
ฮัลโหล ๆ สวัสดีเดือนเมษา เดือนที่ฮอตที่สุดแห่งปี แต่สรุปร้อนทั้งปีคร่า เดือนเมษานี้ยังร้อนไม่พอยังมีเทศกาลสงกรานต์อีก สงกรานต์ทั้งทีก็ให้นอนอืดอยู่บ้านได้ไง ต้องออกไปเล่นน้ำคลายร้อนกันซะหน่อย เอิ่มม เห็นแดดแล้วเพลียจุง ณ ตอนนี้ 40 องศาแม่เจ้า !! ผิวช้านนนนแต่เราน้านนนก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว เรื่องผิวไหม้ หน้าดำ ช่วงสงกรานต์ เพราะตอนนี้ผิวเราแข็งแรงสุขภาพดีสุดๆตั้งแต่ใช้สกินแคร์จากเกาหลี Story seoul ถึงจะเจอแดดแรงแค่ไหนก็เอาอยู่ ไปทำความรู้จักแบรนด์นี้กันดีกว่าค่ะ

มาดูขั้นตอนแรกที่ช่วยให้ผิวเรากลับมาดีขึ้น ใสขึ้น หลังจากการเจอศึกหนักจากสงกรานต์ด้วย Purifying Cleansing Foam จาก Story Seoul อุดมไปด้วยส่วนประกอบจากธรรมชาติ รักษาค่า pH ให้คงที่หลังล้างหน้า และยังมี Portulaca Oleracea ที่ออกฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ ของผิวพร้อมทั้งบรรเทาอาการระคายเคือง รวมถึงรอยแดง รอยดำ จางขึ้นเรื่อย ๆ หลังใช้เป็นประจำเช้าและเย็น
วิธีใช้ก็ง่ายมากค่ะ บีบโฟมออกมา ในปริมาณที่พอเหมาะกะหน้าเราก็พอค่ะ แล้วค่อยๆถูโฟมที่มือให้เกิดฟองก่อน แล้วถูลงบนหน้า ขอย้ำว่าถูให้เบามือที่สุดนะคะ ไม่งั้นริ้วรอยมาเร็วและเยอะกว่าเดิม จะหาว่า จขกท ไม่เตือนนะจ๊ะ

ขั้นตอนที่สองของเราคือการใช้โทนเนอร์เป็นประจำ ค่ะ เพราะโทนเนอร์จะช่วยผิวเราได้หลายอย่างเลยแระ ช่วยสร้างสมดุลค่าความเป็นกรด-ด่างให้กับผิว
ช่วยกระชับรูขุมขน และช่วยเตรียมผิวให้ซึมซับมอยเจอร์มากขึ้น
วิธีใช้ก็แค่ ฉีดโทนเนอร์ลงสำลีแผ่น 2-4 ครั้ง แล้วเช็คลูบไล้ให้ทั่วใบหน้า แต่สำหรับวันที่รีบมากๆ จขกท ก็จะฉีดไปที่หน้าแล้วก็ใช้มือตบๆให้โทนเนอร์ซึมเข้าหน้าเลยค่ะ ง่ายและเร็ว แต่ยังคงได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่เหมือนเดิม

ตัวสุดท้ายที่เราใช้บำรุงผิวหน้าอีกตัวคือ ตัวโลชั่นค่ะ โลชั่นตัวนี้ไม่ใช่โลชั่นทาตัวแต่อย่างใด แต่ตัวนี้ทำมาเพื่อใช้กับผิวหน้าโดยเฉพาะจ้า ตัวโลชั่นช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ชุ่มชื้นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยแระ เจนสัมผัสได้ ^^
ใช้ทาหลังจากทาโทนเนอร์แล้ว กดโลชั่นออกมาในปริมาณที่พอเหมาะ แต้มให้ทั่วใบหน้า 5 จุด แล้วค่อยๆทาให้โลชั่นซึมลงผิว ถ้ามีเวลาก็นวดหน้าเบาๆ ให้โลชั่นซึมลึกขึ้นและทำงานเต็มที่ก็จะเริ่ดมากค่ะ
เอ๊ะ ลืมบอกว่าแบรนด์นี้ใช้ได้ทุกสภาพผิวนะจ๊ะ เพราะผลิตมาจากธรรมชาติจริง ๆ คนเกาหลีติดใจกันมากเลยแระ

ผลจากการใช้ Story Seoul มาได้สักพักค่ะ เราใช้ก่อนช่วงสงกรานต์นะ แต่มันไหม้ขนาดนี้อย่าโทษใคร เพราะที่นี่คือ ไทยแลนด์ ค่ะ คือหน้าพังมาก ผิวยับมาก ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาเจอทั้งผิวไหม้ เจอน้ำ เจอแป้งไรบ้างไม่รู้แระ
รูขุมขนเลยชัดมาก รอยแดง รอยดำ ชัดเจนมว๊ากกกกก น้ำตาจิไหล แต่เราก็ใช้แบรนด์นี้เพื่อบำรุงเรื่อย ๆ ค่ะไม่เปลี่ยนเลย จะมีแค่สครับผิวและมาร์คหน้าบ้างอาทิตย์ละครั้งเท่านั้น ผลจากการใช้มาโดยตลอดเราเลยคิดว่าผิวเลยกลับมาแข็งแรงและใสได้เร็วค่ะ จากภาพประมาณ 1 อาทิตย์กว่าๆเอง มันดีขึ้นเรื่อย ๆ จนสังเกตได้จริง ๆ
ยิ่งตัวโทนเนอร์ลองเอาไปแช่เย็นนะคะ เวลาใช้ก็สดชื่นไปอีกแบบนะ ยังไงใครมีปัญหาที่เหมือนกับเราลองดูนะคะ แบรนด์นี้น่าสนใจไม่น้อยเลยแระ กระทู้นี้ขอมาบอกเคล็ดไม่ลับของผิวหน้าก่อนละกันนะคะ ไว้ว่าง ๆ ผิวกายดีขึ้นแล้วจะมาทำรีวิวให้ดูอีกทีโน๊ะ วันนี้ขอตัวนอนอืดต่อก่อนจ้า
ขอบคุณสำหรับการอ่านนะคะ
[CR] บอกลาหน้าไหม้เกรียมช่วงสงกรานต์ด้วย Story Seoul
ฮัลโหล ๆ สวัสดีเดือนเมษา เดือนที่ฮอตที่สุดแห่งปี แต่สรุปร้อนทั้งปีคร่า เดือนเมษานี้ยังร้อนไม่พอยังมีเทศกาลสงกรานต์อีก สงกรานต์ทั้งทีก็ให้นอนอืดอยู่บ้านได้ไง ต้องออกไปเล่นน้ำคลายร้อนกันซะหน่อย เอิ่มม เห็นแดดแล้วเพลียจุง ณ ตอนนี้ 40 องศาแม่เจ้า !! ผิวช้านนนนแต่เราน้านนนก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว เรื่องผิวไหม้ หน้าดำ ช่วงสงกรานต์ เพราะตอนนี้ผิวเราแข็งแรงสุขภาพดีสุดๆตั้งแต่ใช้สกินแคร์จากเกาหลี Story seoul ถึงจะเจอแดดแรงแค่ไหนก็เอาอยู่ ไปทำความรู้จักแบรนด์นี้กันดีกว่าค่ะ
มาดูขั้นตอนแรกที่ช่วยให้ผิวเรากลับมาดีขึ้น ใสขึ้น หลังจากการเจอศึกหนักจากสงกรานต์ด้วย Purifying Cleansing Foam จาก Story Seoul อุดมไปด้วยส่วนประกอบจากธรรมชาติ รักษาค่า pH ให้คงที่หลังล้างหน้า และยังมี Portulaca Oleracea ที่ออกฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ ของผิวพร้อมทั้งบรรเทาอาการระคายเคือง รวมถึงรอยแดง รอยดำ จางขึ้นเรื่อย ๆ หลังใช้เป็นประจำเช้าและเย็น
วิธีใช้ก็ง่ายมากค่ะ บีบโฟมออกมา ในปริมาณที่พอเหมาะกะหน้าเราก็พอค่ะ แล้วค่อยๆถูโฟมที่มือให้เกิดฟองก่อน แล้วถูลงบนหน้า ขอย้ำว่าถูให้เบามือที่สุดนะคะ ไม่งั้นริ้วรอยมาเร็วและเยอะกว่าเดิม จะหาว่า จขกท ไม่เตือนนะจ๊ะ
ขั้นตอนที่สองของเราคือการใช้โทนเนอร์เป็นประจำ ค่ะ เพราะโทนเนอร์จะช่วยผิวเราได้หลายอย่างเลยแระ ช่วยสร้างสมดุลค่าความเป็นกรด-ด่างให้กับผิว
ช่วยกระชับรูขุมขน และช่วยเตรียมผิวให้ซึมซับมอยเจอร์มากขึ้น
วิธีใช้ก็แค่ ฉีดโทนเนอร์ลงสำลีแผ่น 2-4 ครั้ง แล้วเช็คลูบไล้ให้ทั่วใบหน้า แต่สำหรับวันที่รีบมากๆ จขกท ก็จะฉีดไปที่หน้าแล้วก็ใช้มือตบๆให้โทนเนอร์ซึมเข้าหน้าเลยค่ะ ง่ายและเร็ว แต่ยังคงได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่เหมือนเดิม
ตัวสุดท้ายที่เราใช้บำรุงผิวหน้าอีกตัวคือ ตัวโลชั่นค่ะ โลชั่นตัวนี้ไม่ใช่โลชั่นทาตัวแต่อย่างใด แต่ตัวนี้ทำมาเพื่อใช้กับผิวหน้าโดยเฉพาะจ้า ตัวโลชั่นช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ชุ่มชื้นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยแระ เจนสัมผัสได้ ^^
ใช้ทาหลังจากทาโทนเนอร์แล้ว กดโลชั่นออกมาในปริมาณที่พอเหมาะ แต้มให้ทั่วใบหน้า 5 จุด แล้วค่อยๆทาให้โลชั่นซึมลงผิว ถ้ามีเวลาก็นวดหน้าเบาๆ ให้โลชั่นซึมลึกขึ้นและทำงานเต็มที่ก็จะเริ่ดมากค่ะ
เอ๊ะ ลืมบอกว่าแบรนด์นี้ใช้ได้ทุกสภาพผิวนะจ๊ะ เพราะผลิตมาจากธรรมชาติจริง ๆ คนเกาหลีติดใจกันมากเลยแระ
ผลจากการใช้ Story Seoul มาได้สักพักค่ะ เราใช้ก่อนช่วงสงกรานต์นะ แต่มันไหม้ขนาดนี้อย่าโทษใคร เพราะที่นี่คือ ไทยแลนด์ ค่ะ คือหน้าพังมาก ผิวยับมาก ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาเจอทั้งผิวไหม้ เจอน้ำ เจอแป้งไรบ้างไม่รู้แระ
รูขุมขนเลยชัดมาก รอยแดง รอยดำ ชัดเจนมว๊ากกกกก น้ำตาจิไหล แต่เราก็ใช้แบรนด์นี้เพื่อบำรุงเรื่อย ๆ ค่ะไม่เปลี่ยนเลย จะมีแค่สครับผิวและมาร์คหน้าบ้างอาทิตย์ละครั้งเท่านั้น ผลจากการใช้มาโดยตลอดเราเลยคิดว่าผิวเลยกลับมาแข็งแรงและใสได้เร็วค่ะ จากภาพประมาณ 1 อาทิตย์กว่าๆเอง มันดีขึ้นเรื่อย ๆ จนสังเกตได้จริง ๆ
ยิ่งตัวโทนเนอร์ลองเอาไปแช่เย็นนะคะ เวลาใช้ก็สดชื่นไปอีกแบบนะ ยังไงใครมีปัญหาที่เหมือนกับเราลองดูนะคะ แบรนด์นี้น่าสนใจไม่น้อยเลยแระ กระทู้นี้ขอมาบอกเคล็ดไม่ลับของผิวหน้าก่อนละกันนะคะ ไว้ว่าง ๆ ผิวกายดีขึ้นแล้วจะมาทำรีวิวให้ดูอีกทีโน๊ะ วันนี้ขอตัวนอนอืดต่อก่อนจ้า
ขอบคุณสำหรับการอ่านนะคะ