คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
****ถ้าเป็นคนรู้จักของ จขกท จริงๆ เเบบ..ไม่ใช่ว่าเเชร์ต่อๆกันมานะโดยไม่รู้ว่า เขาเล่ามาน่ะ เขาคือใคร น่ะนะคะ***
เรื่องที่เกิดขึ้น เราคิดว่าน้องเขาอาจจะเมาเเก๊ส หรืออะไรก็ตามบนรถ หรืออาจจะเมารถค่ะ
ไม่น่าจะใช่ถูกรมยาอย่างที่หลายๆท่านได้ตอบไปเเล้วนั่นเเหละ
เเต่น้องอาจจะบังเอิญไปเจอเเท็กซี่มิจฉาชีพคิดจะอาศัยจังหวะน้องมีอาการอยู่พอดีด้วย (จากที่ จขกท บอกว่าน้องได้ยินคนขับพูดเรื่องทรัพย์สินในตัวน้อง)
แต่เรื่องที่น้องได้ยินว่าเเท็กซี่พูดว่าน้องมีทรัพย์สินอะไรบ้างนี่
บางคนในที่นี้ทำไมไปตัดสินเหมารวมไปเลยว่า น้องเขามโนมั่ง เเต่งเรื่องมั่ง โกหกมั่ง
คนไม่มีความรู้เรื่องรมยา เข้าใจผิดว่าโดนรมยา มันไม่ได้หมายความว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาทั้งหมดเป็นเรื่องเเต่งนี่คะ
คำพูดที่ใช้ตอบกระทู้ของบางคนก็ทำให้น้องผู้ประสบเหตุ หรือ จขกท ดูเป็นตัวตลก เเทนที่จะอธิบายด้วยเหตุผล
อย่าเเซะกันนักเลยค่ะ คนเเซะสนุก คนโดนเเซะคงไม่สนุกด้วยหรอก
เขาก็ถามดีๆ ไม่ตอบเขาดีๆล่ะ
เรื่องที่เกิดขึ้น เราคิดว่าน้องเขาอาจจะเมาเเก๊ส หรืออะไรก็ตามบนรถ หรืออาจจะเมารถค่ะ
ไม่น่าจะใช่ถูกรมยาอย่างที่หลายๆท่านได้ตอบไปเเล้วนั่นเเหละ
เเต่น้องอาจจะบังเอิญไปเจอเเท็กซี่มิจฉาชีพคิดจะอาศัยจังหวะน้องมีอาการอยู่พอดีด้วย (จากที่ จขกท บอกว่าน้องได้ยินคนขับพูดเรื่องทรัพย์สินในตัวน้อง)
แต่เรื่องที่น้องได้ยินว่าเเท็กซี่พูดว่าน้องมีทรัพย์สินอะไรบ้างนี่
บางคนในที่นี้ทำไมไปตัดสินเหมารวมไปเลยว่า น้องเขามโนมั่ง เเต่งเรื่องมั่ง โกหกมั่ง
คนไม่มีความรู้เรื่องรมยา เข้าใจผิดว่าโดนรมยา มันไม่ได้หมายความว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาทั้งหมดเป็นเรื่องเเต่งนี่คะ
คำพูดที่ใช้ตอบกระทู้ของบางคนก็ทำให้น้องผู้ประสบเหตุ หรือ จขกท ดูเป็นตัวตลก เเทนที่จะอธิบายด้วยเหตุผล
อย่าเเซะกันนักเลยค่ะ คนเเซะสนุก คนโดนเเซะคงไม่สนุกด้วยหรอก
เขาก็ถามดีๆ ไม่ตอบเขาดีๆล่ะ
แสดงความคิดเห็น
เป็นไปได้มั้ยคะที่จะโดนรมยาบนแท็กซี่โดยที่คนขับไม่เป็นอะไร?
เจอข่าวประเภทผู้โดยสารถูกล่อลวงในลักษณะนี้มาพอสมควร ล่าสุดเจอใกล้ตัวมาก คือรุ่นน้องร่วมคณะได้โพสต์เหตุการณ์ที่ตัวเองโดนรมยาบนแท็กซี่ระหว่างกลับบ้านจากสนามบินดอนเมือง น้องเล่าว่ารู้สึกมึนงง ปวดหัว ตาพร่าเบลอจนแทบมองอะไรไม่เห็น และได้ยินคนขับคุยโทรศัพท์ว่า
"ตอนนี้ไม่รู้สึกตัวแล้วมั้ง ใส่สร้อยกับนาฬิกา มีเป้กับกระเป๋าถือ ไอโฟน"
แต่โชคดีที่น้องเขายังมีสติพอที่จะเปิดกระจก ยื่นมือและศรีษะออกไปเพื่อขอความช่วยเหลือจากรถที่อาจจะสังเกตน้องเขา
และโชคดีมากๆ ที่มีพลเมืองดีบีบแตรให้แท็กซี่จอด และเข้าไปช่วยน้องเขาได้
ส่วนคนขับแท็กซี่นั้น น้องเขาเล่าว่า แท็กซี่บอกกับพลเมืองดีว่า สงสัยน้องเขาเป็นลม งั้นฝากด้วยนะ รีบไปส่งรถ แล้วก็รีบขับออกไปเลย
ขอไม่แคปโพสต์น้องมานะคะเนื่องจากไม่ได้รู้จักน้องเป็นการส่วนตัว แต่เห็นจากที่เพื่อนร่วมคณะแชร์กันมาและเข้าไปคอมเม้นต์ให้กำลังใจ
ก็เลยเกิดประเด็นที่เรากับเพื่อนกำลังถกเถียงกันค่ะว่าถ้ารมยา ยามันต้องฟุ้งไปตามแอร์ คนขับก็ต้องสูดเข้าไปด้วย มันสามารถมีวิธีที่คนขับจะไม่ได้รับยานั้นได้มั้ยคะ?
แล้วถ้ามันไม่สามารถรมยาได้ในขณะที่คนขับไม่ได้รับสารนั้น มีทริกอื่น หรือวิธีอื่นมั้ยคะที่มิจฉาชีพพวกนี้จะใช้กับผู้โดยสาร? แล้วอาการที่รุ่นน้องเป็นเกิดจากอะไร?
เพราะทุกวันนี้สังคมเราค่อนข้างอันตราย แท็กซี่บ้านเราก็ไม่ได้มีมาตรการเรื่องความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารที่มีประสิทธิภาพพอ เลยอยากรู้เพื่อเอาไว้ใช้ระวังตัวเองค่ะ
ขอบคุณค่ะ
--------------------
Edit**
ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ได้ข้อสรุปประเด็นที่ถกเถียงแล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ
ส่วนเรื่องที่บางคนบอกว่าเป็นเรื่องมโน เรื่องแต่ง คือน้องเขามีตัวตนจริงอยู่ในแวดวงที่เรารู้จัก น้องไม่ได้เป็นเด็กขี้แต่งเรื่องหรือขี้โกหกใดๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นจริงค่ะ
ส่วนสาเหตุที่น้องในโพสต์ที่ว่าเจอ ว่าเกิดจากอะไร เราวิเคราะห์จากที่อ่านกระทู้เก่าๆ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงเรื่องรมยา บวกกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่น้องเขากล่าวไว้ในโพส เลยคิดว่าอาจจะเกิดจาก...
1. อาการเพลียจากการเดินทาง + น้องเขาบอกในโพสต์ (ที่เราไม่ได้เล่าในหัวกระทู้) ว่าคนนั่งข้างๆ บนเครื่องบิน เปิดไฟอ่านหนังสือแยงตาตลอดทาง ทำให้น้องปวดหัวนิดหน่อย
2. เมารถ + ง่วง
3. สูดก๊าซคาร์บอนที่อาจรั่วบนรถ
อาจจะเป็น 3 ปัจจัยนี้รวมกัน แล้วจังหวะขึ้นแท็กซี่มิจฉาชีพพอดี
โอเค หายข้องใจแล้วค่ะ เราแค่สงสัยในสาเหตุของการขึ้นรถแล้วมีอาการคล้ายๆ รมยา
ต้องขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นมากๆ เลยค่ะ ต่อไปนี้จะระวังตัวคอยสังเกตก่อนขึ้นแท็กซี่... น่าจะเป็นวิธีป้องกันตัวที่ดีที่สุด ดีกว่าคิดว่าเขารมยายังไงค่ะ : )