เกมรักกิเลนไฟ บทที่ 10

กระทู้สนทนา


ตอนที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

บทที่ 10

ไขปริศนาแรกสำเร็จ






มีดที่จ่อลำคอพาฝันแทบจะส่งไอสังหารทำขนลุกขนชัน พาฝันคงแทงปิ่นทะลุลำคอของฝ่ายตรงข้ามไปแล้วหากฝ่ายนั้นจะไม่กล่าวออกมาว่า

“ใจเย็น ฉันมาดีไม่ได้มาร้าย”

พาฝันชะงักงัน ดวงตากลมโตเหมือนตุ๊กตาของสาวผมสั้นจ้องมองมาด้วยความประหลาดใจ เธออยู่ในชุดหนังรัดรูปสีดำมันเลื่อมคล้ายกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์เรื่องแคท วูเม่น ใบหน้าไม่ได้ปิดบัง แต่บนหลังสะพายเป้ใบโตใบหนึ่ง พาฝันอุทานออกไปว่า

“อาหลิน!”

“ใช่ ฉันเอง” เลขาส่วนตัวของหยางเจี๋ยลดมีดลงจากคอพาฝัน และถอยกายออกจากเธอ อาหลินหรี่ตามองพาฝันด้วยความสงสัย “ทำไมต้องระวังตัวแจขนาดนั้นด้วย”

พาฝันลดปิ่นแหลมในมือลง รู้ทันทีว่าเสียท่าแล้ว “ก็ เธอก็รู้ ตอนนี้ไว้ใจใครได้ที่ไหน”

นึกว่าอาหลินจะจี้ถามว่าเธอไปเรียนศิลปะการต่อสู้มาจากไหน แต่ผิดคาดเพราะสาวตาโตในชุดหนังกลับสอดมีดเก็บเข้าฝัก ถามพาฝันด้วยน้ำเสียงห่วงใยว่า “นายน้อยของฉันปลอดภัยดีนะ”

“ใครจะไปทำอะไรตานั่นได้ เหลี่ยมจัดเป็นจิ้งจอกขนาดนั้น” พาฝันม้วนผมเป็นมวยลวกๆ แล้วปักปิ่นกลับคืน อาหลินเหลียวมองมาหน้านิ่ว เหมือนอยากถามอะไรแต่สะกดใจไว้ สาวผมสั้นย่อกายลงปลดเป้ออกจากหลัง หนึ่งนาทีต่อมาก็สวมเสื้อถักสีเทาทับชุดหนังรัดรูป กลายเป็นชุดมาเที่ยวห้างร่วมสมัย ไม่ใช่แคท วูเม่นอีกต่อไป

“พาฉันไปหานายน้อยหน่อย” อาหลินสั่งพลางดึงตลับแป้งออกมาผัดหน้าและส่องกระจกจัดแต่งทรงผม  

    “ทำไมเธอไม่ไปหาเขาเอง อุตส่าห์ตามมาได้ถึงนี่แล้ว” พาฝันก้มเก็บโทรศัพท์ขึ้นจากพื้นของลานจอด ปัดๆ หน้าจอดูพบว่าไม่เสียหายอะไรก็จะกดส่งข้อความหานายน้อยของอาหลิน แต่อาหลินกลับถลาเข้ามาปิดหน้าจอ บอกอย่างขอร้องว่า    “อย่าบอกนายน้อยสิว่าฉันตามมา บอกว่าบังเอิญเจอฉัน เธอเลยพามาหา”

    “เฮ้ย แบบนั้นไอ้เจ๊กนั่นก็เล่นงานฉันดิ” หญิงสาวดึงโทรศัพท์กลับมาจากอุ้งมืออีกฝ่าย อาหลินทำตาปิ๊งๆ ใส่พาฝันไม่หยุด แต่ไม่สามารถทำอะไรเธอได้ พาฝันกำลังจะพิมพ์ข้อความ อาหลินก็โพล่งไม้เด็ดออกมา

    “ถ้าเธอทำตามที่ฉันขอ เรื่องที่เธอสู้กับฉันเมื่อกี้ฉันจะเก็บเป็นความลับ ไม่บอกนายน้อยเด็ดขาด จะไม่มีใครรู้ว่าเธอมีทักษะการต่อสู้ที่เก่งจนน่ากลัว”

    พาฝันแค่นหัวเราะเหมือนไม่สน แต่ในใจชักหวั่นไหว “จริงอ้ะ ฉันจะเชื่อใจเธอได้ยังไง”

    อาหลินเอื้อมมือมาโอบไหล่เธอราวกับเป็นเพื่อนสนิทมาช้านาน “นี่พี่สาว เราสองลูกผู้หญิงต่างก็รู้ว่าเพื่อคนที่เรารัก ไม่มีเรื่องไหนทำไม่ได้ พี่สาวช่วยเหลือฉัน ฉันช่วยเหลือพี่สาว เราสองคนช่วยกัน ก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว”

    ยิ่งฟังรู้สึกยิ่งงงหนัก พาฝันถามว่า “ตกลงเธอต้องการอะไรกันแน่ ตามฉันมามีเหตุผลอะไร”

    “ฉันอยากดูแลนายน้อยข้างๆ กาย” อาหลินตอบโดยไม่ลังเล นัยน์ตาหวานเชื่อมเหมือนล่องลอยในความฝัน “เธอคิดดูนะ นายน้อยมีฉันอยู่ข้างๆ มาแต่ไหนแต่ไร ถ้าไม่มีฉันนายน้อยจะทำยังไง  เขาต้องลำบากมากแน่ๆ ใครจะดูแลเรื่องอาหาร ใครจะอุ่นน้ำให้อาบ ใครจะคอยร้องเพลงให้ฟังก่อนนอน”

    พาฝันคันปากยิบๆ อยากบอกว่าอีตานั่นไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรตรงไหน แต่เมื่อผูกมิตรกันแล้วก็ไม่อยากขัดใจ เธอรับปากว่าจะทำตามที่อาหลินขอ อาหลินขอบคุณเธอ แล้วพยักเพยิดบอกให้พาฝันพาไปหานายน้อย โดยห้ามไม่ให้รู้ตัวล่วงหน้าทางโทรศัพท์

ปัญหาบังเกิดต่อจากนั้น เธอไม่รู้ว่าหยางเจี๋ยอยู่ที่ไหนแล้ว เดินวนในลานจอดรถเกือบยี่สิบนาทีทนไม่ไหวเลยขอส่งข้อความไปหา อาหลินเพ่งตาดูพาฝันพิมพ์ข้อความอย่างกลัวว่าเธอจะเล่นตุกติก หยางเจี๋ยตอบกลับมาทันทีว่าเขาอยู่มุมลานจอดรถติดกับทางขึ้นห้างสำหรับแขกวีไอพี สองสาวหมดไปอีกสิบนาทีก็เดินไปพบชายหนุ่มพับแขนเสื้อแจ็คเก็ตขึ้นมาถึงข้อศอก กำลังนั่งยองๆ คุ้ยถังขยะด้วยสภาพที่ใครบอกว่า ชายหนุ่มคนนี้เป็นเจ้าของบ้านพักโฮมสเตย์เนื้อหอม คงไม่ถูกหาว่าบ้าก็ต้องเมา

“นายน้อยยย!”

อาหลินตะโกนลั่นปานจะขาดใจ ปรี่เข้าไปดึงมือชายหนุ่มขึ้นจากถังขยะ “ใครบอกให้มาเล่นซุกซนแบบนี้ เดี๋ยวหลินตีมือหักเลย”

หยางเจี๋ยลุกขึ้นยืนมองเลขาสาวส่วนตัว ทำหน้าเหมือนกับเห็นผี “หลิน เธอมาที่นี่ได้ยังไง”

    อาหลินหันมาที่พาฝัน

พาฝันจึงต้องไหลตามน้ำว่า “บังเอิญเจอน่ะ รู้ว่านายคิดถึงเลยพามาหา”

    หนุ่มฮ่องกงถลึงตามองพาฝันเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะตวัดสายตากลับไปที่สาวผมสั้นข้างกาย “เธอมาทำอะไรที่นี่กันแน่ อย่าบอกนะว่าแอบดักอยู่แถวคฤหาสน์ของผู้ว่าบรรณ แล้วขับรถตามมาตลอด”

    สาวตาโตอุทานแบบน่ารัก แล้วค่อยปฏิเสธ “ไม่ใช่นะนายน้อย พอดีวันนี้หลินมีนัดเป็นแขกผู้มีเกียรติร่วมเปิดร้านจิลเวอรี่ที่ชั้นสิบหกในห้าง หลินกลับลงมาพอดี แล้วก็เห็นพี่ดรีมเขากำลังก้มๆ เงยๆ หาอะไรอยู่ หลินเข้าไปทัก พี่ดรีมเลยพาหลินมาหานายน้อยนี่แหละ กะจะให้เซอร์ไพรซ์ไง”

    “เซอร์ไพรซ์กะผีสิ เธอรู้มั้ยว่าไม่มีเวลาแล้ว” หยางเจี๋ยกรอกตา แทบจะกระแทกนาฬิกาข้อมือใส่จมูกพาฝันกับอาหลิน “อีกสิบนาทีจะถึงกำหนด ยังไม่รู้เลยว่าคำตอบคืออะไร”

    “แล้วนายน้อยมานั่งคุ้ยขยะทำไมอะคะ” อาหลินถาม ระหว่างเดินตามหาชายหนุ่มพาฝันได้อธิบายสถานการณ์ของพวกเขาให้เธอฟังคร่าวๆ โดยลืมไปว่าเรื่องนี้ต้องปิดบังเป็นความลับไม่บอกใคร อาหลินจึงทราบว่าพวกเขากำลังตามหาบางอย่าง แต่ไม่ทราบว่าต้องจำเป็นทำขนาดนี้เลยเหรอ

    “ฉันเดินดูรอบๆ นี้ เจอถังขยะที่เป็นรูปยักษ์อยู่ทั้งหมดหกถัง คิดว่าในถังน่าจะซ่อนอะไรอยู่ แต่นี่ถังสุดท้ายแล้วฉันยังไม่เจออะไรเลย ฝ่ายของนิรวานก็เหมือนกัน” หยางเจี๋ยทำท่าจะย่อกายลงนั่งค้นถังขยะต่อ อาหลินรีบขวางไว้แล้วพับแขนเสื้อขึ้น บอกว่าจะคุ้ยของในถังต่อให้เอง นายน้อยโปรดอยู่เฉยๆ ก็พอแล้ว

    ทันใดนั้นพาฝันนึกบางอย่างขึ้นมาได้

“เมื่อกี้ฉันถามพี่ยามมา เห็นว่าคนที่วาดถังขยะพวกนี้ตอนนี้ออกจากงานไปแล้วด้วย นายว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับคำตอบที่เรากำลังตามหาอยู่หรือเปล่า” พาฝันพูดขณะยืนมองหยางเจี๋ยดึงอาหลินกลับออกมาจากถังขยะและโต้เถียงอะไรกันหงุงหงิง ตอนแรกเขาเหมือนไม่ได้ฟังที่พาฝันพูด แต่แล้วจู่ๆ ก็ชะงักกึก หันมาไล่เลียงรายละเอียดที่เธอคุยกับยามหนุ่มอย่างให้ความสนใจ

ฟังจบเรียบร้อย หยางเจี๋ยก็กำขวดน้ำพลาสติกปาใส่ถังขยะอย่างแรง

“บ้าเอ๊ย พวกเราหลงประเด็นกันมาตลอด มันไม่ได้เกี่ยวกับรถหรือถังขยะหรืออะไรเลย”

“อย่าบอกนะว่านายรู้คำตอบแล้ว” พาฝันกระพริบตาปริบๆ

“ใช่ ฉันรู้คำตอบแล้ว” หนุ่มฮ่องกงตอบพลางสืบเท้าออกเดินด้วยความรีบร้อน พาฝันเดินตามติด อาหลินแซงหน้าขึ้นไปเกาะแขนนายน้อยเหมือนกลัวว่าจะถูกพาฝันแย่งตำแหน่ง

เข็มนาฬิกาเดินมาถึงเที่ยงตรงแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่