ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะวิชา “GEN441 วัฒธรรมและการท่องเที่ยวของมหาลัยชื่อดังย่านฝั่งธน”
ที่ต้องจับกลุ่มกันไป Backback ที่ไหนก็ได้จะในประเทศหรือนอกประเทศได้หมด
โดยคอนเซปคือ "Low price high experience"
ซึ่งกลุ่มเรามีกันอยู่ 4 คน ชาย 3 หญิง 1 และยังมีรุ่นพี่ที่สนิทไปด้วยอีก 2 คน
กว่าทุกอย่างจะแน่นอนก็เกือบไม่ทันการ ด้วยอะไรหลายๆอย่าง
แต่ก็เหมือนฟ้าประทานพี่แมลงสาบมาให้ พวกเราจึงตัดสินใจกันว่าจะไปซ่ากันที่ เกาะสมุยยยยยยยยยยย
  

พวกเราเลือกเดินทางด้วยรถไฟทั้งขาไปและขากลับเพราะเป็นครั้งแรกของทุกคนในกลุ่มที่จะได้นั่งรถไฟ 5555555
โดยจองตั๋วล่วงหน้าไว้ก่อนเพราะช่วงที่เราไปเป็นช่วงสงกรานต์เดี๋ยวไม่มีที่นั่ง
ตอนไปถึงหัวลำโพงทุกคนดูตื่นเต้นที่จะได้นั่งรถไฟ แต่พอได้นั่งจริงๆต่างก็พูดเหมือนกันว่า จะไม่นั่งอีกแล้วววว   
เราออกเดินทางกันวันศุกร์ที่ 8 เมษายน จองตั๋วไว้รอบ 19.38
พรีเซนต์งานเสร็จบ่าย3กว่าๆก็รีบแยกย้ายกันไปเตรียมตัวเตรียมเสบียง
และนัดกันว่า 16.30 น. มาเจอกันป้ายรถเมล์หน้ามอเพื่อจะขึ้นรถไปหัวลำโพง
----และในที่สุดปัญหาก็เกิด (เสบียงเราทอดไม่ทัน 555555555555555555) สุดท้ายก็ต้องโบกแท็กซี่เพราะกลัวไปไม่ทันรถไฟ

**หมูทอดเพื่อความอยู่รอด แต่เกือบไม่รอดเพราะจะไปไม่ทันรถไฟ 555555**

แล้วเราก็มาถึงหัวลำโพง…. เกินคาดครับเรามาถึงก่อนเวลาตั้ง1ชม.จึงมีเวลาเดินถ่ายรูป ไปกินข้าว
และซื้อน้ำเปล่าขึ้นไปกินบนรถไฟ ก่อนจะเดินไปชานชลา

นี่คือสภาพคนขึ้นรถไฟครั้งแรกครับ  


**พักผ่อนครับ**

แต่ละคนแข่งกันหลับมากๆ 5555555555
นี่เป็นการนั่งรถไฟครั้งแรกที่ไม่เห็นวิวข้างนอกรถไฟเลยเพราะเดินทางตอนกลางคืนด้วยเอาแต่หลับกันด้วย
ใครหิวก็ลุกมากินเหมูทอดที่เราเตรียมกันมา เรียกได้ว่ากินอิ่มนอนหลับกันไป (ถึงจะหลับยากมากๆก็เถอะ)
เราใช้เวลาในการอยู่บนรถไฟประมาณเกือบๆ 13 ชม.ได้ และในที่สุดเราก็มาถึงสุราษฎร์กันแว้ววววว
ตามกำหนดการในตั๋วเราต้องมาถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานีตอนเวลา 7.00 น.แต่เรามาถึงจริงๆ 8.00 น. สรุปว่าสายไปชั่มโมงนึงครับ
ลงจากรถไฟเราก็ไปเดินรอบๆ ยืดเส้นยืดสายคลายเมื่อย และไม่ลืมขอสักหนึ่งรูป ก่อนจะเดินไปหารถไปท่าเรือเพื่อไปเกาะสมุยกัน

**ถึงแล้วสุราษฎร์ธานี**

หลังจากนั้นเราก็เดินออกจากสถานี เพื่อหาทางไปต่อยังเกาะสมุย
ตอนเดินออกก็มีแต่คนมาถามมากมายว่าจะไปไหน (ฟังราคาแล้วเราเดินหนีเลยครับ)
โชคยังดีเราพบคุณลุงท่านหนึ่ง แนะนำว่าให้รอรถประจำทางสีส้ม สุราษฎร์-พุนพิน แล้วค่อยไปซื้อตั๋วที่ตลาดเกษตร
ถ้ามีบริษัททัวร์มาบอกให้ไปกับเขาอย่าไปนะครับ เพราะราคา 480 บาทต่อคน (แพง)


**แนะนำ ถ้าจะมาเที่ยวเกาะที่สุราษฎร์ไม่ว่าจะเกาะไหนควรศึกษาเรื่องการเดินทางไปเกาะทั้งค่ารถ ค่าเรือ ให้ดีเสียก่อนเพราะอาจจะมีพวกทัวร์มาเสนอราคาให้เราในราคาที่แพงกว่าเท่าตัวเลย**

เราเลือกนั่งรถประจำทางไปลงตลาดเกษตรเพราะแค่คนละ 15 บาท
แล้วไปซื้อตั๋วไปท่าเรือ+ข้ามเกาะที่ตลาดเกษตรเอาในราคา 240 บาทต่อคน (ถูกกว่ากันครึ่งต่อครึ่งเลย)
และใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง 30นาทีก็ถึงตลาดเกษตร


**ซื้อตั๋วได้ที่นี่เลย รถที่ไปท่าเรือจะเป็นรถทัวร์ปรับอากาศ**

ได้ตั๋วมาแล้วววววว พร้อมเดินทางต่อ go go go!!!!!!!!


**ใช้เวลาเดินทางประมาณ1ชั่วโมง 30นาทีก็จะไปถึงท่าเรือ**

ใกล้ความจริงแล้วทุกคนนนน ตอนซื้อตั๋วรถกับเรือมาเราได้เรือรอบ 12.30 น.
เรามาถึงท่าเรือตอนเที่ยงๆแต่เรือมาบ่ายโมง (เลทตั้งแต่รถไฟยันเรือ)
แต่ก็ไม่เป็นไรระหว่างรอต่างคนก็แยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวของตัวเองก่อนที่เรือจะมา


**เรือลำใหญ่มากกกกเป็นเรือเฟอร์รี่ของบริษัทราชา ใช้เวลาการเดินทางจากฝั่งไปถึงเกาะสมุยประมาณ 2 ชั่วโมง **


** go go go!!!!**

เวลา 15.00 น. สิ้นสุดการเดินทางถึงแล้วสมุยยยยย


    จากที่เหนื่อยกับการเดินทางมาทั้งวัน มาเจออากาศร้อน(มากๆ)ปะปนไปด้วยกลิ่นไอของลมทะเล
ประกอบกับน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวนิดๆ ทำให้พวกเราอยากโดดลงน้ำให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย
แต่ก็ทำไม่ได้เพราะว่าต้องนั่งรถต่อไปยังที่พัก เรารออยู่บริเวณท่าเรือสักพัก
น้าเล็กน้าของพี่แมงสาบก็มารับเพื่อไปยังที่พัก
แต่พวกเราขอให้น้าเล็กพาไปตลาดก่อนเพื่อซื้ออาหารทะเลไปทำกับข้าวกินกันคืนนี้

**ฉลามบุกตลาดด ._.**

และนี่คือที่พักของเราอยู่ติดริมทะเลเลย ฟินสุดๆ


ที่พักของเราเป็นบ้านของคุณลุงวิทูร คำอินทร์ หรือเรียกสั้นๆว่า “ลุงทูร”
บ้านของลุงทูรเป็นร้านอาหารติดชายหาด ขายอาหาร และน้ำปั่น
ลุงบอกว่าน้ำปั่นร้านลุงแตกต่างจากที่อื่น เพราะว่าลุงใส่เนื้อผลไม้ลงไป ไม่ใช่น้ำขวดเอามาชง นักท่องเที่ยวเลยชอบมาดื่มน้ำปั่นของลุง
พวกเราได้สอบถามลุงทูรว่าหาดนี้ชื่อว่าอะไร ลุงตอบว่ามันไม่มีชื่อ แต่คนแถวนี้เขาเรียกกันว่า หาดตลิ่งงาม
หาดตลิ่งงามเป็นชายหาดหลังเกาะ มีความสงบร่มรื่น ไม่พลุกพล่าน ไม่วุ่นวาย
ก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะเวียนมาเป็นพักๆ มาดื่มน้ำ มารับประทานอาหาร
หากใครอยากไปนั่งดื่มน้ำ รับประทานอาหารอร่อยๆบรรยากาศสบายๆ
ถ้ากลัวว่าหลง ----สอบถามลุงทูรได้ที่เบอร์ 083-625-5666 นะครับ (ลุงใจดีเป็นกันเองสุดๆ)------

**นี่คือลุงทรู ผู้สนับสนุนหลักของเรา**

พอมาถึงบ้านลุงทูรพวกเราก็สวัสดี แล้วลุงทูรกับน้าเล็กก็พาพวกเราขึ้นไปดูห้องที่จะนอนกัน

**ห้องพักนอนกัน 6 คน บนเตียง 3 คน ที่พื้น 3 คน**

หลังจากจัดห้องนอนเก็บกระเป๋าอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็ลงมาเข้าครัวเพื่อทำอาหารกินกันคืนนี้
(มื้อนี้น้าเล็กขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงต้อนรับพวกเราครับ) #ถึงคนใต้จะหน้าโหดแต่ใจดีมากๆพวกเราเชื่อแล้ว#

ทริปเราผู้ชายเป็นเชฟครับ ส่วนแม่ศรีเรือนเป็นได้แค่ลูกมือเด็ดพริก ปลอกกระเทียม 555555
อาหารที่ซื้อมาก็มีปลากระบอก กุ้ง ปลาหมึก เชฟกระทะแตกก็ได้เตรียมวัตถุดิบไว้เพื่อรังสรรค์เมนูสุดพิเศษ

**โฉมหน้าพ่อครัวประจำทริปนี้**

ระหว่างรอเวลาทำอาหาร เราก็ทิ้งทุกอย่างและวิ่งลงทะเลกันไปด้วยความเร็วสูง
บ้านลุงทูรอยู่ติดกับทะเลเลยแถมมีเรือคยัคให้เราเอาไปพายเล่นอีก (อะไรจะดีขนาดนี้ครับลุงงงง)

**เรารักกันเมื่อยามน้ำลึก**

**นางผีพายยยย**

**ขอถ่ายรูปรวมเป็นที่ระลึกสักภาพ**

**หาดตลิ่งงามถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนเกาะสมุย**

จากที่เล่นน้ำกันจนเปื่อยก็ขึ้นบ้านผลัดกันอาบน้ำเพื่อจะได้มาเตรียมทำกับข้าว
อาหารที่เชฟกระทะแตกจะทำก็มี ปลากระบอกนึ่งมะนาว ใบเหลียงผัดไข่(อาหารยอดฮิตของที่นี่) ปลาหมึกย่าง กุ้งย่าง น้ำจิ้มซีฟู้ด

**นี่ก็เชฟเตากระจาย ผู้ชายย่างปลาหมึก**

ที่ร้านของลุงทูรพอตกเย็นก็จะมีเพื่อนๆของลุงทูรมานั่งดื่มปาร์ตี้กัน
เราก็ไม่รอช้าครับทำกับข้าวมากินกับพวกลุงๆ และลุงๆก็ได้สอนเราทำอาหารยังไงให้อร่อย
แถมนำอาหารทะเลของหายากมาให้เรากินด้วย

**ชาวแก๊งลุงทูรครับ เป็นกันเองมากๆ**

ระหว่างที่ย่างกุ้งอยู่ ลุงทูรก็ถามว่า “โห่นี่กุ้งมาจากที่ไหนกัน มันเป็นกุ้งกุลาเลี้ยงนิ ซื้อมาแพงไหม?”
พวกเราตอบ “400บาทครับลุง” ลุงบอก “แพงมาก ลุงเห็นแล้วไม่อยากทำให้กินเลย”
ตอนนั้นความรู้สึกของพวกเราเหมือนโดนหลอกลวง ลุงยังบอกอีกว่า “ปลาหมึกก็ไม่สด แช่มานิ”
พวกเราก็เงิบเลยครับ นี่ขนาดมาทะเลยังไม่ได้ของสดๆจากทะเล แล้วลุงก็บอกว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้ลุงพาไปแหล่ง รับรองสด ถูก”
พูดคุยกันเสร็จก็ล้อมวงนั่งกินข้าวกันอยู่ก็มีชาวบ้านแถวๆนั้นมาทอดแหจับปลาที่มาเล่นไฟ
ชาวบ้านแถวนี้เรียกว่า “ปลาทราย” เท่าที่เราเห็นมันก็คล้ายๆปลาสร้อยนั่นแหละ 555555555

**คนที่มีกล่องโฟมเขามาแทงปู อีกคนกำลังจับปลาที่มาติดในแห**

จากที่ได้ถกเถียงพูดคุยกันเสร็จก็เริ่มปาร์ตี้อาหารมื้อเย็นของพวกเรากันอย่างเอร็ดอร่อย
บรรยากาศเหมือนได้กินข้าวอยู่บ้านเพราะพวกลุงๆก็สนุกไปกับพวกเราด้วย (ทุกคนแฮปปี้)  
เราก็ได้ถามพวกลุงๆว่าสมุยมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ลุงทูรก็บอกว่า “เดี๋ยวตอนเช้าไปดำน้ำกัน เดี๋ยวลุงบอกลูกชายลุงให้พาไป”
(บ้านลุงทูรเรียกได้ว่า full option จริงๆมีทั้งเรือคายัค เรือสปีดโบ๊ท รถตู้)
ลุงทูรมีลูกชาย2คนชื่อ “พี่โพ๊ท” กับ ”พี่พีท”
สรุปว่าพรุ่งนี้เช้าเราก็มีที่เที่ยวกันแล้วคืนนี้ก็นอนเก็บแรงกันให้เต็มที่เพราะเดินทางเหนื่อยมาทั้งวันพรุ่งนี้จะได้สุดๆกันไปเลยยย

วันที่ 2 บนเกาะสมุย
    ตื่นมาตอนสายๆรับลมทะเลจากนอกระเบียง ไม่มีใครตื่นทันเพื่อไปซื้อของที่แพปลารวมทั้งลุงทูรด้วย 55555555555
(ทำความรู้จักกันนานไปหน่อย) พี่แมงสาบเลยพาออกไปกินข้าวร้านป้านิดเป็นร้านข้าวเล็กๆขายทั้งข้าวและก๋วยเตี๋ยว
ข้าวจานละ 50บาท พิเศษ 60 บาท อร่อยแถมได้เยอะคุ้มกับราคาเลย

**เช้านี้กินข้าวขาหมูจานละ 50บาท**

กินข้าวเสร็จกลับไปบ้านก็เตรียมของเพื่อจะไปดำน้ำ
เพราะลุงบอกพี่โพ็ทกำลังจะมาเอาเรือไปเติมน้ำมันอยู่ (ไปเที่ยววันนี้ก็ฟรีทุกอย่างอีกแล้วต้องขอบคุณลุงทูรมากๆครับ)
อุปกรณ์ที่เตรียมไปก็มีเสื้อชูชีพ แว่นตาดำน้ำ สน๊อคเกิ้ล วันนี้พี่โพ๊ทพาเราไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะแตน
จากบ้านลุงนั่งเรือสปีดโบ๊ทไปใช้เวลาครึ่งชั่วโมงได้ ทิวทัศน์ระหว่างทางก็สวยงามมากๆโรงแรม รีสอร์ทต่างๆ ที่อยู่รอบๆภูเขา


**มีความสุขกันมากครับคู่นี้**

เวลา11.00 น. กว่าๆ ถึงแล้วเกาะแตนนนนนนนนนน

**ปลาเยอะแยะเลยยยยย**
[img]http://f.ptcdn.info/999/041/000/o607wocf19j