จขกท. เคยมีประวัติติดเครดิตบูโร ประมาณ 5 รายการ
สืบเนื่องจาก ผมเป็นพนักงานบริษัทคนนึง ที่มีค่าใช้จ่ายผ่อนบ้าน สงเสียตัวเองเรียนจนจบปริญญาโท
ให้เงินพ่อแม่ใช้ แต่ก็มาพร้อมภาระหนี้บัตรเครดิตที่เราเอาเงินสด ออกมาเพื่อใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่กล่าวมา
จนกระทั่งภาระหนี้สินในบัตรเครดิต ก็เริ่มมากขึ้น ผมต้องจ่ายขั้นต่ำ รายได้ต่อเดือนขณะนั้นประมาณ 4 หมื่นบาท ก็หมดไปกับการจ่าย
เงินบัตรเครดิตขั้นต่ำไม่ต่ำกว่า 3 หมื่น วนเวียนอยู่อย่างนั้นเงินต้นก็ลดลงนิดหน่อย เรายอมข่ายขั้นต่ำเพราะเราไม่อยากติดบูโร
จนกระทั่ง รุ่นพี่ที่บริษัทที่เราสนิทด้วย เค้าแนะนำทำให้เรา Hair Cut บัตรเครดิตทั้งหมด ยอดหนี้ประมาณ 5 แสนบาท
เราก็เริ่มทยอยทำ haircut เก็บเงินรวบรวมทั้งหมด ค่อย ๆ ปิดหนี้บัตรเครดิต จนถึงขั้นขึ้นศาลเพื่อประนอมหนี้ ตอนนั้นยอมรับว่า
เครียดมาก แต่ผมมีเพื่อนเป็นทนายความ เพื่อนก็ให้คำแนะนำและไปขึ้นศาลเป็นเพือน จนในที่สุดผมสามารถเคลียนหนี้ได้
ทั้งหมด เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ระยะเวลาทั้งหมดประมาณเกือบ 2 ปี
ถึงแม้เราจะติดบูโร แต่เราไม่ต้องกังวล เรื่องค่าใช้จ่ายรายเดือน สภาพคล่องดีขึ้นมาก และด้วยการตัดสินใจเรียนปริญญาโท
ของผม ทำให้ผมมีโอกาสก้าวหน้าในสายอาชีพมากขึ้น ปัจจุบันผมมีรายได้ต่อเดือนเกือบ 1 แสนบาท แต่ว่าสถานะเครดิตของผม
ในเครดิตบูโรยังมีสถานะ 31 ในบูโร หมายถึงอยู่ในการชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม แต่ผมได้ปิดไปเรียบร้อยแล้ว เพราะปกติธนาคารจะใช้เวลา 30-90 วัน ในการแก้ไขสถานะในบูโร แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงขึ้นว่า ผมมีการค้างชำระเกิน 300 วันในเครดิตบูโร
เนื่องจากผมมีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถในการสร้างครอบครัว ผมอยากได้รถคันใหญ่ขึ้น เพื่อสามารถให้คนในครอบครัวโดยสารได้ทั้งหมด
ผมจึงตัดสินใจจองรถ Pajero และยืนเอกสารกับธนาคารแห่งหนึ่ง และแล้วผมก็ได้รับสายจากทางศูนย์ว่าผมกู้รถผ่านแล้วครับ ถึงแม้ผมเพิ่งจะปิดบัตรใบสุดท้ายเมื่อเดือนที่ผ่านมา ที่ผมเล่ามาทั้งหมด ก็เพราะผมอยากเป็นกำลังใจให้คนที่ติดบูโรครับ ว่ามันไม่ได้มืดมนหนทางขนาดนั้น มันยังพอมีแสงสว่าง
ในชีวิตครับ เราเป็นหนี้เค้า เราต้องจ่ายเค้าครับ และผมก็ทำสำเร็จ ตอนนี้บอกเลยครับว่าวินัยทางการเงินของผมดีขึ้นมาก ผมไม่เป็นหนี้บัตรเครดิตแล้ว
และผมก็รู้จักออมเงินมากขึ้น ผมขอบคุณพันทิพย์ ที่ให้ข้อมูลผม และผมก็อยากแชร์ข้อมูลนี้ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์กับท่านอื่นบ้างครับ....
ติดบูโร แต่กู้รถผ่านแล้วครับ...
สืบเนื่องจาก ผมเป็นพนักงานบริษัทคนนึง ที่มีค่าใช้จ่ายผ่อนบ้าน สงเสียตัวเองเรียนจนจบปริญญาโท
ให้เงินพ่อแม่ใช้ แต่ก็มาพร้อมภาระหนี้บัตรเครดิตที่เราเอาเงินสด ออกมาเพื่อใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่กล่าวมา
จนกระทั่งภาระหนี้สินในบัตรเครดิต ก็เริ่มมากขึ้น ผมต้องจ่ายขั้นต่ำ รายได้ต่อเดือนขณะนั้นประมาณ 4 หมื่นบาท ก็หมดไปกับการจ่าย
เงินบัตรเครดิตขั้นต่ำไม่ต่ำกว่า 3 หมื่น วนเวียนอยู่อย่างนั้นเงินต้นก็ลดลงนิดหน่อย เรายอมข่ายขั้นต่ำเพราะเราไม่อยากติดบูโร
จนกระทั่ง รุ่นพี่ที่บริษัทที่เราสนิทด้วย เค้าแนะนำทำให้เรา Hair Cut บัตรเครดิตทั้งหมด ยอดหนี้ประมาณ 5 แสนบาท
เราก็เริ่มทยอยทำ haircut เก็บเงินรวบรวมทั้งหมด ค่อย ๆ ปิดหนี้บัตรเครดิต จนถึงขั้นขึ้นศาลเพื่อประนอมหนี้ ตอนนั้นยอมรับว่า
เครียดมาก แต่ผมมีเพื่อนเป็นทนายความ เพื่อนก็ให้คำแนะนำและไปขึ้นศาลเป็นเพือน จนในที่สุดผมสามารถเคลียนหนี้ได้
ทั้งหมด เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ระยะเวลาทั้งหมดประมาณเกือบ 2 ปี
ถึงแม้เราจะติดบูโร แต่เราไม่ต้องกังวล เรื่องค่าใช้จ่ายรายเดือน สภาพคล่องดีขึ้นมาก และด้วยการตัดสินใจเรียนปริญญาโท
ของผม ทำให้ผมมีโอกาสก้าวหน้าในสายอาชีพมากขึ้น ปัจจุบันผมมีรายได้ต่อเดือนเกือบ 1 แสนบาท แต่ว่าสถานะเครดิตของผม
ในเครดิตบูโรยังมีสถานะ 31 ในบูโร หมายถึงอยู่ในการชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม แต่ผมได้ปิดไปเรียบร้อยแล้ว เพราะปกติธนาคารจะใช้เวลา 30-90 วัน ในการแก้ไขสถานะในบูโร แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงขึ้นว่า ผมมีการค้างชำระเกิน 300 วันในเครดิตบูโร
เนื่องจากผมมีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถในการสร้างครอบครัว ผมอยากได้รถคันใหญ่ขึ้น เพื่อสามารถให้คนในครอบครัวโดยสารได้ทั้งหมด
ผมจึงตัดสินใจจองรถ Pajero และยืนเอกสารกับธนาคารแห่งหนึ่ง และแล้วผมก็ได้รับสายจากทางศูนย์ว่าผมกู้รถผ่านแล้วครับ ถึงแม้ผมเพิ่งจะปิดบัตรใบสุดท้ายเมื่อเดือนที่ผ่านมา ที่ผมเล่ามาทั้งหมด ก็เพราะผมอยากเป็นกำลังใจให้คนที่ติดบูโรครับ ว่ามันไม่ได้มืดมนหนทางขนาดนั้น มันยังพอมีแสงสว่าง
ในชีวิตครับ เราเป็นหนี้เค้า เราต้องจ่ายเค้าครับ และผมก็ทำสำเร็จ ตอนนี้บอกเลยครับว่าวินัยทางการเงินของผมดีขึ้นมาก ผมไม่เป็นหนี้บัตรเครดิตแล้ว
และผมก็รู้จักออมเงินมากขึ้น ผมขอบคุณพันทิพย์ ที่ให้ข้อมูลผม และผมก็อยากแชร์ข้อมูลนี้ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์กับท่านอื่นบ้างครับ....