ ทหารเรือ ทหารบกปัตตานี ซึ่งชั้ลขอบาย เอาว่ะ   )
ชั้ล : ทหารอากาศคับ
พี่ทหาร : เออ ทหารอากาศ เมิงเป็น 6 เดือนนิ ถ้ายื่นปริญญา แถมค่ายอยุไม่ไกลเอง
เมื่อเสร็จพิธีการเลือกเหล่าทหาร ประหนึ่ง เลือกแค๊ตตาล็อคซื้อของแล้วเขียนชื่อไว้ที่มุมสินค้าที่เราอยากได้
ประธานการตรวจเลือกก็ประกาศ รายชื่อคนที่สมัคร โดยมีคนสมัคร 5 คนโดยมีชั้ลรวมอยู่ด้วย ประธานพูดจบ ทุกคนในอาคารปรบมือ โห่ลั่น โดยในใจคิดว่ามีใบดำเพิ่มขึ้นอีกแล้ว แต่ชั้ลด้วยความลืมตัวหรืออะไรดลใจก็ไม่รู้ .... ลดตัว นั่งพับขา ก้มกราบอย่างสวยงาม
สิ่งที่ตามมาจากเหตุการณ์นี้คือ เสียงกรี๊ดด แล้วตามด้วยเสียงอีป้าด้านข้าง
อีป้า : ตุ๊ดเบอะ ลูกใครหล่าว ตายๆ ยำแล้วพันนี้ ( ยำแล้ว : พังแน่ๆ )
ชั้ล : ลุกขึ้น  (พูดในใจ สะเออะค่ะป้า ) อีป้าร้ายมากก

พอเสร็จจากตรงนี้ จะมีเจ้าหน้าที่พาไปขึ้นทะเบียนทหาร พี่พนักงานบอกว่า ไปที่ไหน ต้องมาพบสัสดีก่อนไป 1 วัน(อันนี้อย่าลืม)
พี่พนักงาน : หนูเก่งมากเลยน่ะ ที่สมัครทหาร ผิวแบบนี้ต้องเป็นดาวในกองร้อยแน่
ชั้ล : ยิ้ม

สรุปคือ :: ชั้ลยื่น วุฒิปริญญาตรี ทอ.ผลัดที่ 2 เป็นแค่ 6 เดือน ถ้าชั้ลจับได้ใบแดง ยื่นวุฒิป.ตรี ก็เป็น 1 ปี

พอเสร็จก็รอดูเพื่อนจับ ใบดำ - ใบแดง

ตัดภาพมาตอนที่ขั้นตอนการตรวจเลือก ตอนที่นั่งอยู่ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนชายชื่อ ชุบ ที่มารอจับใบดำ ใบแดง ซึ่งคุยกัน มันบอกว่าไม่อยากเป็น มีภาระลูกเมียต้องดูแล มันก็บอกว่าเนี่ยเพิ่งไปบนมาที่สงขลาเค้าบอกว่าขลัง (เป็นที่รู้กันว่าคนที่รอจับเค้าจะมีการบนบานศาลกล่าว ตามแต่ที่คิดว่าดีที่ไหนเฮี้ยนก็ไปบนแล้วไปแก้ทีหลัง) ชั้ลก็ถามว่าบนที่สงขลาบนที่ไหน เพราะชั้ลเองก็รู้จักหลายที่

ชั้ล : ไปบนที่ไหน แถวสงขลาอ่ะ
ชุบ : อ่อ ผมเออ บนเท่กรมหลวงชุมพรนิ (สำเนียงใต้)
ชั้ล : เดี๋ยวๆๆๆ เดี๋ยวน่ะ กรมหลวงชุมพร เมิงบ้าป่ะเนี่ย ท่านเป็นทหารน่ะ ไปบนแบบนี้ก็พินาศดิ
ชุบ : หน้าเสีย และเงียบไป

ตัดภาพมาที่ตอนจับใบดำ
ถึงตอนชุบจับ ปรากฎว่า มันได้ ทบ. ผลัด 1 ปัตตานีคะ พ่อแม่พี่ป้าน้าอา คือสตั้น ส่วนเมียมันไม่ต้องพูดถึง เป็นลมพับไปเลยคะ

หลังจากนั้น บอกเลยต้องรอเวลา ช่วยพ่อทำงาน เพราะเราสมัครงานไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าติดเรื่องทหาร

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 ณ สนามกีฬาทุ่งแจ้ง

วันส่งทหารเข้าค่าย ซึ่งวันนี้ เป็นวันที่ชั้ลคืดว่าวุ่นวายที่สุด ไหนจะส่งทหาร ไหนจะมีงานเรือพระ จอดเรียงกันเป็นร้อยลำ แถมฝนตกอีก พี่ทหารเค้าก็เรียกตามสังกัดนั่งบนอัฒจรรย์ ทหารเรือเค้าจะมีชุดสีขาวเขียนชื่อ ชั้ลนึกว่าอยู้ร้านตัดผม ทหารบกเค้าจะดิบกว่านั้น ด้วยความที่รับเยอะ แถมผู้ชาย ทบ. ถือว่าหล่อมาก มีขาวตี๋ ซิคแพคไม่ต้องพูด มาเป็นลูกยิ่งกว่าลูกคลื่นสนามมอเตอร์ครอส  คิดในใจคือเสียดายมาก ส่วนของทหารอากาศนี่คือหลังเพื่อน เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารของทหารอากาศมาถึง ก็จะแจกเสื้อเสื้อคอวี ที่สกรีนคำว่าทหารอากาศ ซึ่งสวยมาก มีแต่คนอยากได้ ในขณะที่ทุกคนนั่งรอขึ้นรถ ชั้ลก็ไม่ลืมบรรยากาศนี้เลย คุณลองนึกว่าคุณมีลูกจนเลี้ยงดูเค้าจนเติบใหญ่ แล้ววันนึงลูกคุณติดทหาร ตอนส่งขึ้นรถนี่ ร้องไห้กันระงม แต่สำหรับชั้ลคือชิว ทำจิตให้ว่าง แล้วสแกนหนังหน้าเพื่อนร่วมรุ่น ทอ.58/2
ชั้ล : มองทีล่ะคน ..... อ๊ะ 1 ,อ๊ะ 2 แล้ว ,อ๊ะ 3 รวมชั้ลก็ 4 คน สรุปตัวแทน จ. ตรัง มีเพื่อนสาวรวมชั้ลทั้งหมด 4 คน แต่ล่ะคน แอ๊บค่ะ แอ๊บสุดพลัง
แต่มีอยู่คนนนึงที่เผยตั้งแต่แรก บ้านอยู่ละแวกเดียวกันชื่อ "เบิร์ด" ลักษณะทางกายภาพของเบิร์ดคือ เป็นเกย์รุก หล่อ หล่อมาก คุณลองนึกถึง กิก ดนัย จารุจินดา อย่างเหมือน แถมฮาร์ดแวร์ของเบิร์ดอลังการมาก ผู้ชายในค่ายยังอาย ปัจจุบันหลังจากแยกกองร้อย นางครองตำแหน่ง ดาวกองร้อย ท.ย. (ทหารอากาศโยธิน) เป็นที่เรียบร้อย

ชั้ล : ตื่นเต้นไหม ?
เบิร์ด : มาก ปนกลัว

จากนั้นเราก็เงียบใส่ ..... ไม่ได้เกลียด แต่ด้วยบรรยากาศที่เศร้า พ่อชั้ลส่งถุงลูกชิ้นและน้ำให้ก่อนขึ้นรถ และบอกว่ารักษาตัวดีๆ ส่วนน้าชั้ล ลูกพี่ลูกน้อง ที่มากับพ่อ ก็ยืนร้องไห้ส่งชั้ล

ค่ายที่ชั้ลอยู่เป็นค่ายทหารอากาศอยู่ใน จ.ภาคใต้ ให้เดากันเอาเองน่ะ ไม่ยาก ชั้ลใบ้มาตั้งแต่เริ่มเรื่องล่ะ !
เมื่อรถมาถึงประตูทางเข้าค่าย ทุกคนคือเหงื่อตก ทั้งที่ในรถแอร์เย็นมาก บางคนก็อยู่ไม่เป็นสุข รถขับเข้ามาลึก โดยเส้นทางขนานกับรันเวย์สนามบิน พอถึงหน่วยฝึกก็จะมีจ่าเวร (เวรจริงๆ) ,รุ่นพี่คอยต้อนรับ ซึ่ง ณ ตอนนั้น เป็นกันเองมากจริง ๆ
เมื่อเข้าไปถึงห้องประชุม เค้าจะมีการแยกจังหวัด แยกวุฒิที่สมัครหรือจับติดมา กรอกประวัติ ซักถามเรื่องยาเสพติด ฝากโทรศัพท์ ใครที่มีของมีค่า เช่นเงิน ของมีค่า ต้องฝาก อย่าเก็บไว้กับตัว มีโทรศัพท์ เค้าจะยึดจนกว่าจะฝึกเสร็จ ขั้นตอนนี้อย่าเหลียมเพราะถ้าจับได้ทีหลังเดือดร้อนทั้งรุ่น จากนั้นจะแยกหมวดหมู่ที่จะฝึก ชั้ลอยู่ หมวด 2 หมู่ 2 , ส่วนเบิร์ด อยู่หมวด 2 หมู่ 3 สรุปว่าเราอยู่หมวดเดียวกันแต่คนละหมู่

ปล. คนที่ติดทหารอากาศที่นี่พกเงินมาเยอะๆ เลย อย่าไปเชื่อสัสดีว่าไม่ต้องพกอารัยมา ที่นี่ของกินพรึบ ขอบอก หิวตลอดเวลาแน่
ตอนรายตัวเจอรุ่นพี่คนนึง ถามทีหลังว่าชื่อพี่ตั้ม รุ่น 57/1 เจอครั้งแรกสัมผัสได้เลยว่านี่คือตัวแม่
คิดในใจชั้ลต้องโดนกันซีนแน่

มาที่เรื่อง เซอร์ไพร์ตอนรายงานตัว

วันนั้นเป็นแรกที่เข้าหน่วยฝึก และเป็นครั้งแรกที่ชั้ลได้เจอเพื่อนเก่า ที่ไม่เจอกันเกือบ 10 ปี
ยังจำจ่าเวรที่ชั้ลบอกไปได้ใช่ไหม คนนั้นแหละค่ะ คือเพื่อนเก่าตอน ม.ต้น ที่ไม่เจอกันนาน  ชื่อ ไปป์ ที่กองพันเค้าจะเรียก จ่าไปป์ใหญ่ เพราะที่หน่วยฝึกมีจ่าชื่อไปป์ 2 คน อีกคนจะเป็นจ่าไปป์เล็กที่เพิ่งบรรจุจากมาโรงเรียน จ่าอากาศ
       ตอนที่ชั้ลกับจ่าไปป์ใหญ่เรียนที่เดียวกันแต่คนล่ะห้อง ที่ รร.แถวพรุค้างคาว แดนชะนีชอบนัดตบกันหลังโรงเรียน ณ ตอนนั้น คือไปป์หล่อมาก ชะนีติดตรึม ขนาดชั้ลยังแอบชอบ ชอบแซวนางอยู่บ่อย ๆ และไม่คิดด้วยว่า เพื่อนจะมาเป็นครูเพื่อน แถมมันยังเป็น ผบ.หมู่ชั้ลด้วยน่ะ
ตัดภาพมาที่ห้องประชุมหน่วยฝึก ชั้ลกับจ่าไปป์ต่างคนต่างไม่แน่ใจว่ารู้จักกันไหม แต่ชั้ลจำได้
จ่าไปป์ใหญ่ : เราเคยเรียนที่เดียวกันใช่ไหม ?
ชั้ล : ใช่ เธอจำไม่ได้เหรอ เราอยู่ ห้อง 2 ไง
          ชั้ลยอมรับว่าตอนนั้นเขิลมาก ว่าคนที่แอบชอบดันมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง แต่เราก็ต้องเฉยเพราะการที่รู้จักใครในค่ายมันไม่เป็นเรื่องดี เพราะเดี๋ยวเค้าจะหาว่าเป็นเด็กเส้น ทุกวันนี้เวลาคุยด้วยกัน 2 คน เราจะคุยกันแบบเพื่อน แต่ถ้าอยู่กันหลายคนก็ต้องทำความเคารพ ให้เกียรติกัน กระทั่งตอนนี้น้อยคนนักที่จะรู้ว่าชั้ลกับไปป์รู้จักกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่