ออกตัวแรงแซงโค้งอันตรายข้างไหนไว้ก่อนค่ะ ว่า 'ชอบละครไทย'
เพราะไม่ต้องกลอกลูกตาไล่อ่านซับไตเติ้ลให้เมื่อยอย่างซีรีส์เกาหลี
แต่ที่ชอบสุดติ่งดิ่งสู่กระแสเลือดคือละครแนว 'บู๊แอ็คชั่น'
จำพวกเอะอะก็ถือปืนไล่ยิงกันเลือดสาด เอะอะก็เตะต่อยเลือดซิบปาก
ชอบละครที่ชิงไหวชิงพริบ สะท้อนการใช้ความคิดของตัวละครในเรื่อง
เนื้อเรื่องที่มาที่ไป ยังไม่น่าสนใจมากเท่ากับ
บทพูด ที่ทำให้ตัวละครฉลาด
บทบาท ที่สะท้อนตัวตนตัวละครได้ชัดเจน
บทบู๊ ที่ทำให้รู้สึกว่าเขาเก่ง
ปกติก็ชินตากับละครบู๊ระดับตำนานของ 'คุณฉลอง ภักดีวิจิตร'
ชินกับพล็อตที่ว่า.....
' ลูกทัวร์นับสิบ เหมาตั๋วพงไพรแอร์ไลน์ ตามล่าหาสิ่งที่หายไป
และพักกินไก่ย่างจิบกาแฟในดงปืน '
ซึ่งไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นละครบู๊ฉีกแนวจากนี้นัก ก็ชื่นชอบในเรื่อง
ที่ คุณฉลองผลิตให้รับชม มาเสมอ เลือกนักแสดงสวยหล่อพอสมควร
แต่แล้ว 'คุณโอลิเวอร์ บีเวอร์' ก็พลิกประวัติหน้าใหม่ละครบู๊แอ็คชั่นฉีก
จากกฎเดิมที่ชินตา สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ จขกท. กับละครเรื่องแรก
'เนตรนาคราช' นี่นั่งดูแบบน้ำตาไหลอาบแก้มจริงๆ นะคะ
นำดวงตาของพญานาคส่งคืนเจ้าของ เพื่อให้โลกสงบสุข ออกไป
ทางแนวแฟนซีหรือเปล่า? ไม่ค่อยค่ะ เพราะแทบไม่เห็นตัวพญานาค
และแทบไม่พักกินไก่ย่างกันเลย เอะอะคว้าปืนสาดกระสุนใส่กันรัวๆ
ตัวละครทุกตัวฉลาดไหวพริบดี และเน้นยิงกัน ปาระเบิดใส่กันมาก
กว่า เรื่องนี้เข้าป่าด้วย แต่คนละรสชาติกับอังกอร์ค่ะ
นางเอกก็ไม่ได้กลายเป็นเสือ หรือพญานาคนะคะ อย่าเข้าใจผิดค่ะ!!
ประเด็นของกระทู้นี้ อยู่ที่เรื่องที่สองซึ่ง 'คุณโอลิเวอร์ บีเวอร์' ผลิต
ในนามของค่าย NineBever คือเรื่อง 'ขุนกระทิง' พูดได้คำเดียวว่าสะอึก!
ร้องไห้จนสะอึกไปเลย
คืนวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ 2 ทุ่ม 10 นาทีกว่าๆ ก็คว้ารีโมทเปิดช่อง 7
ไว้รอแล้ว ไม่ยอมพลาดแม้แต่ตอนเดียว เพราะอะไร? เพราะเรื่องนี้เขา
สร้างมาเพื่อ จขกท. เลยค่ะ
เปิดเรื่อง
ปกติละครทั่วๆ ไป กว่าจะรู้นิสัยตัวละคร ต้องดูถึงตอน 2-3 ถึงรู้
และกว่าจะเข้าใจตัวละครครบทุกตัว ต้องรอจนกลางเรื่องไปแล้วนาน
แต่เรื่องขุนกระทิง ฉีกกฎเดิมๆ ที่เคยพบเจอจากละครไทยหลายเรื่อง
1.เปิดเรื่อง 'มหาชาติ' บุกเดี่ยวไปจับ 'เมฆิน' พ่อค้าอาวุธเถื่อนข้ามชาติ
ไม่ฟังฟ้าฟังฝนเลย พอไปถึงก็เจอ 'ดุจดาว' แฟนตัวเองซึ่งแอบเข้า
ไปเป็นสายข่าวในกลุ่มเมฆิน
แค่ part แรกของตอน 1 ก็รู้แล้วว่า มหาชาตินี่ใจร้อนบุ่มบ่ามแค่ไหน
ส่วนดุจดาวคงนิสัยคล้ายแฟนนางแหละ ถึงตายในที่สุด สงสารจับใจ
ตอน1 ตอนเดียวเท่านั้น รู้จักตัวละครครบทั้งเรื่อง ไม่เสียเวลาทำความ
เข้าใจ ที่เหลือคือฉากบู๊สุดอลังการ
2.ยิงกันตูมตาม กว่าเรื่องไหนๆ ยิงชนิดไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ อะไรพัง
ก็ให้พัง เห็นภาพเบื้องหลังก็รู้สึกเขาลงทุนไปมหาศาลเลยนะนั่น
แต่ยิงโดนตัว เลือดกลับไม่เป็นน้ำๆ เหมือนที่เคยเห็นมา เป็นเลือดที่
ฟุ้งกระจายคล้ายฝุ่นผงสีแดง สวยดีนะ
ระเบิดรถ รถก็พังจริง ลอยตามแรงระเบิดจริง เทคนิคสุดยอดเลยค่ะ
3.ตัวละครฉลาดกันหมด รู้ทันกันหมด ซ้อมมาดีมาก
ยกตัวอย่าง ลูกน้องของ 'เมฆิน' สู้กับพระเอกได้โดยไม่แพ้ แค่แยกย้าย
คือเรื่องนี้ไม่มีฉากตัวร้ายถูกยิงแล้วเซถอยหลังล้มลงตายนะคะ
และก็ไม่มีฉากพระเอกโดนยิงที่หัวใจ แล้วกระ

กระสนลุกมาสู้ต่อค่ะ
พระเอกเก่ง หลบกระสุนได้ไวปานลิง และตัวร้ายไม่เคยถูกยิงเพราะเก่ง
เก่งจริงๆ ไม่ใช่เก่งแบบงงๆ
ตัวละครบางตัวไม่ต้องบู๊ ก็ดูฉล๊าด...ฉลาด เช่น เมฆิน ร้ายด้วยฉลาดด้วย
ยกตัวอย่าง 'เอมมี่' บทที่ 'กรีน' เล่นค่ะ ฉลาด สวย รวย เก่ง แทบไม่ต้อง
ทำอะไรมาก แค่สวยไปสวยมา และก็สวยจริงๆ สวยแบบผู้ดีไปเลยไม่ใช่
สวยแล้วรอให้พระเอกมาช่วยตลอดเหมือนเรื่องอื่นๆ
นางเอกเรื่องนี้ก็ไม่อ่อนแอ แม้ว่าจะอ่อนโยนค่ะ
บทของ 'ขวัญตา' เป็นผู้หญิงซนๆ ชอบถามนั่นนี่เหมือนจะน่ารำคาญเลย
แต่ก็ไม่นะ เพราะความช่างถามเกิดจากการช่างสังเกตของตัวละครค่ะ
หลายคำถามของนางเอก คลายปมบ้าง ชี้นำทางพระเอกบ้าง อย่างคนที่
ฉลาดถาม และนางเอกไม่อ่อนแอรอให้พระเอกมาช่วยเสมอไป นางทึก!!!
ขนาดตกจากชั้นสองลงมาหลังกระแทกโต๊ะ ยังไม่ตาย อันนี้คนจริงๆ อาจ
ไม่ตายแต่ต้องพิการบ้างเนอะ เรื่องนี้ให้อภัยได้เพราะอย่างอื่นดีหมดแล้ว
บทของ 'วิญญู' คือปมของเรื่องแน่นอน ดูแล้วมั่นใจ เพราะตานี่รู้เรื่องคนอื่น
แต่ไม่รู้เรื่องตัวเองเลย รอดูต่อไปว่าวิญญูหรือเปล่า
และบทตำรวจอีกคนในเรื่องน่าจะชื่อ 'โสภณ' ตานี่ร้ายลึกนะเพราะจะโผล่มา
น้อยฉาก แต่ละฉากแฝงแผนการไว้หมด คนนี้คือไส้ศึกของเมฆิน แน่นอน!!
โดยรวม ตัวละครทุกตัว ดูฉลาดเรียนมาสูงดี ไม่งี่เง่าเหมือนละครบู๊เดิมๆ ค่ะ
4.ลงทุนเรื่องอุปกรณ์ประกอบฉาก ยังไม่พอ เอาสแตนอินบู๊มาร่วมเล่นละครอีก
แบบนี้ จขกท. ก็อินจัดเลยสิ
บท 'หมวดเฮี้ยว' คือลักษณะของตำรวจน้ำดีเลยนะนั่น แม้ในชีวิตจริงหายาก
แต่นั่นล่ะ หน้าที่ตำรวจ มาดนิ่ง ตีคิ้วยุ่งๆ เหมือนมีเรื่องกลุ้มตลอดเวลา ดุไป
แต่รู้สึกเรียลกับฝีมือการบู๊ค่ะ เหมือนเขาเตะต่อยกันจริง ไม่ใช่แค่ปัดมือเฉี่ยว
ปลายจมูกกันแล้วใช้มุมกล้องหลอกตาเอา บู๊กันแบบมีเสียงจริงๆ ด้วย
ลองฟังดีๆ จะได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อจริงๆ
สุดท้ายอยากบอกว่าชอบละครบู๊ค่ายนี้มากๆ NineBever ผลิตละครถูกใจ จขกท.
เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจาก คุณโอลิเวอร์ เคยเป็นนักแสดงมาก่อน และตอนนี้ก็มีธุรกิจ
เกี่ยวกับอาวุธปืนที่ใช้ในการถ่ายละครด้วย เขาเลยทำออกมาได้อลังการปานนี้นะ
ต้องขอบคุณผู้จัดคนเก่ง และผู้กำกับคนเก่งด้วย คุณพิง ลำพระเพลิง น่าจะเขียน
บทโทรทัศน์นะ ไม่แน่ใจค่ะ
นักแสดงทุกคนเล่นสมบทบาท คุณอาจไม่ใช่นักแสดงที่เก่งที่สุด แต่เล่นได้ดีที่สุด
นักแสดงสมทบ สแตนอิน มีส่วนสำคัญอย่างมากเพราะทำให้นักแสดงจริงไม่เจ็บ
ตัวมาก
.....กราบ



เพราะ จขกท. น้ำตาซึมจริง
ไม่ได้แกล้งชมให้ใครรู้สึกดีหรือหมันไส้ จากหัวใจคนรักละครบู๊แอ็คชั่นคนหนึ่ง.....
โปรดผลิตละครบู๊ให้รับชมตลอดไปค่ะ ค่ายนี้เขาแน่จริงๆ NineBever นี้รักเลย
...ขอตัวไปร้องไห้ต่อ ให้กับฉากประทับใจ นางเอกตกจากชั้นสองของผับ...
โต๊ะหักสองท่อนเลยค่ะ นางเอกเราแกร่งจริง
JKS
หนึ่งกระทู้ จากคนรักละครบู๊ ถึง 'ขุนกระทิง'
เพราะไม่ต้องกลอกลูกตาไล่อ่านซับไตเติ้ลให้เมื่อยอย่างซีรีส์เกาหลี
แต่ที่ชอบสุดติ่งดิ่งสู่กระแสเลือดคือละครแนว 'บู๊แอ็คชั่น'
จำพวกเอะอะก็ถือปืนไล่ยิงกันเลือดสาด เอะอะก็เตะต่อยเลือดซิบปาก
ชอบละครที่ชิงไหวชิงพริบ สะท้อนการใช้ความคิดของตัวละครในเรื่อง
เนื้อเรื่องที่มาที่ไป ยังไม่น่าสนใจมากเท่ากับ
บทพูด ที่ทำให้ตัวละครฉลาด
บทบาท ที่สะท้อนตัวตนตัวละครได้ชัดเจน
บทบู๊ ที่ทำให้รู้สึกว่าเขาเก่ง
ปกติก็ชินตากับละครบู๊ระดับตำนานของ 'คุณฉลอง ภักดีวิจิตร'
ชินกับพล็อตที่ว่า.....
' ลูกทัวร์นับสิบ เหมาตั๋วพงไพรแอร์ไลน์ ตามล่าหาสิ่งที่หายไป
และพักกินไก่ย่างจิบกาแฟในดงปืน '
ซึ่งไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นละครบู๊ฉีกแนวจากนี้นัก ก็ชื่นชอบในเรื่อง
ที่ คุณฉลองผลิตให้รับชม มาเสมอ เลือกนักแสดงสวยหล่อพอสมควร
แต่แล้ว 'คุณโอลิเวอร์ บีเวอร์' ก็พลิกประวัติหน้าใหม่ละครบู๊แอ็คชั่นฉีก
จากกฎเดิมที่ชินตา สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ จขกท. กับละครเรื่องแรก
'เนตรนาคราช' นี่นั่งดูแบบน้ำตาไหลอาบแก้มจริงๆ นะคะ
นำดวงตาของพญานาคส่งคืนเจ้าของ เพื่อให้โลกสงบสุข ออกไป
ทางแนวแฟนซีหรือเปล่า? ไม่ค่อยค่ะ เพราะแทบไม่เห็นตัวพญานาค
และแทบไม่พักกินไก่ย่างกันเลย เอะอะคว้าปืนสาดกระสุนใส่กันรัวๆ
ตัวละครทุกตัวฉลาดไหวพริบดี และเน้นยิงกัน ปาระเบิดใส่กันมาก
กว่า เรื่องนี้เข้าป่าด้วย แต่คนละรสชาติกับอังกอร์ค่ะ
นางเอกก็ไม่ได้กลายเป็นเสือ หรือพญานาคนะคะ อย่าเข้าใจผิดค่ะ!!
ประเด็นของกระทู้นี้ อยู่ที่เรื่องที่สองซึ่ง 'คุณโอลิเวอร์ บีเวอร์' ผลิต
ในนามของค่าย NineBever คือเรื่อง 'ขุนกระทิง' พูดได้คำเดียวว่าสะอึก!
ร้องไห้จนสะอึกไปเลย
คืนวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ 2 ทุ่ม 10 นาทีกว่าๆ ก็คว้ารีโมทเปิดช่อง 7
ไว้รอแล้ว ไม่ยอมพลาดแม้แต่ตอนเดียว เพราะอะไร? เพราะเรื่องนี้เขา
สร้างมาเพื่อ จขกท. เลยค่ะ
เปิดเรื่อง
ปกติละครทั่วๆ ไป กว่าจะรู้นิสัยตัวละคร ต้องดูถึงตอน 2-3 ถึงรู้
และกว่าจะเข้าใจตัวละครครบทุกตัว ต้องรอจนกลางเรื่องไปแล้วนาน
แต่เรื่องขุนกระทิง ฉีกกฎเดิมๆ ที่เคยพบเจอจากละครไทยหลายเรื่อง
1.เปิดเรื่อง 'มหาชาติ' บุกเดี่ยวไปจับ 'เมฆิน' พ่อค้าอาวุธเถื่อนข้ามชาติ
ไม่ฟังฟ้าฟังฝนเลย พอไปถึงก็เจอ 'ดุจดาว' แฟนตัวเองซึ่งแอบเข้า
ไปเป็นสายข่าวในกลุ่มเมฆิน
แค่ part แรกของตอน 1 ก็รู้แล้วว่า มหาชาตินี่ใจร้อนบุ่มบ่ามแค่ไหน
ส่วนดุจดาวคงนิสัยคล้ายแฟนนางแหละ ถึงตายในที่สุด สงสารจับใจ
ตอน1 ตอนเดียวเท่านั้น รู้จักตัวละครครบทั้งเรื่อง ไม่เสียเวลาทำความ
เข้าใจ ที่เหลือคือฉากบู๊สุดอลังการ
2.ยิงกันตูมตาม กว่าเรื่องไหนๆ ยิงชนิดไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ อะไรพัง
ก็ให้พัง เห็นภาพเบื้องหลังก็รู้สึกเขาลงทุนไปมหาศาลเลยนะนั่น
แต่ยิงโดนตัว เลือดกลับไม่เป็นน้ำๆ เหมือนที่เคยเห็นมา เป็นเลือดที่
ฟุ้งกระจายคล้ายฝุ่นผงสีแดง สวยดีนะ
ระเบิดรถ รถก็พังจริง ลอยตามแรงระเบิดจริง เทคนิคสุดยอดเลยค่ะ
3.ตัวละครฉลาดกันหมด รู้ทันกันหมด ซ้อมมาดีมาก
ยกตัวอย่าง ลูกน้องของ 'เมฆิน' สู้กับพระเอกได้โดยไม่แพ้ แค่แยกย้าย
คือเรื่องนี้ไม่มีฉากตัวร้ายถูกยิงแล้วเซถอยหลังล้มลงตายนะคะ
และก็ไม่มีฉากพระเอกโดนยิงที่หัวใจ แล้วกระ
พระเอกเก่ง หลบกระสุนได้ไวปานลิง และตัวร้ายไม่เคยถูกยิงเพราะเก่ง
เก่งจริงๆ ไม่ใช่เก่งแบบงงๆ
ตัวละครบางตัวไม่ต้องบู๊ ก็ดูฉล๊าด...ฉลาด เช่น เมฆิน ร้ายด้วยฉลาดด้วย
ยกตัวอย่าง 'เอมมี่' บทที่ 'กรีน' เล่นค่ะ ฉลาด สวย รวย เก่ง แทบไม่ต้อง
ทำอะไรมาก แค่สวยไปสวยมา และก็สวยจริงๆ สวยแบบผู้ดีไปเลยไม่ใช่
สวยแล้วรอให้พระเอกมาช่วยตลอดเหมือนเรื่องอื่นๆ
นางเอกเรื่องนี้ก็ไม่อ่อนแอ แม้ว่าจะอ่อนโยนค่ะ
บทของ 'ขวัญตา' เป็นผู้หญิงซนๆ ชอบถามนั่นนี่เหมือนจะน่ารำคาญเลย
แต่ก็ไม่นะ เพราะความช่างถามเกิดจากการช่างสังเกตของตัวละครค่ะ
หลายคำถามของนางเอก คลายปมบ้าง ชี้นำทางพระเอกบ้าง อย่างคนที่
ฉลาดถาม และนางเอกไม่อ่อนแอรอให้พระเอกมาช่วยเสมอไป นางทึก!!!
ขนาดตกจากชั้นสองลงมาหลังกระแทกโต๊ะ ยังไม่ตาย อันนี้คนจริงๆ อาจ
ไม่ตายแต่ต้องพิการบ้างเนอะ เรื่องนี้ให้อภัยได้เพราะอย่างอื่นดีหมดแล้ว
บทของ 'วิญญู' คือปมของเรื่องแน่นอน ดูแล้วมั่นใจ เพราะตานี่รู้เรื่องคนอื่น
แต่ไม่รู้เรื่องตัวเองเลย รอดูต่อไปว่าวิญญูหรือเปล่า
และบทตำรวจอีกคนในเรื่องน่าจะชื่อ 'โสภณ' ตานี่ร้ายลึกนะเพราะจะโผล่มา
น้อยฉาก แต่ละฉากแฝงแผนการไว้หมด คนนี้คือไส้ศึกของเมฆิน แน่นอน!!
โดยรวม ตัวละครทุกตัว ดูฉลาดเรียนมาสูงดี ไม่งี่เง่าเหมือนละครบู๊เดิมๆ ค่ะ
4.ลงทุนเรื่องอุปกรณ์ประกอบฉาก ยังไม่พอ เอาสแตนอินบู๊มาร่วมเล่นละครอีก
แบบนี้ จขกท. ก็อินจัดเลยสิ
บท 'หมวดเฮี้ยว' คือลักษณะของตำรวจน้ำดีเลยนะนั่น แม้ในชีวิตจริงหายาก
แต่นั่นล่ะ หน้าที่ตำรวจ มาดนิ่ง ตีคิ้วยุ่งๆ เหมือนมีเรื่องกลุ้มตลอดเวลา ดุไป
แต่รู้สึกเรียลกับฝีมือการบู๊ค่ะ เหมือนเขาเตะต่อยกันจริง ไม่ใช่แค่ปัดมือเฉี่ยว
ปลายจมูกกันแล้วใช้มุมกล้องหลอกตาเอา บู๊กันแบบมีเสียงจริงๆ ด้วย
ลองฟังดีๆ จะได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อจริงๆ
สุดท้ายอยากบอกว่าชอบละครบู๊ค่ายนี้มากๆ NineBever ผลิตละครถูกใจ จขกท.
เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจาก คุณโอลิเวอร์ เคยเป็นนักแสดงมาก่อน และตอนนี้ก็มีธุรกิจ
เกี่ยวกับอาวุธปืนที่ใช้ในการถ่ายละครด้วย เขาเลยทำออกมาได้อลังการปานนี้นะ
ต้องขอบคุณผู้จัดคนเก่ง และผู้กำกับคนเก่งด้วย คุณพิง ลำพระเพลิง น่าจะเขียน
บทโทรทัศน์นะ ไม่แน่ใจค่ะ
นักแสดงทุกคนเล่นสมบทบาท คุณอาจไม่ใช่นักแสดงที่เก่งที่สุด แต่เล่นได้ดีที่สุด
นักแสดงสมทบ สแตนอิน มีส่วนสำคัญอย่างมากเพราะทำให้นักแสดงจริงไม่เจ็บ
ตัวมาก
.....กราบ
ไม่ได้แกล้งชมให้ใครรู้สึกดีหรือหมันไส้ จากหัวใจคนรักละครบู๊แอ็คชั่นคนหนึ่ง.....
โปรดผลิตละครบู๊ให้รับชมตลอดไปค่ะ ค่ายนี้เขาแน่จริงๆ NineBever นี้รักเลย
...ขอตัวไปร้องไห้ต่อ ให้กับฉากประทับใจ นางเอกตกจากชั้นสองของผับ...
โต๊ะหักสองท่อนเลยค่ะ นางเอกเราแกร่งจริง
JKS