[CR] บอกเล่าประสบการณ์การทำเลสิคแก้ปัญหาสายตาสั้น

20 ก.พ. 2559 อีกหนึ่งวันสำคัญในชีวิต วันที่จะบอกลาแว่นสายตาที่อยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปี วันที่อ้วน(ขอแทนชื่อตัวเองว่าอ้วนนะคะ)ทำเลสิคเพื่อแก้ปัญหาสายตาสั้น

ก่อนที่จะเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้บ้าง อ้วนก็ต้องขอเท้าความย้อนกลับไปถึงสาเหตุที่มาของการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้

ช่วงปลายปี 2558 อ้วนมีแรงบันดาลใจจากคนสำคัญคนหนึ่งที่เขาเข้ารับการแก้ปัญหาสายตาด้วยวิธีเลสิค ด้วยความสนใจใคร่รู้ก็เลยหาข้อมูลว่าการทำเลสิคมันคืออะไรอย่างไร ข้อดีข้อเสียมีอะไรบ้าง ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าจะทำเลสิคหรอกค่ะ ก็แค่หาข้อมูลเพื่อเป็นความรู้ตามประสาคนสนใจโลก(เหรออออ) แต่แล้วเมื่อช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มาถึงก็มีแรงกระตุ้นให้สนใจทำเลสิคมากขึ้น เริ่มรำคาญตัวเองที่ต้องพึ่งพาเจ้าแว่นสายตาเกือบตลอด 24 ชั่วโมง(ยกเว้นเวลานอน) ดูโทรทัศน์ก็ต้องใส่แว่น ฝนตกขับจักรยานยนต์ก็ไม่สะดวกเพราะถ้าแว่นเปียกก็มองทางไม่เห็น หลายคนอาจจะคิดก็ใส่คอนแทคเลนส์ซิ อ้วนก็เคยใส่มาแล้วนะคะ แต่ปัญหาคือตาแห้งมาก เคืองตา ไม่สบายตาเลย แถมน้ำตาไหลบ่อยมาก จนในที่สุดก็ตัดสินใจ เอาว่ะ ทำเลสิคดีกว่า

เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำเลสิคอ้วนก็ลงมือหาข้อมูลอย่างจริงจัง ซึ่งนอกจากข้อมูลทางเทคนิคการทำเลสิคแล้ว ข้อมูลสำคัญก็คือคุณหมอที่จะให้ทำการรักษา สถานที่ที่จะไปใช้บริการ และค่าใช้จ่ายในการรักษา ก็ได้ค้นหาข้อมูลจากหลายๆที่ก็ได้ความว่ามีคุณหมอท่านหนึ่งมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในการทำเลสิคมาก ท่านคือคุณหมอตุลยา เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะให้คุณหมอตุลยาเป็นคนทำการรักษาให้ก็มาถึงขั้นตอนการเลือกสถานพยาบาล อ้วนก็หาข้อมูลว่าคุณหมอท่านทำการรักษาอยู่ที่ไหนบ้าง แต่ละที่มีข้อแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงเรื่องค่าใช้จ่าย แล้วก็มาเจอเข้ากับโปรโมชั่นของทางศูนย์ฯท็อปเจริญ ก็เลยหาข้อมูลและรีวิวต่างๆ แล้วก็ตัดสินใจเลือกรักษาที่ศูนย์ฯท็อปเจริญค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เมื่อตัดสินใจได้ครบแล้วทั้งคุณหมอ สถานพยาบาล และค่าใช้จ่าย ก็ได้ติดต่อไปยังทีมงานคุณหมอตุลยาเพื่อจองคิวนัดทำการรักษา เมื่อจองคิวได้แล้ว พูดคุยสอบถามรายละเอียดเรียบร้อย คราวนี้ก้มาถึงช่วงเวลาสำคัญอีกช่วงหนึ่งค่ะ คือ การแจ้งข่าวให้ครอบครัวทราบ แลดูเป็นเรื่องใหญ่เนอะ สำหรับครอบครัวของอ้วนมันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆค่ะ เนื่องเป็นลูกคนเล็กการที่จะทำอะไรก็เลยต้องขออนุญาต(?)จากทุกคนในครอบครัว สำหรับพี่ๆก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ถ้าอยากทำ และไม่กลัวก็ทำ แต่ก็ให้หาข้อมูลดีๆ ด่านแรกผ่านไปด้วยดีค่ะ ด่านที่สองและด่านสุดท้ายนี่ซิคะต้องอธิบายกันยาวๆเลย ด่านนี้ก็คือคุณแม่ค่ะ คุณแม่ท่านเป็นห่วงและกลัวเป็นอันตรายค่ะ อ้วนก็พยายามหาข้อมูลทางวิชาการไปอธิบายให้ท่านเข้าใจ แล้วก็มีพี่ๆช่วยอธิบายให้ด้วย คุณแม่ท่านก้เหมือนจะเข้าใจดีขึ้นนะคะ แต่ก็ยังไม่ได้เอ่ยปากอะไร ไม่ว่าจะห้ามหรืออนุญาต แต่เพราะคุณแม่ไม่ห้ามอ้วนก็เลยคิดเอาเองว่าท่านอนุญาตค่ะ (ความเอาแต่ใจนี้ xD)

และแล้ววันที่ 20 ก.พ. ก็มาถึง (เดิมทีอ้วนนัดวันที่ 19 ก.พ. ค่ะ แต่เนื่องจากคุณหมอท่านติดงานด่วนก็เลยเลื่อนเป็นวันที่ 20 ก.พ. ค่ะ) ก็ออกเดินทางไปยังศูนย์ฯท็อปเจริญตั้งแต่เช้าค่ะ นั่งแท็กซี่ไปก็แจ็คพ็อตค่ะ คุณลุงคนขับไม่รู้จักทาง (ก่อนจะขึ้นรถก็ถามคุณลุงแล้วนะคะว่ารู้จักเซนทรัลแจ้งวัฒนะไหม คุณลุงก็บอกว่ารู้จัก พอขึ้นทางด่วนมาคุณลุงกลับมาถามเรื่องเส้นทางกับอ้วน งานก็เข้าซิคะ ชีวิตอ้วนเกาะราง BTS มาตลอด เส้นทางอื่นนี่ไม่ถนัดเลยค่ะ T_T) ก็เลยต้องวุ่นวายโทรถามทางเอากับทางคุณพยาบาลที่อ้วนได้ติดต่อมาโดยตลอดค่ะ (ขอบคุณคุณพยาบาลอุ้มมากค่ะ ที่คอยตอบคำถาม และให้คำปรึกษาด้วยดีมาตลอดค่ะ ^^) และแล้วคุณลุงก็พาอ้วนไปส่งยังศูนย์ฯท็อปเจริญได้ในที่สุดค่ะ

เมื่อไปถึงศูนย์ฯท็อปเจริญก็แจ้งที่ประชาสัมพันธ์ที่ชั้น 1 ค่ะ ว่าจะมาทำเลสิค แล้วก็ขึ้นไปที่ชั้น 2 เพื่อทำการกรอกประวัติค่ะ ในขั้นตอนการกรอกประวัตินี้มีการถ่ายภาพของผู้เข้ารับการรักษาไว้ด้วยนะคะ งานนี้ไม่อยากเห็นภาพที่ถ่ายไปเลยค่ะ ภาพถ่ายบัตรประชาชนที่ว่าออกมาดูไม่ไหวแล้วนั้นเรายังได้แต่งหน้านะคะ แต่ภาพถ่ายทำประวัติผู้เข้ารับการสายตาด้วยวิธีเลสิคนี้หน้าสดค่ะ สดแบบสดมากๆๆๆ เพราะว่าการจะไปทำเลสิคนั้นห้ามแต่งหน้าไปค่ะ ไม่อยากจะคิดว่าภาพจะออกมายังไงเลยค่ะ =[]=

หลังจากกรอกประวัติเสร็จแล้วก็เข้าสู่การตรวจประเมินดวงตาค่ะ ขั้นตอนนี้เราก็จะได้รู้กันล่ะค่ะว่าเราจะสามารถทำเลสิคได้หรือเปล่า การตรวจประเมินดวงตานี้มีขั้นตอนเยอะค่ะ เข้าห้องโน้นออกห้องนี้กันสนุกเลยค่ะ จะว่าไปขั้นตอนนี้ใช้เวลาเยอะกว่าขั้นตอนการทำเลสิคซะอีกนะคะ xD

เริ่มแรกก็ไปวัดค่าสายตาเบื้องต้นค่ะ ก็มีอยู่ 3 ขั้นตอนค่ะ เริ่มแรกคุณทีมงานของศูนย์ฯท็อปเจริญก็จะให้เราอ่านตัวหนังสือที่อยู่บนป้าย ก็เหมือนกับตอนที่เวลาเราวัดสายตาตามร้านแว่นทั่วไปค่ะ ขนาดตัวหนังสือก็ลดระดับกันไป ต่อมาก็ไปวัดที่เครื่องที่มีลมเป่าออกมาใส่ตาเราค่ะ (ไม่ทราบว่าเครื่องนี้เรียกว่าอะไร ต้องขอโทษด้วยค่ะ) ตอนนี้เราจะต้องไม่กระพริบตาค่ะ แล้วอ้วนก็ทำได้ error ค่ะ ลมเป่าออกมาก็ตกใจซิคะ พอตกใจก็เลยกระพริบตา งาน error ก็เลยมาค่ะ ถัดจากเครื่องเป่าลมก็เป็นเครื่องที่ให้เราดูภาพบอลลูนค่ะ (แล้วก็ไม่ทราบอีกเช่นกันว่าเจ้าเครื่องนี้เรียกว่าเครื่องอะไร แฮ่ๆ) แล้วก็เป็นอันจบการวัดค่าสายตาเบื้องต้นค่ะ ก็ออกมานั่งรอเรียกไปขั้นตอนต่อไป

ต่อไปเป็นการวิเคราะห์กระจกตาค่ะ ขั้นตอนนี้ก็มีการใช้เครื่องมือตรวจกระจกตาของเราค่ะ ใช้เวลาไม่นานค่ะ ขั้นตอนนี้ไม่เจอ error แล้วค่ะ เพราะไม่มีลมเป่าออกมาให้ตกใจเล่นแล้วค่ะ แฮ่ๆ วิเคราะห์กระจกตาเสร็จก็ไปวัดความดันโลหิตและต่อด้วยการวัดค่าสายตาโดยละเอียดอีกครั้งค่ะ คราวนี้มีเครื่องมือมีอุปกรณ์มากขึ้นจากขั้นตอนแรกค่ะ ผลที่ได้จากขั้นตอนนี้ก้ คือ สายตาของอ้วนสั้นเท่าเดิมค่ะ แต่เอียงเพิ่มมากขึ้น(เมื่อเทียบกับค่าของแว่นสายตาที่ใช้อยู่)

วัดค่าสายตาเสร็จไปแล้วต่อไปก็มาถึงขั้นตอนการตรวจตาแห้งกันค่ะ ขั้นตอนนี้ก็จะมีการหยอดยาค่ะ คุณทีมงานของศูนย์ฯท็อปเจริญจะหยอดยาให้เราแล้วให้หลับตาอยู่สักพักค่ะ แล้วก็ใช้เครื่องมือตรวจ แล้วก็มีการหยอดยาขยายรูม่านตาในขั้นตอนนี้ด้วยนี้ด้วยค่ะ หลังจากจบขั้นตอนนี้แล้วตาของอ้วนเริ่มพร่าแล้วค่ะ มองไกลๆเห็นชัดแต่ใกล้ๆนี่ค่อนข้างเบลอค่ะ

ถัดมาก็เป็นการตรวจจอประสาทตาค่ะ ขั้นตอนนี้ดำเนินการโดยคุณหมอค่ะ(ขออภัยที่จำชื่อคุณหมอไม่ได้นะคะ คุณหมอใจดีค่ะ) คุณหมอให้เรานอนบนเตียงค่ะ แล้วก็ใช้เครื่องหมอตรวจพร้อมทั้งจะให้เรากรอกตามองไปยังตำแหน่งต่างๆค่ะ ระหว่างที่ตรวจอยู่คุณหมอก็จะพูดคุย ปลอบใจให้เราไม่กังวลค่ะ ผลจากขั้นตอนนี้คุณหมอบอกว่าดวงตาของอ้วนปกติค่ะ ไม่น่าจะมีปัญหาในการทำเลสิคค่ะ แต่ต้องให้คุณหมอตุลยาเป็นคนยืนยันอีกครั้งค่ะ

ตรวจจอประสาทตาเสร็จก็มานั่งรอเพื่อจะตรวจขั้นตอนต่อไปค่ะ ตอนที่นั่งรอนั้นคุณพยาบาลอุ้มก็เข้ามาชี้แจ้งและแจ้งผลการตรวจค่ะ ซึ่งผลของอ้วนนั้นพบกว่ารูม่านตากว้างมากค่ะ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาตาพร่าเวลาที่ต้องมองแสงไฟค่ะ และกระจกตาของอ้วนก็บางด้วย (ถึงตอนนี้ใจแป้วเลยค่ะ) แต่เนื่องจากค่าสายตาของอ้วนน้อย(สายตาสั้น 1xx ค่ะ)ก็เลยสามารถทำเลสิคได้ค่ะ (โย่วววว \(^o^)/) หลังจากคุณพยาบาลอุ้มชี้แจงแล้วก็มีการตรวจวัดค่าสายตาอีกครั้งค่ะ ผลก็ออกมาเหมือนเดิม เสร็จจากขั้นตอนนี้ก็รอคุณหมอตุลยามาสรุปผลค่ะ

และแล้วก็ได้เจอคุณหมอตุลยาค่ะ คุณหมอก็ทำการตรวจและวิเคราะห์ดวงตาของอ้วนค่ะ คุณหมอแจ้งว่ารูม่านตาของอ้วนกว่างมาก ต้องรออีกสักประมาณ 1 ชั่วโมงให้รูม่านตาหดลงก่อน อ้วนสามารถทำเลสิคได้ค่ะ โดยคุณหมอจะใช้เครื่องมือ MK2000 ทำให้อ้วนค่ะ (การจะใช้เครื่องมือหรือเทคนิคอะไรในการแก้ปัญหาสายตานั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมอที่จะเลือกให้เหมาะสมกับสภาพเงื่อนไขของดวงตาของแต่ละคนค่ะ)

หลังจากคุณหมอตุลยายืนยันแล้วว่าอ้วนสามารถทำเลสิคได้ เราก็จะได้รับคำอธิบายถึงรายละเอียดการทำเลสิค ค่าใช้จ่าย และรวมถึงการลงลายมือชื่อยอมรับให้ทำการรักษาค่ะ ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการตรวจเลือดเพื่อเช็ค HIV ค่ะ คุณพยาบาลที่ทำการเจาะเลือดแจ้งกับอ้วนว่าถ้าหากผลเลือดออกมาก้ำกึ่งก็ต้องส่งให้ทางโรงพยาบาลตรวจเพื่อความแน่ใจอีกครั้งค่ะ

หลังจากตรวจเลือดผ่านไปแล้วก็มาถึงขั้นตอนสำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งค่ะ นั่นคือขั้นตอนการชำระเงินค่ะ เมื่อชำระเงินแล้วเราก็จะได้ถุงกระดาษมา 2 ใบค่ะ ใบน้อยกับใบใหญ่ ซึ่งในทั้งสองใบนั้นจะมียาและเวชภัณฑ์ของเราอยู่ค่ะ แล้วเราก็เอาถุงทั้งสองใบนั้นไปให้กับคุณทีมงานศูนย์ฯท็อปเจริญที่ประจำอยู่ตรงโซนเลสิคค่ะ แล้วก็นั่งรอเรียกเพื่อจะเข้าไปทำการรักษาค่ะ โดยในระหว่างนั่งรอคุณทีมงานศูนย์ฯท็อปเจริญก็จะคอยมาหยอดตาให้กับเราค่ะ

และแล้วเวลาในการทำเลสิคก็มาถึงค่ะ คุณพยาบาลจะเรียกให้เราเข้าไปในห้องเตรียมตัวค่ะ เมื่อเข้าไปในห้องนี้คุณพยาบาลจะให้สวมเสื้อคลุม สวมหมวกครอบผมค่ะ(ถอดหนังยางที่มัดผมออกด้วยค่ะ) แล้วก็จะให้เราไปล้างหน้าค่ะ ซึ่งจะมีสบู่เตรียมไว้ให้เราล้างหน้าค่ะ ล้างหน้าเสร็จก็เช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนูที่ทางศูนย์ฯท็อปเจริญเตรียมไว้ให้ค่ะ(มีผ้าเตรียมไว้ให้สำหรับทุกคน ไม่ใช้ซ้ำร่วมกันค่ะ) ล้างหน้าเสร็จแล้วคุณพยาบาลก็จะแจ้งว่าห้ามเอามือไปจับหน้าแล้วนะคะ หลังจากนั้นก็ไปนอนรอที่เก้าอี้นอน ในระหว่างนี้คุณพยาบาลจะให้ทานยาแก้อักเสบและยาแก้เครียดค่ะ รวมทั้งจะมีการหยอดยาให้เป็นระยะๆค่ะ (ถ้าจำไม่ผิดก็จะเป็นยาฆ่าเชื้อ ยาชาค่ะ) ซึ่งเราก็ต้องปิดตาไว้ ในตอนที่เตรียมตัวนี้ดวงตาจะเบลอมากค่ะ

ขั้นตอนต่อไปก็ขึ้นเขียงค่ะ หลิ่วตา
ชื่อสินค้า:   เลสิค
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่