เรามีเรื่องราวฟินๆมาเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องตอนเราอยู่ม.6นะ ตอนนี้เราอยู่ปี1แล้วละ เป็นเรื่องของเรากับรุ่นน้องผู้ชายคนนึง ตอนนั้นเราอยู่ม.6 น้องเขาอยู่ม.5 ปกติเราไม่ค่อยยุ่งกับคนที่อายุน้อยกว่าหรอกนะ เพราะกลัวคนอื่นจะมาว่าเราไม่ดี เราไม่ชอบเลยกับคำว่า”กินเด็ก”อะไรอย่างงี้ เรื่องมีอยู่ว่าบ้านเราอยู่ห่างจากโรงเรียนหลายกิโล เราก็เลยต้องนั่งรถรับส่งนักเรียนแบบรถประจำ ตอนม.5เรานั่งรถอีกคันนึง แต่พอตอนม.6เราย้ายมานั่งรถอีกคันนึง เพราะเพื่อนเราอยู่รถคันนี้คันหมด ตอนมานั่งแรกๆไม่รู้สึกเกร็งหรือเขินอายแต่อย่างใดคือแบบคนที่อยู่ในรถรู้จังกันทั้งนั้น รู้จักยันเมียคนขับรถ555 เราเป็นคนพูดมาก ชอบเล่าเรื่องตลกพยายามทำให้คนในรถหัวเราะ เนื่องจากเราและเพื่อนๆเป็นพี่ม.6ซึ่งอายุมากที่สุดแล้วในรถ พวกรุ่นน้องก็อายๆไม่ค่อยกล้าคุยกัน เราและเพื่อนๆด้วยความที่เป็นเด็กกิจกรรมก็ไม่อย่างให้สีสันในการนั่งรถน่าเบื่อ ก็พยายามสร้างความสนุกสนาน เอนเทอร์เทน ให้กับน้องๆ โดยการเล่นเรื่องตลก หยอกล้อ เหน็บแนมกันสนุกสนานเพื่อความบันเทิง บางทีหยอกๆกัน แล้วทะเลาะกันเองบ้งก็ฮาดี ด้วยความที่รถเรามีแต่คนเฮฮา รถเราจะเสียงดังทุกครั้งที่ขับบนท้องถนน น้องๆที่อยู่บนรถจะหัวเราะกันสนุกสนาน แต่มีแค่น้องผู้ชายคนนึงที่นั่งท้ายๆรถ เราขอเรียกน้องเค้าว่าคิดตี้ก็แล้วกัน เป็นคนเดียวที่ไม่หัวเราะและไม่มีอารมณ์ร่วมเลย มองหน้าแล้วเดาใจไม่ถูกเลยว่าคิดอะไร เป็นอะไร เครียดอะไรรึป่าว ยิ้มก็ไม่เคยเห็น เราด้วยความเป็นเด็กกิจกรรมบ้าพลังถ้ามีใครคนใดคนนึงไม่สนุกกับสิ่งที่เราเอนเทอร์เทน เราจะรู้สึกอยากเอาชนะ ว่าเธอเป็นใครทำไม่ดูไม่สนุกเลย ด้วยความไม่ยอมแพ้ ก็พยายามทำทุกอย่าง เล่นมุกตลก ก็ไม่หัวเราะ หลังก็พยายามชวนน้องเขาคุยมากขึ้นจะได้รู้สึกสนิทกัน แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม เหมือนนั่งคุยกับกำแพงทุกวัน จนเราเริ่มแกล้งด้วยการหยอดมุขเสี่ยวๆใส่น้องเค้า เช่น เอาที่จำได้นะ น้องเค้าหันมามองเนื่องจากเราพูดเสียงดัง
เราก็เลยซัดกลับไปหนึ่งดอกว่า”มองทำไมคิดถึงเหรอ”เพื่อนและน้องในรถก็เฮกันลั่นเลย
และมีอยู่ครั้งหนึ่งมีเพื่อนผู้ชายคนนึงเดินมาทัก แล้วเราหันไปพูดกับน้องเขาว่า "อย่าหึงนะแค่เพื่อนพี่เฉยๆ เพราะใจพี่อะให้น้องเพียงคนเดียว" แล้วไอพวกเพื่อนๆและน้องๆในรถเฮกันอย่างสนุกสนาน
ด้วยความบ้าพลังเนื่องจากมีเสียงโห่ร้องทุกครั้งที่เล่นแบบนี้ เราก็เล่นมุขเสี่ยวแบบนี้ทุกวันเมื่อนั่งในรถกลับบ้านทุกตอนเย็น ตอนแรกๆน้องเค้าก็ทำหน้านิ่ง แต่พอนานๆก็เริ่มอมยิ้ม ณ จุดนี้คนที่หยอกอย่างเราก็มีแอบเขินกันเลยทีเดียว ตอนนั้นพอเห็นน้องเค้าอมยิ้มรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมาก เอาเก็บไปฝันนอนเขินอยู่คนเดียว คือเรามีความสุขทุกครั้งเลยที่ได้ไปโรงเรียน บางครั้งถ้าเจอกันแถวอาคารเรียนหรือวันไหนเรียนห้องใกล้ๆกัน เราจะทำเดินเข้าไปทำเดินว่าสวนกัน แล้วหยอดสักหน่อยก่อนเข้าห้องเรียน แค่นี้กำลังใจในการเรียนก็มาเต็มฟินกันเลยที่เดียว (คือยอมรับว่าตอนแรกๆเราก็แคหยอกเฉยๆเพื่อความสนุก แต่พอนานๆไปเริ่มรู้สึกว่าตกหลุมซะเองแล้ว แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องคิดยังไง อารมณ์แบบพี่นี่ฟินอยู่คนเดียว เราก็เล่นแบบนี้มาเรื่อยตลอด)
จนพอมาถึงฤดูการกีฬาสีประจำโรงเรียน ซึ่ง เป็นธรรมเนียนอยู่แล้วที่เด็กม.6ทุกคนและทุกห้องต้องรับผิดชอบ ทุกคนเฮฮาและสนุกสนานกันอย่างมาก เนื่องจากห้องเราเป็นเด็กสายศิลป์ บ้ากิจกรรมกันซะส่วนใหญ่ ทุกคนจึงมีความสุขเป็นอย่างมาก ส่วนเรานี่นอกจากที่ดีใจด้วยแล้ว เรายังมีความสุขเป็นอย่างมากและมากที่สุด วันนั้นยิ้มทั้งวันกันเลยทีเดียว เนื่องห้องของน้องเค้าอยู่สีเราค่า นั้นคือน้องเค้าอยู่สีเราแน่นอนค่า (ในใจกูจองๆๆๆ) พอมาถึงตอนแบ่งหน้าที่ทำงานเรานี่ยกมือก่อนเพื่อนเลย จะให้เราทำงานอะไรก็ได้แต่เราขอคุมบาสชาย ม.ปลาย นะ ด้วยความที่เพื่อนเราเป็นคนใจดี และน่าร้าก น่ารัก ก็เลยให้เราได้ไปคุมบาสชายอย่างสมใจอยาก เพราะที่เราไปคุมบาสชายนั้น เรารู้ว่าน้องเค้าชอบเล่นบาสมาก เพราะเวลากลับบ้านตอนเย็นเวลาต้องรอคนมาให้ครบน้องเค้าจะบอกถ้าคนครบแล้วให้ไปตามที่สนามบาสนะ ส่วนเราเวลาเรียนเสร็จก็จะทำเป็นชวนเพื่อนไปคุยกันข้างสนามบาสไรงี้ ฟินๆเบา เห็นท่าชู้ดบาสน้องเค้าแล้วใจละลาย บางทีเราก็ทำเป็นเดินไปหาเพื่อนเราที่เป็นผู้ชายที่ชอบเล่นบาสกับน้องเค้าบ่อยๆทำไปพูดค่อยกับเพื่อนเราแต่สายตาก็แอบมองน้องเค้าไรงี้ และก็คอยจิกพวกชะนีน้อยใหญ่ทั้งหลายที่มาโหยหวนอยู่แถวขอบๆสนามบาส(มีความหวงเบาๆ)
หลังจากที่เล่าไปข้างต้นนั้น เราก็เลยไปติดต่อน้อง ว่าสนในลงแข่งบาสมั้ย น้องเค้าบอกเราว่า”ไม่สน”(ตัดเยื่อใยกันแบบดื้อๆ)
เค้าบอกว่าเค้าแค่ชอบเล่นบาสเฉยๆ เค้าไม่ชอบแข่งขัน
ไอเราก็ทำทุกอย่างอ้อนวอนก็แล้ว ขู่ก็แล้ว บังคับก็แล้ว น้องเค้าก็ยังไม่เปลี่ยนใจ
เมื่อมันมาสุดทางตัน งานดราม่าต้องมา
เราบอกกับน้องเค้าไปว่า”ตอนนี้ขาดนักบาสแค่คนเดียวหาใครไม่ได้เลย พี่เห็นน้องมีฝีมือก็เลยอยากชวนร่วมทีม ถ้าคนไม่ครบก็แข่งไม่ได้ สงสารเพื่อนคนอื่นเค้า ถ้าพี่เป็นผู้ชายที่ลงเองแล้ว ถือว่าช่วยเพื่อนช่วยสีนะ”555เท่านั้นแหละตอบตกลงเลยครัช
(ไม่ใช่ขาดคนหรือหาคนไม่ได้แต่อย่างใด เนื่องจากปกติแล้วกีฬาบาสที่โรงเรียนเราผู้ชายมักจะแย่งกันเล่นกันถล่มทะลาย เราเลยตั้งใจมาติดต่อน้องเค้าคนแรกเลย ก็เลยอยากจะขอโทษคนอื่นๆด้วยนะคะที่ลำเอียง เนื่องจากความรักมันบังตา5555 พอดีว่าถิ่นนี้พี่คุม)
พอน้องเค้าตอบตกลงเท่านั้นแหละ เรานี่ดีใจสุดติ่งเลย จนใกล้ถึงวันแข่งใช่มั้ยเราก็ไปขอเบิกเสื้อนักบาสที่เพื่อนเราที่เป็นคนดูแลอุปกรณ์และงบประมาณต่างๆในสี พอไปถึงเพื่อนบอกว่าไม่มีเสื้อให้นักบาสซื้อให้นักบอลกับนักวอลเล่ย์ไปหมดแล้ว งบเลยเหลือแค่นิดเดียว ไม่สามารถเบิกมาซื้อเสื้อได้ เลยให้ไปสลับกันใส่กับนักกีฬาประเภทอื่นๆ เราโกรธมากไม่ยอม เรารู้สึกว่าเค้าลำเอียงเพราะเค้าคอยแต่เทคแคร์เฉพาะกีฬาที่เด่นๆ
เราบอกเค้าว่าได้งั้นเราจะไปหางบมาซื้อเสื้อเอง แต่ถ้าเราได้งบมาเราจะไม่เอาเข้าสีนะ เราจะเอาไปซื้อเสื้อเอง เงินเหลือเท่าไรเดี๋ยวเราเอามาให้สี เราชวนเพื่อนเราไปช่วยกันหางบจากผู้ใหญ่ที่ใจดี เล่นดนตรีเปิดหมวกกัน งบที่ได้มาก็หลายพันอยู่ เราเลยชวน เพื่อนที่มันลงแข่งบาสและคอยช่วยเราคุมนักบาสไปซื้อ ด้วยความโกรธ เราซื้อมา 13 ตัว ให้ตัวจริงคนละสองตัว ตัวสำรองคนละตัว เงินที่เหลือไม่กี่ร้อยบาทก็ให้สีไป พอถึงวันแข่งวันแรก เรารู้สึกเหมือนทุกอย่างพร้อม ทุกคนมีกำลังใจในการแข่งขัน
พอเกมเริ่มไปสักพักนึงเราก็เดินไปฝ่ายสวัสดิการของสีเพื่อไปเบิกผ้าเย็น น้ำดื่ม และสปอร์นเซอร์ พอหยิบสปอนเซอร์เท่านั้นแหละ เสียงของประธานสีคนงามดังมาแต่ไกลเลยค่า สปอนเซอร์หยิบไปทำไมเยอะแยะ สองคนต่อหนึ่งขวดพอ เราได้ยินดังนั้นตกใจกันเลยที่เดียว ร้อง”ห๋า”แถบม้ยทัน เราก็โต้กลับไปว่าจะบ้ารึป่าว ให้นักกีฬากินไปได้ยังไงขวดนึงสองคน ยังไงฉันไม่ยอมนะ
นางบอกว่าที่แข่งกันแข่งกันหนุกๆหรอกเอาไรมาก ของกินก็เหมือนกันจริง

มากเปลืองปล่าวๆ
เราก็โต้กลับไปว่าอยากให้สีเราชนะมั้ยละ
นางตอบกลับมาว่า”อยากสิ” เราก็บอกนางว่า”ถ้าอยากให้ชนะ เราก็ต้องทุ่มเทหน่อย น้องเค้าจะได้มีกำลังใจและทุ่มเทกับการแข่งขัน สีเราจะได้ชนะ”
นางก็เลยตอบกลับมาอย่างน่ารักว่า”เอาไปเลย แต่ต้องชนะนะเว้ย” เรานี่รีบแบกสปอนเซอร์ไปประทานนักบาสกันเลยที่เดียว
ส่วนพอถึงช่วงพักเกม เรานี่คอยบริการน้องเค้าอย่างดี เช็ดเหงื่อให้ เปิดน้ำให้ พัดลมให้(ส่วนคนอื่นโตแล้ว ช่างแม่ม อิอิ)
พอจบเกมการแข่งขัน สีเราเป็นฝ่ายชนะ ประธานสีไว้วางใจพวกเรากันเลยทีเดียว ทุ่มสุดตัวไม่ว่าอยากได้อะไร
อีกวันหนึ่งเป็นวันที่โครตพีคมากเป็นวันแข่งอีกวันกับสีที่เค้าชนะเมื่อวาน แล้วต้องมาแข่งกับเราตามผังกีฬาพอใกล้ถึงเวลา เรานี่เตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างพร้อม โทรตามนักบาสทุกคนเพื่อวอร์มร่างกายกันก่อนสนาม และก็จะได้ไม่ต้องมาช้า เดี๋ยวโดนกรรมการด่า ส่วนน้องเค้าเราไม่โทรตามหรอก ไม่ใช่น้องเค้ามาก่อนเวลาหรอกนะ เราไปรอรับหน้าห้องน่ะ อิอิ
วันนั้นเป็นวันแข่งที่เรากังวลมาก เพราะสีเราต้องแข่งกับอีกทีมนึงเก่งมากเพราะมีนักบาสโรงเรียนเป็นคนคุมและลงเล่นเอง(คือมันอยากเด่นสงสัยเลยคุมตั้งสองงาน) แต่เค้าก็เป็นเพื่อนที่เล่นบาสกับเพื่อนเรา แต่เรากับเค้าไม่ค่อยถูกกัน เนื่องจากว่ามันหน้าหม้อแล้วเราเป็นคนปากแรง เค้ามาจีบเพื่อนเราแต่พอเพื่อนเราไม่อยู่มาหม้อใส่เรา เราไม่ชอบคนแบบนี้อยู่แล้ว เราก็เลยชอบพูดตรงๆแรงๆกับเค้า เค้าก็เลยไม่ชอบเรา แล้วเค้าก็มาด่าเราว่าเราไปใส่ร้ายเค้าว่าเค้าเป็นคนไม่ดี ทำให้เพื่อนเราไม่ชอบเค้า เท่านั้นละคะยืนเงียบทำไม่ละคะ ด่ากลับไปสิ ทีนี้ก็เลยเวลาเจอหน้ากัน มันชอบหาเรื่องทุกที พูดกระแทกเราบ่อยๆ อย่าคิดว่าเราจะยอมไม่มีทางนะคะ ซัดมาเท่าไร เราซัดกลับไปมากเท่านั้น จนเพื่อนเราบอกว่ามันนี้โครเก่งแต่กับผู้หญิง เนื่องจากมันค่อยมีเพื่อนเท่าไรนัก เพราะมันเป็นคนขี้โม้ ขนาดผู้หญิงยังรำคาญเลย
นอกเรื่องไปเยอะแล้วเรากลับมาเข้าเรื่องกันต่อคะ จากที่เล่าให้ฟังไปแล้วคงไม่ต้องถามนะคะว่าจะเกิดอะไร มันแน่นอนอยู่แล้วคะ
ศึกครั้งนี้ระเบิดมีลงแน่นอนคะ ก่อนจะแข่งขันเพื่อนเราขอร้องอย่าไปทะเลาะกับคนนั้น เราก็บอกไปว่าจะเฉยๆแล้วกัน น้องเค้าก็เดินมาหาเราแล้วมาบอกเราว่า”เรื่องแข่งขันก็เรื่องนึง อย่าเอามาปนกับเรื่องส่วนตัวโตแล้วคิดหน่อย” หน้าตายด้านมาก รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าก่อนจะจากไป
ยังมีหน้ามาฝากของอีก เอาสร้อยมาฝากเราไว้แล้วบอกว่า”ฝากหน่อยเล่นลำบาก” เราบอกไปว่า”มันน่าฟาดให้หน้าแหกเลย”(เชอะ งอลแรงๆๆๆ)
แต่คือจะบอกว่านะทุกวันนี้สร้อยเส้นนั้นก็ยังอยู่ที่เรานะจ้ะ นางบอกว่าฝากไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยเอากลับ แล้วบอกว่าให้เราใส่ไว้แทนเดี๋ยวหาย
กี่ครั้งกี่ครั้งก็พูดเหมือนเดิมจะชาตินึงแล้วไม่ต้องเอากลับแล้วมั้ง
พอเกมเริ่มแข่งด้วยควาเมามันวันนั้นคนเยอะมากเต็มขอบสนามเลยคะ เหมือนเป็นคู่เอกเลยทีเดียวเพราะรวมตัวท็อปทั้งนั้น คือนักกีฬาทั้งสองทีมนอกจากเล่นดีแล้วยังหน้าดีกันด้วยจ้า แต่รู้สึกหมั่นไส้เหล่าฝูงชะนีข้างสนามทั้งหลายมาก รำคาญเสียงกรี้ดตะโกนอยู่ได้"ว่าของชั้นๆ ชั้นชอบเค้า"

ขอบอกนะคะเบอร์8สีเขียวว่าที่แฟนชั้นคะ จอบอ)
ก็ว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีที่ไหนได้ อีกฝ่ายเล่นแรง กระแทกแรง เล่นเจ็บทำหน้ายั่วโมโห คนอื่นไม่เท่าไหร่หรอก ไอคนคุมคู่เวรคู่กรรมเก่าเรานี่สิ มันตะโกนเสียงดัง ว่ากระแทกนักกีฬาสีเรา เราหันไปมองมัน มันมองหน้าหาเรื่องเราให้เราโมโห นึกแล้วเกลียดไม่หาย อย่าถามว่าทำไมกรรมกรไม่ด่า คือกรรมการสงสัยจะทะเลาะกับเมียมาเช่นกันหน้าบอกบุญไม่ค่อยรับก็เลยไม่สนใจ เราก็ตะโกนกลับว่า”อย่าเล่นแรงๆดิว่ะ” เท่านั้นแหละมันเดินมาข้างเราแล้วบอกเราว่า”อย่า

” เรานี่โครตโกรธเลย แต่ก็ต้องใจเย็นๆเดี๋ยวทุกอย่างพังหมด
พอพักครึ่งแรก มันเดินมาหาเราแล้วเอาเสื้อนักเรียนมาโยนใส่หน้าเราแล้วบอกว่า”ฝากหน่อย จะลงแข่ง เป็นเบ้ไม่ใช่เหรอ” เราโมโหมากกำลังจะด่ากลับ แต่น้องสุดที่เลิฟของเรา เค้าจับแขนเราแล้วบอกว่า”ช่วยเช็ดเหงื่อให้หน่อย มือไม่ว่างจะกินน้ำ” จากรู้สึกโกรธ ยิ้มร่าขึ้นทันทีค่า
พอเริ่มเกมครึ่งหลังฝ่ายโน้นเล่นแรงเรื่อยๆ โดนเฉพาะไอคนคู่กรรมเก่าของโครต

เลย มันเอาข้อศอกกระแทกกับน้องอีกคนจนต้องขอเวลานอก เปลี่ยนคนใหม่ ตอนนั้นข้างๆคนแน่นมาก เพื่อนเรามากันเต็มเลย ทั้งพวกนักบอล เชียร์รีดเดอร์ มันส์มาก
จากพี่ม.6รักน้องม.5 จนมาถึงพี่(ว่าที่)ปี2 ก็ยังรักน้อง(ว่าที่)ปี1เหมือนเดิมคนเดิม(อยากรู้ก็ว่าเขาคิดยังไงกันแน่)
เราก็เลยซัดกลับไปหนึ่งดอกว่า”มองทำไมคิดถึงเหรอ”เพื่อนและน้องในรถก็เฮกันลั่นเลย
และมีอยู่ครั้งหนึ่งมีเพื่อนผู้ชายคนนึงเดินมาทัก แล้วเราหันไปพูดกับน้องเขาว่า "อย่าหึงนะแค่เพื่อนพี่เฉยๆ เพราะใจพี่อะให้น้องเพียงคนเดียว" แล้วไอพวกเพื่อนๆและน้องๆในรถเฮกันอย่างสนุกสนาน
ด้วยความบ้าพลังเนื่องจากมีเสียงโห่ร้องทุกครั้งที่เล่นแบบนี้ เราก็เล่นมุขเสี่ยวแบบนี้ทุกวันเมื่อนั่งในรถกลับบ้านทุกตอนเย็น ตอนแรกๆน้องเค้าก็ทำหน้านิ่ง แต่พอนานๆก็เริ่มอมยิ้ม ณ จุดนี้คนที่หยอกอย่างเราก็มีแอบเขินกันเลยทีเดียว ตอนนั้นพอเห็นน้องเค้าอมยิ้มรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมาก เอาเก็บไปฝันนอนเขินอยู่คนเดียว คือเรามีความสุขทุกครั้งเลยที่ได้ไปโรงเรียน บางครั้งถ้าเจอกันแถวอาคารเรียนหรือวันไหนเรียนห้องใกล้ๆกัน เราจะทำเดินเข้าไปทำเดินว่าสวนกัน แล้วหยอดสักหน่อยก่อนเข้าห้องเรียน แค่นี้กำลังใจในการเรียนก็มาเต็มฟินกันเลยที่เดียว (คือยอมรับว่าตอนแรกๆเราก็แคหยอกเฉยๆเพื่อความสนุก แต่พอนานๆไปเริ่มรู้สึกว่าตกหลุมซะเองแล้ว แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องคิดยังไง อารมณ์แบบพี่นี่ฟินอยู่คนเดียว เราก็เล่นแบบนี้มาเรื่อยตลอด)
จนพอมาถึงฤดูการกีฬาสีประจำโรงเรียน ซึ่ง เป็นธรรมเนียนอยู่แล้วที่เด็กม.6ทุกคนและทุกห้องต้องรับผิดชอบ ทุกคนเฮฮาและสนุกสนานกันอย่างมาก เนื่องจากห้องเราเป็นเด็กสายศิลป์ บ้ากิจกรรมกันซะส่วนใหญ่ ทุกคนจึงมีความสุขเป็นอย่างมาก ส่วนเรานี่นอกจากที่ดีใจด้วยแล้ว เรายังมีความสุขเป็นอย่างมากและมากที่สุด วันนั้นยิ้มทั้งวันกันเลยทีเดียว เนื่องห้องของน้องเค้าอยู่สีเราค่า นั้นคือน้องเค้าอยู่สีเราแน่นอนค่า (ในใจกูจองๆๆๆ) พอมาถึงตอนแบ่งหน้าที่ทำงานเรานี่ยกมือก่อนเพื่อนเลย จะให้เราทำงานอะไรก็ได้แต่เราขอคุมบาสชาย ม.ปลาย นะ ด้วยความที่เพื่อนเราเป็นคนใจดี และน่าร้าก น่ารัก ก็เลยให้เราได้ไปคุมบาสชายอย่างสมใจอยาก เพราะที่เราไปคุมบาสชายนั้น เรารู้ว่าน้องเค้าชอบเล่นบาสมาก เพราะเวลากลับบ้านตอนเย็นเวลาต้องรอคนมาให้ครบน้องเค้าจะบอกถ้าคนครบแล้วให้ไปตามที่สนามบาสนะ ส่วนเราเวลาเรียนเสร็จก็จะทำเป็นชวนเพื่อนไปคุยกันข้างสนามบาสไรงี้ ฟินๆเบา เห็นท่าชู้ดบาสน้องเค้าแล้วใจละลาย บางทีเราก็ทำเป็นเดินไปหาเพื่อนเราที่เป็นผู้ชายที่ชอบเล่นบาสกับน้องเค้าบ่อยๆทำไปพูดค่อยกับเพื่อนเราแต่สายตาก็แอบมองน้องเค้าไรงี้ และก็คอยจิกพวกชะนีน้อยใหญ่ทั้งหลายที่มาโหยหวนอยู่แถวขอบๆสนามบาส(มีความหวงเบาๆ)
หลังจากที่เล่าไปข้างต้นนั้น เราก็เลยไปติดต่อน้อง ว่าสนในลงแข่งบาสมั้ย น้องเค้าบอกเราว่า”ไม่สน”(ตัดเยื่อใยกันแบบดื้อๆ)
เค้าบอกว่าเค้าแค่ชอบเล่นบาสเฉยๆ เค้าไม่ชอบแข่งขัน
ไอเราก็ทำทุกอย่างอ้อนวอนก็แล้ว ขู่ก็แล้ว บังคับก็แล้ว น้องเค้าก็ยังไม่เปลี่ยนใจ
เมื่อมันมาสุดทางตัน งานดราม่าต้องมา
เราบอกกับน้องเค้าไปว่า”ตอนนี้ขาดนักบาสแค่คนเดียวหาใครไม่ได้เลย พี่เห็นน้องมีฝีมือก็เลยอยากชวนร่วมทีม ถ้าคนไม่ครบก็แข่งไม่ได้ สงสารเพื่อนคนอื่นเค้า ถ้าพี่เป็นผู้ชายที่ลงเองแล้ว ถือว่าช่วยเพื่อนช่วยสีนะ”555เท่านั้นแหละตอบตกลงเลยครัช
(ไม่ใช่ขาดคนหรือหาคนไม่ได้แต่อย่างใด เนื่องจากปกติแล้วกีฬาบาสที่โรงเรียนเราผู้ชายมักจะแย่งกันเล่นกันถล่มทะลาย เราเลยตั้งใจมาติดต่อน้องเค้าคนแรกเลย ก็เลยอยากจะขอโทษคนอื่นๆด้วยนะคะที่ลำเอียง เนื่องจากความรักมันบังตา5555 พอดีว่าถิ่นนี้พี่คุม)
พอน้องเค้าตอบตกลงเท่านั้นแหละ เรานี่ดีใจสุดติ่งเลย จนใกล้ถึงวันแข่งใช่มั้ยเราก็ไปขอเบิกเสื้อนักบาสที่เพื่อนเราที่เป็นคนดูแลอุปกรณ์และงบประมาณต่างๆในสี พอไปถึงเพื่อนบอกว่าไม่มีเสื้อให้นักบาสซื้อให้นักบอลกับนักวอลเล่ย์ไปหมดแล้ว งบเลยเหลือแค่นิดเดียว ไม่สามารถเบิกมาซื้อเสื้อได้ เลยให้ไปสลับกันใส่กับนักกีฬาประเภทอื่นๆ เราโกรธมากไม่ยอม เรารู้สึกว่าเค้าลำเอียงเพราะเค้าคอยแต่เทคแคร์เฉพาะกีฬาที่เด่นๆ
เราบอกเค้าว่าได้งั้นเราจะไปหางบมาซื้อเสื้อเอง แต่ถ้าเราได้งบมาเราจะไม่เอาเข้าสีนะ เราจะเอาไปซื้อเสื้อเอง เงินเหลือเท่าไรเดี๋ยวเราเอามาให้สี เราชวนเพื่อนเราไปช่วยกันหางบจากผู้ใหญ่ที่ใจดี เล่นดนตรีเปิดหมวกกัน งบที่ได้มาก็หลายพันอยู่ เราเลยชวน เพื่อนที่มันลงแข่งบาสและคอยช่วยเราคุมนักบาสไปซื้อ ด้วยความโกรธ เราซื้อมา 13 ตัว ให้ตัวจริงคนละสองตัว ตัวสำรองคนละตัว เงินที่เหลือไม่กี่ร้อยบาทก็ให้สีไป พอถึงวันแข่งวันแรก เรารู้สึกเหมือนทุกอย่างพร้อม ทุกคนมีกำลังใจในการแข่งขัน
พอเกมเริ่มไปสักพักนึงเราก็เดินไปฝ่ายสวัสดิการของสีเพื่อไปเบิกผ้าเย็น น้ำดื่ม และสปอร์นเซอร์ พอหยิบสปอนเซอร์เท่านั้นแหละ เสียงของประธานสีคนงามดังมาแต่ไกลเลยค่า สปอนเซอร์หยิบไปทำไมเยอะแยะ สองคนต่อหนึ่งขวดพอ เราได้ยินดังนั้นตกใจกันเลยที่เดียว ร้อง”ห๋า”แถบม้ยทัน เราก็โต้กลับไปว่าจะบ้ารึป่าว ให้นักกีฬากินไปได้ยังไงขวดนึงสองคน ยังไงฉันไม่ยอมนะ
นางบอกว่าที่แข่งกันแข่งกันหนุกๆหรอกเอาไรมาก ของกินก็เหมือนกันจริง
เราก็โต้กลับไปว่าอยากให้สีเราชนะมั้ยละ
นางตอบกลับมาว่า”อยากสิ” เราก็บอกนางว่า”ถ้าอยากให้ชนะ เราก็ต้องทุ่มเทหน่อย น้องเค้าจะได้มีกำลังใจและทุ่มเทกับการแข่งขัน สีเราจะได้ชนะ”
นางก็เลยตอบกลับมาอย่างน่ารักว่า”เอาไปเลย แต่ต้องชนะนะเว้ย” เรานี่รีบแบกสปอนเซอร์ไปประทานนักบาสกันเลยที่เดียว
ส่วนพอถึงช่วงพักเกม เรานี่คอยบริการน้องเค้าอย่างดี เช็ดเหงื่อให้ เปิดน้ำให้ พัดลมให้(ส่วนคนอื่นโตแล้ว ช่างแม่ม อิอิ)
พอจบเกมการแข่งขัน สีเราเป็นฝ่ายชนะ ประธานสีไว้วางใจพวกเรากันเลยทีเดียว ทุ่มสุดตัวไม่ว่าอยากได้อะไร
อีกวันหนึ่งเป็นวันที่โครตพีคมากเป็นวันแข่งอีกวันกับสีที่เค้าชนะเมื่อวาน แล้วต้องมาแข่งกับเราตามผังกีฬาพอใกล้ถึงเวลา เรานี่เตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างพร้อม โทรตามนักบาสทุกคนเพื่อวอร์มร่างกายกันก่อนสนาม และก็จะได้ไม่ต้องมาช้า เดี๋ยวโดนกรรมการด่า ส่วนน้องเค้าเราไม่โทรตามหรอก ไม่ใช่น้องเค้ามาก่อนเวลาหรอกนะ เราไปรอรับหน้าห้องน่ะ อิอิ
วันนั้นเป็นวันแข่งที่เรากังวลมาก เพราะสีเราต้องแข่งกับอีกทีมนึงเก่งมากเพราะมีนักบาสโรงเรียนเป็นคนคุมและลงเล่นเอง(คือมันอยากเด่นสงสัยเลยคุมตั้งสองงาน) แต่เค้าก็เป็นเพื่อนที่เล่นบาสกับเพื่อนเรา แต่เรากับเค้าไม่ค่อยถูกกัน เนื่องจากว่ามันหน้าหม้อแล้วเราเป็นคนปากแรง เค้ามาจีบเพื่อนเราแต่พอเพื่อนเราไม่อยู่มาหม้อใส่เรา เราไม่ชอบคนแบบนี้อยู่แล้ว เราก็เลยชอบพูดตรงๆแรงๆกับเค้า เค้าก็เลยไม่ชอบเรา แล้วเค้าก็มาด่าเราว่าเราไปใส่ร้ายเค้าว่าเค้าเป็นคนไม่ดี ทำให้เพื่อนเราไม่ชอบเค้า เท่านั้นละคะยืนเงียบทำไม่ละคะ ด่ากลับไปสิ ทีนี้ก็เลยเวลาเจอหน้ากัน มันชอบหาเรื่องทุกที พูดกระแทกเราบ่อยๆ อย่าคิดว่าเราจะยอมไม่มีทางนะคะ ซัดมาเท่าไร เราซัดกลับไปมากเท่านั้น จนเพื่อนเราบอกว่ามันนี้โครเก่งแต่กับผู้หญิง เนื่องจากมันค่อยมีเพื่อนเท่าไรนัก เพราะมันเป็นคนขี้โม้ ขนาดผู้หญิงยังรำคาญเลย
นอกเรื่องไปเยอะแล้วเรากลับมาเข้าเรื่องกันต่อคะ จากที่เล่าให้ฟังไปแล้วคงไม่ต้องถามนะคะว่าจะเกิดอะไร มันแน่นอนอยู่แล้วคะ
ศึกครั้งนี้ระเบิดมีลงแน่นอนคะ ก่อนจะแข่งขันเพื่อนเราขอร้องอย่าไปทะเลาะกับคนนั้น เราก็บอกไปว่าจะเฉยๆแล้วกัน น้องเค้าก็เดินมาหาเราแล้วมาบอกเราว่า”เรื่องแข่งขันก็เรื่องนึง อย่าเอามาปนกับเรื่องส่วนตัวโตแล้วคิดหน่อย” หน้าตายด้านมาก รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าก่อนจะจากไป
ยังมีหน้ามาฝากของอีก เอาสร้อยมาฝากเราไว้แล้วบอกว่า”ฝากหน่อยเล่นลำบาก” เราบอกไปว่า”มันน่าฟาดให้หน้าแหกเลย”(เชอะ งอลแรงๆๆๆ)
แต่คือจะบอกว่านะทุกวันนี้สร้อยเส้นนั้นก็ยังอยู่ที่เรานะจ้ะ นางบอกว่าฝากไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยเอากลับ แล้วบอกว่าให้เราใส่ไว้แทนเดี๋ยวหาย
กี่ครั้งกี่ครั้งก็พูดเหมือนเดิมจะชาตินึงแล้วไม่ต้องเอากลับแล้วมั้ง
พอเกมเริ่มแข่งด้วยควาเมามันวันนั้นคนเยอะมากเต็มขอบสนามเลยคะ เหมือนเป็นคู่เอกเลยทีเดียวเพราะรวมตัวท็อปทั้งนั้น คือนักกีฬาทั้งสองทีมนอกจากเล่นดีแล้วยังหน้าดีกันด้วยจ้า แต่รู้สึกหมั่นไส้เหล่าฝูงชะนีข้างสนามทั้งหลายมาก รำคาญเสียงกรี้ดตะโกนอยู่ได้"ว่าของชั้นๆ ชั้นชอบเค้า"
ก็ว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีที่ไหนได้ อีกฝ่ายเล่นแรง กระแทกแรง เล่นเจ็บทำหน้ายั่วโมโห คนอื่นไม่เท่าไหร่หรอก ไอคนคุมคู่เวรคู่กรรมเก่าเรานี่สิ มันตะโกนเสียงดัง ว่ากระแทกนักกีฬาสีเรา เราหันไปมองมัน มันมองหน้าหาเรื่องเราให้เราโมโห นึกแล้วเกลียดไม่หาย อย่าถามว่าทำไมกรรมกรไม่ด่า คือกรรมการสงสัยจะทะเลาะกับเมียมาเช่นกันหน้าบอกบุญไม่ค่อยรับก็เลยไม่สนใจ เราก็ตะโกนกลับว่า”อย่าเล่นแรงๆดิว่ะ” เท่านั้นแหละมันเดินมาข้างเราแล้วบอกเราว่า”อย่า
พอพักครึ่งแรก มันเดินมาหาเราแล้วเอาเสื้อนักเรียนมาโยนใส่หน้าเราแล้วบอกว่า”ฝากหน่อย จะลงแข่ง เป็นเบ้ไม่ใช่เหรอ” เราโมโหมากกำลังจะด่ากลับ แต่น้องสุดที่เลิฟของเรา เค้าจับแขนเราแล้วบอกว่า”ช่วยเช็ดเหงื่อให้หน่อย มือไม่ว่างจะกินน้ำ” จากรู้สึกโกรธ ยิ้มร่าขึ้นทันทีค่า
พอเริ่มเกมครึ่งหลังฝ่ายโน้นเล่นแรงเรื่อยๆ โดนเฉพาะไอคนคู่กรรมเก่าของโครต