จะอยู่ก็ลำบากใจ จะไปต่อก็ไปไม่ถึง..

...ก่อนอื่นขอบอกเลยว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่ผัวตัวเองคะ
จุดเริ่มต้น
เรามาเจอแฟนที่ร้านอาหารของเค้า คือเราไปร้านนั้นบ่อยแล้วเค้ามาดูร้านให้พ่อของเค้า เราก็แอบๆชอบแหละ ดูเข้มขรึมดี ก็คุยๆไปคุยมา ก็คบกันเป็นแฟน ตอนนั้นแฟนอายุ 37 เรา อายุ 21 ปี ห่างกัน 16 ปี คะ เราชอบเค้าเพราะเป็นคนเงียบๆ ขรึมๆ จนคบกันได้ประมาณ เดือนนึง เค้าพาเราไปที่บ้านเพื่อไปแนะนำให้แม่รู้จัก ครั้งแรกที่เข้าไป เรานี้แต่งตัวเรียบร้อยมาก เสื้อเเขนยาว กางเกงขายาว ดั่งผ้าพับไว้ 5555+++พอเข้าไปเห็นแม่แฟนนั่งหน้าเชิ่ดดูทีวี หันมามองด้วยปลายหางตา เราก็หวัดดีคะ แนะนำตัวพอสังเขป ถามเรื่องพ่อแม่ ฐานะเป็นไง ทำงานอะไรยังไง เราก็พูดไปตามนั้น บอกตรงๆ ฐานะปานกลาง ไม่รวยไม่จน พอๆกับบ้านเค้าแหละ (จะบอกว่า หน้าแม่เค้าดุมากกกกก เรานี้นั่งคนละโซฟากับเค้า เกร็งมากก)  มาเข้าประเด็นเลยหละกัน
คือ... ช่วงนั้น พอแนะนำรู้จักเราก็ แวะมาบ้านเค้าค่อนข้างบ่อย บางวันเลิกเรียนก็มานอนบ้านเค้า แต่แฟนก็ไปดูร้านอาหารกลับมาค่อนข้างดึก เราก็นั่งอยู่บ้านแม่แฟนแหละ รอเค้ากลับมา  ไปๆมาจนเริ่มสนิทใจ แต่บอกตรงๆก็เกร็งๆอยู่นะ   ไม่ค่อยกล้าทำอะไรมาก ยังไม่รู้ว่าเค้านิสัยยังไง นั่งดูทีวีตอนเย็นๆ แม่เค้าจะดูพร้อมกัน 3-4 เครื่อง เรานั่งกับพื้นเค้านั่งโซฟา  เรานี้ดูไม่รู้เรื่อง งง ว่าเค้าแยกประสาทในการดูได้ยังไง  จนวันนึงเราเดินลงมา ตอนเช้า แม่เค้าลงมาก่อนแล้วพูดว่า "ที่นี้ไม่ใช่โรงแรมนะ จะมานอนเฉยๆ ไม่ทำอะไร เดี๋ยวไล่ไปอยู่หอเลยนิ" คำนี้ เรานี้อึ้งเพราะไม่เคยโดนใครว่าเลย หลังจากนั้น เรามาบ่อยๆ ก็ทำทุกอย่าง ตื่นเช้ามาก็เก็บกวาดบ้านถูบ้าน เค้าจะลงมาทุกวันประมาณ 10.00 เราต้องทำให้เสร็จก่อนที่เค้าจะลงมา เพราะไม่ชอบทำให้เค้าเห็น บ้านค่อนข้างกว้าง เราก็ต้องกวาดทุกซอกยกของออกแล้วกวาดให้เกลี้ยง ไม่งั้นเค้าเห็นก็จะว่า แล้วมาทำซ้ำเองอีกครั้ง เราก็รู้สึกไม่ดี คือพูดง่ายๆ เวลาไปบ้านเค้า เราแทบไม่ได้นั่งเฉยๆเลยคะ ทำทุกอย่าง ถ้านั่งเฉยๆ เค้าชอบทำหน้าหงุดหงิดใส่เรา แต่เราก็ไม่ได้บอกแฟนนะ ว่าเค้าบ่น จนมีวันนึง ตอนเย็นๆ หลังแฟนเราออกไปเฝ้าร้านอาหาร แม่เค้านั่งดูทีวี อยู่ๆ ก็เล่าให้เราฟังว่า " รู้มั้ย แฟนเก่าของแฟนเรา เลิกกัน เพราะอะไรรู้มั้ย ? เราก็เงียบ... แม่เค้าบอกว่า คบกันมา 7 ปี ยังเลิกกันได้ เพราะทำนิสัยไม่ดี กินเหล้ากินเบียร์ แม่ไม่ชอบ เค้าก็เลยเลิกกับแฟนเรา เพราะทนแม่แฟนเราไม่ได้ จนแฟนเราเลยไม่คบใครมา 3 ปี จนมาเจอเรานี้แหละ ดูแลลูกชายเค้าให้ดีนะ แม่เค้าพูดกับเราแบบนี้ และเค้าก็บอกเราว่า ลูกชายชั้นยังเรียกชั้นว่าคุณแม่ เธอเองก็ต้องเรียกแบบนั้น เอิ่ม.... คะ เราเลยต้องปลี่ยนมาใช้คำว่า "คุณแม่" และต้องพูดจา "คะๆ" ทุกครั้ง แม้กระทั้งจะคุยในไลน์ก็ต้องลงท้ายด้วย "คะ"  แต่เราก็ยังถือว่าทนได้นะช่วงนั้น เพราะตอนเราเข้ามาครั้งแรก เราก็พูดกับแฟนเราว่า "เราจะเอาชนะใจแม่พี่ให้ได้นะ"  จนวันนึงไปเที่ยวทำบุญ 9 วัด กำลังเดินทาง แล้วแม่เค้านั่งข้างหลังเรานั่งข้างหน้า แฟนเราขับ แม่เค้าบอกทางแล้วแฟนเราจำไม่ได้ อยู่ๆ เค้าก็โมโห ตะโกนลั่นรถ แบบว่ากรี๊ดด เรานี้นั่งเกร็งตกใจเลยคะ แล้วเค้าก็บอกให้จอดๆ ชั้นจะลง หลังจากนั้น ก็เดินหายไปเลย แฟนเราก็ทำหน้าเซ็งแบบจะร้องไห้ เรานี้งง คือเรื่องเล็กๆ ทำไมต้องทำขนาดนั้น แล้วเราก็เลยกลับบ้าน แฟนเราก็ทำป้ายขอโทษ และก็บอกว่า รักแม่มากที่สุด ติดที่หน้าประตูห้องแม่เค้า เราก็ช่วยทำนะ  แล้วแม่เค้าก็กลับมาประมาณ ดึกๆ นางก็เข้ามาร้องไห้วิ่งขึ้นห้อง แฟนเราก็เข้าไปง้อ ส่วนเราก็อยู่ข้างนอกไม่เกี่ยวอะไร เลยเข้าห้องตัวเองไปรอแฟน ... แล้วเช้านางก็เริ่มพูดคำสองคำ แล้วแฟนเราก็เลยชวนไปวัดอีกครั้ง นางก็ไปแล้วก็หายโกรธ .. เลยทำให้เราเริ่มรู้ว่า แม่เค้าอารมณ์ร้ายน่ากลัว
...เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ เราไปๆมาๆ เหมือนเดิม เจอปัญหาต่างๆนาๆ เรื่องขี้บ่น เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะทำอะไรเค้าจะพูดจะบ่นทุกอย่าง จนพักหลังเราไม่ค่อยได้ไปบ้านเค้า เพราะเราเครียดๆ ระแวงว่าเค้าจะบ่นจะว่าอะไรเราอีก จนวันที่ 14 กพ. แฟนเรามาขอเราแต่งงงาน เราก็ยินดี เพราะแค่ตกลงคุยกัน ยังไม่ได้อะไรมาก จนกระทั่งไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆของแฟนเราด้วย ตกเย็น แฟนเราก็พาเราเดินไปทะเล พูดกับเราเรื่องรักๆ แล้วนางก็บอกว่า แต่งงานกันนะ แล้วเพื่อนๆเค้าก็เดินมา โปยดอกไม้ เราก็เขินๆ เลยตกลงแต่งงานกัน แม่เราก็อยากให้แต่งด้วยแหละ เพราะไม่อยากให่เราไปๆมาๆ บ้านเค้า มันดูไม่ดี เราเลยเเต่ง พอกลับมาบ้านแฟน พอจอดรถหน้าบ้าน เปิดประตูเข้าไป เห็นเก้าอี้แตกกระจายพร้อมขวดเบียร์แตกเป็นเศษ เห็นแม่แฟนนั่งหน้าบ้าน หน้าแดงๆ เหมือนโกรธอะไร เราก็นึกในใจ โกรธลูกชายป่าววะ ที่มาขอเราแต่งงาน เราเลยเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ถามว่า คุณแม่เป็นอะไรคะ นางก็ปัดมือบอก อย่ามายุ่ง เรานี้ตกใจหน้าเค้ามาก เลยเดินไปหาแฟน แฟนเราเลยเดินไปหาแม่เค้า แม่เค้าเลยร้องไห้หนักมากไม่พูดอะไร พอสักพักนางก็บอกว่า แมวตาย โดนหมาข้างบ้านรุมกัด เรานี้ตกใจ เลยรีบวิ่งไปดูแมว พอเห็นร่างแมวนี้ร้องไห้เลยคะ เรารักแมวมาก มันขี้เล่นด้วยแหละ จนวันนั้นผ่านไป .. แม่เค้าหายเป็นปกติ
แฟนเราก็พาเราไปกราบแม่เค้า บอกว่าฝากเราด้วยนะ ให้เป็นลูก แม่เค้าก็พูดกับแฟนเราว่า " คิดดีแล้วหรอ? " เราก็อึ้งในใจ ว่าทำไมพูดแบบนี้ ไม่รู้สิ ฟังแล้วขัดๆหูอะ  จนเราเรียนจบพอดีตอนนั้น ก็เข้าทำงานประจำเลยย้ายออกจากหอมาอยู่บ้านเค้า ช่วงย้ายเข้ามาแรกๆ ก็ เริ่มวางแผนงานแต่งกับแฟน เรามีความรู้สึกว่า แม่แฟนจะวางแผนนู้นนี้นั้น อยู๋คนเดียว คือเรากับแฟน อยากได้แบบนี้แบบนั้น เค้าก็ไม่ค่อยชอบ เรานี้ไม่เป็นตัวเองเลยคะ บอกตรงๆ รายละเอียดหยิบย้อยเราเป็นคนทำ แทบทุกอย่าง เงินก็ต้องมาออกคนละครึ่ง นึกในใจ จะแต่งทำไมวะเนี่ย เสียแต่เงิน เราทุ่มเทมาก ป้ายงานก็แกะสลักทำเอง มาทำงานก็นั่งทำกล่องใส่เงินไปด้วย จนกระทั่งวันพ่อ นางชอบไปร้องเพลงร้านอาหารแห่งหนึ่งเลยชวนเรากับแฟนไป เราเจ็บคอไม่ร้องเพลง เป็นร้านแนวเพลงสุนทราภรณ์ ซึ่งไม่ใช่แนวเราเลย พอเราไม่ร้องก็บอกว่า ดัดจริต นึกในใจ อะไรวะก็มันไม่ใช่แนวนี้หวา พอกลับมาบ้านอาบน้ำกำลังขึ้นนอน นางเรียกเรากับแฟนลงมานั่งคุย พอลงมาเราก็นั่งคนละโซฟา นางทำหน้าไม่พอใจ แล้วพูดว่า "แม่ไม่ไหวหละนะ รู้สึกอึดอัด งานแต่งอยากทำก็ทำกันเลยนะ แม่จะไม่ยุ่งหละ " เรานี้ทนไม่ไหวหละอะ เลยพูดออกมาเหมือนกัน ว่าไม่ไหวเหมือนกันคะ ที่คุณแม่เป็นแบบนี้ชอบบังคับให้ทำนู้นทำนี้ หนูก็อึดอัดเหมือนกัน ไม่เคยถามว่าหนูชอบมั้ย อะไรก็นึกถึงแต่ความรู้สึกของคุณแม่เอง ชอบคิดแทนคนอื่น หนูคงอยู่ที่นี้ไม่นานหรอกคะ แล้วนางก็พูดว่า ก็แล้วแต่ ไม่อยู่ก็ไปอยู่ที่อื่นกันเลยแล้วแต่ ส่วนแฟนเราก็พูดว่า แม่เค้าไปบ้างเล็กน้อย แล้วเดินขึ้นบ้าน ส่วนเรานี้ไม่ไหวหละ ไม่อยากแต่งหละ เก็บของจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ไปหาดูบ้านเช่ากับแฟน หาได้ 2 วัน แฟนเราบอกว่า กลับบ้านเหอะยังไงบ้านนั้นก็บ้านของพี่ เรานี้เงิบเลยคะ แล้วที่เราระบายกับแม่พี่ไปหละ จะให้กลับไปทำหน้ายังไง  สุดท้ายก็ต้องกลับไป เราก็ทำปกติเก็บอัดอั้นไว้ในใจ ปล่อยให้ผ่านไป นางก็ไม่พูดอะไรนะ จนสักพักก็เริ่มพูด ตามฟอร์มแหละ จนกระทั้งไปเลือกชุดงานแต่ง นางก็จะบังคับให้เราใส่ในแบบที่เค้าชอบ แต่เราไม่ชอบ เราชอบหางปลา ส่วนนางชอบสุ่ม เราก็ไม่ยอมนะ บอกกับแฟนว่าเราไม่เอานะแบบที่แม่พี่บังคับ ไม่พอใจก็ตามใจ นี้มันงานเรานะ ไม่ใช่เค้าแต่งเอง ...ขนาดเลือกอาหารโรงแรม เราก็ไม่ได้เลือกเอง นางเลือกหมด ก็ตามนั้น ...

.....พอเรามานั่งนับเงินหลังจัดงานเสร็จ แม่แฟนเรานี้มานั่งนับด้วย พอนับเสร็จ ขอเงินแฟนเรา เพื่อคืนที่ช่วยจัด เราก็ไม่ว่าอะไรนะ เพราะเราไม่ได้หวังอะไร ส่วนเงินที่เหลือ ก็เก็บในบัญชีแฟนเราหมด การจัดงานครั้งนี้เราไม่ได้อะไรเลยคะ เราให้แม่กับย่าหมด ให้เพราะเค้าเลี้ยงดูเรามา เราเลยไม่หวังอะไร พอหลังจากนั้น เราก็ไปฮันนีมูนกับแฟน 5 วัน พอกลับมา แม่แฟนเราทำหน้าแบบว่า ไม่ดี ไม่รู้จะอธิบายยังไง  ตกเย็นเราทำกับข้าวกำลังนั่งกิน นางก็พูดขึ้นมาว่า ต่อไปนี้ต้องมาช่วยค่าใช้จ่ายในบ้าน เท่าๆกัน เเล้วก็บอกเราว่าต้องตื่นมาทำกับข้าวให้แฟนเรากิน แฟนเราต้องกินข้าวเช้า นู้นนี้นั้น ยาววววววว เราก็นึกในใจ นี้กุแต่งงานมาเป็นคนใช้ปะวะ สั่งกุจัง ในใจนึกนะว่า การแต่งงานคือการใช้ชีวิตกัน 2 คน เรียนรู้ถูกผิด เราต้องเรียนรู้ด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่ให้ใครมาสั่งให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ เราไม่ชอบคะ บอกตรงๆ นางเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่ง ซักผ้า ต้องแยก ผ้าเบา ผ้าหนัก ห้ามซักปนกัน ต้องซักในขนาดที่พอดี ห้ามเกิน ห้ามบิดเครื่องซักผ้าผิด  เราเคยซักผิด ใส่ผิดไปตัวนึง นางเห็นนั้บ่นเรายาวเลยคะ เอาเป็นว่า ทุกเรื่องที่เราทำ ไม่มีอันไหนที่นางจะไม่พูดคะบอกเลย เราคงจำไม่หมด เพราะมันเยอะเหลือเกิน ขนาดไปเที่ยวฮันนีมูนยังบ่นว่าไปเที่ยวกันทำไม แทนที่จะเก็บเงิน คือเราก็เข้าใจนะว่าเก็บ แต่เราแบ่งเงินไว้แล้ว เพราะตั้งแต่ วางแผนงาน เราไม่มีเวลาได้ไปไหนกันเลย แต่งงานเราก็หวังไปพักผ่อน ผิดด้วยหรอคะ เงินก็ให้ไปแล้ว ยังจะมาบ่นเพื่ออะไร เฮ้อ !! จะบอกอีกอย่าง เวลาบ่นนะ นางจะไม่พูดให้ลูกชายนางได้ยินนะ ชอบมาบ่นที่เราคนเดียว พอลูกชายเดินมาก็หยุดพูด ตลกมั้ยหละ ? เราเก็บกหดมากๆ บางทีนอนๆอยู๋ก็พูดกับแฟนนะ แต่แฟนเราไม่พูดอะไรสักคำ เวลาเราพูดถึงแม่เค้าว่าบ่นว่าอะไรเราบ้าง เค้าก็เงียบ.... ไม่พูดเลยสักคำ ทุกครั้ง จนทำให้เราหยุดพูดเอง แล้วหันหลังร้องไห้คนเดียวจนหลับไปเอง ....
จนตอนนี้เรา คบกันได้ 6 ปีแล้วคะ เราแต่งานกันตอนคบ 4 ปี  ทุกวันนี้ เราก็งงว่าจะอยู่ไปทำไม ทำอะไรเราก็ไม่เคยดีในสายตาแม่เค้า เราเหนื่องนะบอกตรงๆ ตื่นเช้าตั้งแต่ ตี5 ครึ่ง ออกมาทำงาน เลิกงาน 5 โมง รีบกลับบ้าน วางกระเป๋าเข้าห้องครัว ทำกับข้าว กินข้าวเสร็จ เก็บทำความสะอาดครัว นั่งเล่นโทสับ  รอเวลา 20.30 อาบน้ำ ขึ้นนอน  เราทำแบบนี้มาตั้งแต่อยู่บ้านเค้า อยู่กันมาแบบนี้ 3 คน ส่วนพ่อเค้าอย่าไปพูดถึงเลยคะ เลิกกับแม่เค้าไปนานแล้ว เพราะอะไรหน่ะหรอ...หึๆ เหตุผลเดียวกับเรานี้แหละคะ แต่เค้าก็มีใหม่นะ แต่เราเรียกเค้าอา เค้าไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกคะ ต้องตื่น 10.00 ออกจากบ้าน กลับมาอีกที ตี 1 เข้ามานอน แล้วก็ตื่นออกไปเวลาเดิม เราไม่ค่อยได้เจอได้คุยกับอาเค้าเท่าไหร่ อานิสัยดีมาก เค้าตามใจแม่แฟนเราค่อนข้างมากเป็นคนง่าย แต่ชอบจู้จี้จนอาทำหน้าคิ้วขมวดบ่อย เราสังเกตุได้ เวลาพูดใส่อามากๆ อาเค้าจะเดินหนี ส่วนใหญ่ เค้าไม่ค่อยมีเวลา อยู่ด้วยกันเท่าไหร่ คนที่อยู๋ก็เรานี้แหละ กับแฟน พูดง่ายๆ เหมือนอยู่กัน 3 คน  ตั้งแต่แต่งงาน เราไม่มีเวลาไปหาแม่หาย่าเราเลยคะ เราชอบพูดว่า แต่งงานแล้ว แม่ต้องสำคัญกว่า หมายถุงแม่แฟนพูดนะ ในใจเราไม่สนใจหรอกคะ แม่ย่าเราสำคัญที่สุดเค้าเลี้ยงเรามา ไม่เคยทำให้เราไม่สบายใจแบบนี้ ไม่เคยทำให้เราอึกอัด เวลาเราไม่พอใจเราจะพูดเลย อธิบายเลย แต่นี้ ทำไม่ได้กับแม่แฟนคะ นางไม่เคยรับฟัง พอจะพูดก็ทำไม่พอใจ จะบอกยังไงดี เวลาเค้าบ่น เรานี้เงียบ.... อย่างเดียวไม่พูดปริปากสักคำ ทำกับข้าวนะ ยังบ่น จะบอกอะไรให้ อาหารที่เราทำนะ เรานี้ชอบหาข้อมูลชอบทำกับข้าวอยู่หละ เพราะที่บ้านย่าสอนทำบ่อย แม่แฟนเราทำไม่ค่อยเป็นหรอก แม่นางชอบเดินมาสั่งๆๆๆๆ ให้ทำงี้ ทำงั้น เราไม่ชอบคะ เดี๋ยวทำให้กินเองแหละ บางที่ นางทำนะ ชอบอ้างนู้นอ้างนี้ เวลาทำไม่อร่อย อย่างเช่น ทำหมูตุ๋น นางทำจืด ก็จะชอบอ้างว่า ขาดเครื่องปรุงอันนี้ไปมันเลยไม่อร่อย หรือไม่ก็ เพิ่งทำแปปเดียวมันยังไม่เข้าที่ ประมาณนี้ แต่เวลาเราทำนะ นางบ่นทุกครั้ง จืดบ้าง เค็มบ้าง พอเราลดเค็ม นางก็ว่า จืด พอเราเติม ก็ว่าเราอีก เรานี้ไม่อยากทำให้กินเลย มีครั้งนึงเราน้อยใจมาก เราตั้งใจทำไก่นึ่งพริก นางบอกว่าไม่สุก เออเราก็เดินไปเวฟซ้ำให้ คราวนี้เราแหวกดูแระว่ามันสุกไม่มีเลือกหรืออะไรเลย พอเช้ามานางถ่ายรูปลงกลุ่มไลน์บอกจะฟ้อง คสช. ว่าเราทำอาหารไม่สุก ทำให้ปากบวม เอิ่ม.... เรานี้งงคะ คือนางชอบเป็นภูมิแพ้ของนางอยู่แล้ว เดี๋ยวคัน เดี๋ยวปากบวม เป็นเพราะตัวนางเองอยู๋แล้ว นางถึงต้องมียาประจำตัว ต้องกินทุกวัน ยาแก้แพ้แก้คัน ถ้าวันไหนนางไม่กินตัวนนางจะคัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่