จขกท ขอแทนตัวเองว่าป้าละกัน เนื่องจากเป็นสรรพานามที่เพื่อนๆ ในกลุ่มมอเตอร์ไซด์พันท์ทิพเรียกนะ
อย่ามัวชักช้า พิรี้พิไร เกิดเป็นวัยรุ่นมันต้องใจร้อน .... พร้อมกันรึยัง.... ตะ ตะ ติ้ดด ชึ่ง..... ติดเครื่องออกตัว....
>ทริปนี้เราไปกัน 14 คน 9 คัน ซึ่งต้องแบ่งเป็น 2 เส้นทาง เนื่องจากลุงป้ามีลูกลิง 3 ตัวที่เราต้องกำจัด เอร้ยย.... จัดการส่งลูกลิงไปให้ญาตที่ ตจว ดูแลก่อน เราจึงต้องตามไปทีหลังได้ ทำให้อดไปตบตรูดสิงโตน้อย เมอรไลออน ที่สิงคโปรค์ ในช่วง 4 วัน แรก

ก่อนเดินทางก็ต้องมีการเตรียมตัวเล็กน้อย อันไหนสำคัญป้าจะทำ ดาว* ไว้ให้นะ
1. Passport
2. เอกสารผ่านแดน
3. เล่มทะเบียนรถ
4. ใบขับขี่
5. กุญแจสำรอง
6. สเปรย์ฉีดโซ่
7. ซิมมาเลย์
8. อุปกรณ์ล้อครถ ( โอยยย ขโมยมันชุมกว่าแบคทีเรียในอากาศ เชื่อป้าเถอะนะ เด๋วเหลาให้ฟังตอนไป KL)
9. น้ำมันเครื่อง
10. เสื้อทีม***** ป้าออกแบบเองนะ อิอิ
11. สติ้กเกอร์ทีม
12. ตังค์ ไทย+สิงคโปร ( 2 คน 15,000 บาท) ******* 3ล้านดวง
11 Apr : Bkk-Hadyai (970Kms)
วันกระชากร่าง
ลุงป้าแหกขี้หูขี้ตาตาออกกันตั้งแต่ ตี 4 เพราะป้าเป็นโรคแพ้ความอบอุ่น แดดออกปุ้บ กรุหลับปร๊าบบบ ลุงแม่มก็บิดทีเดียว เสียวเยี่ยวราด ถึงชะอำตอนตี 5 (อย่าถามว่าบิดเท่าไหร่ เด๋วมีดราม่า)
ไอเราคนนั่งก็ไม่อยากจะตบบ่าให้เสียจังหวะ ก็ก้มหน้าก้มตา หลับสัปหงก ป้อกๆ ไป ตื่นอีกทีถึงปั้ม ปตท แวะขจัดของเหลวออกจากร่างกายและเติมเกลือแร่เข้าไปใหม่
แว๊นต่อจากชะอำไปถึงประจวบคีรีขัน อ่าว งานเข้า...ท้องป้าร้อง เจี๊ยกๆ เอร้ยยย จ๊อกๆๆ
อะเคร เราแวะกินเย็นตาโฟกันไหม... ลุงไม่ห่วงจิแDกไร ...ลุงห่วงสวย ...ทากันแดด!!! (เฮ้อ...มีปัวเหมือนมีเพื่อนสาว)
ต่อจากนั้นเราแวะสุราษและพัทลุง อีก 2 ครั้ง จนกระทั่งยิงยาวเข้าที่พักที่หาดใหญ่ เวลา 15.00 พอดิบพอดี สรุปตรูดอยู่บนมอไซด์ราว 10 ชม ถ้าไม่รวมแวะถ่ายของเสียและส่งแฟ๊ก
“มุนลา รีสอรท” อยู่ตรงข้าม มอ.หาดใหญ่ ราคาห้องพัก 590บาท นับว่าคุ้ม !!!!

ขอนอกเรื่องนิดนึง.... ตอนนี้ลิงน้อย 3 ตัว ถูกจัดสรรลำเลียงไปสแตนบายรอรถไฟ สายกรุงเทพ-ตรังเรียบร้อยแล้ว โอเครลุงป้าสบายใจ ไปโลดแล่นต่อได้....

ตะวันคล้อยแล้ว.... ลุงป้าแว๊นไปรอบๆ หาดใหญ่ ชะอุ้ยขับผ่านตลาดอะไรไม่รู้ มีหอยใหญ่ๆวางกองอยู่ ลุงกดเบคที ป้างี้แทบพุ่งไปไฟแดงหน้า....

สรุป จัดหอยจ้า ตัวละ 25 บาท... ถูกยังกะขรี้ แต่กินหอยดีกว่าขรี้.... พี่ confirm…

ลุงบอกว่า หอยต้อง กินกับเบียร... บวก ความเพลีย.... เชี่ย... ป้าหลับถึงเช้า –“
------------------------------------------------------------
12 Apr Hadyai – Penang (300 Kms)
วันกระชากใจ
สะดุ้งจัวตื่นตี 5 ไม่ใช่ป้าเป็นคนขยัน .... แต่คือสลบเพราะฤทธิ์หอย+เบียร์+เพลีย ตั้งแต่ 3 ทุ่ม เช้านี้จะมีรถของสมศรี เพื่อนร่วมทีมคันสุดท้ายตามมา
อากาศสดใส พร้อมออกเดินทาง... เราต้องเริ่มให้ดี ....เริ่มที่ติ่มซำ เจ้าดังในหาดใหญ่.....”โชคดี แต่เตี๊ยม ” คนไทยมหาศาล ทัวรจีนล้านแปด...
กินเสร็จก็รอคันสมศรีพร้อม......... เกือบเที่ยง..........
โอเคร สวัสดี มาเลเซีย รอป้ากะลุงนะ เราจะไปลั่นให้น้ำหมากกระจาย........ ฮิ้วววว ฮิ้ววววว ฮิ้ววววววว
มาถึงด่านสะเดา จ.สงขลา ไทย-มาเลเชีย เราแว๊นเข้ามาจอด เตรียม Passport และกรอกเอกสารขาเข้า-ขาออก... โผล่หน้าเข้าไปยื่นเรื่อง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มพูดจาดี และให้ศีลให้พรว่า....”ขี่กันดีๆหล่ะ เห็นพวกมาเลก็มาขี่ในไทยเยอะ ขามาขี่มา...ขากลับนอนในรถพยาบาลกลับไป” … ลุงป้ารับทราบข้อความพร้อมยิ้มหวานใส่

ทะลุด่านไทย มา ก็เจอด่านของมาเลเซีย เสียดายลืมถ่ายรูปไว้ เราไม่ต้องลงจากรถ ขี่มอไซด์เข้าไปเลย ยื่นพาสปอรต แล้วสแกนนิ้ว เป็นอันเสร็จสิ้น............. Salamat Datang
ออกมาจากด่านมาก็ต้องแวะเติมน้ำมันก่อนสิเอออ อูยยยยย ลาบปากแล้วหล่ะ มื่อนี้อั้วจะแหลกนั้งมัง เบงซิง 97
รัฐบาลมาเลเชียมีนโยบาย ขายน้ำมัน เบนซิน97 ให้นักท่องเที่ยว ไม่ขายเบนซิน 95 ให้นะครัช แต่มีบางปั้มก็ยอมขายให้เรา
ลุงป้ามุ่งหน้าไปปีนังเลย เข้าทางด่วนโดยใช้เลนส์ของมอเจอร์ไซด์แบบนี้ เล็ก แคบ แน่น เอิ้มมม พี่จะเสียวไปไหน แต่เค้าให้ผ่านฟรี !!! อันนี้ ป้าจะไม่บ่นออกมา (ที่พิมพ์คือ คิดในใจ)
ถนนหนทางของประเทศนี้ค่อยข้างดี ขับขี่ลื่นไหล ไม่ค่อยเร้าใจวัยรุ่นแบบลุงป้า สู้ในไทยก็ไม่ได้ มีหลุม มีร่องให้รูด ให้หัวใจได้ถูกบีบอัดเป็นระยะ อากาศวันนี้ร้อนใช้ได้.... แต่พอเห็นเป้าหมาย หัวใจมันกระชุ่มกระชวย
สะพานข้ามไปปีนัง เห็นแล้วคิดถึงสะพานพระราม 8 บ้านเราเรยทีเดียว ลงจอดถ่ายรูปหน่อย แล้วเข้าเมืองกันต่อ
16.00 โดยประมาณ ลุงป้าถึงที่พักแล้ว ชื่อ M Hotel ซึ่งอยู่ไม่ไกล Street Art เท่าไหร่ ณ จุดนี้ รีบอาบน้ำชำระร่างให้ไว เอาละวะ ทั้งเหนื่อย ทั้งเหนียวเหนอะมาทั้งวัน เด๋วเราจะฟินกับน้ำใสไหลเย็นๆๆ ละนะ
หมุนขวาเปิดฝักบัวแรงสุด.........ไอเจี๊ยยยย ใครเปิดน้ำอุ่น หันไปดูสวิสเครื่องก็ปิดอยู่.... สรุปคือ น้ำมันร้อนอยู่ในท่อ โฮ.... สุดประทับใจ มาเล..ที่รัก
17.00 ลุงป้า สมศรีมากับเพื่อนสาวคนสนิทก็ไปหาอะไรรองท้อง ห้างสรรพสินค้าใกล้ ขับรถ วนไปมา แอบถ่ายรูปเล็กน้อย ในความรู้สึกของป้า บ้านเมืองในปีนัง คล้ายๆ จังหวัดยะลา ปัตตานี มันทำให้นึกย้อนถึงวัยเด็กดีจิงๆ
มื้อแรกในปีนัง สะเต้ะไก่ + ข้าวเป็นก้อนๆ ไม่รู้เรียกว่าอะไร ลืมจด ตอนนั้นหิวจนหน้ามืด หิวจนโกดปัวแล้ว ต้องขออภัยข่ะ
เมื่อเรากำจัดปัญหาหาเรื่องปากท้องไปแล้ว สถานีถัดไปคือ highlight ของปีนัง เราจะมุ่งหน้าไป Penang Hill กันนะค้า
การขึ้นไปด้านบน Penang Hill ต้องขึ้นด้วยรถไฟกระเช้า ค่าตั้ว ขึ้น –ลง ประมาณ 30RM (30*9=270 บาท) ตอนแรกก็รู้สึกว่าแพง ตามประสามนุษย์ป้า ราคาเซลล์ แต่พอขึ้นไปสุดเห็นวิวนี้เท่านั้นแหละ.... เลิกบ่นกันเถอะ
ด้านบน Penang Hill มีสถานที่เที่ยวเยอะมาก ทั้งป้อมปืน วัดวาอาราม สวนสัตว์ การแสดงโชว์ แต่เนื่องจากลุงป้ามัวแต่สปีดเกียร์ R กว่าจะมาถึงก็มืดมิด และอีก 1 ชม. เค้าก็ให้กลับลงไปแล้วจ้า.....
(คนแก่หลง ช่วยหิ้วกลับที )

เกือบ 21.00 แล้วนะคะ เสียงอะไรดังมากๆ คร๊อกกกก คร๊อกกก สงสัยท่อมอไซเด็กแว็นมาเลย์แน่ๆ สำรวจอย่างถ้วยถี่ อ้อ เสียงท้องกรุนิ อิป้า.... คือ หิวอีกแล้ว อย่างนี้แหละ มาต่างเมืองใหม่ๆ จะเกิดอย่างการ ..”เจ้ทแหลก”..... แหลกเช้ดเม็ด....
มื้อนี้ต้องมาให้ถึงมาเลย์ เราจึงเลือกกินร้านข้างถนน ย่านนี้เหมือนตลาด อยู่ใกล้ Gurney plaza มีร้านอาหารเยอะแยะ ทั้งอาหารจีนและอาหารแขก
เมนูอาหาร มี เคอรรี่มี และหมูไก่ สะเต้ะ และยำอะไรมั้ยรู้ 55555
กินอิ่ม ก็กลับอาศรม วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ พรุ่งนี้สิ ..........ทีเด็ด !!!!!
13 Apr Penang – KL (320Kms)
วันกระชากลำไส้
8.00 พอดี ....... พร้อมไปเที่ยวปีนังกันต่อเรยไหม .... วัยรุ่นแรกแย้ม (ฝาโลง)
วันนี้ช่วงเช้าเราใช้เวลากับการเดินถ่ายรูป แถวๆ Penang Street art ศิลปะตามผนังบ้านจะมีอยู่หลายจุดกระจายไปทั่วบริเวณ มีทั้งภาพวาดและเป็นขดลวดถัก ถ้าเป็นขดลวดจะมีคำอธิบายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของปีนังด้วยนะจ๊ะ

ถัดจากโซนศิลปะบนผนังมา จะเจอโซนของแขก มีร้านขายเสื้อผ้าและขนม สีสันหน้าตาสดใสมาก
ก่อนจะกลับ ลุงชวนแวะเข้าหมู่บ้านประมง ระหว่างทางเดินเข้ามาก็จะมีร้านขายของที่ระลึกและไอติมหลายร้านทีเดียว

เดิมมาจนสุดซอย... โปรดระวัง สิ้นสุดทางเลื่อน........โอวววว สวยดี ^^
จบจากจุดนี้ ลุงป้าก็ต้องมุ่งหน้าไป KL ต่อ
“โถ่ปีนัง มรดก อันล้ำค่า ตัวของป้าและฝาชี จรรีก่อน
ยังมีทริปอีกไกลให้แรมรอน โปรดอย่างอน ลุงป้าจะกลับมา ^^”
ก่อนจะเข้า KL ลุงบอกว่า เราแวะกินข้าวมันไก่ที่อิโป๊ะก่อน (Ipoh) ซึ่งร้านนี้ค่อนข้างโด่งดังมากทีเดียว เราใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมงก็มาถึง....
ทั้งร้านน่าจะเป็นคนจีนล้วน การสั่งอาหาร เป็นไปด้วยความเร่งรีบ และ รวบรัด รวมถึงการเสริฟแบบเร่งด่วน สไลด์จานถั่วงอกผัด จากมุมโต้ะอีกด้านไปยังจุดศูนย์กลางโต้ะ และไม่หกด้วย..... ป้าคิดในใจ นี่เมริงฝึกมาจากวัดเส้าหลินกันหราฮะ พูดไม่ทันขาดคำ นักรบมังกรเสริฟสไลด์ข้าวสวยต่อเรย ....... เฟี๊ยยยยส.... (จานหยุดกลางโต้ะ) แต่ข้าว


ไปต่อตามความเร่งแห่งกฎฟิสิกข์ สรุปคือ ข้าวหก อดแหลก .... รอจานใหม่!!! ตกลงนี่เสริฟแบบนี้มันเร้วขึ้นหรือช้าลง ห๋า อาเสี่ยวเอ้อ!!!!
ลุงป้าขาแว๊น ขี่มอไซหนีลูกเที่ยว กทม-มาเลเชีย 7 วัน 6 คืน (3000 kms) by Old man rider
อย่ามัวชักช้า พิรี้พิไร เกิดเป็นวัยรุ่นมันต้องใจร้อน .... พร้อมกันรึยัง.... ตะ ตะ ติ้ดด ชึ่ง..... ติดเครื่องออกตัว....
>ทริปนี้เราไปกัน 14 คน 9 คัน ซึ่งต้องแบ่งเป็น 2 เส้นทาง เนื่องจากลุงป้ามีลูกลิง 3 ตัวที่เราต้องกำจัด เอร้ยย.... จัดการส่งลูกลิงไปให้ญาตที่ ตจว ดูแลก่อน เราจึงต้องตามไปทีหลังได้ ทำให้อดไปตบตรูดสิงโตน้อย เมอรไลออน ที่สิงคโปรค์ ในช่วง 4 วัน แรก
ก่อนเดินทางก็ต้องมีการเตรียมตัวเล็กน้อย อันไหนสำคัญป้าจะทำ ดาว* ไว้ให้นะ
1. Passport
2. เอกสารผ่านแดน
3. เล่มทะเบียนรถ
4. ใบขับขี่
5. กุญแจสำรอง
6. สเปรย์ฉีดโซ่
7. ซิมมาเลย์
8. อุปกรณ์ล้อครถ ( โอยยย ขโมยมันชุมกว่าแบคทีเรียในอากาศ เชื่อป้าเถอะนะ เด๋วเหลาให้ฟังตอนไป KL)
9. น้ำมันเครื่อง
10. เสื้อทีม***** ป้าออกแบบเองนะ อิอิ
11. สติ้กเกอร์ทีม
12. ตังค์ ไทย+สิงคโปร ( 2 คน 15,000 บาท) ******* 3ล้านดวง
11 Apr : Bkk-Hadyai (970Kms)
วันกระชากร่าง
ลุงป้าแหกขี้หูขี้ตาตาออกกันตั้งแต่ ตี 4 เพราะป้าเป็นโรคแพ้ความอบอุ่น แดดออกปุ้บ กรุหลับปร๊าบบบ ลุงแม่มก็บิดทีเดียว เสียวเยี่ยวราด ถึงชะอำตอนตี 5 (อย่าถามว่าบิดเท่าไหร่ เด๋วมีดราม่า)
ไอเราคนนั่งก็ไม่อยากจะตบบ่าให้เสียจังหวะ ก็ก้มหน้าก้มตา หลับสัปหงก ป้อกๆ ไป ตื่นอีกทีถึงปั้ม ปตท แวะขจัดของเหลวออกจากร่างกายและเติมเกลือแร่เข้าไปใหม่
แว๊นต่อจากชะอำไปถึงประจวบคีรีขัน อ่าว งานเข้า...ท้องป้าร้อง เจี๊ยกๆ เอร้ยยย จ๊อกๆๆ
อะเคร เราแวะกินเย็นตาโฟกันไหม... ลุงไม่ห่วงจิแDกไร ...ลุงห่วงสวย ...ทากันแดด!!! (เฮ้อ...มีปัวเหมือนมีเพื่อนสาว)
ต่อจากนั้นเราแวะสุราษและพัทลุง อีก 2 ครั้ง จนกระทั่งยิงยาวเข้าที่พักที่หาดใหญ่ เวลา 15.00 พอดิบพอดี สรุปตรูดอยู่บนมอไซด์ราว 10 ชม ถ้าไม่รวมแวะถ่ายของเสียและส่งแฟ๊ก
“มุนลา รีสอรท” อยู่ตรงข้าม มอ.หาดใหญ่ ราคาห้องพัก 590บาท นับว่าคุ้ม !!!!
ขอนอกเรื่องนิดนึง.... ตอนนี้ลิงน้อย 3 ตัว ถูกจัดสรรลำเลียงไปสแตนบายรอรถไฟ สายกรุงเทพ-ตรังเรียบร้อยแล้ว โอเครลุงป้าสบายใจ ไปโลดแล่นต่อได้....
ตะวันคล้อยแล้ว.... ลุงป้าแว๊นไปรอบๆ หาดใหญ่ ชะอุ้ยขับผ่านตลาดอะไรไม่รู้ มีหอยใหญ่ๆวางกองอยู่ ลุงกดเบคที ป้างี้แทบพุ่งไปไฟแดงหน้า....
สรุป จัดหอยจ้า ตัวละ 25 บาท... ถูกยังกะขรี้ แต่กินหอยดีกว่าขรี้.... พี่ confirm…
ลุงบอกว่า หอยต้อง กินกับเบียร... บวก ความเพลีย.... เชี่ย... ป้าหลับถึงเช้า –“
------------------------------------------------------------
12 Apr Hadyai – Penang (300 Kms)
วันกระชากใจ
สะดุ้งจัวตื่นตี 5 ไม่ใช่ป้าเป็นคนขยัน .... แต่คือสลบเพราะฤทธิ์หอย+เบียร์+เพลีย ตั้งแต่ 3 ทุ่ม เช้านี้จะมีรถของสมศรี เพื่อนร่วมทีมคันสุดท้ายตามมา
อากาศสดใส พร้อมออกเดินทาง... เราต้องเริ่มให้ดี ....เริ่มที่ติ่มซำ เจ้าดังในหาดใหญ่.....”โชคดี แต่เตี๊ยม ” คนไทยมหาศาล ทัวรจีนล้านแปด...
กินเสร็จก็รอคันสมศรีพร้อม......... เกือบเที่ยง..........
โอเคร สวัสดี มาเลเซีย รอป้ากะลุงนะ เราจะไปลั่นให้น้ำหมากกระจาย........ ฮิ้วววว ฮิ้ววววว ฮิ้ววววววว
มาถึงด่านสะเดา จ.สงขลา ไทย-มาเลเชีย เราแว๊นเข้ามาจอด เตรียม Passport และกรอกเอกสารขาเข้า-ขาออก... โผล่หน้าเข้าไปยื่นเรื่อง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มพูดจาดี และให้ศีลให้พรว่า....”ขี่กันดีๆหล่ะ เห็นพวกมาเลก็มาขี่ในไทยเยอะ ขามาขี่มา...ขากลับนอนในรถพยาบาลกลับไป” … ลุงป้ารับทราบข้อความพร้อมยิ้มหวานใส่
ทะลุด่านไทย มา ก็เจอด่านของมาเลเซีย เสียดายลืมถ่ายรูปไว้ เราไม่ต้องลงจากรถ ขี่มอไซด์เข้าไปเลย ยื่นพาสปอรต แล้วสแกนนิ้ว เป็นอันเสร็จสิ้น............. Salamat Datang
ออกมาจากด่านมาก็ต้องแวะเติมน้ำมันก่อนสิเอออ อูยยยยย ลาบปากแล้วหล่ะ มื่อนี้อั้วจะแหลกนั้งมัง เบงซิง 97
รัฐบาลมาเลเชียมีนโยบาย ขายน้ำมัน เบนซิน97 ให้นักท่องเที่ยว ไม่ขายเบนซิน 95 ให้นะครัช แต่มีบางปั้มก็ยอมขายให้เรา
ลุงป้ามุ่งหน้าไปปีนังเลย เข้าทางด่วนโดยใช้เลนส์ของมอเจอร์ไซด์แบบนี้ เล็ก แคบ แน่น เอิ้มมม พี่จะเสียวไปไหน แต่เค้าให้ผ่านฟรี !!! อันนี้ ป้าจะไม่บ่นออกมา (ที่พิมพ์คือ คิดในใจ)
ถนนหนทางของประเทศนี้ค่อยข้างดี ขับขี่ลื่นไหล ไม่ค่อยเร้าใจวัยรุ่นแบบลุงป้า สู้ในไทยก็ไม่ได้ มีหลุม มีร่องให้รูด ให้หัวใจได้ถูกบีบอัดเป็นระยะ อากาศวันนี้ร้อนใช้ได้.... แต่พอเห็นเป้าหมาย หัวใจมันกระชุ่มกระชวย
สะพานข้ามไปปีนัง เห็นแล้วคิดถึงสะพานพระราม 8 บ้านเราเรยทีเดียว ลงจอดถ่ายรูปหน่อย แล้วเข้าเมืองกันต่อ
16.00 โดยประมาณ ลุงป้าถึงที่พักแล้ว ชื่อ M Hotel ซึ่งอยู่ไม่ไกล Street Art เท่าไหร่ ณ จุดนี้ รีบอาบน้ำชำระร่างให้ไว เอาละวะ ทั้งเหนื่อย ทั้งเหนียวเหนอะมาทั้งวัน เด๋วเราจะฟินกับน้ำใสไหลเย็นๆๆ ละนะ
หมุนขวาเปิดฝักบัวแรงสุด.........ไอเจี๊ยยยย ใครเปิดน้ำอุ่น หันไปดูสวิสเครื่องก็ปิดอยู่.... สรุปคือ น้ำมันร้อนอยู่ในท่อ โฮ.... สุดประทับใจ มาเล..ที่รัก
17.00 ลุงป้า สมศรีมากับเพื่อนสาวคนสนิทก็ไปหาอะไรรองท้อง ห้างสรรพสินค้าใกล้ ขับรถ วนไปมา แอบถ่ายรูปเล็กน้อย ในความรู้สึกของป้า บ้านเมืองในปีนัง คล้ายๆ จังหวัดยะลา ปัตตานี มันทำให้นึกย้อนถึงวัยเด็กดีจิงๆ
มื้อแรกในปีนัง สะเต้ะไก่ + ข้าวเป็นก้อนๆ ไม่รู้เรียกว่าอะไร ลืมจด ตอนนั้นหิวจนหน้ามืด หิวจนโกดปัวแล้ว ต้องขออภัยข่ะ
เมื่อเรากำจัดปัญหาหาเรื่องปากท้องไปแล้ว สถานีถัดไปคือ highlight ของปีนัง เราจะมุ่งหน้าไป Penang Hill กันนะค้า
การขึ้นไปด้านบน Penang Hill ต้องขึ้นด้วยรถไฟกระเช้า ค่าตั้ว ขึ้น –ลง ประมาณ 30RM (30*9=270 บาท) ตอนแรกก็รู้สึกว่าแพง ตามประสามนุษย์ป้า ราคาเซลล์ แต่พอขึ้นไปสุดเห็นวิวนี้เท่านั้นแหละ.... เลิกบ่นกันเถอะ
ด้านบน Penang Hill มีสถานที่เที่ยวเยอะมาก ทั้งป้อมปืน วัดวาอาราม สวนสัตว์ การแสดงโชว์ แต่เนื่องจากลุงป้ามัวแต่สปีดเกียร์ R กว่าจะมาถึงก็มืดมิด และอีก 1 ชม. เค้าก็ให้กลับลงไปแล้วจ้า.....
(คนแก่หลง ช่วยหิ้วกลับที )
เกือบ 21.00 แล้วนะคะ เสียงอะไรดังมากๆ คร๊อกกกก คร๊อกกก สงสัยท่อมอไซเด็กแว็นมาเลย์แน่ๆ สำรวจอย่างถ้วยถี่ อ้อ เสียงท้องกรุนิ อิป้า.... คือ หิวอีกแล้ว อย่างนี้แหละ มาต่างเมืองใหม่ๆ จะเกิดอย่างการ ..”เจ้ทแหลก”..... แหลกเช้ดเม็ด....
มื้อนี้ต้องมาให้ถึงมาเลย์ เราจึงเลือกกินร้านข้างถนน ย่านนี้เหมือนตลาด อยู่ใกล้ Gurney plaza มีร้านอาหารเยอะแยะ ทั้งอาหารจีนและอาหารแขก
เมนูอาหาร มี เคอรรี่มี และหมูไก่ สะเต้ะ และยำอะไรมั้ยรู้ 55555
กินอิ่ม ก็กลับอาศรม วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ พรุ่งนี้สิ ..........ทีเด็ด !!!!!
13 Apr Penang – KL (320Kms)
วันกระชากลำไส้
8.00 พอดี ....... พร้อมไปเที่ยวปีนังกันต่อเรยไหม .... วัยรุ่นแรกแย้ม (ฝาโลง)
วันนี้ช่วงเช้าเราใช้เวลากับการเดินถ่ายรูป แถวๆ Penang Street art ศิลปะตามผนังบ้านจะมีอยู่หลายจุดกระจายไปทั่วบริเวณ มีทั้งภาพวาดและเป็นขดลวดถัก ถ้าเป็นขดลวดจะมีคำอธิบายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของปีนังด้วยนะจ๊ะ
ถัดจากโซนศิลปะบนผนังมา จะเจอโซนของแขก มีร้านขายเสื้อผ้าและขนม สีสันหน้าตาสดใสมาก
ก่อนจะกลับ ลุงชวนแวะเข้าหมู่บ้านประมง ระหว่างทางเดินเข้ามาก็จะมีร้านขายของที่ระลึกและไอติมหลายร้านทีเดียว
เดิมมาจนสุดซอย... โปรดระวัง สิ้นสุดทางเลื่อน........โอวววว สวยดี ^^
จบจากจุดนี้ ลุงป้าก็ต้องมุ่งหน้าไป KL ต่อ
“โถ่ปีนัง มรดก อันล้ำค่า ตัวของป้าและฝาชี จรรีก่อน
ยังมีทริปอีกไกลให้แรมรอน โปรดอย่างอน ลุงป้าจะกลับมา ^^”
ก่อนจะเข้า KL ลุงบอกว่า เราแวะกินข้าวมันไก่ที่อิโป๊ะก่อน (Ipoh) ซึ่งร้านนี้ค่อนข้างโด่งดังมากทีเดียว เราใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมงก็มาถึง....
ทั้งร้านน่าจะเป็นคนจีนล้วน การสั่งอาหาร เป็นไปด้วยความเร่งรีบ และ รวบรัด รวมถึงการเสริฟแบบเร่งด่วน สไลด์จานถั่วงอกผัด จากมุมโต้ะอีกด้านไปยังจุดศูนย์กลางโต้ะ และไม่หกด้วย..... ป้าคิดในใจ นี่เมริงฝึกมาจากวัดเส้าหลินกันหราฮะ พูดไม่ทันขาดคำ นักรบมังกรเสริฟสไลด์ข้าวสวยต่อเรย ....... เฟี๊ยยยยส.... (จานหยุดกลางโต้ะ) แต่ข้าว