ทริปนี้เป็น Backpack Trip ที่เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ
อยากลองเที่ยวเชียงใหม่ที่แปลกออกไป
รับรองได้เลยค่ะว่าทริปนี้เพื่อนๆ จะได้ประสบการณ์ใหม่ๆแน่นอน บอกได้คำเดียวเลยค่ะว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
เริ่มจากสถานีรถไฟหัวลำโพง - เชียงใหม่ พวกเรานัดรวมพลเดินทางด้วยรถไฟตู้นอนขบวนพิเศษ ชั้น 2
รถไฟเริ่มออกจากชานชลา เวลา 19:35 น.
.. ซึ่งตลอดข้างทางของการเดินทาง เราก็ได้พบกับธรรมชาติ ป่าไม้ ที่อยู่อาศัยก็ค่อยๆเปลี่ยนไปจากเมืองหลวงสู่เมืองเหนือ..
พวกเราใช้ระยะเวลาในการเดินทางทั้งสิ้น 14 ชั่วโมง รถไฟก็ได้มาถึงเชียงใหม่เวลา 9:30 น. ได้พักเต็มอิ่มก็พร้อมออกเดินทาง
_____________________________________________________________________
วันที่ 1 และแล้วก็มาถึงเชียงใหม่เป็นที่เรียบร้อย .... เย้ !
พวกเราก็รีบมุ่งหน้าเดินไปที่ทางออกสถานีเพื่อโบกรถสองแถวแดง ไปยังจุดหมาย
คือร้านเช่าจักรยาน N&K for rentals ตกคนละประมาณ 20 บาทเท่านั้นค่ะ
ซึ่งร้านจักรยานที่เราจะไปเช่ากันนั้นตั้งอยู่ที่ 6/10 ถ.สุริยวงศ์ ซึ่งร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
แต่มีจักรยานและมอเตอร์ไซด์ให้เลือกมากมายแล้วแต่ความชอบค่ะ
หลังจากที่พวกเราเลือกจักรยานกันเรียบร้อยแล้ว ... เราก็ตรงไปยังที่พัก เพื่อเก็บข้าวของสัมภาระกันก่อน ซึ่งที่พักของที่เราได้จองไว้ก็คือ
Bunk Boutique โฮสเทล ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับเซ็นทรัลกาดสวนแก้ว ถ.ราชพฤกษ์
ห้องพักที่เราจองเป็นเตียงสองชั้น มีทั้งหมด 3 เตียง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว 6 คน ซึ่งราคาก็แสนจะถูกเพียงแค่ 280 บาทเท่านั้น
สภาพใหม่ แถมยังพักสบายอีกด้วย ถือว่าเยี่ยมเลยค่ะ
เมื่อเตรียมความพร้อมเสร็จ .. เราเริ่มปั่นจักรยานไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์เพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อน
จากนั้นพวกเราก็แวะกินข้าวกลางวันกันที่ร้าน
“ครัวคนเมือง” ตั้งอยู่ที่ ถ.นิมมาน 17 เป็นร้านอาหารพื้นเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ

".... ค่าอาหารจานนี้ไม่แพงอย่างที่คิดค่ะ จานนี้เพียงแค่ 29 บาทเท่านั้น !!!!...."
โอ้โหห .. แต่ละอย่างน่าทานทั้งนั้นนน


เมื่อทานของคาวกันเสร็จก็ต้องต่อด้วยของหวานตบท้าย เราปั่นไปอีกหน่อยก็จะถึงร้าน
“ไอศกรีมกดกริ่ง” ที่ถ้าใครผ่านมาแล้ว
ก็น่าจะลองกดกริ่งเพื่อสั่งไอติมกันนะคะ เป็นไอติมผลไม้รสต่างๆ สำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานหวานมากแนะนำค่ะร้านนี้
จากนั้น ... เราก็ปั่นไปกันที่ “วัดอุโมงค์”
ที่นี่ทั้งสงบและบรรยากาศในถ้ำนั้นเย็นมากค่ะ ลืมอากาศร้อนข้างนอกถ้ำไปเลย
หลังจากไหว้พระเสร็จเราก็ปั่นไปพักกันที่ “บ้านข้างวัด”
ที่นี่เหมาะกับเป็นสถานที่มานั่งพักผ่อนหรือซื้อของฝากกระจุกกระจิก หรือแม้แต่มานั่งชิลล์ๆรับบรรยากาศกันที่ร้านกาแฟ
บรรยากาศช่วงเย็นๆ นั่งพักให้หายเหนื่อยหลังจากปั่นจักรยานสดชื่นจริงๆค่ะ
หลังจากหายเหนื่อยกันแล้วพวกเราก็แวะไปที่ร้าน “ฟิล์มนิยม” ซึ่งเป็นร้านถ่ายรูปของเจ้าของร้านชื่อพี่บอย
กำลังจะไปปั่นจักรยานช่วงเย็นๆพอดี พวกเราเลยได้ทีขอให้พี่เขาเป็นไกด์นำทางให้
พี่บอยก็ใจดีพาพวกเราไปตั้งสองที่เลยค่ะ
เส้นทางของเราคือปั่นเข้าไปใน ม.ช. เพื่อไปอ่างแก้ว แวะถ่ายรูปกันสักพัก
ก็ไปต่อกันที่ “ห้วยตึงเฒ่า” แค่ชื่อก็น่าสนใจแล้วสิคะ ...

ปั่นไป พักไป สนุกสนานค่ะ
พวกเราก็ปั่นไปตามเส้นทางจักรยานที่เขามีไว้ให้ (มีขึ้นเขาลงเขาบ้าง ทำเอาเหงื่อตกกันเลยทีเดียวค่ะ)
แต่บรรยากาศตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน สวยมากจริงๆค่ะถือว่าคุ้มที่ได้มาสัมพัส
และแล้วว ... ก็หมดไปอีกหนึ่งวัน หลังจากพวกเราเหน็ดเหนื่อยกับการปั่นจักรยานมาทั้งวัน ก็พักผ่อนเดินเล่นกันที่ Night Market
ชิลล์ๆกันช่วงกลางคืน
ที่นี่มีแต่ของน่ารักๆ ให้เดินชมเดินซื้อกันเพลินเลยค่ะ
_____________________________________________________________________
วันที่ 2 พวกเราตื่นกัน 8:00 น. เพื่อรีบเอาจักรยานไปคืนก่อนจะมา Check-out ออกจากที่พัก
เราแวะซื้อกับข้าวกันที่ “ตลาดวโรรส”ค่ะ ที่นี่มีของสดเยอะแยะมากมายให้เลือกซื้อ
กิจกรรมของพวกเราในวันนี้คือ เราแวะทานมื้อเที่ยงกันที่ร้าน “คั่วไก่นิมมาน” ที่ขอบอกว่า
ถ้ามาถึงนิมมานแล้วต้องมาร้านนี้ให้ได้ ..

ซึ่งเมนูเด็ดของร้านนี้ก็คือก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ใส่ใข่กระทะร้อนไม่ควรพลาดจริงๆค่ะ

หลังจากที่พวกเราทานกันเสร็จ ถัดไปร้านข้างๆก็คือร้าน “Iberry” ของพี่โน๊ต อุดมนั่นเองค่ะ
พวกเราแวะซื้อของฝากกันที่นี่ มีสินค้าน่ารักๆให้เลือกเยอะแยะไปหมด น่ารักทั้งนั้น
.. เสร็จเรียบร้อย ..
จากนั้นมาเปลี่ยนบรรยากาศจากในเมืองที่วุ่นวาย มาสัมผัสบรรยากาศบนดอยที่ “ภูไผ่งามรีสอร์ท” บนแม่แตงกันค่ะ
พวกเราเช่ารถกันไปใช้เวลาเดินทางประมาณชั่งโมงครึ่ง ก็ถึงที่พักของเราในวันนี้กัน
ที่นี่ทั้งสงบ บรรยากาศดี แถมที่นี่ยังปลูกผักออแกนิคให้พวกเราได้เก็บ มาทำกับข้าวกินกันมื้อเย็นด้วยค่ะ
มื้อนี้เราได้กินทั้งกับข้าวอร่อยๆที่พวกเราช่วยกันทำ และยังได้กินผักสดๆปลอดสารพิษอีก
โอ้โห..มันช่างดีจริงๆค่ะ

อาหารที่พวกเราทำกินกัน เยอะแยะเลยค่ะ มีทั้งน้ำพริกอ่อง
ลาบคั่ว ไก่ทอด แคปหมู ไข่เจียว ฯลฯ กินคู่กับผักสดๆ อร่อยมากเลยค่ะ
น่ากินมั้ยคะ ..
[CR] แบกเป้ขึ้นรถไฟไป "เชียงใหม่" ปั่นเพลินๆ เดินเก็บผัก หลงรักธรรมชาติ 3 วัน 4 คืน
ทริปนี้เป็น Backpack Trip ที่เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ อยากลองเที่ยวเชียงใหม่ที่แปลกออกไป
รับรองได้เลยค่ะว่าทริปนี้เพื่อนๆ จะได้ประสบการณ์ใหม่ๆแน่นอน บอกได้คำเดียวเลยค่ะว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
เริ่มจากสถานีรถไฟหัวลำโพง - เชียงใหม่ พวกเรานัดรวมพลเดินทางด้วยรถไฟตู้นอนขบวนพิเศษ ชั้น 2
รถไฟเริ่มออกจากชานชลา เวลา 19:35 น.
.. ซึ่งตลอดข้างทางของการเดินทาง เราก็ได้พบกับธรรมชาติ ป่าไม้ ที่อยู่อาศัยก็ค่อยๆเปลี่ยนไปจากเมืองหลวงสู่เมืองเหนือ..
พวกเราใช้ระยะเวลาในการเดินทางทั้งสิ้น 14 ชั่วโมง รถไฟก็ได้มาถึงเชียงใหม่เวลา 9:30 น. ได้พักเต็มอิ่มก็พร้อมออกเดินทาง
_____________________________________________________________________
วันที่ 1 และแล้วก็มาถึงเชียงใหม่เป็นที่เรียบร้อย .... เย้ !
พวกเราก็รีบมุ่งหน้าเดินไปที่ทางออกสถานีเพื่อโบกรถสองแถวแดง ไปยังจุดหมาย
คือร้านเช่าจักรยาน N&K for rentals ตกคนละประมาณ 20 บาทเท่านั้นค่ะ
ซึ่งร้านจักรยานที่เราจะไปเช่ากันนั้นตั้งอยู่ที่ 6/10 ถ.สุริยวงศ์ ซึ่งร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
แต่มีจักรยานและมอเตอร์ไซด์ให้เลือกมากมายแล้วแต่ความชอบค่ะ
หลังจากที่พวกเราเลือกจักรยานกันเรียบร้อยแล้ว ... เราก็ตรงไปยังที่พัก เพื่อเก็บข้าวของสัมภาระกันก่อน ซึ่งที่พักของที่เราได้จองไว้ก็คือ
Bunk Boutique โฮสเทล ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับเซ็นทรัลกาดสวนแก้ว ถ.ราชพฤกษ์
ห้องพักที่เราจองเป็นเตียงสองชั้น มีทั้งหมด 3 เตียง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว 6 คน ซึ่งราคาก็แสนจะถูกเพียงแค่ 280 บาทเท่านั้น
สภาพใหม่ แถมยังพักสบายอีกด้วย ถือว่าเยี่ยมเลยค่ะ
เมื่อเตรียมความพร้อมเสร็จ .. เราเริ่มปั่นจักรยานไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์เพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อน
จากนั้นพวกเราก็แวะกินข้าวกลางวันกันที่ร้าน “ครัวคนเมือง” ตั้งอยู่ที่ ถ.นิมมาน 17 เป็นร้านอาหารพื้นเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ
".... ค่าอาหารจานนี้ไม่แพงอย่างที่คิดค่ะ จานนี้เพียงแค่ 29 บาทเท่านั้น !!!!...."
โอ้โหห .. แต่ละอย่างน่าทานทั้งนั้นนน
เมื่อทานของคาวกันเสร็จก็ต้องต่อด้วยของหวานตบท้าย เราปั่นไปอีกหน่อยก็จะถึงร้าน “ไอศกรีมกดกริ่ง” ที่ถ้าใครผ่านมาแล้ว
ก็น่าจะลองกดกริ่งเพื่อสั่งไอติมกันนะคะ เป็นไอติมผลไม้รสต่างๆ สำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานหวานมากแนะนำค่ะร้านนี้
จากนั้น ... เราก็ปั่นไปกันที่ “วัดอุโมงค์”
ที่นี่ทั้งสงบและบรรยากาศในถ้ำนั้นเย็นมากค่ะ ลืมอากาศร้อนข้างนอกถ้ำไปเลย
หลังจากไหว้พระเสร็จเราก็ปั่นไปพักกันที่ “บ้านข้างวัด”
ที่นี่เหมาะกับเป็นสถานที่มานั่งพักผ่อนหรือซื้อของฝากกระจุกกระจิก หรือแม้แต่มานั่งชิลล์ๆรับบรรยากาศกันที่ร้านกาแฟ
บรรยากาศช่วงเย็นๆ นั่งพักให้หายเหนื่อยหลังจากปั่นจักรยานสดชื่นจริงๆค่ะ
หลังจากหายเหนื่อยกันแล้วพวกเราก็แวะไปที่ร้าน “ฟิล์มนิยม” ซึ่งเป็นร้านถ่ายรูปของเจ้าของร้านชื่อพี่บอย
กำลังจะไปปั่นจักรยานช่วงเย็นๆพอดี พวกเราเลยได้ทีขอให้พี่เขาเป็นไกด์นำทางให้
พี่บอยก็ใจดีพาพวกเราไปตั้งสองที่เลยค่ะ
เส้นทางของเราคือปั่นเข้าไปใน ม.ช. เพื่อไปอ่างแก้ว แวะถ่ายรูปกันสักพัก
ก็ไปต่อกันที่ “ห้วยตึงเฒ่า” แค่ชื่อก็น่าสนใจแล้วสิคะ ...
ปั่นไป พักไป สนุกสนานค่ะ
พวกเราก็ปั่นไปตามเส้นทางจักรยานที่เขามีไว้ให้ (มีขึ้นเขาลงเขาบ้าง ทำเอาเหงื่อตกกันเลยทีเดียวค่ะ)
แต่บรรยากาศตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน สวยมากจริงๆค่ะถือว่าคุ้มที่ได้มาสัมพัส
และแล้วว ... ก็หมดไปอีกหนึ่งวัน หลังจากพวกเราเหน็ดเหนื่อยกับการปั่นจักรยานมาทั้งวัน ก็พักผ่อนเดินเล่นกันที่ Night Market
ชิลล์ๆกันช่วงกลางคืน
ที่นี่มีแต่ของน่ารักๆ ให้เดินชมเดินซื้อกันเพลินเลยค่ะ
_____________________________________________________________________
วันที่ 2 พวกเราตื่นกัน 8:00 น. เพื่อรีบเอาจักรยานไปคืนก่อนจะมา Check-out ออกจากที่พัก
เราแวะซื้อกับข้าวกันที่ “ตลาดวโรรส”ค่ะ ที่นี่มีของสดเยอะแยะมากมายให้เลือกซื้อ
กิจกรรมของพวกเราในวันนี้คือ เราแวะทานมื้อเที่ยงกันที่ร้าน “คั่วไก่นิมมาน” ที่ขอบอกว่า
ถ้ามาถึงนิมมานแล้วต้องมาร้านนี้ให้ได้ ..
ซึ่งเมนูเด็ดของร้านนี้ก็คือก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ใส่ใข่กระทะร้อนไม่ควรพลาดจริงๆค่ะ
หลังจากที่พวกเราทานกันเสร็จ ถัดไปร้านข้างๆก็คือร้าน “Iberry” ของพี่โน๊ต อุดมนั่นเองค่ะ
พวกเราแวะซื้อของฝากกันที่นี่ มีสินค้าน่ารักๆให้เลือกเยอะแยะไปหมด น่ารักทั้งนั้น
.. เสร็จเรียบร้อย ..
จากนั้นมาเปลี่ยนบรรยากาศจากในเมืองที่วุ่นวาย มาสัมผัสบรรยากาศบนดอยที่ “ภูไผ่งามรีสอร์ท” บนแม่แตงกันค่ะ
พวกเราเช่ารถกันไปใช้เวลาเดินทางประมาณชั่งโมงครึ่ง ก็ถึงที่พักของเราในวันนี้กัน
ที่นี่ทั้งสงบ บรรยากาศดี แถมที่นี่ยังปลูกผักออแกนิคให้พวกเราได้เก็บ มาทำกับข้าวกินกันมื้อเย็นด้วยค่ะ
มื้อนี้เราได้กินทั้งกับข้าวอร่อยๆที่พวกเราช่วยกันทำ และยังได้กินผักสดๆปลอดสารพิษอีก
โอ้โห..มันช่างดีจริงๆค่ะ
อาหารที่พวกเราทำกินกัน เยอะแยะเลยค่ะ มีทั้งน้ำพริกอ่อง
ลาบคั่ว ไก่ทอด แคปหมู ไข่เจียว ฯลฯ กินคู่กับผักสดๆ อร่อยมากเลยค่ะ
น่ากินมั้ยคะ ..
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น