สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
เราไม่เห็นจะอยากกลับไปตรงไหนเลย (เราอายุ 23 เกิด 2536)
เราคิดว่ามันลำบากโดยใช่เรื่องอ่ะ

* ตอนสมัยเราประถมกว่าจะโทรศัพท์หาป้า หาแม่ได้นี่ลำบากมาก ต้องโทรกับโทรศัพท์บ้าน
* จะต่อเน็ตก็ลำบาก ต้องรอสัญญาณบ้าบ้อ เล่นก็ติดๆดับๆ ค่าบริการก็แพง
* เข้าไปเล่นเน็ตก็มีแต่กราฟฟิกแย่ๆ Stroke หนาๆ Gradient จัดๆ
มองกลับไปแล้วแบบ เราทนใช้ UI แบบนั้นมาได้ไง
* มือถือก็ราคาแพง หน้าจอก็ขาวดำ เกมส์ก็มีแต่เกมส์งู ไร้สาระ ไม่สร้างสรรค์เลย มีแต่อะไรเดิมๆ
* ตั๋วไปต่างประเทศก็แพง กว่าจะไปได้แต่ละประเทศนี่พาใครไปด้วยไม่ได้เลย
จะไปก็ต้องเดินตามต้อยๆพ่อแม่แค่นั้นแหละ เพราะไม่มีอินเตอร์เน็ตจะติดต่อใคร ดูเส้นทางก็ไม่ได้ กลัวหลง
* ถ่ายรูปอะไรก็แย่ พอมาล้างฟิล์มทีหลังก็ต้องเสียดายเพราะรู้งี้น่าจะทำหน้าดีๆหน่อย
* ตอนสมัยเด็กเราก็ฟังเพลงอะไรตามยุคสมัยนะ แผ่นอะไรก็เก็บไว้อย่างดี
แต่เอามาดูก็ไม่ได้รู้สึกอินอะไรอ่ะ เพลงสมัยนี้ดีกว่าอีก อยากฟังที่ไหนก็ฟังได้
* สมัยก่อนต้องขอ DJ กว่าจะได้ฟัง ใช่เรื่องมั้ยต้องมารอ ?
หลายครั้งโมโหปิดวิทยุไปเลย ไม่ฟังแล้ว
หรือซื้อมาก็เปิดแผ่น เปิดเทป แล้วพอเทปเสียก็ต้องซื้อใหม่ (เพื่อนเรามันแช่ตู้เย็นอะไรด้วยไม่รู้ ลำบากหนักไปอีก)

แถมจะทำแต่ละอย่างก็ลำบากไปหมด
สารพัด
นี่หรอโรแมนติก ? นี่หรออยากกลับไป ?
มโนกันขึ้นมาเองทั้งนั้นแหละ !
เหมือนพวกมโนว่าชีวิตตามต่างจังหวัดมันจะ slowlife ที่ไหนได้ ..พอไปถึงนี่แก่งแย่งกันยิ่งกว่าใน กทม.อีก
เราว่าพัฒนาต่อไปแบบนี้น่ะดีแล้ว จะได้มีอะไรใหม่ๆมาเรื่อยๆ
/////////
ปล. แล้วยิ่งเรื่องความรักนี่หนักเลย โทษจิตใจตัวเองก่อนมั้ยที่ไวเอง รักเร็ว เบื่อเร็วเอง นิสัยแบบนี้มันมีมาทุกยุคทุกสมัยแหละ
แล้วจะบอกให้ด้วยว่าสมัยนี้มีเทคโนโลยีนั่นแหละยิ่งดี มันเหมือยย่อโลกให้ไกล้กัน
ไม่ต้องมานั่งจิตตกคิดถึงแฟน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงญาติๆ VDO Call แปปเดียวก็ถึงแล้ว
เป็นการเติมเต็มความห่วงใย ความรักให้กันยิ่งกว่าสมัยก่อนอีก
ทุกอย่างมันง่ายไปหมดก็ดีแล้ว ที่เหลือมันแล้วแต่ตัวคุณเองแล้วป่ะ ว่าจะใช้เป็นรึเปล่าเหอะ ?
ไม่ใช่ว่าใช้ไม่เป็นเองแล้วจะมานั่งโทษโน่นโทษนี่ มาอยากกลับไปลำบากแบบเดิมมันไม่ใช่อ่ะ

/////////
เราคิดว่ามันลำบากโดยใช่เรื่องอ่ะ

* ตอนสมัยเราประถมกว่าจะโทรศัพท์หาป้า หาแม่ได้นี่ลำบากมาก ต้องโทรกับโทรศัพท์บ้าน
* จะต่อเน็ตก็ลำบาก ต้องรอสัญญาณบ้าบ้อ เล่นก็ติดๆดับๆ ค่าบริการก็แพง
* เข้าไปเล่นเน็ตก็มีแต่กราฟฟิกแย่ๆ Stroke หนาๆ Gradient จัดๆ
มองกลับไปแล้วแบบ เราทนใช้ UI แบบนั้นมาได้ไง
* มือถือก็ราคาแพง หน้าจอก็ขาวดำ เกมส์ก็มีแต่เกมส์งู ไร้สาระ ไม่สร้างสรรค์เลย มีแต่อะไรเดิมๆ
* ตั๋วไปต่างประเทศก็แพง กว่าจะไปได้แต่ละประเทศนี่พาใครไปด้วยไม่ได้เลย
จะไปก็ต้องเดินตามต้อยๆพ่อแม่แค่นั้นแหละ เพราะไม่มีอินเตอร์เน็ตจะติดต่อใคร ดูเส้นทางก็ไม่ได้ กลัวหลง
* ถ่ายรูปอะไรก็แย่ พอมาล้างฟิล์มทีหลังก็ต้องเสียดายเพราะรู้งี้น่าจะทำหน้าดีๆหน่อย
* ตอนสมัยเด็กเราก็ฟังเพลงอะไรตามยุคสมัยนะ แผ่นอะไรก็เก็บไว้อย่างดี
แต่เอามาดูก็ไม่ได้รู้สึกอินอะไรอ่ะ เพลงสมัยนี้ดีกว่าอีก อยากฟังที่ไหนก็ฟังได้
* สมัยก่อนต้องขอ DJ กว่าจะได้ฟัง ใช่เรื่องมั้ยต้องมารอ ?
หลายครั้งโมโหปิดวิทยุไปเลย ไม่ฟังแล้ว
หรือซื้อมาก็เปิดแผ่น เปิดเทป แล้วพอเทปเสียก็ต้องซื้อใหม่ (เพื่อนเรามันแช่ตู้เย็นอะไรด้วยไม่รู้ ลำบากหนักไปอีก)

แถมจะทำแต่ละอย่างก็ลำบากไปหมด
สารพัด
นี่หรอโรแมนติก ? นี่หรออยากกลับไป ?
มโนกันขึ้นมาเองทั้งนั้นแหละ !
เหมือนพวกมโนว่าชีวิตตามต่างจังหวัดมันจะ slowlife ที่ไหนได้ ..พอไปถึงนี่แก่งแย่งกันยิ่งกว่าใน กทม.อีก
เราว่าพัฒนาต่อไปแบบนี้น่ะดีแล้ว จะได้มีอะไรใหม่ๆมาเรื่อยๆ
/////////
ปล. แล้วยิ่งเรื่องความรักนี่หนักเลย โทษจิตใจตัวเองก่อนมั้ยที่ไวเอง รักเร็ว เบื่อเร็วเอง นิสัยแบบนี้มันมีมาทุกยุคทุกสมัยแหละ
แล้วจะบอกให้ด้วยว่าสมัยนี้มีเทคโนโลยีนั่นแหละยิ่งดี มันเหมือยย่อโลกให้ไกล้กัน
ไม่ต้องมานั่งจิตตกคิดถึงแฟน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงญาติๆ VDO Call แปปเดียวก็ถึงแล้ว
เป็นการเติมเต็มความห่วงใย ความรักให้กันยิ่งกว่าสมัยก่อนอีก
ทุกอย่างมันง่ายไปหมดก็ดีแล้ว ที่เหลือมันแล้วแต่ตัวคุณเองแล้วป่ะ ว่าจะใช้เป็นรึเปล่าเหอะ ?
ไม่ใช่ว่าใช้ไม่เป็นเองแล้วจะมานั่งโทษโน่นโทษนี่ มาอยากกลับไปลำบากแบบเดิมมันไม่ใช่อ่ะ

/////////
ความคิดเห็นที่ 7
เกิดในช่วงปี 70 เป็นวัยรุ่นก็ราวๆ ปี 1988 ก็คงใกล้เคียงกับที่เจ้าของกระทู้ต้องการ สมัยนั้น การสื่อสารเป็นรองสมัยนี้หลายขุม แต่มันดีที่ต้องรอคอย สมัยนั้นการติดต่อที่ประหยัดที่สุด ก็คือจดหมาย กว่าจะเขียน(ด้วยมือ ไม่ใช่พิมพ์ดีด หรือคอมฯ) ถ้าส่งภายในกรุงเทพ ก็ต้องอย่างน้อย 2-3 วัน กว่าจะถึง ถ้าเป็น ตจว. ในเมืองก็อยู่ราวๆ 7-10 วัน ถ้าอำเภอเล็กๆ ก็จะนานกว่านั้น เดือนนึง ได้รับแล้วตอบกลับเลย ก็น่าจะไม่เกิน 2 ฉบับ ทำได้ก็แค่คิดถึง รอบุรุษไปรษณีย์มาส่งจดหมาย อ่านทุกตัวอักษร อ่านซ้ำไปซ้ำมา นั่นคือความสุขความทรงจำของคนวัยนั้น มาตอนนี้ ทุกอย่างมันเร็วไปหมด แค่คิดถึงก็ส่งสติกเกอร์ว่าคิดถึง ไม่เกิน 2 วินาที ก็ถึงแล้ว คำว่าคิดถึง ความขลังมันเลยน้อยลง จขกท.ลองดูก็ได้น่ะ ลองใช้จดหมายเขียนถึงคนที่คุณรัก และรอคนรักคุณตอบกลับมา โดยในระหว่างรอ อย่าติดต่อกันทางอื่นน่ะ คุณจะรู้ว่า การรอคอยมันแสนจะทรมาน แต่วันที่รอคอยมาถึง มันช่างคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 21
มีความเข้าใจ 2 แบบระหว่าง
วัยรุ่นยุค 90 = คนอายุ 15 - 25+ ในช่วง 199x + -
เด็กยุค 90 = คนที่เกิด ปี 199x
ต่างกันตรงที่
วัยรุ่นยุค 90 จะไม่เจอการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวกระโดด ซึ่งคลาสสิค วัยเด็กกับวัยรุ่นไม่ต่างกันมากนัก
เด็กยุค 90 จะเจอการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวกระโดดหลัง Y2K ในช่วง 2000-2005 ทำให้รู้สึกว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากวัยเด็ก
"วัยเด็กเป็นช่วงท้ายๆของระบบอนาล็อค และพอเข้าวัยรุ่นโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล"
คงประมาณนี้ครับ
วัยรุ่นยุค 90 = คนอายุ 15 - 25+ ในช่วง 199x + -
เด็กยุค 90 = คนที่เกิด ปี 199x
ต่างกันตรงที่
วัยรุ่นยุค 90 จะไม่เจอการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวกระโดด ซึ่งคลาสสิค วัยเด็กกับวัยรุ่นไม่ต่างกันมากนัก
เด็กยุค 90 จะเจอการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวกระโดดหลัง Y2K ในช่วง 2000-2005 ทำให้รู้สึกว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากวัยเด็ก
"วัยเด็กเป็นช่วงท้ายๆของระบบอนาล็อค และพอเข้าวัยรุ่นโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล"
คงประมาณนี้ครับ
ความคิดเห็นที่ 12
รำคาญมาก ราวกับยุค 90 เป็นยูโทเปีย ไม่มีอินเตอร์เน็ต ทุกคนจับมือคุยกันบนรถเมล์ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ พวก....ที่แอนตี้เทคโนโลยีกันน่ะ เคยใช้เน็ต 2kb/s เดือนละ 300 ไหม ต่อเน็ตทีก็ใช้โทรศัพท์ไม่ได้ จะค้นอะไรในห้องสมุดต้องไปเปิดสารานุกรม A-Z แล้วสุดท้ายมีเนื้อหาสั้นๆโง่ๆแค่2ประโยค มีข่าวอะไรมาเช็คก็ ref ไม่ได้ ได้แต่ฟังโฆษณาชวนเชื่อจากทีวี วิทยุ ใครโดนอุ้ม ใครโดนคนรวยขับรถชนก็ตายกันฟรีๆ หายไปง่ายๆ เงียบๆ ไม่มีใครมาช่วยแชร์ หนังห่วยๆ แฟชั่นห่วยๆ เพลงห่วยๆตอนนั้นก็มีเต็มไปหมด แล้วก็ชอบเอาจัสตินบีเบอร์ไปเปรียบกับเดอะบีทเทิลไรงี้เป็นกระแสโง่ๆ (เหมือนมีแว้บๆ คห ข้างบน) ทั้งที่ตอนนี้ก็มี mgmt/ the killers / of monster and men เยอะแยะ
(ไปต่อได้เรื่อยๆ)
(ไปต่อได้เรื่อยๆ)
แสดงความคิดเห็น
ทำไมเดี๋ยวนี้มีคนวอนนาบีอยากอยู่ในยุค 90 เยอะจัง
ประมาณว่าเป็นวัยรุ่นยุค 90 ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ อย่างอันนี้
"ชอบความรักยุค 90 นะมิงรู้มั้ยว่าจะได้คุยกันต้องรอ5ทุ่ม เพราะโปรโทรฟรี5ทุ่มครึ่ง-5โมงเย็น กว่าจะได้พูดคำว่าคิดถึง ไม่ได้ส่งไลน์ปุ๊บแบบนี้"
อ้างอิง: https://www.facebook.com/school.thailand/photos/a.337855626254344.82612.337821656257741/1192567857449779/?type=3
ดู wanna be อย่างแรง แถมยังเข้าใจผิดไปหมด
ไอ้สิ่งที่พูดมานี่มันไม่ใช่ยุค 90 เลย มันช่วงยุค 2000 ในช่วงใกล้ถึง 2010 แล้วด้วยซ้ำ
ยุค 90 เนี่ยผมทันนะ แต่ไม่ได้ซาบซึ้งอะไร เพราะเกิดปี 1988 พอเข้ายุค 90 ก็ยังเป็นเด็กน้อยอยู่เลย
การสื่อสารของยุค 90 มันต้องเพจเจอร์ โทรศัพท์บ้าน โทรตู้ มือถือก็ยังไม่ใช้ซิมต้องวเดินหาคลื่นกันอยู่เลย
มันคลาสสิคก็จริงนะ แต่ผมก็ชอบยุคปัจจุบันมากกว่า ความสะดวกมากกว่ากันเยอะ
เหมือนเด็กสมัยนี้จะอยากแก่เร็ว ไม่ทันไรก็มาโหยหาความหลังกันแล้ว
พวกที่เกิด 199x น่ะ ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นก็หลังปี 2000 ทั้งนั้น ไม่รู้จะอวดเทคโนโลยีโบราณเพื่อข่มเด็กที่เกิดยุค 2000 เพื่ออะไร