ออกตัวก่อนเลยว่า ผมเป็นคนหัววิทย์เต็มรูปแบบ ไม่เคยเชื่อเรื่องผี แถมลบหลู่มาทั้งชีวิต และขอยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่าเรื่องที่เล่ามันเป็นเรื่องจริงไม่ได้นั่งเพ้อละเมอลมแต่งขึ้นมา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่ง ทางภาคอีสานตอนใต้ ในจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำ ถนนเส้นนี้กำลังขยายเป็น ถนน 4 เลน สองข้างทางเลยถอนเสาไฟออกเกลี้ยง ถัดจาก รพ.ประจำอำเภอมา สองข้างทางแทบจะไม่มีไฟเลย มีเพียงไฟลิบๆจากโรงสีข้าวและบ้านคนที่อยู่ห่างออกไปเท่านั้น
เข้าเรื่อง.....2-3 วันมานี้ เป็นที่รู้กันว่า ภาคอีสานโดนถล่มด้วยพายุฤดูร้อน ช่วงเย็นถึงค่ำๆ จะมีลมพายุค่อนข้างแรงและฝนตกแทบทุกวัน วันเกิดเหตุ(20/04/2559) ผมจำเป็นต้องขับมอเตอร์ไซเพื่อไปงานศพยายในหมู่บ้านที่ห่างออกไปจากตัวอำเภอประมาณ 20 กิโลเมตรได้ ในเมื่อรับปากแล้วก็ต้องไป ตกเย็นฟ้าเริ่มมืด ลมแรงและเมฆฝนเริ่มก่อตัว
ผมตั้งใจจะไปให้ถึงงานก่อนฝนตก เหมือนจะทัน แต่ไม่ทัน อีกไม่ถึง 1 กิโล จะถึงบ้านงานแต่ฝนดันเทลงมาอย่างหนัก ผมตัดสินใจแวะหลบฝนที่ป้อมตำรวจร้างหน้าหมู่บ้าน...ลืมเรื่องนี้ไปนานมาก เรื่องราวของตำรวจที่ยิงตัวตายภายในป้อมแห่งนี้ จนกลายเป็นเรื่องเล่าประจำแถบนี้ว่าเฮี้ยนหนัก และไม่มีตำรวจคนไหนกล้ามาอยู่จนร้างในที่สุด ผมยืนหลบฝนอยู่ได้ประมาณ เกือบๆ 40 นาที เริ่มมืด บรรยากาศวังเวง อากาศเย็นจากไอฝนไล่ให้ผมต้องบึ่งรถเข้างาน ถึงแม้ฝนจะยังไม่หยุดดี ผมมาถึงงาน กราบศพยาย ฟังพระสวด และนั่งคุยกับญาติๆสักพัก ก็ต้องรีบกลับเพราะกลัวจะติดฝนใหญ่ ใช่...ผมไม่ได้เจอผีตำรวจประจำถิ่น แต่หลังจากกลับออกมาก็งานเข้าอย่างจัง
ผมกลับออกมาประมาณเกือบๆ 3 ทุ่ม ฝนก็เริ่มปรอยๆ ถนนแฉะ เศษกิ่งไม้ใบไม้หลังจากลมพายุเกลื่อนถนน กลิ่นฝน ไอเย็นและความมืดสงัดสองข้างทางมันช่างเร้าอารมณ์ให้กระเจิงดีเหลือเกิน แต่ไม่ใช่สำหรับผม ขับออกมาได้ประมาณ 2 กิโล ผมเปิดไฟสูงตลอดทาง เพราะกลัวหลุมและเนินบนถนน ฝนเริ่มตกแรงขึ้นจนเปียก ฟ้าร้องและแล่บเป็นระยะๆ ไฟจากรถสาดไปด้านหน้าห่างออกไปประมาณ 10 เมตร ผมแปลกใจปนงง ว่าร่างที่เห็นอยู่ข้างหน้า ออกมาเดินข้างถนนทำไมในเวลาและบรรยากาศแบบนี้ เป็นร่างชาย ไม่ใส่เสื้อ ไม่ใส่รองเท้า ใส่แค่กางเกงสั้น คล้ายโจงกระเบน สีแดงซีดๆค่อนไปส้ม รูปร่างผอม สูง 180 ขึ้นอย่างแน่นอน ผอมชนิดที่ว่าหนังหุ้มกระดูก ผิวกร้านคล้ำและมีจุดด่างดำทั่วตัวคล้ายคนเป็นโรคเอดส์ หัวโล้น ที่ติดตาคือ แขนขวาที่บิดหักจนผิดรูปอย่างรุนแรงคล้ายคนเท้าสะเอว มือและนิ้วที่ห้อยแกว่งไปตามแรงกระเพื่อมของการเดินอย่างช้าๆ ผมขับเข้าใกล้ในระยะ 3-4 เมตร ผมกำลังจะขับผ่านไป เลยหันไปมองแบบชัดๆ มันชัดระดับ HD ผมพยายามเพ่งมองใบหน้าของชายลึกลับ ด้านข้างเห็นโหนกแก้มนูนออกมาจากใบหน้าที่ผอมซูบอย่างชัดเจน แต่แปลกตรงที่ใบหน้าของเขามืดดำจนผมมองไม่เห็นอะไร เขายังคงเดินช้าๆ ไม่สนใจผม ผมขับเลยออกมาประมาณ 10 เมตร คิดในใจว่านี่ตูโดนจริงๆใช่มั้ย ความสงสัยที่มีมากกว่าความกลัว เพราะคิดว่าอาจจะเป็นคนสติไม่ดีมากกว่าผี ผมหยุดรถเปิดไฟเลี้ยว ข้ามถนนไปอีกเลน เพื่อที่จะวนกลับไปด้านหลังของชายผู้นั้น ระหว่างวนกลับผมมองถนนอย่างเดียวเพราะมันมืดมากกลัวจะมีรถสวนขึ้นมา ผมวนมาที่จุดเดิม.....ชายคนนั้นไม่อยู่แล้ว ณ เวลานั้น ผมเป็นรถคันเดียวที่อยู่บนถนน สองข้างทางมืดสงัด ฝนตกหนักขึ้น มีแค่เสียงฟ้าร้องกับเสียงแมลงกลางคืน ผมแปลกใจว่ากำลังเจอกับอะไร ระหว่างนั้น มีรถขับขึ้นมาทางด้านหลังสาดไฟสว่างวาบ ผมเลยรีบบึ่งออกมา และกลับถึงบ้านแบบ งง สุดขีด
กลับถึงบ้านผมเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง และเพื่อนทักขึ้นมาว่าพรุ่งนี้เป็นวันพระ ผมหยิบปฏิทินขึ้นมาดู ใช่ พรุ่งนี้เป็นวันพระ ที่สำคัญเป็นวันพระใหญ่ นั่นหมายความว่า วันเกิดเหตุคือ...วันโกน... พอจะได้ยินมาบ้างว่า วันโกน คือวันที่ สัมภเวสี ผีไร้ญาติ ผีเปรต อสูรกาย จะถูกปล่อยออกมารับผลบุญในวันพระใหญ่ ผมสรุปไม่ได้ว่าสิ่งที่เจอคืออะไร ไม่มีความกลัว มีเพียงความสงสัยปนงง ว่าที่เจอนั่นมันคืออะไร...
เมื่อคนไม่เชื่อเรื่องผี...เจอผีครั้งแรกแบบจังๆในวันโกน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่ง ทางภาคอีสานตอนใต้ ในจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำ ถนนเส้นนี้กำลังขยายเป็น ถนน 4 เลน สองข้างทางเลยถอนเสาไฟออกเกลี้ยง ถัดจาก รพ.ประจำอำเภอมา สองข้างทางแทบจะไม่มีไฟเลย มีเพียงไฟลิบๆจากโรงสีข้าวและบ้านคนที่อยู่ห่างออกไปเท่านั้น
เข้าเรื่อง.....2-3 วันมานี้ เป็นที่รู้กันว่า ภาคอีสานโดนถล่มด้วยพายุฤดูร้อน ช่วงเย็นถึงค่ำๆ จะมีลมพายุค่อนข้างแรงและฝนตกแทบทุกวัน วันเกิดเหตุ(20/04/2559) ผมจำเป็นต้องขับมอเตอร์ไซเพื่อไปงานศพยายในหมู่บ้านที่ห่างออกไปจากตัวอำเภอประมาณ 20 กิโลเมตรได้ ในเมื่อรับปากแล้วก็ต้องไป ตกเย็นฟ้าเริ่มมืด ลมแรงและเมฆฝนเริ่มก่อตัว
ผมตั้งใจจะไปให้ถึงงานก่อนฝนตก เหมือนจะทัน แต่ไม่ทัน อีกไม่ถึง 1 กิโล จะถึงบ้านงานแต่ฝนดันเทลงมาอย่างหนัก ผมตัดสินใจแวะหลบฝนที่ป้อมตำรวจร้างหน้าหมู่บ้าน...ลืมเรื่องนี้ไปนานมาก เรื่องราวของตำรวจที่ยิงตัวตายภายในป้อมแห่งนี้ จนกลายเป็นเรื่องเล่าประจำแถบนี้ว่าเฮี้ยนหนัก และไม่มีตำรวจคนไหนกล้ามาอยู่จนร้างในที่สุด ผมยืนหลบฝนอยู่ได้ประมาณ เกือบๆ 40 นาที เริ่มมืด บรรยากาศวังเวง อากาศเย็นจากไอฝนไล่ให้ผมต้องบึ่งรถเข้างาน ถึงแม้ฝนจะยังไม่หยุดดี ผมมาถึงงาน กราบศพยาย ฟังพระสวด และนั่งคุยกับญาติๆสักพัก ก็ต้องรีบกลับเพราะกลัวจะติดฝนใหญ่ ใช่...ผมไม่ได้เจอผีตำรวจประจำถิ่น แต่หลังจากกลับออกมาก็งานเข้าอย่างจัง
ผมกลับออกมาประมาณเกือบๆ 3 ทุ่ม ฝนก็เริ่มปรอยๆ ถนนแฉะ เศษกิ่งไม้ใบไม้หลังจากลมพายุเกลื่อนถนน กลิ่นฝน ไอเย็นและความมืดสงัดสองข้างทางมันช่างเร้าอารมณ์ให้กระเจิงดีเหลือเกิน แต่ไม่ใช่สำหรับผม ขับออกมาได้ประมาณ 2 กิโล ผมเปิดไฟสูงตลอดทาง เพราะกลัวหลุมและเนินบนถนน ฝนเริ่มตกแรงขึ้นจนเปียก ฟ้าร้องและแล่บเป็นระยะๆ ไฟจากรถสาดไปด้านหน้าห่างออกไปประมาณ 10 เมตร ผมแปลกใจปนงง ว่าร่างที่เห็นอยู่ข้างหน้า ออกมาเดินข้างถนนทำไมในเวลาและบรรยากาศแบบนี้ เป็นร่างชาย ไม่ใส่เสื้อ ไม่ใส่รองเท้า ใส่แค่กางเกงสั้น คล้ายโจงกระเบน สีแดงซีดๆค่อนไปส้ม รูปร่างผอม สูง 180 ขึ้นอย่างแน่นอน ผอมชนิดที่ว่าหนังหุ้มกระดูก ผิวกร้านคล้ำและมีจุดด่างดำทั่วตัวคล้ายคนเป็นโรคเอดส์ หัวโล้น ที่ติดตาคือ แขนขวาที่บิดหักจนผิดรูปอย่างรุนแรงคล้ายคนเท้าสะเอว มือและนิ้วที่ห้อยแกว่งไปตามแรงกระเพื่อมของการเดินอย่างช้าๆ ผมขับเข้าใกล้ในระยะ 3-4 เมตร ผมกำลังจะขับผ่านไป เลยหันไปมองแบบชัดๆ มันชัดระดับ HD ผมพยายามเพ่งมองใบหน้าของชายลึกลับ ด้านข้างเห็นโหนกแก้มนูนออกมาจากใบหน้าที่ผอมซูบอย่างชัดเจน แต่แปลกตรงที่ใบหน้าของเขามืดดำจนผมมองไม่เห็นอะไร เขายังคงเดินช้าๆ ไม่สนใจผม ผมขับเลยออกมาประมาณ 10 เมตร คิดในใจว่านี่ตูโดนจริงๆใช่มั้ย ความสงสัยที่มีมากกว่าความกลัว เพราะคิดว่าอาจจะเป็นคนสติไม่ดีมากกว่าผี ผมหยุดรถเปิดไฟเลี้ยว ข้ามถนนไปอีกเลน เพื่อที่จะวนกลับไปด้านหลังของชายผู้นั้น ระหว่างวนกลับผมมองถนนอย่างเดียวเพราะมันมืดมากกลัวจะมีรถสวนขึ้นมา ผมวนมาที่จุดเดิม.....ชายคนนั้นไม่อยู่แล้ว ณ เวลานั้น ผมเป็นรถคันเดียวที่อยู่บนถนน สองข้างทางมืดสงัด ฝนตกหนักขึ้น มีแค่เสียงฟ้าร้องกับเสียงแมลงกลางคืน ผมแปลกใจว่ากำลังเจอกับอะไร ระหว่างนั้น มีรถขับขึ้นมาทางด้านหลังสาดไฟสว่างวาบ ผมเลยรีบบึ่งออกมา และกลับถึงบ้านแบบ งง สุดขีด
กลับถึงบ้านผมเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง และเพื่อนทักขึ้นมาว่าพรุ่งนี้เป็นวันพระ ผมหยิบปฏิทินขึ้นมาดู ใช่ พรุ่งนี้เป็นวันพระ ที่สำคัญเป็นวันพระใหญ่ นั่นหมายความว่า วันเกิดเหตุคือ...วันโกน... พอจะได้ยินมาบ้างว่า วันโกน คือวันที่ สัมภเวสี ผีไร้ญาติ ผีเปรต อสูรกาย จะถูกปล่อยออกมารับผลบุญในวันพระใหญ่ ผมสรุปไม่ได้ว่าสิ่งที่เจอคืออะไร ไม่มีความกลัว มีเพียงความสงสัยปนงง ว่าที่เจอนั่นมันคืออะไร...