หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตามหารักแท้และหวังว่าสักวันจะค้นพบใครสักคนที่จะรักคุณในแบบที่คุณเป็น และจะเป็นคนที่จะอยู่ดูแลกันไปจนแก่เฒ่า แต่แล้วเหมือนตามหาเท่าไรก็หาไม่เจอสักที แอบคิดในใจว่าทำไมคนอื่นเขาถึงหาง่ายกันจัง แต่กับเรานั้นยากแสนยาก อย่าเพิ่งท้อค่ะ ขอให้เราเชื่อมั่นว่าคนที่ใช่มีอยู่จริง หลังจากที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ ดิฉันlก็อยากจะแบ่งปันข้อคิดหลักๆให้ผู้อ่านทุกๆท่าน
1.รักและเข้าใจตัวเอง
ก่อนที่จะหาใครสักคนที่เราจะรัก เราต้องรู้จักรัก เคารพ ให้เกียรติและเห็นคุณค่าในตัวเอง ให้ความรักกับตัวเองโดยการดูแลและทะนุถนอมร่างกายและจิตใจ ยิ่งไปกว่านั้นเราต้องเข้าใจตัวเองก่อนว่าเราเป็นคนแบบไหน ชอบหรือไม่ชอบอะไร อะไรที่ทำให้เรามีความสุข อะไรที่เราต้องการ อะไรที่เราอยากจะทำในชีวิต อะไรที่เราพร้อมที่จะให้กับคนอื่น ข้อดี ข้อเสียของเราที่จะมีผลต่อความสัมพันธ์ ก่อนที่จะหาคนที่จะมาเข้าใจเรา เราเป็นคนที่ต้องเข้าใจตัวเองก่อน ถ้าหากเรายังสับสนกับตัวเอง ก็คงจะยากที่จะหาใครสักคนที่จะมาเข้าใจเราได้
2.มีเป้าหมายที่ชัดเจน ในรูปแบบความสัมพันธ์ที่ต้องการ
เราควรจะมีความชัดเจนในเป้าหมายรูปแบบความสัมพันธ์ที่ต้องการ เราอาจจะจดลักษณะ บุคลิก นิสัยของคู่ครองที่เราต้องการ โดยต้องมีความชัดเจน อาจจะไม่ใช่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ไม่ใช่เป็นไปคนละทิศทางก็สิ่งที่ต้องการ สิ่งหนึ่งที่ผู้หญิงเรามักจะทำผิดพลาดก็คือ การคบกับคนหรืออยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นไปในทางเดียวกับจุดมุ่งหมาย เช่น อยากได้ผู้ชายรับผิดชอบขยันทำงาน แต่ไปคบผู้ชายที่วันๆเอาแต่เมาหัวราน้ำ อยากแต่งงานมีครอบครัว แต่ไปคบหากับคนที่มีภรรยา หรือมีแฟนแล้ว (แต่เฝ้าบอกกับเราว่าจะเลิกกับแฟนในเร็วๆนี้ แต่ก็ไม่เลิกสักที)
บางครั้งเราอาจมีความสัมพันธ์เพียงแค่ตอบสนองความต้องการทางเพศ หรือการมีความสัมพันธ์กับผู้ชายที่ไม่ได้ต้องการที่จะมีครอบครัว หรือเราเองไม่ได้อยากจะได้ผู้ชายคนนั้นมาเป็นสามีในอนาคต (เนื่องจากขาดคุณสมบัติบางประการ) ให้ตั้งสติและให้เข้าใจว่าความสัมพันธ์แบบนี้เป็นความสัมพันธ์แค่ชั่วคราวและจะไม่พัฒนาไปเป็นความสัมพันธ์ระยะยาวได้ แต่โดยทั่วไปผู้หญิงมากมายกลับเลือกที่จะมีความสัมพันธ์แบบนี้ (ดีกว่าต้องอยู่คนเดียว เปล่าเปลี่ยวหัวใจ) แต่ก็ต้องตกม้าตาย เพราะเมื่อไรที่เข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ชั่วคราว จิตใจเราก็จะผูกพันอยู่กับคนๆนั้น โดยใจเราจะมองข้ามคนดีๆที่อาจเป็นคนที่ใช่ที่กำลังเดินเข้ามาในชีวิต
3.พิจารณาคนที่เราคบอยู่ ว่าให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มากแค่ไหน
ถ้าหากคุณมีใครที่กำลังคบอยู่ แต่ผู้ชายคนนั้นไม่เคยพูดถึงความสัมพันธ์ให้ชัดเจน ไม่เคยเรียกคุณว่าเป็นแฟน ไม่เคยแนะนำคุณให้เพื่อนหรือครอบครัวรู้จักทั้งๆที่คบกันมาสักพักหนึ่ง ไม่เคยเปิดตัวคุณให้กับใครก็ตามรู้จัก บางทีพอนัดกันก็โทรมายกเลิกนัดกะทันหันบ่อยๆโดยอ้างว่าติดธุระด่วน ไม่เคยคิดจะยกระดับความสัมพันธ์หรือพูดถึงความสัมพันธ์ในอนาคต ถ้าหากคุณกำลังคบคนแบบนี้อยู่ คงต้องกลับมานั่งพิจารณาดูใหม่ว่าเขาคู่ควรกับคุณไหม ในเมื่อเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มากเท่ากับที่คุณให้ก็มีแต่จะทำให้คุณเสียใจและเสียเวลา คุณคู่ควรกับผู้ชายที่อยากที่จะอยู่กับคุณเท่าๆกับที่คุณต้องการที่จะอยู่กับเขา
4.ดูดีที่สุดในแบบที่เราเป็น
เป็นธรรมชาติที่ผู้ชายมักจะสะดุดตาผู้หญิงที่รูปลักษณ์ภายนอกเป็นสิ่งแรก อันนี้ดิฉันไม่ได้บอกว่าจะต้องแต่งตัวเพื่อดึงดูดผู้ชาย แต่เมื่อไรก็ตามที่เราได้แต่งตัว แต่งหน้า (ในแบบที่เราคิดว่าสวยที่สุด) เราก็จะรู้สึกมั่นใจ จนอาจยิ้มให้กับตัวเองในกระจกหรือคุณอาจจะรู้สึกตัวลอยเวลาเดิน สิ่งสำคัญที่ควรทำอันดับแรกก็คือ การลดน้ำหนัก (หากคุณน้ำหนักเกินมาตรฐาน) การออกกำลังกายช่วยคุณได้ เพราะคุณจะมีรูปร่างดีขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการกินอาหารที่มีประโยชน์จะทำให้คุณมีสุขภาพและผิวพรรณที่ดูดีกว่าเดิม การทำให้ตัวเองดูดีจะดีที่สุดในแบบที่เป็นคุณ โดยไม่ต้องพยายามไปแต่งตัวเลียนแบบดาราคนไหนๆ
5.ค้นหาและแก้ปมปัญหาในใจ ที่อาจมีผลต่อความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
ทุกคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้ล้วนมีปมปัญหาบางอย่างที่ติดตัวมาจนอาจทำให้เป็นส่วนที่ฉุดรั้งเราทำให้ชีวิตไม่ก้าวไปไหน บางคนอาจเป็นปมปัญหาจากวัยเด็ก เช่น พ่อแม่เลิกกัน ทำให้รู้สึกขาดความอบอุ่นและคิดอยู่เสมอว่าตัวเองไม่ดีไม่มีค่าพอที่ใครจะรัก บางคนอกหักรักคุดในวัยเยาว์หรือเคยถูกนอกใจ ทำให้กลายเป็นคนที่กลัวความสัมพันธ์และเชื่อว่าผู้ชายทุกคนไว้ใจไม่ได้ หรืออาจสูญเสียความมั่นใจ อย่าให้ปมต่างๆเหล่านี้มามีผลกระทบกับความสัมพันธ์ในปัจจุบันของคุณ ให้คิดไว้เสมอว่า เรื่องของอดีตก็เป็นอดีตไปแล้ว ให้เรามีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน และอย่าให้ความเชื่อเดิมมาตัดสินสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
6.เลือกที่จะมีความสุขความสุขคือความรู้สึกสุขใจที่เปล่งออกมาจากภายใน
เราต้องเรียนรู้ที่จะทำให้จิตใจรื่นรมย์ ไม่หงุดหงิดอารมณ์เสียกับสิ่งเล็กๆน้อยๆ หากเกิดความคิดลบๆขึ้น ให้เราเรียนรู้ที่จับความคิดให้ทัน ไม่ปล่อยใจไปกับมัน ให้รู้แค่ว่าเกิดความคิดลบๆขึ้นโดยไม่ต้องไปคิดต่อหรือปรุงแต่งให้มันลบไปยิ่งกว่าเดิม อย่าหยุดชีวิตและรอแค่จะมีความสัมพันธ์เพื่อให้มีความสุข แต่คุณสามารถมีความสุขที่นี่และเดี๋ยวนี้ การมีความสุข คือการมีเป้าหมายในชีวิต ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น และไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อสิ่งต่างๆ และมุ่งมั่นที่จะทำเป้าหมายของชีวิตให้สำเร็จ
คุณสามารถเป็นคนโสดที่มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตที่คุณอยากจะเป็น ความสุขนั้นแท้จริงแล้วไม่อาจวัดด้วยชื่อเสียง สถานภาพหรือความมั่งคั่ง แต่สามารถหาได้ในชีวิตของคุณเอง ในความคิดคุณ ในทุกๆขณะ คุณเป็นคนที่มีเกียรติและมีค่าที่สุดเสมอ นอกจากนี้ หนังสือเรื่อง Feeling Good ของ by David D. Burns กล่าวไว้ว่า “คนที่ค้นพบความสุขภายในตัวเองจะเป็นที่ปรารถนาของเพศตรงข้าม และจะดึงดูดเหมือนแม่เหล็ก เพราะพวกเขามีจิตใจที่สงบและรื่นรมย์ค่ะ
เขียนโดย พิชชารัศมิ์ นักสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ เพื่อความสำเร็จจากจิตใต้สำนึก
ติดตามบทความดีดีทุกวันได้ที่
http://learninghubthailand.com/
หรือ
https://web.facebook.com/learninghubthailand/?fref=ts 
6 ขั้นตอนที่ทำให้คุณรู้ว่า "รักดีดีมีอยู่จริง"
1.รักและเข้าใจตัวเอง
ก่อนที่จะหาใครสักคนที่เราจะรัก เราต้องรู้จักรัก เคารพ ให้เกียรติและเห็นคุณค่าในตัวเอง ให้ความรักกับตัวเองโดยการดูแลและทะนุถนอมร่างกายและจิตใจ ยิ่งไปกว่านั้นเราต้องเข้าใจตัวเองก่อนว่าเราเป็นคนแบบไหน ชอบหรือไม่ชอบอะไร อะไรที่ทำให้เรามีความสุข อะไรที่เราต้องการ อะไรที่เราอยากจะทำในชีวิต อะไรที่เราพร้อมที่จะให้กับคนอื่น ข้อดี ข้อเสียของเราที่จะมีผลต่อความสัมพันธ์ ก่อนที่จะหาคนที่จะมาเข้าใจเรา เราเป็นคนที่ต้องเข้าใจตัวเองก่อน ถ้าหากเรายังสับสนกับตัวเอง ก็คงจะยากที่จะหาใครสักคนที่จะมาเข้าใจเราได้
2.มีเป้าหมายที่ชัดเจน ในรูปแบบความสัมพันธ์ที่ต้องการ
เราควรจะมีความชัดเจนในเป้าหมายรูปแบบความสัมพันธ์ที่ต้องการ เราอาจจะจดลักษณะ บุคลิก นิสัยของคู่ครองที่เราต้องการ โดยต้องมีความชัดเจน อาจจะไม่ใช่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ไม่ใช่เป็นไปคนละทิศทางก็สิ่งที่ต้องการ สิ่งหนึ่งที่ผู้หญิงเรามักจะทำผิดพลาดก็คือ การคบกับคนหรืออยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นไปในทางเดียวกับจุดมุ่งหมาย เช่น อยากได้ผู้ชายรับผิดชอบขยันทำงาน แต่ไปคบผู้ชายที่วันๆเอาแต่เมาหัวราน้ำ อยากแต่งงานมีครอบครัว แต่ไปคบหากับคนที่มีภรรยา หรือมีแฟนแล้ว (แต่เฝ้าบอกกับเราว่าจะเลิกกับแฟนในเร็วๆนี้ แต่ก็ไม่เลิกสักที)
บางครั้งเราอาจมีความสัมพันธ์เพียงแค่ตอบสนองความต้องการทางเพศ หรือการมีความสัมพันธ์กับผู้ชายที่ไม่ได้ต้องการที่จะมีครอบครัว หรือเราเองไม่ได้อยากจะได้ผู้ชายคนนั้นมาเป็นสามีในอนาคต (เนื่องจากขาดคุณสมบัติบางประการ) ให้ตั้งสติและให้เข้าใจว่าความสัมพันธ์แบบนี้เป็นความสัมพันธ์แค่ชั่วคราวและจะไม่พัฒนาไปเป็นความสัมพันธ์ระยะยาวได้ แต่โดยทั่วไปผู้หญิงมากมายกลับเลือกที่จะมีความสัมพันธ์แบบนี้ (ดีกว่าต้องอยู่คนเดียว เปล่าเปลี่ยวหัวใจ) แต่ก็ต้องตกม้าตาย เพราะเมื่อไรที่เข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ชั่วคราว จิตใจเราก็จะผูกพันอยู่กับคนๆนั้น โดยใจเราจะมองข้ามคนดีๆที่อาจเป็นคนที่ใช่ที่กำลังเดินเข้ามาในชีวิต
3.พิจารณาคนที่เราคบอยู่ ว่าให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มากแค่ไหน
ถ้าหากคุณมีใครที่กำลังคบอยู่ แต่ผู้ชายคนนั้นไม่เคยพูดถึงความสัมพันธ์ให้ชัดเจน ไม่เคยเรียกคุณว่าเป็นแฟน ไม่เคยแนะนำคุณให้เพื่อนหรือครอบครัวรู้จักทั้งๆที่คบกันมาสักพักหนึ่ง ไม่เคยเปิดตัวคุณให้กับใครก็ตามรู้จัก บางทีพอนัดกันก็โทรมายกเลิกนัดกะทันหันบ่อยๆโดยอ้างว่าติดธุระด่วน ไม่เคยคิดจะยกระดับความสัมพันธ์หรือพูดถึงความสัมพันธ์ในอนาคต ถ้าหากคุณกำลังคบคนแบบนี้อยู่ คงต้องกลับมานั่งพิจารณาดูใหม่ว่าเขาคู่ควรกับคุณไหม ในเมื่อเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มากเท่ากับที่คุณให้ก็มีแต่จะทำให้คุณเสียใจและเสียเวลา คุณคู่ควรกับผู้ชายที่อยากที่จะอยู่กับคุณเท่าๆกับที่คุณต้องการที่จะอยู่กับเขา
4.ดูดีที่สุดในแบบที่เราเป็น
เป็นธรรมชาติที่ผู้ชายมักจะสะดุดตาผู้หญิงที่รูปลักษณ์ภายนอกเป็นสิ่งแรก อันนี้ดิฉันไม่ได้บอกว่าจะต้องแต่งตัวเพื่อดึงดูดผู้ชาย แต่เมื่อไรก็ตามที่เราได้แต่งตัว แต่งหน้า (ในแบบที่เราคิดว่าสวยที่สุด) เราก็จะรู้สึกมั่นใจ จนอาจยิ้มให้กับตัวเองในกระจกหรือคุณอาจจะรู้สึกตัวลอยเวลาเดิน สิ่งสำคัญที่ควรทำอันดับแรกก็คือ การลดน้ำหนัก (หากคุณน้ำหนักเกินมาตรฐาน) การออกกำลังกายช่วยคุณได้ เพราะคุณจะมีรูปร่างดีขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการกินอาหารที่มีประโยชน์จะทำให้คุณมีสุขภาพและผิวพรรณที่ดูดีกว่าเดิม การทำให้ตัวเองดูดีจะดีที่สุดในแบบที่เป็นคุณ โดยไม่ต้องพยายามไปแต่งตัวเลียนแบบดาราคนไหนๆ
5.ค้นหาและแก้ปมปัญหาในใจ ที่อาจมีผลต่อความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
ทุกคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้ล้วนมีปมปัญหาบางอย่างที่ติดตัวมาจนอาจทำให้เป็นส่วนที่ฉุดรั้งเราทำให้ชีวิตไม่ก้าวไปไหน บางคนอาจเป็นปมปัญหาจากวัยเด็ก เช่น พ่อแม่เลิกกัน ทำให้รู้สึกขาดความอบอุ่นและคิดอยู่เสมอว่าตัวเองไม่ดีไม่มีค่าพอที่ใครจะรัก บางคนอกหักรักคุดในวัยเยาว์หรือเคยถูกนอกใจ ทำให้กลายเป็นคนที่กลัวความสัมพันธ์และเชื่อว่าผู้ชายทุกคนไว้ใจไม่ได้ หรืออาจสูญเสียความมั่นใจ อย่าให้ปมต่างๆเหล่านี้มามีผลกระทบกับความสัมพันธ์ในปัจจุบันของคุณ ให้คิดไว้เสมอว่า เรื่องของอดีตก็เป็นอดีตไปแล้ว ให้เรามีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน และอย่าให้ความเชื่อเดิมมาตัดสินสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
6.เลือกที่จะมีความสุขความสุขคือความรู้สึกสุขใจที่เปล่งออกมาจากภายใน
เราต้องเรียนรู้ที่จะทำให้จิตใจรื่นรมย์ ไม่หงุดหงิดอารมณ์เสียกับสิ่งเล็กๆน้อยๆ หากเกิดความคิดลบๆขึ้น ให้เราเรียนรู้ที่จับความคิดให้ทัน ไม่ปล่อยใจไปกับมัน ให้รู้แค่ว่าเกิดความคิดลบๆขึ้นโดยไม่ต้องไปคิดต่อหรือปรุงแต่งให้มันลบไปยิ่งกว่าเดิม อย่าหยุดชีวิตและรอแค่จะมีความสัมพันธ์เพื่อให้มีความสุข แต่คุณสามารถมีความสุขที่นี่และเดี๋ยวนี้ การมีความสุข คือการมีเป้าหมายในชีวิต ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น และไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อสิ่งต่างๆ และมุ่งมั่นที่จะทำเป้าหมายของชีวิตให้สำเร็จ
คุณสามารถเป็นคนโสดที่มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตที่คุณอยากจะเป็น ความสุขนั้นแท้จริงแล้วไม่อาจวัดด้วยชื่อเสียง สถานภาพหรือความมั่งคั่ง แต่สามารถหาได้ในชีวิตของคุณเอง ในความคิดคุณ ในทุกๆขณะ คุณเป็นคนที่มีเกียรติและมีค่าที่สุดเสมอ นอกจากนี้ หนังสือเรื่อง Feeling Good ของ by David D. Burns กล่าวไว้ว่า “คนที่ค้นพบความสุขภายในตัวเองจะเป็นที่ปรารถนาของเพศตรงข้าม และจะดึงดูดเหมือนแม่เหล็ก เพราะพวกเขามีจิตใจที่สงบและรื่นรมย์ค่ะ
เขียนโดย พิชชารัศมิ์ นักสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ เพื่อความสำเร็จจากจิตใต้สำนึก
ติดตามบทความดีดีทุกวันได้ที่ http://learninghubthailand.com/
หรือ https://web.facebook.com/learninghubthailand/?fref=ts