ปรึกษาปัญที่ดิน

เจ้าหน้าที่มารังวัดสอบเขตที่ดินวันที่ 8 มกราคม เพราะหมุดหาย เหลืออยู่แค่ 2 อัน ช่างรังวัดตั้งกล้องตรงหมุดที่เหลืออยู่โยงหา  ปรากฏว่ามีหมุดอันเข้าไปอยู่ในที่ข้างเคียง เราก็เพิ่งรู้ว่าที่ข้างเคียงล้ำที่ของเรามา ช่างรังวัดก็เรียกข้างเคียงมาพูด เขาก็เข้าใจและเซ็นรับรองเรียบร้อย วันที่ 29 มกราคม มีหนังสือจากที่ดินแจ้งว่าการสอบเขตเรียบร้อยที่ดินเท่าเดิมไม่มีอะไรต้องแก้ไข ต่อมาวันที่ 20 มีนาคม(ประมาณ จำไม่ค่อยได้) ที่ดินโทรมาบอกว่าให้ไปหาหน่อย มีปัญหามีคนไปคัดค้านการังวัด ที่ของเราเป็นโฉนดแล้วปี 2542 แต่ข้างเคียงเป็น นส3ก แต่เค้ามีปัญหากันคือเอาที่ไปจำนอง อีกคนไปไถ่ออกมา แล้วเค้าก้อฟ้องศาลกัน ศาลตัดสินให้แบ่งครึ่ง ตอนแบ่งที่ดินมารังวัด แม่เราเป็นเจ้าของที่ดินก็ไปดู แต่ไม่รู้ว่าเขตอยู่ตรงไหนเพราะหมุดหาย ก็บอกช่างรังวัดว่าหมุดหาย ช่างบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวดูให้ แล้วแม่ก็เซ็นต์รับรองให้เค้า เพราะเชื่อช่างรังวัด  พอวันที่ 12 เมษายน ช่างรังวัดมา  เค้าใช้ตลับเทปวัด ก้อถามเค้าว่าไม่ส่องกล้องเหรอ เค้าว่าดูก่อน เค้าก็วัดข้างเคียง และที่ของเราเฉพาะด้านที่มีปัญหาด้านเดียว ปรากฏว่าหมุดอันที่ปัญหาขยับลงมาจากที่ส่องกล้องครั้งแรกประมาณเกือบ 2 เมตร  ช่างรังวัดเค้าว่าของเราผิด ต้องดูการรังวัดครั้งหลังเพราะแม่เซ็นรับรองไปแล้ว ก็ไม่รู้จะทำยัง ต้องเสียที่ให้เค้าไปใช่ไหม ก็เลยโทรถามช่างรังวัดคนแรกเค้าบอกว่า ที่ข้างเคียงศาลสั่ง เป็นสอบเขตชั้นหนึ่ง  ของเราเป็นสอบเขตชั้นสอง  ผิดตรงที่แม่เซ็นให้ไปแล้ว เหมือนเค้าใช้เส้นเลยเพราะเข้าข้างฝ่ายนั้นตลอดแถมยังจะให้เราจ่ายเงินค่ารังวัดอีก พี่สาวเราก็ว่าเรื่องอะไรจะจ่ายไม่ได้คัดค้านนี่ แล้วที่ของข้างเคียงยังไปทับที่ของวัดอีก ทำให้ที่วัดหายไปอีกเกือบ 2 งาน   สงสัยมากทำไมช่างรังวัดเค้าไม่ดูเลยเหรอว่า นส3ก มีเนื้อที่เท่าไหร่ทำไมออกเกิน ทำให้คนอื่นเดือดร้อน  เราอยากรู้ว่าการส่องกล้องมีความแน่นอนไหม เราจะยึดการสอบเขตครั้งแรกได้ไหม เพราะหลักหมุดที่มีปัญหามันเชื่อมกันกับที่ดินอีกเจ้าหนึ่งที่อยู่ติดกับเรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่