[CR] เกาะช้าง รีวิว 2 วัน 1 คืน ทริปสุด

กระทู้รีวิว
สวัสดีอย่างเป็นทางการนะครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิตผม ซึ่งเรื่องราวที่ผมตั้งใจจะมาแบ่งปันในกระทู้นี้เป็นประสบการณ์ในการเดินทางและท่องเที่ยวที่เกาะช้าง จ.ตราด ในช่วงฤดูร้อน ถึงร้อนมาก และร้อนจัดๆ ซึ่งมันก็มีประสบการณ์และความทรงจำที่สนุกและฮาปะปนกันไป เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
              โดยผมมีเวลาในการเที่ยวไม่มากนัก ผมจึงจัดทริปแค่ 2 วัน 1 คืน แต่ก็พยายามใช้ให้มันคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งมี concept ของเราคือ Low Price High Experience ตั้งแต่วันที่ 6-7 มีนาคม 2559 โดยทริปในการไปครั้งนี้เราขับรถยนต์กันไป ซึ่งมันดูเหมือนจะไม่ใช่ทริปแบบ Backpack แบบสมจริงสมจัง แต่มันพีคและเป็น Backpack ตรงที่ว่า เราไปหาที่พักที่กินเอาดาบหน้าครับ ไม่มีการวางแผนและเตรียมตัวอะไรใดๆสิ้นเชิง และนี่แหละก็คือจุดเริ่มต้นความฮา ความสนุกบั่งของพวกเรา
    ซึ่งเราคิดว่าถ้าเรานั่งรถทัวร์ไปมันมีค่าใช้จ่ายที่พอๆกับเราเสียค่าน้ำมันเอง หรือก็แพงกว่าเราจึงตัดสินใจขับรถยนต์กันไปเองครับ เราก็เลยเริ่มออกเดินทางกันจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ตอนเช้าของวันที่ 6 มีนาคม 2559 เราขับรถ และพักตามทางไปเรื่อยๆ ค่อยๆไป แบบชีวิต Slow life เราก็แวะกินข้าวเที่ยงกันแถวๆ จ.ระยอง ซึ่งในระหว่างกินข้าวเที่ยงเราก็มีบทสนทนาเกิดขึ้นครับ
ผม : เราจะไป-ไหน หรือพักไหนวะเนี้ย?? (ขออภัยที่ใช้คำไม่ค่อยสุภาพครับ)
เพื่อน1 : จะยากไรวะ เดี๋ยวหาเอาดาบหน้าละกัน ไม่ยากหรอก
ผมก็ค่อยๆโทรติดต่อไปเลยครับ ปรากฏที่พักส่วนใหญ่เต็มและแพงครับ งานงอกสิครับ ทำไงหละทีนี้ หยาบแล้วตู
ผม : มิง เอาไงดีวะ ที่พักส่วนใหญ่มันก็เต็ม หยาบละ
เพื่อน2 : นั่นสิ เอาไงดีวะเนี้ย กูไม่นอนถนน หรือหาดนะ แสสสส
เพื่อน3 : กูรู้ละ บ้านมิงไง ให้พ่อมิงหาสิ บ้านมิงอยู่ตราดอะ
เพื่อน2 : ชัดเลยกู…
หลังจากจบบทสนทนารอไรหละครับ เพื่อนผมก็โทรหาพ่อทันที ไฟต์บังคับครับท่านผู้ชม 555 และสุดท้ายพ่อเพื่อนก็หาที่พักให้เราได้ พร้อมอาหารทะเลเพียบพร้อมครบถ้วน ตามๆกัน ก็เป็นอันว่า สบายตัวพวกเราไปเลยครับ หายห่วง



พักกินน้ำ เข้าห้องน้ำกันแปปปป


เมื่อกินข้าวเที่ยงเสร็จเราก็มุ่งหน้าออกเดินทางไปที่บ้านเพื่อนเพื่อแวะเข้าไปหาพ่อเพื่อนก่อน ไปสวัสดีและกราบขอบคุณงามๆสำหรับที่พัก และอาหารเย็นพวกเรา เราก็แวะพักที่บ้านเพื่อนกันแปปนึงเนื่องจาก อากาศร้อนและร้อนมาก เพราะเป็นช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ในช่วงเวลาพักของพวกเรา ก็จัดไปสิครับ Ducati796 สีแดง ร้อนแรง พุ่งปี๊ด สลับกันถ่ายรูปให้ไวเลยหล่ะครับ รวมไปถึงเอามันออกไปแว๊นเล่นซะด้วยสิ



พวกเราอย่างกับไบเกอร์ไทย 5555



พอประมาณ 16.00 น. เราก็เดินทางออกจากบ้านเพื่อนเพื่อมุ่งหน้าไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ ท่าเรือที่จะแบกหมาๆ 4 ตัวและยานพาหนะอีกคันเพื่อข้ามไปยังเกาะช้าง โดยการข้ามไปที่เกาะช้างเราจะต้องเสียเงินเป็นจำนวน หัวละ 80 บาท และรถยนต์อีก 1 คัน 100 บาท ก็รวมเป็นเงินในการข้ามไปทั้งสิ้น 420 บาท


อันนี้ก็เป็นที่เราขึ้นเรือ และลงเรือเฟอร์รี่นะครับ




วิวสวยมากๆ



หลังกระบะรถก่อนขึ้นเรือเฟอร์รี่ครับ




เราใช้เวลาเดินเรือมหาสมุทร เอ้ย!! เวลาในการนั่งเรือเฟอร์รี่ประมาณ 30 นาที ก็ถีงบนเกาะช้างนะครับ  เมื่อเราลงเรือเฟอร์รี่ก็ขับรถยนต์มุ่งหน้าไปยังที่พักที่พ่อเพื่อนเตรียมไว้ให้เรานะครับ เพื่อนก็ขับไป ขับไป ขับไป และก็ขับไป ความพีคมันเกิดขึ้นตอนนี้อีกละครับ
เพื่อน1 : มิง ทำไมไม่ถึงสักทีวะ นานละนะ
เพื่อน3 : นั่นดิ แล้วกุว่ายิ่งขับๆ มันก็ยิ่งเข้าป่าไปเรื่อยๆนะ ไม่เห็นจะลงไปทะเลสักทีวะ
เพื่อน1 : มิงจะพากุไปฆ่าหมกป่าปะหนิ
เพื่อน2 : เออ ทางนี้ละ พ่อกูบอกมา
ผม : เคๆ ตามนั้น
    ขับไปได้สัก 30 - 40 นาที เนื่องจากวนหลงไปหลงมา และสุดท้ายเราก็ถึงที่พักของพ่อเพื่อนที่เตรียมไว้ให้
>>> และแล้ว แต๊น แตน แต้นนนนนน!! <<<


ที่พักของเรานะครับ บ้านแม่รีสอร์ท




ถือว่าอากาศดีครับ






ถึงจะผิดขาดไปนิด แต่ก็ถือว่าบรรยากาศดีครับ




มันไม่ได้เป็นอย่างที่พวกผมคิดครับ ท่านผู้ชม มันคือ ป่า ป่า และก็ป่าชายเลนครับ หน้าตกกันไปตามๆกัน 555 แต่ช่างเถอะ เราก็คิดสะว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศครับ รับลมชิลๆปิ้งย่างที่ชายเลนทะเลบ้างละกัน ก็เริ่มเก็บของเก็บกระเป๋าสัมภาระกัน ซึ่งบ้านพักของเราก็กว้างขวาง สะดวกสบาย โดยที่บ้านพักของเราแห่งนี้มีชื่อว่า “บ้านแม่ รีสอร์ท” เมื่อเราเก็บของอะไรเสร็จเรียบร้อย เราก็เตรียมตัวทำอาหารทะเลปิ้งย่างกินกันครับ สถานที่กินของเราก็ ทางเดินริมทะเลที่ไม่มีรั้วกัน ถ้าสมมุติกินแอลกอฮอล เมาเมื่อไหร่ก็ตกปั๊บ 555
เราก็เริ่มปาร์ตี้ปิ้งย่างยามค่ำคืนกันครับ ซึ่งพอตกดึกเรื่อยๆ ที่นี้ก็มีอากาศเย็นสบาย ลมพัดผ่านตลอด ก็ถือว่าไม่เสียหาย และเสียดายครับที่มาพักที่นี้ ถึงแม่ตอนแรกพวกเราจะผิดหวังกันไปนิดก็ตาม เรากินกันตั้งแต่หัวค่ำยัน 3 – 4 ทุ่มก็ไม่หมดสักทีครับ เพราะที่พ่อเพื่อนสั่งกับทางที่พักนั้นมันเยอะมากๆ พอเรารับลม ชมวิว กินปิ้งย่างกันเสร็จแล้ว เราก็ทำการเข้าที่พัก เพื่อเตรียมตัวจะนอนกันครับ และเราก็คุยกันถึงโปรแกรมในวันรุ่งขึ้นก็ตามเคยครับ ไม่มีแบบแผน ไม่มีกำหนดการ แผนที่เกาะช้างมีเดินทางหาเอาดาบหน้าครับ ชีวิตอินดี้ Backpack ของพวกเรา 4 ตัว 555
และแล้วก็มาถึงจุดพีคของพวกเราอีกครั้งขึ้นครับ เนื่องจาก
เพื่อน3 : ระวังเจอนะพวกมิง
เพื่อน1 : มาพูดทำ… ไรวะ แสสส
ผม : พวกมิงนี่นะ มาต่างที่แล้วยัง …..
เพื่อน2 : กูกลัวละเนี้ย คุยไรกันวะ ….เอ้ย
เพื่อน3 : โชคๆ พวกมิง โชค โดนแน่ 555
    เมื่อจบบทสนทนาก็เกิดการกระโดดยึดที่นอน และแย่งกันอาบน้ำขึ้น ซึ่งเป็นความฮาบั่งของพวกเรา กว่าจะได้นอนกันก็ปาเข้าไปประมาณเที่ยงคืนได้ครับ และที่ฮากว่านั้นคือ ตกลงว่าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ยามเช้าครับ
เพื่อน3 : ใครไม่ตื่น หมานะ 5555
    พอรุ่งขึ้นตามนั้นครับที่ตกลงกันไว้ หมาครับๆ หมาวิ่งเลยครับ ไม่ตื่นกัน 2 คน คนพูดสะด้วยซ้ำครับ 5555 ซึ่งพระอาทิตย์ยามเช้าก็ครับ งดงาม สวยมาก เมฆนะครับ ที่งดงามและสวยมาก เนื่องจากฝนตก เมฆหนา ตามนั้นครับ เลยถ่ายรูปมาให้ดูไม่ได้เพราะเราไม่เห็นมันครับ ก็น่าเสียดายเลย พอเกิดการอดดูขึ้น เราก็เลยเข้ามานอนต่อสักพัก ตื่นอีกทีก็ประมาณ 9.00 น. ครับ เราเก็บของอาบน้ำแปรงฟัน เตรียมตัวออกจากที่พักเพื่อมุ่งหน้าไปเที่ยวรอบโลก เอ้ย!! รอบเกาะช้างครับ เราก็ออกเดินทางมุ่งไปยังหาดทรายขาว หาดที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวย และงดงามมากที่หนึ่งของเกาะช้างแห่งนี้นะครับ พอเราถึงหาดทรายขาวแล้ว เราก็ได้พักรับประทานอาหารกินกันที่ชายหาดนะครับ แต่ช่วงนี้นี่เองที่ผมโชว์สิ่งปาฏิหาริย์ นั่นคือ เดินเตะหินโง่ๆเลยนั่นเอง ทำเอาเลือดไหลนองเต็มพื้นเลยทีเดียวเชียว ทำให้อดเล่นน้ำไปเลย TT


    

ลมเย็น สบาย วิวดี




น้ำที่นี้ก็ใส สวย มากๆ







หาดสวยงาม

    
ละเมื่อรับประทานอาหารกันเสร็จสรรพแล้ว เพื่อนๆก็ได้ลงเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน (โดยที่ผมทำได้แค่มองอย่างอิจฉา) หลังจากที่เพื่อนๆได้เล่นน้ำกันประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็ได้เดินทางไปที่น้ำตกคลองพลู แต่เมื่อไปถึงเราก็พบกับเหตุไม่คาดฝันขึ้น นั่นก็คือ น้ำในน้ำตกแห้งเหือดจนไม่สามารถเล่นน้ำได้เลย เราจึงแค่แวะเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวกันนั่นเอง



เราก็มาถ่ายรูปกันที่นี่



วิวบนเกาะช้างที่จุดชมวิวไก่แบ้นะครับ




    หลังจากที่เราได้ล้างเนื้อล้างตัวเสร็จแล้ว เป็นเวลาเที่ยงวัน เราก็เดินทางไปที่จุดชมวิวที่สวยที่สุดในเกาะช้างนะครับนั่นคือจุดชมวิวไก่แบ้ ซึ่งจุดชมวิวนี้อยู่ไม่ไกลจากน้ำตกเท่าไรนัก เมื่อเราไปถึงก็ได้เห็นบรรยากาศที่สวยงาม เห็นทะเลสุดลูกหูลูกตากันเลยทีเดียว เป็นบรรยากาศที่งดงามมากจริงๆ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สุดท้ายที่เราสามารถมาได้ เนื่องจากเรามีเวลาเที่ยวกันน้อยมาก แต่สถานที่เที่ยวบนเกาะช้างไม่ได้มีเพียงเท่านี้นะครับ หากใครมีเวลาก็สามารถมาท่องเที่ยวสถานที่อื่นๆที่ผมยังไม่ได้ไปกันได้นะครับ
    ซึ่งการเดินทางท่องเที่ยวในทริปนี้เรามีค่าใช้จ่ายดังนี้
-    ค่าที่พัก 300 บาท/คน
-    ค่าอาหาร 200บาท/คน
-    ค่าน้ำมันรถ 320 บาท/คน
-    ค่าเรือเฟอร์รี่ 210 บาท/คน
รวมทั้งหมด 1030 บาท/คน
    สุดท้ายนี้ขอขอบคุณรายวิชา GEN 441 ที่ทำให้ผมและเพื่อนๆได้มาท่องเที่ยว เปิดหูเปิดตากันมากขึ้น หากไม่มีวิชานี้ พวกเราอาจจะไม่ได้เที่ยวกันอย่างสนุกสนานแบบนี้ก็ได้ และทางกระผมและกลุ่มก็ขอขอบพระคุณที่อุตสาห์อ่านกันมาถึงตอนนี้ หากมีการผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ชื่อสินค้า:   เกาะช้าง ตราด
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่