
เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัมนธรรม(วธ.) กล่าวหลังเป็นประธานในพิธีบวงสรวงเทพยดาและดวงวิญญาณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า พร้อมเปิดกิจกรรมไหว้พระ 9 วัด สืบสวัสดิ์ 9 รัชกาล โดยปล่อยขนวนรถที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 10 คัน มีผู้บริหาร วธ. ผู้แทนกองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการ องค์กรขนส่งมวลชนกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีฝังเสาหลักเมืองกรุงเทพฯ และทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเป็นเมืองหลวงของราชวงจักรี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ครบ 234 ปี ทั้งนี้พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงมีอุปการคุณต่อพสกนิกรชาวไทยและประเทศชาติอย่างเอนกอนันต์ รวมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจก่อให้เกิดความรักความสามัคคีของคนไทยทั้งชาติ ดังนั้นวธ.โดยกรมศาสนาจึงได้จัดพิธีบวงสรวงเทพยดาและดวงวิญญาณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า เพื่อเทิดพระเกียรติ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีและจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีและพระบรมวงศานุวงศ์
“ส่วนกิจกรรมไหว้พระ 9 วัด จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 เมษายน ที่วัด 9 แห่ง ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม วัดราชโอรสาราม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดสุทัศนเทพวรารามและวัดพระราม 9 กาญจนภิเษก ถือเป็นกิจกรรมสำคัญเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันศาสนาในประเทศไทย พร้อมสืบสานวิถีพุทธ ทั้งนี้ได้จัดรถโดยสารให้บริการรับ-ส่งฟรี ตั้งแต่เวลา 08.00 น.-16.30น.สอบถามโทร.0-2422-8812” นางฉวีรัตน์ กล่าว
พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ(ชวิน รังสิพราหมณกุล) หัวหน้าพราหมณ์ ในฐานะผู้ประกอบพิธีบวงสรวง กล่าวว่า ขณะทำพิธีบวงสรวงเทพยดาและดวงวิญญาณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ตนได้ตั้งอธิษฐานจิตระลึกถึงทุกพระองค์ เพื่อขอความเจริญมายังบ้านเมือง และขอให้ทุกคนรักษาความดีให้ยืนยาว อย่างไรก็ตาม วันที่ 21 เมษายน จะเป็นวันเฉลิมฉลองสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ และมีพิธีทำบุญตักบาตร สักการะศาลหลักเมือง และพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ จึงขอเชิญชวนประชาชนมาร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news/112009
วธ.บวงสรวงฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 234 ปี จัดรถเมล์ฟรีไหว้พระ 9 วัด
เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัมนธรรม(วธ.) กล่าวหลังเป็นประธานในพิธีบวงสรวงเทพยดาและดวงวิญญาณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า พร้อมเปิดกิจกรรมไหว้พระ 9 วัด สืบสวัสดิ์ 9 รัชกาล โดยปล่อยขนวนรถที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 10 คัน มีผู้บริหาร วธ. ผู้แทนกองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการ องค์กรขนส่งมวลชนกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีฝังเสาหลักเมืองกรุงเทพฯ และทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเป็นเมืองหลวงของราชวงจักรี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ครบ 234 ปี ทั้งนี้พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงมีอุปการคุณต่อพสกนิกรชาวไทยและประเทศชาติอย่างเอนกอนันต์ รวมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจก่อให้เกิดความรักความสามัคคีของคนไทยทั้งชาติ ดังนั้นวธ.โดยกรมศาสนาจึงได้จัดพิธีบวงสรวงเทพยดาและดวงวิญญาณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า เพื่อเทิดพระเกียรติ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีและจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีและพระบรมวงศานุวงศ์
“ส่วนกิจกรรมไหว้พระ 9 วัด จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 เมษายน ที่วัด 9 แห่ง ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม วัดราชโอรสาราม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดสุทัศนเทพวรารามและวัดพระราม 9 กาญจนภิเษก ถือเป็นกิจกรรมสำคัญเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันศาสนาในประเทศไทย พร้อมสืบสานวิถีพุทธ ทั้งนี้ได้จัดรถโดยสารให้บริการรับ-ส่งฟรี ตั้งแต่เวลา 08.00 น.-16.30น.สอบถามโทร.0-2422-8812” นางฉวีรัตน์ กล่าว
พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ(ชวิน รังสิพราหมณกุล) หัวหน้าพราหมณ์ ในฐานะผู้ประกอบพิธีบวงสรวง กล่าวว่า ขณะทำพิธีบวงสรวงเทพยดาและดวงวิญญาณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ตนได้ตั้งอธิษฐานจิตระลึกถึงทุกพระองค์ เพื่อขอความเจริญมายังบ้านเมือง และขอให้ทุกคนรักษาความดีให้ยืนยาว อย่างไรก็ตาม วันที่ 21 เมษายน จะเป็นวันเฉลิมฉลองสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ และมีพิธีทำบุญตักบาตร สักการะศาลหลักเมือง และพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ จึงขอเชิญชวนประชาชนมาร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news/112009