{โคตรรีวิว} ปากกา ปากกาสี ปากกาหมึกเจล ไฮไลท์ ทั้งหมดที่มีในครอบครอง

เราเป็นคนนึงที่ชอบซื้อปากกามาตั้งแต่สมัยเรียน ถ้าใครรุ่นเดียวกับเราคงจำได้ ทั้ง Sakura Ball Sign หรือ Pentel Milky ที่ฮิตๆเรามีหมด สมัยโน้นด้ามละไม่ถึง 25 บาทเอง ก็ยังแอบคิดว่าแพงแล้วเลย พอเข้ามหาลัยเราก็เลิกติดตามวงการพวกนี้เพราะมัวไปสนใจอย่างอื่นแทน ใช้แต่ดินสอกดตอนเล็คเชอร์เท่านั้น เห็นเด็กๆน้องๆหลายคนใช้ ZIG แบบ 2 หัว ใช้ My Color อะไรเราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องละ ตอนเรียนโทที่ต่างประเทศก็ได้กลับมาใช้ปากกาทำนองนี้อีกพอสมควร แต่ก็จะเป็นแบรนด์ที่ฝรั่งฮิตใช้กันซะมากกว่า บางรุ่นมีขายแต่ทางโน้น บางรุ่นก็มีนำเข้ามาที่ไทยด้วย เอาเป็นว่าจะรีวิวมันหมดเลย ไม่ว่าจะปากกาหมึกแห้ง ปากกาหมึกน้ำมัน ปากกาเจล ปากกาหมึกซึม ปากกาสีต่างๆ และไฮไลท์ เอามันทุกอย่างที่มีในครอบครองตอนนี้

ก่อนจะเข้าสู่ตัวรีวิว เกริ่นถึงการใช้งานปากกาของเราก่อน เราเป็นคนจับปากกาแน่นแต่เราเขียนไม่กดหนัก ติดกดหนักแค่ตอนลองปากกา เวลาเขียนจริงๆกลับไม่กด ฮ่าๆ แปลกดีมั้ย ดังนั้นกับปากกาที่ไว้ใช้เขียนเรื่องรูปทรงหรือการจับถนัดอะไรจะไม่มีผลเท่าไหร่ หลักๆที่ให้คะแนนคือความคมชัดของน้ำหมึก ไม่มีอาการติดขัดเวลาเขียน หมึกไม่เยิ้ม และราคาสมเหตุสมผล ส่วนไฮไลท์จะเน้นความจับถนัดเป็นหลักเพราะรู้สึกประสบปัญหาในส่วนนี้มากที่สุด นอกนั้นก็จะดูความเยิ้มของหมึกและราคาเป็นส่วนประกอบรองลงไป

Ball Point Pen



Linc Offix 0.5 mm - 8฿
ปากกาแบรนด์อินเดียที่เขียนลื่นเขียนมันมาก รู้จักครั้งแรกก็จากออฟฟิศแฟน มีใช้กันแบบวางเกลื่อนหลายรุ่น เข้าไปก็เจอแต่ปากกาแบรนด์นี้ จากที่สมัยก่อนไม่ใช่ปากกาที่เส้นใหญ่กว่า 0.38 แต่ Linc Offix ทำเราเปลี่ยนใจ เพราะเขียนได้ลื่นมากๆ ได้เส้นสีน้ำเงินเข้มที่คมชัด ที่สำคัญราคาถูกมากถ้าซื้อจากอินเดีย ตกแท่งละ 3 บาทไทย ยิ่งถ้าหาซื้อแบบยกแพ็คได้ก็ยิ่งคุ้มค่า

Linc Twin 0.5 mm - 16฿
เป็นปากกาที่ทำออกมาสองฝั่งแต่อีกฝั่งเป็นดินสอเปลี่ยนไส้ ซึ่งมีไส้มาให้แค่ไส้เดียว รู้สึกหาประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้ เขียนไปแค่พอเต็มหน้ากระดาษ A5 ไส้ก็ทู่แล้ว แต่ฝั่งปากกานั้นดีเอาการ เส้นคมกว่า Offix ด้วยซ้ำ ได้ฟีลเหมือนเขียนหมึกเจลดี อาจจะไม่ลื่นเท่าตัวบนแต่ก็ไม่รู้สึกถึงความฝืดมือเหมือนกัน อาจจะมีหมึกแห้งกรังแล้วแตกร่วนลงมาบ้างหลังจากไม่ได้ใช้นานๆ แต่พอเขียนไปสัก 2-3 ตัวก็จะโอเค ราคาแค่นี้ถือว่าไม่แพงถ้าคิดว่าซื้อมาเพื่อหวังใช้ปากกาเพียงอย่างเดียว

g'soft FIZZ 101 0.38 mm - 10฿
แบรนด์นี้ได้รับความนิยมมากเพราะเขียนดีและมีราคาถูก แต่บอกตรงๆเราไม่ค่อยชอบหน้าตามันและฝาแบบนี้เท่าไหร่ เรื่องการเขียนดีจริงอย่างที่เขาว่า เขียนลื่น ไม่สะดุด แต่สีดำหมึกจะเข้มกว่าสีน้ำเงิน รู้สึกลื่นกว่านิดหน่อย สีน้ำเงินจะยังแอบมีช่องว่างสีขาวอยู่บ้าง แต่ไม่ได้มีเยอะจนน่ารำคาญ แค่มีเยอะกว่าเมื่อเทียบกับสีดำ หัว 0.38 แต่เหมือนยังไม่เล็กเท่าที่ควร ชอบสีดำมากกว่า ถ้าจะซื้อใช้ต่อคงเอาสีดำอย่างเดียว


Paper Mate InkJoy 100RT C 0.5 mm - 8฿
สารภาพว่าเราซื้อตาม YouTuber ฝรั่งหลายๆคนเลยแหละแบรนด์นี้ เขาทำคลิป haul กันออกมาได้ดูน่าอยากได้น่าใช้มากๆ เราซื้อใช้ตั้งแต่สมัยอยู่ออสฯแล้ว จำราคาไม่ได้เหมือนกัน แต่มันเขียนลื่นมือดีมาก ก่อนหน้านั้นติดใช้ปากกา The Dog ที่หัวเล็กแหลมมาตลอด มาเจอปากกาหัว 0.5 ทั่วไปที่ลื่นได้ขนาดนี้ทำให้ทึ่งมาก แต่เส้นไม่คมเข้มเท่าไหร่ ยังแอบเห็นสีขาวแทรกเล็กน้อยแต่ก็จัดว่าน้อยกว่าแบรนด์เดียวกันรุ่นอื่นๆนะ

Paper Mate InkJoy 100XF 0.5 mm - 9฿
ฟีลคล้ายๆตัวบน ต่างกันแค่ที่อันนี้เป็นแบบมีปลอก อันบนเป็นแบบกด ความลื่นพอๆกัน คุณภาพและความคมชัดของเส้นก็ไม่ต่างกันมากนัก แต่ตัวนี้หมึกจะยังเห็นช่องว่างอยู่ในเส้นมากกว่าตัวบน และมากกว่าปากกาหมึกแห้งตัวอื่นๆที่มีและใช้บ่อย ณ ตอนนี้

Faber-Castell Ball Pen 1423 0.7 mm - 7฿
ราคาถูกและคุณภาพที่ได้ก็สอดคล้องกับราคา เขียนลื่น แต่ยังมีช่องว่างสีขาวปนมาพอสมควร อย่างเวลาเขียนลองเป็นเส้นตรงสั้นๆ ตรงต้นเส้นในครึ่งแรกสีจะยังเข้ม แต่ครึ่งหลังสีจะอ่อนลงนิดนึงและมีช่องว่างสีขาวปน แต่เวลาเขียนตัวหนังสือหรือเส้นที่ต่อเนื่องยาวๆปัญหานี้จะหมดไป ถึงจะเป็นหัว 0.7 แต่ไม่ได้ใหญ่จนน่ารำคาญในความรู้สึกเรานะ หน้าตาปากกาก็งั้นๆ เรียบๆไม่มีอะไรโดดเด่น ส่วนตัวเราชอบแบบกดมากกว่าแบบมีฝา


Muji Hexagonal Ballpoint Pen 0.38 mm (clear) - 40฿
เส้นเล็กคมอย่างใจ หมึกเนื้อเนียนคล้ายเจล สีก็เข้มกว่าตัวล่างที่เป็นหมึกแดงเหมือนกันเยอะอยู่ เขียนออกมาไม่มีช่องว่างสีขาวให้เห็น ไม่มีรอยแห้งกรังตรงจุดเริ่มและจุดจบของเส้น เขียนลื่นมากด้วย แต่ราคาเท่านี้ยังรู้สึกว่าแพงไปหน่อยเหมือนกัน ถ้าขายสัก 30 นี่เป็นลูกรักได้เลยนะ

Muji Hexagonal Ballpoint Pen 0.38 mm - 45฿
ปกติไม่ค่อยไว้ใจปากกาที่มีลักษณะหน้าตาแบบนี้เท่าไหร่ ภาพจำวัยเด็กมันคอยบอกว่าจะฝืด จะไม่ลื่น จะเส้นใหญ่ แต่ด้วยความที่หัวมันแค่ 0.38 ก็เลยให้เส้นที่เล็กอย่างใจ ความลื่นก็จัดว่าโอเค หมึกสม่ำเสมอกันดีไม่มีช่องว่างสีขาวในเส้น แต่หมึกสีอ่อนไป แถมเก็บนานๆจะมีหมึกกรังเป็นมูกๆนิดหน่อย ต้องเขี่ยออกก่อน ด้วยราคานี้กับปากกาหมึกแห้งเราว่าแพงไปหน่อย ตัวเลือกอื่นที่ดีพอกันยังมีอีกเยอะ

UNI Jetstream 101 0.5 mm - 15฿
ตัวนี้เป็น Jetstream ที่ราคาต่ำที่สุดในไลน์ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจซื้อ เพราะปกติ Jetstream ที่มีหัว 0.5 จะราคาสูงกว่านี้ แต่ไปเจอที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯเข้าพอดีว่ามันมีรุ่นราคาถูกด้วยเลยเอามาลองซะหน่อย ถึงเส้นจะ 0.5 แต่ก็คมและเข้มใช้ได้เลย ถ้าไม่บอกก็แทบไม่รู้ว่าเป็น 0.5 อะ สีมันค่อนข้างจะไปทางกรมท่ามากกว่าปากกาอื่นๆนิดนึงด้วยนะ หน้าตาดูดีเกินราคา เรียกว่าเป็นลูกรักตีคู่มากับ Linc Offix เลยก็ว่าได้

UNI Jetstream sxn-217 0.7 mm - 60฿
ถึงจะเขียนว่าหัว 0.7 แต่เส้นกลับดูไม่ใหญ่เลย อาจจะเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Jetstream ก็ได้ที่เส้นดูจะเล็กกว่าที่ระบุขนาดไว้ เส้นที่ได้แบบมีช่องว่างสีขาวบ้าง แต่ก็ไม่ได้เยอะจนสะดุดตา หมึกดำแต่ไม่ได้ดำเข้มจัดอะไรมากมาย เขียนได้ลื่นพอๆกับตัว 0.5 ในบรรดาหมึกแห้งสีดำนาทีนี้ก็คงต้องให้ตัวนี้ละนะ เสียแต่ว่าราคาแพงพอดู เลยยังไม่สามารถมอบตำแหน่งลูกรักให้ได้ง่ายๆ

Ink Pen

(จริงๆมีสีฟ้าแต่ลืมหยิบถ่ายรูป แต่จะมีลงให้ตอนเทสท์ปากกา)


Bic Xtra EZ 0.5 mm - 15฿
อีกแบรนด์ปากกาที่ดังไปทั่วโลก รุ่นนี้ทำออกมาในรูปแบบหมึกน้ำมันที่เน้นหมึกสี ส่วนตัวใช้สมุด Muji ที่เติมใน ring binder ของมันซึ่งกระดาษโคตรบาง บางจนต้องเลือกปากกาดีๆไม่งั้นซึมอีกฝั่ง มาเจอเข้ากับตัวนี้ประทับใจเลย เขียนลื่น เส้นก็คม แถมสีหมึกก็สม่ำเสมออีก ชอบหมึกน้ำมันก็ตรงที่สีหมึกมันออกสม่ำเสมอกันดี ไม่มีช่องว่างขาวๆปนมานี่แหละ ที่สำคัญคือราคาถูกด้วย โดยรวมแล้วทุกสีที่มีใช้โอเคหมด มีแค่สีฟ้าอ่อนที่มีแนวโน้มจะกรังมากกว่าสีอื่นนิดหน่อยเท่านั้น แต่ก็ว่าจะไปสอยสีอื่นๆมาอีกแหละ

Needle Point Pen


Pigma 0.2 mm- 50฿
สำหรับตัวนี้นักเรียนศิลป์หรือคนชอบสเก็ตช์คงรู้จักเป็นอย่างดี ใช้ตัดเส้น ใช้สเก็ตช์อะไรได้มากมาย หัวเข็มแหลมๆ รู้สึกว่าเป็นหัวสักหลาดด้วยมั้ง ส่วนตัวใช้สเก็ตช์ลงใน traveler's notebook เป็นหลักและเขียนบันทึกในนั้นด้วย เลยยิ้มเส้นที่เล็กกว่าปกติสักหน่อย แต่หัวปากกาแบรนด์นี้แปลก ไม่รู้คิดไปเองคนเดียวหรือเปล่า คือที่ด้ามเขียนไว้ว่าขนาดเท่าไหร่ เส้นที่ให้จะรู้สึกเหมือนใหญ่กว่านั้นเบอร์นึงตลอด เช่นหัว 0.5 จะรู้สึกเหมือน 0.7 หัว 0.3 จะรู้สึกเหมือน 0.5 ดังนั้นเราอยากได้หัวประมาณ 0.38 ตามที่ชอบใช้ปากกาทั่วไป เลยต้องซื้อ 0.2 มา ด้วยความที่หัวมันเล็กบาง เลยรู้สึกสะดุดบ้างกับบางกระดาษที่ใช้ เขียนแล้วต้องเกร็งๆหน่อยเพราะกลัวหัวจะหักเสียหาย เขียนได้ไม่มันมือเท่าปากกาลูกลื่นหรือปากกาเจล

Pentel Energel Needle Point BLN25 0.5 mm - 35฿
เขียนลื่นตามสไตล์ Pentel ไม่สะดุดกระดาษเลย แต่ไม่รู้คิดไปเองมั้ยว่าหมึกไม่ค่อยเข้มทำไหร่ รู้สึกแปลกๆเวลาเขียน หัวเข็มจริงแต่ก็ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากหมึกเจลรุ่นอื่นๆของ Pentel เลย ต่างกันแค่สภาพหัวเท่านั้นที่ยื่นออกมาเป็นแหลมๆ เส้นกำลังดีแต่มาเสียที่หมึกไม่เข้มเท่าที่ควรนี่แหละ

สำหรับภาพตัวอย่างของการเทสต์ปากกาอยู่ที่ด้านล่างนี้แล้ว เราเขียนชื่อแบรนด์และรุ่นไว้แล้ว อันไหนมีรหัสก็เขียนรหัส บางอันมาเป็นภาษาญี่ปุ่นที่อ่านไม่ออก เราก็พยายามหาข้อมูลเท่าที่จะหาได้ในเนทมาเพื่อเรียกอ้างอิงนะ ทำการทดสอบเขียนครบทุกสีของแต่ละรุ่นเลย


ปล. จะมีต่อเกี่ยวกับปากกาเจลและไฮไลท์ด้านล่างด้วยเน้อ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่