วางแผนเที่ยวต่างประเทศเองไม่ยากอย่างที่คิด! แบบละเอียด

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้ฤกษ์งามยามดีเป็นวันศุกร์ เราเพิ่งเดินทางกลับจากทริปยุโรปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ เลยอยากจะมารีวิวการวางแผนเที่ยวต่างประเทศให้เพื่อนๆที่อยากไปเที่ยวเองแต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนยังไงดี มาลองศึกษากันดูค่ะ

หลายๆท่านอยากจะลองไปต่างประเทศเอง แต่ก็ไม่กล้าไปซะที กลัวทั้งเรื่องความปลอดภัยบ้าง ไปไม่ถูกบ้าง หลงทางบ้าง หรือหลักๆที่ทำให้ไม่กล้าไปนั่นก็เพราะว่าภาษาไม่แข็งแรง ทำให้ต้องพึ่งพาทัวร์อยู่ตลอด ต้องบอกก่อนเลยว่าเราไม่ได้แอนตี้ทัวร์นะคะ แต่การเที่ยวกับทัวร์และก็การเที่ยวเองน่าจะได้ประสบการณ์แตกต่างกันออกไปค่ะ

สำหรับการไปเที่ยวกับทัวร์ ข้อดีคือ เราไม่ต้องจัดการอะไรเลย แค่เตรียมเงินไปชอปปิ้ง ค่าทิปให้ไกด์ หรือค่าท่องเที่ยวอื่นๆเพิ่มเติมที่เราต้องการเข้าชมสถานที่ที่ต้องไปจ่ายหน้างาน ที่เหลือทัวร์จัดการให้หมด อาหารการกิน ที่พัก พาลงแหล่งชอปปิ้ง มีคนคอยให้ความรู้สถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆอยู่ตลอด สำหรับบางคนอาจจะชอบท่องเที่ยวแบบทัวร์ เพราะสะดวกสบาย ไม่ต้องคิดไม่ต้องทำอะไร แค่อาจจะต้องทำการบ้านเรื่องบริษัททัวร์ ว่าที่ไหนดีน่าไว้ใจสามารถฝากชีวิตไว้กับทริปได้ แต่บางครั้งถ้าทำการบ้านไม่ดีก็ไปเจอกับบริษัทไม่ดี แผนไม่เป็นอย่างที่บอก อาหารการกิน ที่พักก็ไม่ดีอย่างที่โฆษณาไว้ หรือขั้นเลวร้ายไปเลยก็คือโดนหลอกเอาเงินไป แต่บริษัทไม่มีอยู่จริงซะอย่างงั้น

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวกับทัวร์มักจะเจอกันบ่อยๆนั่นก็คือ นั่งรถทั้งวัน โปรแกรมบอกว่าไปได้ไปเที่ยวที่สถานที่ดังๆวันละหลายๆแห่ง บางคนไม่เปิดดูแผนที่โลก ก็จะคิดว่า โอ้โห! ได้ไปตั้งหลายที่ หารู้ไม่แค่ผ่านแล้วจอดรถถ่ายรูปอยู่ในรถ หรือไม่ก็ลงไปถ่ายรูป 5-10 นาทีแล้วขึ้นรถไปต่อ เพราะแต่ละที่ห่างไกลชนิดว่าขับรถไปหลายชั่วโมง ทำให้ไม่ได้ท่องเที่ยวเต็มที่ เหนื่อยแต่อยู่บนรถ ส่วนตัวเราไม่เคยไปทัวร์นะคะ แต่ฟังจากคนที่ไปเที่ยวกับทัวร์ หรืออ่านจากรีวิวหลายๆท่านที่ไปกับทัวร์เอา ซึ่งบางคนอาจจะโอเคกับการท่องเที่ยวแบบนี้ เพราะว่าได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ได้เที่ยวครบสถานที่หลักๆ ที่ทัวร์จัดให้

เอาเป็นว่าลองมาดูตารางเปรียบเทียบระหว่างการเที่ยวเองกับไปกับทัวร์ว่าจะแตกต่างกันตรงไหนยังไงดีกว่าค่ะ



เริ่มต้นเที่ยวเอง ต้องเตรียมตัวเตรียมข้อมูลอะไรบ้าง ถ้าไม่ซื้อหนังสือคู่มือท่องเที่ยว

1) คิดก่อนว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน ประเทศอะไร และช่วงวันที่จะไปตรงกับ golden week ของประเทศนั้นๆรึเปล่า ถ้าตรงนี่เที่ยวไม่สนุกแน่ค่ะ เพราะไปตรงไหนๆก็จะมีแต่คนเต็มไปหมด

2) ศึกษาข้อมูลประเทศที่เราสนใจและลองตั้งงบคร่าวๆ


3) วางแผนการเดินทางและมาร์คเมืองที่อยากไปลงในแผนที่


ซึ่งข้อดีข้อเสียของแต่ละการเดินทางก็มีแตกต่างกันออกไป เท่าที่นึกออกก็มีตามนี้ค่ะ


*ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศแต่ละเมือง ต้องศึกษาเพิ่มเติมค่ะ
**ส่วนเรื่องของระยะทางกับเวลา บางครั้งรถโดยสารสาธารณะเช่น รถไฟความเร็วสูงก็ถึงไวกว่ารถยนต์ แต่จากประสบการณ์ที่หาข้อมูลนะคะ ส่วนมากรถยนต์จะถึงเร็วกว่ารถไฟค่ะ เพราะต่างประเทศการจราจรค่อนข้างดีกว่าบ้านเราค่ะ ทั้งนี้แต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกันค่ะ
Link เช่ารถ >> http://www.addsiam.com/รูปท่องเที่ยวต่างประเทศ/เช่ารถเที่ยวในอเมริกา/1186/2_1186.html

4) ทำวีซ่า (หากใครที่เดินทางไปประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าก็ข้ามข้อนี้ไปเลยค่ะ) – เตรียมเอกสารเพื่อใช้ทำวีซ่าในประเทศที่ต้องขอวีซ่า ซึ่งแต่ละสถานทูตก็ต้องการข้อมูลไม่เหมือนกัน (ต้องเปิดดูจากเว็บสถานทูตที่เราจะไปค่ะ) โดยปรกติเอกสารหลักๆที่ต้องใช้ก็จะมี ใบคำร้องขอวีซ่า หนังสือรับรองต่างๆ เอกสารทางการเงิน เอาเป็นว่าลองไปดูตัวอย่างคร่าวๆจาก link ที่เราเคยเขียนไว้แล้วกันค่ะ >> http://www.addsiam.com/ท่องเที่ยวต่างประเทศ/ขอวีซ่าออสเตรียต้องเตรียมตัวยังไงน้อ/1206.html

5) จองตั๋วเครื่องบิน – ปัจจุบันมีสายการบินหลายสายการบินให้เลือกเดินทาง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเน้นไปทางไหน เช่น ชอบแบบประหยัด ขอแค่ถึงพอ ก็เลือก low cost หรือชอบแบบดีๆ ก็ขึ้นอยู่กับเราจะเลือกใช้บริการ หากไม่ทราบว่าประเทศนี้มีสายการบินไหนไปบ้าง สามารถเปรียบเทียบข้อมูลได้จาก Skyscanner.com ค่ะ ถ้าให้เราแนะนำ จริงๆ แนะนำให้จองกับสายการบินโดยตรงจะชัวร์กว่าจองผ่านเอเจนซี่ค่ะ  นอกจากจะมีเอเจนซี่ที่น่าเชื่อถืออยู่แล้ว จองบ่อยๆ เพราะสายการบินสมัยนี้ก็มักจะมีโปรถูกๆออกมาบ่อยๆ ซึ่งหากเราไม่ทราบ ก็สามารถอ้างอิงสายการบินจากเว็บที่เราบอกแล้วเข้าไปดูเว็บสายการบินโดยตรงเลยก็ได้ค่ะ บางครั้งราคาจากเว็บโดยตรงก็ไม่ได้แพงมาก ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่จะบินด้วยค่ะ

6) จองที่พัก – ผ่านเว็บไซต์ ซึ่งเว็บที่ให้จองโรงแรมก็มีหลายเว็บให้เลือก ตัวเราหลักๆก็จะใช้ booking.com, hotels.com, Airbnb.com, agoda.com นอกเหนือจากนี้ก็จะมีประเภทแพคเกจตั๋วเครื่องบิน+ที่พัก เช่น expedia.com ซึ่งการหาที่พักก็ต้องพิจารณาหลายๆอย่าง เช่น ถ้าเราเช่ารถ ก็ต้องดูรรที่มีที่จอดรถ หรือถ้าเราเดินทางรถไฟก็จองที่พักใกล้สถานีหน่อย ซึ่งการเช่ารถขับ ทำให้เราต้องตัดโรงแรมที่ไม่มีที่จอดรถทิ้งไป แต่เราก็จะสามารถเลือกโรงแรมนอกเมืองได้ ในขณะที่ถ้าไม่มีรถ ตัวเลือกก็จะค่อนข้างเยอะ แต่ก็ต้องเดินลากกระเป๋าไปมา ยิ่งถ้าเปลี่ยนโรงแรมบ่อย เหนื่อยแน่ๆค่ะ บางครั้งอาจจะต้องฝากกระเป๋าที่ตู้ locker แล้วไปเที่ยวแทน

7) เตรียมตัวก่อนเดินทาง - สิ่งของหลักๆ ที่ต้องติดตัวไป บางข้อคิดว่าไม่จำเป็นก็ตัดทิ้งได้ค่ะ

เสื้อผ้า : ต้องดูดีๆ หากไปหน้าร้อน การแต่งกายก็จะเหมือนบ้านเรา หากไปหน้าฝนก็ควรพกร่มติดไปด้วย หรือถ้าไปหน้าหนาวหลักๆ ก็จะมี ลองจอน ฮีทเทค เสื้อไหมพรมแขนยาว เสื้อโค้ท ขนเป็ด เสื้อคลุมแขนยาว แต่ก็อย่าลืมเสื้อยืด เผื่อวันไหนอากาศไม่หนาวมาก ผ้าพันคอ หมวกไหมพรม ถุงมือ ถุงเท้า กางเกง เลกกิ้ง ใครหนาวมากอาจจะเพิ่มที่ปิดหูเป็นพรอพก็ได้ รองเท้าบู๊ท รองเท้าผ้าใบ ชุดนอน ชุดชั้นใน แนะนำให้เอาชุดนอนเก่าๆ ถุงเท้าเก่าๆไปใส่ ใส่เสร็จทิ้งไปเลยก็ได้ค่ะ จะได้มีที่เพิ่ม แนะนำว่าอย่าขนไปเยอะมาก จะเป็นภาระเรา ทำใหชอปปิ้งได้น้อยลงค่ะ

ของใช้ส่วนตัว : เครื่องสำอาง โรลออน หวี ไดร์เป่าผม ที่ม้วนผม ที่หนีบผม ที่โกนหนวด แว่นตา คอนแทคเลนส์ ยาสระผม ครีมอาบน้ำ สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน โฟมล้างหน้า หรืออื่นๆ เตรียมให้พร้อมค่ะ

Pocket Money : พยายามเตรียมให้เหลือจากที่เราคำนวณไว้ และเก็บแยกเงินส่วนกลางกับฉุกเฉินเอาไว้ด้วยค่ะ จะได้ไม่ปนกัน เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเช่นภูเขาไฟระเบิด จลาจลต่างๆ ทำให้ต้องอยู่ต่อ มีเงินไม่พอลำบากแน่ๆค่ะ ดังนั้นต้องจัดสรรดีๆนะคะ ควรพกไปทั้งเงินสดและบัตรเครดิตค่ะ หากไปประเทศที่มีการล้วงกระเป๋าบ่อยๆ เช่นทางแถบยุโรปบางประเทศ ก็ควรจะเก็บเงินหลายๆที่ และอย่าหยิบเงินในที่โจ่งแจ้ง ส่วนตัวเราเวลาไปจะห้อยกระเป๋าแบบกันน้ำห้อยคอและก็กระเป๋าคาดเอว แต่คาดแบบสะพายข้างไว้แล้วใส่เสื้อไหมพรมทับ ทับด้วยโค้ทอีกทีค่ะ กระเป๋าห้อยคอใส่เงินไว้น้อยๆ หยิบง่ายๆ ก็ปลอดภัยกลับมาไม่โดนล้วงอะไรค่ะ สำคัญอย่าคุยกับคนแปลกหน้าค่ะ

หัวแปลงปลั๊กไฟ : อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ควรไปศึกษาว่าหัวแปลงใช้หัวแบบไหนค่ะ อย่าลืมรวมถึงพวกสายชาร์จต่างๆไปด้วยนะคะ

กล้องถ่ายรูป : พกกล้องไปก็อย่าลืมพก memory card ไปด้วยค่ะ

กระเป๋าขยาย : เผื่อต้องซื้อของเพิ่มค่ะ แต่ต้องเช็คด้วยนะคะ ว่าสายการบินที่เราบินให้เอากระเป๋าไปได้กี่ใบค่ะ

ถุง : บางคนอาจจะงง ว่าเอาไปทำไม บางประเทศเวลาไปซื้อของเค้ามักจะไม่ค่อยมีถุงให้ค่ะ หรือถ้ามีก็ต้องเสียเงินซื้อ เช่นในโซนยุโรปบางประเทศหรือบางร้านค้าค่ะ

อาหาร : หากใครอยากเซฟค่าใช้จ่าย การเตรียมอาหารไปเองก็ประหยัดไปได้เยอะมากค่ะ อาจจะเป็นพวกอาหารกระป๋อง มาม่า หรือขนมสุดแล้วแต่จะเตรียม

อุปกรณ์สำหรับอาหาร : เอามาม่าไป ปรากฏห้องพักไม่มีอะไรให้เลย ทานยังไงหละทีนี้ ก็ต้องเตรียมพวกหม้อไฟฟ้าใบเล็กๆ อย่างที่บ้านเราใช้เป็นของญี่ปุ่นค่ะ ใบเท่าชามๆ หรือจะเอาช้อนส้อมพลาสติก หรือกล่องใส่ไมโครเวฟไว้แทนชามก็ได้ค่ะ

ซิมการ์ด หรือ Pocket Wifi : สมัยนี้ ไปไหนๆก็ต้องเล่นอินเตอร์เน็ต คุยไลน์ เพื่อความสะดวกในการติดต่อกันและเป็นประโยชน์ในการใช้หาข้อมูลระหว่างการท่องเที่ยว เช่นข้อมูลการเดินทาง ร้านอาหาร หรือแหล่งชอปปิ้งต่างๆ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าอยากจะใช้ซิมการ์ด หรือ pocket wifi ส่วนเว็บที่แนะนำที่เราเคยใช้ก็จะมีของ sugoi sim และ instasim ค่ะ หากเลือกซิมการ์ดข้อดีก็คือเราสามารถใช้โทรศัพท์หากันได้ (แล้วแต่รุ่นของซิม) สะดวกกว่า pocket wifi เพราะแยกกันเดินเล่นได้ แต่ pocket wifi สัญญาณจะค่อนข้างดีกว่า และจำนวน internet ก็มากกว่าในราคาใกล้ๆกัน แต่ก็ต้องดูแลรักษาดีๆ เพราะเราตองเอามาคืนเค้า และต้องพกแบตสำรองไปด้วยค่ะ ก็สุดแล้วแต่ใครจะสะดวกใช้แบบไหนเนอะ

GPS : เช่ารถไปสำคัญมาก บางคนบอก google ก็เพียงพอแล้ว สำหรับเราควบคู่กันไปดีที่สุดค่ะ

หวังว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่อยากจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองไม่มากก็น้อยนะคะ หากมีข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ทั้งนี้สนุกหรือไม่ เพื่อร่วมเดินทางก็มีส่วนนะคะ พยายามหาเพื่อนร่วมทริปที่เที่ยวแนวเดียวกันจะได้สนุกเต็มที่ จะได้ไม่ต้องเบื่อเซงระหว่างทริปค่ะ

ปล. เราเป็นแอดมินเว็บท่องเที่ยวอยู่ ถ้า link ไปในเว็บที่เราเขียนไม่ต้องตกใจนะคะว่าเราไปก๊อบเค้ามา เขียนเองล้วนๆค่า

สำหรับท่านใดมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสอบถามได้ทั้งหน้าไมค์ละหลังไมค์น้าาาาา
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่