อันนี้ ออกตัวไว้ก่อนเลยว่า เขียนกระทู้รีวิวครั้งแรก อาจจะไม่ค่อยลื่นหูนัก หากผิดพลาดตรงไหน กระซิบบอกได้นะครับ
ทริปนี้ ผมแพลนครึ่งปีตั้งแต่ พ.ค. เพื่อให้ได้ตั๋วถูก กับที่พักถูกๆ ตอนนั้น นั่งดูๆปฏิทินวันหยุด กวาดสายตาไป
ไปเจอช่วงรัฐธรรมนูญ เห้ย!! วันที่ พฤ 10 ธ.ค. หยุดนี่ !! ตอนนั้น นั่งคิดไปไกลว่า วันที่ ศ 11 ธ.ค.
รัฐบาลก็คงประกาศหยุด 55555555
วันเดือน ผ่านไป ทริปที่ผมแพลนไว้ใกล้เข้ามา ข่าวการปั่นกิจกรรม bike for dad ว่ารัฐบาลจะจัดกิจกรรมวันที่ 11 ธ.ค.
วันที่ผมกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ที่ไหนสักแห่งในวังเวียง ฮ่าๆ.. มันเป็นอะไรที่ดีจริงๆ ที่ลาไปเที่ยววันงานโดยไม่เสียตังค์

… แต่ฝันก็ต้องมาสลาย

รัฐบาลไม่หยุดหวะ แบบไม่หยุดจริงจัง
แต่ ไม่เป็นไร...อย่าให้วันงานมาทำให้เสียวันเที่ยวสิ... คิดซะว่า ทำงานเหนื่อยมาทั้งปี ลาไปเทียวบ้างคงไม่เสียหาย
เกริ่นมานานละ เดี่ยวโดนด่า

ทริปนี้ผมใช้ระยะเวลา 4 วัน 3 คืน กับ 2 เมือง วังเวียง – เวียงจันทร์
ตอนแรกคำนวณว่าจะใช้งบเทาไหร่ดี เคาะราคาสุดท้ายมาที่ 5,000 บาท + ไม่เกิน 1,000 บาท เราเน้นไปไม่ลำบากจนเกินไปและไม่แพงมากเกินไป
วันแรก
นาฬิกาปลุกที่ 02.30 ครับ ผมลุกโดยไม่อิดออด รีบอาบน้ำแต่งตัว คว้าเป้ที่เตรียมไว้ เพื่อไปรอรถเมล์เที่ยวแรกซึ่งคาดว่าจะมาถึงป้ายหน้าปากซอยบ้านผม ไม่เกิน 03.30 น.ผมยืนรอไม่นาน รถเมล์ก็มาตามเวลาที่ผมนัด บนรถโล่งมาก ผมพุ่งไปแถวท้ายๆริมหน้าต่าง ลองนึกภาพตาม รถว่างๆ แอร์เย็นๆ ไฟมืดสลัวๆ นั่งชมช่วงเวลาที่คนกรุงเทพส่วนใหญ่กำลังหลับไหล...ไม่นาน พี่กระเป๋ารถเมล์ก็เดินมาเก็บค่าโดยสาร ผมยืนบัตรรายสัปดาห์ พร้อมฉีกยิ้มไปให้ 1 ที

ถือว่าประหยัดค่ารถไปนิดนึง ไม่นานรถเมล์ก็มาถึง BTS หมอชิต ผมลงพร้อมกด App เรียก UBER ต่อทันที...
ทริกตรงนี้สำคัญครับ ถ้าคุณ เรียก UBER เข้าสนามบิน จะโดนคิดราคาเหมาอัตโนมัติ 500 บาท ไม่ว่าบ้านคุณจะใกล้ไกลขนาดไหน คุณต้องไปลงสถานที่ใกล้เคียงครับ ผมลงใกล้ๆ แล้วเดินข้ามสะพานไป ตอนนั้นมีส่วนลด ไม่เสียสักบาท สบายไปอีกกก!!!
04.30 น. ผมมาต่อแถวรอ Check-in ครับ วันนี้วันหยุด คนเยอะเป็นพิเศษ แต่รอไม่ไม่นาน แถวก็เขยื่อนไปอย่างรวดเร็ว
ผมไม่รอช้า รีบเช็ค แล้วสะพายกระเป๋ามุ่งไปไปที่ gate ปลายทาง
gate ไกลมากกกก( ก 500 ตัว) แต่ก็เดินชิวๆครับ ไฟล์ทพี่สิงโตผม SL 8600 เครื่องออก 06.20 ถึง อุดร 07.25
ผมไปนั่งรอชิวๆ นั่งมองดูผู้คนที่กำลังเดินทาง บางคนมากับเพื่อน บางคนมากับแฟน บางคนมากับครอบครัว แต่ผม...มาคนเดียว

ไม่นานครับ 06.00 พนักงานประกาศให้ผู้โดยสาร ขึ้น shuttle bus ไปขึ้นเครื่องต่อครับ วันนี้พนักงานเรียกช้ากว่าปกติครับ
แล้วก้เป็นแบบนั้นจริงๆครับ เครื่อง take off 06.45 ไปถึงสนามบินอุดร 07.50 ครับ พังมาก
ดีที่หาข้อมูลมาบ้างแล้ว ผมออกไปขึ้น "ลีมูซีน" ภาพในหัวคือ รถทรรงยาว มีพนักงานคอยเปิดประตู ใช่มั้ยครับ เปล่าครับ!!
เป็นรถตู้ประมาณ 10 ที่นั่งครับ รับส่งจากสนามบินไปถึงด่านหนองคาย เป็นรถตู้ใหม่ครับ เช้านี้ถนนในตัวเมืองอุดรฯ รถค่อนข้างติด สำหรับค่าโดยสาร 200 บาท/คน ครับ ผมนั่งรถไม่นานประมาณ 30 นาที รถตู้พาเรามาส่งถึงด่าน ช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเลยครับ เนื่องจากรีบมากจริงๆ ถึงด่านแล้ว ก็ต้องรีบไปขอใบขอผ่านเข้าออกแดนครับ หน้าตาประมาณนี้
(ยืมภาพจาก google ครับ)
จะได้มา 1 คู่ 2 ใบ คือ ใบขอออกประเทศ และใบขอเข้าประเทศ รายละเอียดเรากรอกให้เรียบร้อยครับ เสร็จแล้วก็ไปยื่นเอกสารกับ ตม. ได้เลยอย่าลืม passport ไปด้วยะครับ สำคัญมาก เขียนเสร็จแล้วก็ไปยืนต่อแถวได้เลย
พอผ่าน ตม. ไปแล้ว จะต้องไปขึ้นรถลาว เป็นรถบัสสภาพเสมือนกรำศึกหนักผ่านสงครามมาครับ ราคาค่าโดยสาร 20 บาทครับ นั่งรถไปลงฝั่ง ตม. ลาวครับ เพื่อผ่านเข้าเวียงจันทร์ โดยรถจะนั่งระยะสั้นๆ แค่ข้ามแดนไทย ผ่านสะพานมิตรภาพ ประมาณ 15 นาที รถก็จะไปจอดที่ฝั่ง ตม. ลาวครับ เราไปเขียนใบ ขอเข้าออก แล้วยื่นให้ ตม. เลยครับ ตรงนี้มีข้อแนะนำเล็กๆครับ ใบผ่านแดนของลาว จะเขียนเหมือนของไทยทุกอย่างครับ โดยจะแจกโดย จนท. ที่ประจำอยู่ที่ตู้กระจกที่เราต้องยื่นผ่านแดนนั่นแหละครับ ซึ่งผมไปในวันที่คนข้ามแดนเยอะมากกกกก ถึงผมจะไปเช้าก็เถอะ ตรงนี้ เราไม่ต้องต่อแถวนะครับ เดิน ผ่าระหว่างแถว ไปที่ตู้เลยครับ เคาะตู้เบาๆ พร้อมกับบอกว่า "
เพ้ ครับ ขอใบผ่านแดน " กี่ใบก็ว่าไป จนท. ก็จะหยิบตามจำนวนที่เราขอครับ
แล้วกลับมาเขียน ถ้าคุณต่อแถวเอาใบผ่านแดนจะใช้เวลาอย่างต่ำ 15 - 20 นาทีครับ อันนี้ ต้องออกแถวมาเขียนแล้วกลับไปต่ออีกครั้งเพื่อยื่นเอกสารผ่านแดนครับ บางคนไม่ทราบตรงจุดนี้จะเสียเวลามาก (จนท . ที่ยืนแถวๆนั้นแนะนำมาครับ) อีกอย่างที่ห้ามลืมคือต้องไปเสียค่าเหยียบแผ่นดินลาว ด้วยนะครับ 55 บาท (ในวันหยุด วันธรรมดาราคาจะถุกกว่าแต่ผมไม่แน่ใจ) จุดแลกตั๋ว จะได้ตั๋ว ลักษณะจะคล้ายๆตั๋ว BTS ครับ นึกภาพตามนะ!! ก่อนไปต่อแถว ด้านซ้ายมือเราจะเป็นธนาคาร นะครับ อย่าลืมแรกเงินไว้ติดตัวเล็กน้อย จ่ายเงินลาวยังไงก็ไม่เสียเปรียบครับผมแลกมานิดหน่อย ประมาณ 2,000 บาท ได้มาประมาณ 460,000 กีบ รวยๆครับ ไม่เคยพกเงินเยอะขนาดนี้มาก่อน หุหุ
พอเดินผ่าน ตม. มา จนท.ลาว จะขอดูเอกสารครับ พร้อมกับปั้มนู้นนี่ เราก็ยืนรอไปครับ สักพัก จนท. ก็จะขอเราถ่ายรูปไว้ดูต่างหน้า เอ้ยย!! ขอถ่ายไว้เป็นหลักฐาน มองไปที่กล้อง web cam ครับ 1 2 papsi.. เรียบร้อยครับ เดินออก เสียบคีย์การ์ด ผ่านเข้าสู่ดินแดนลาวอย่างเป็นทางการครับ...
จังหวะนี้ เราจะเนื้อหอมเป็นพิเศษครับ จะมีคนมารุมตื้อชวนไปขึ้นรถ จริงๆก็ตื้อกันตั้งแต่คุณข้ามแผ่นดินมาแล้วแหละ เราก็หยิ่งๆไว้ครับ

ถ้าไปเป็นกลุ่มแล้วราคาโดนใจก็ไปได้เลยครับ ได้ยินมาว่า รถตู้เหมาต่ำสุด 3000 - 4500 ครับ แล้วแต่ความสามารถในการต่อรองครับ (มาลาวต้องกล้าต่อครับ อย่าอาย อย่าปากหนักครับ ไม่งั้นคุณอาจได้ของถุกในราคาแพงโคตรๆ) ถ้ามากันเยอะๆ สัก 10 คน เหมาได้เลยครับ คนละ 300 - 350 หารกันไปคุ้มกว่า ถ้าคุณมาคนเดียว และหูไวมีคนชวนไปหรือร่วมหารด้วยก็โอเคครับ ราคาตามที่บอกเลยครับ ...หลังจากออมาจากด่านแล้ว จะพบร้านที่รับเปลี่ยนซิมลาวครับ + package ผมเลือก laos telecom 3G แพ้คเกจ net 7 วัน + sim ครับ ราคาอยู่ที่ 15,000 กีบ สัญญาณเน็ตแรงใช้ได้เลยครับ สำหรับผม สำคัญนะครับ เอาไว้ค้นหาข้อมูล กับ up social ครับ จริงๆคือ อย่างหลังมากกว่า 55555
เดี่ยวมาเขียนต่อครับ
[CR] แ บ ก ก ล้ อ ง เ ที่ ย ว : วั ง เ วี ย ง - เ วี ย งจั น ท ร์ (1)
ทริปนี้ ผมแพลนครึ่งปีตั้งแต่ พ.ค. เพื่อให้ได้ตั๋วถูก กับที่พักถูกๆ ตอนนั้น นั่งดูๆปฏิทินวันหยุด กวาดสายตาไป
ไปเจอช่วงรัฐธรรมนูญ เห้ย!! วันที่ พฤ 10 ธ.ค. หยุดนี่ !! ตอนนั้น นั่งคิดไปไกลว่า วันที่ ศ 11 ธ.ค.
รัฐบาลก็คงประกาศหยุด 55555555
วันเดือน ผ่านไป ทริปที่ผมแพลนไว้ใกล้เข้ามา ข่าวการปั่นกิจกรรม bike for dad ว่ารัฐบาลจะจัดกิจกรรมวันที่ 11 ธ.ค.
วันที่ผมกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ที่ไหนสักแห่งในวังเวียง ฮ่าๆ.. มันเป็นอะไรที่ดีจริงๆ ที่ลาไปเที่ยววันงานโดยไม่เสียตังค์
… แต่ฝันก็ต้องมาสลาย
แต่ ไม่เป็นไร...อย่าให้วันงานมาทำให้เสียวันเที่ยวสิ... คิดซะว่า ทำงานเหนื่อยมาทั้งปี ลาไปเทียวบ้างคงไม่เสียหาย
เกริ่นมานานละ เดี่ยวโดนด่า
ตอนแรกคำนวณว่าจะใช้งบเทาไหร่ดี เคาะราคาสุดท้ายมาที่ 5,000 บาท + ไม่เกิน 1,000 บาท เราเน้นไปไม่ลำบากจนเกินไปและไม่แพงมากเกินไป
วันแรก
นาฬิกาปลุกที่ 02.30 ครับ ผมลุกโดยไม่อิดออด รีบอาบน้ำแต่งตัว คว้าเป้ที่เตรียมไว้ เพื่อไปรอรถเมล์เที่ยวแรกซึ่งคาดว่าจะมาถึงป้ายหน้าปากซอยบ้านผม ไม่เกิน 03.30 น.ผมยืนรอไม่นาน รถเมล์ก็มาตามเวลาที่ผมนัด บนรถโล่งมาก ผมพุ่งไปแถวท้ายๆริมหน้าต่าง ลองนึกภาพตาม รถว่างๆ แอร์เย็นๆ ไฟมืดสลัวๆ นั่งชมช่วงเวลาที่คนกรุงเทพส่วนใหญ่กำลังหลับไหล...ไม่นาน พี่กระเป๋ารถเมล์ก็เดินมาเก็บค่าโดยสาร ผมยืนบัตรรายสัปดาห์ พร้อมฉีกยิ้มไปให้ 1 ที
ทริกตรงนี้สำคัญครับ ถ้าคุณ เรียก UBER เข้าสนามบิน จะโดนคิดราคาเหมาอัตโนมัติ 500 บาท ไม่ว่าบ้านคุณจะใกล้ไกลขนาดไหน คุณต้องไปลงสถานที่ใกล้เคียงครับ ผมลงใกล้ๆ แล้วเดินข้ามสะพานไป ตอนนั้นมีส่วนลด ไม่เสียสักบาท สบายไปอีกกก!!!
04.30 น. ผมมาต่อแถวรอ Check-in ครับ วันนี้วันหยุด คนเยอะเป็นพิเศษ แต่รอไม่ไม่นาน แถวก็เขยื่อนไปอย่างรวดเร็ว
ผมไม่รอช้า รีบเช็ค แล้วสะพายกระเป๋ามุ่งไปไปที่ gate ปลายทาง
gate ไกลมากกกก( ก 500 ตัว) แต่ก็เดินชิวๆครับ ไฟล์ทพี่สิงโตผม SL 8600 เครื่องออก 06.20 ถึง อุดร 07.25
ผมไปนั่งรอชิวๆ นั่งมองดูผู้คนที่กำลังเดินทาง บางคนมากับเพื่อน บางคนมากับแฟน บางคนมากับครอบครัว แต่ผม...มาคนเดียว
ไม่นานครับ 06.00 พนักงานประกาศให้ผู้โดยสาร ขึ้น shuttle bus ไปขึ้นเครื่องต่อครับ วันนี้พนักงานเรียกช้ากว่าปกติครับ
แล้วก้เป็นแบบนั้นจริงๆครับ เครื่อง take off 06.45 ไปถึงสนามบินอุดร 07.50 ครับ พังมาก
ดีที่หาข้อมูลมาบ้างแล้ว ผมออกไปขึ้น "ลีมูซีน" ภาพในหัวคือ รถทรรงยาว มีพนักงานคอยเปิดประตู ใช่มั้ยครับ เปล่าครับ!!
เป็นรถตู้ประมาณ 10 ที่นั่งครับ รับส่งจากสนามบินไปถึงด่านหนองคาย เป็นรถตู้ใหม่ครับ เช้านี้ถนนในตัวเมืองอุดรฯ รถค่อนข้างติด สำหรับค่าโดยสาร 200 บาท/คน ครับ ผมนั่งรถไม่นานประมาณ 30 นาที รถตู้พาเรามาส่งถึงด่าน ช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเลยครับ เนื่องจากรีบมากจริงๆ ถึงด่านแล้ว ก็ต้องรีบไปขอใบขอผ่านเข้าออกแดนครับ หน้าตาประมาณนี้
(ยืมภาพจาก google ครับ)
จะได้มา 1 คู่ 2 ใบ คือ ใบขอออกประเทศ และใบขอเข้าประเทศ รายละเอียดเรากรอกให้เรียบร้อยครับ เสร็จแล้วก็ไปยื่นเอกสารกับ ตม. ได้เลยอย่าลืม passport ไปด้วยะครับ สำคัญมาก เขียนเสร็จแล้วก็ไปยืนต่อแถวได้เลย
พอผ่าน ตม. ไปแล้ว จะต้องไปขึ้นรถลาว เป็นรถบัสสภาพเสมือนกรำศึกหนักผ่านสงครามมาครับ ราคาค่าโดยสาร 20 บาทครับ นั่งรถไปลงฝั่ง ตม. ลาวครับ เพื่อผ่านเข้าเวียงจันทร์ โดยรถจะนั่งระยะสั้นๆ แค่ข้ามแดนไทย ผ่านสะพานมิตรภาพ ประมาณ 15 นาที รถก็จะไปจอดที่ฝั่ง ตม. ลาวครับ เราไปเขียนใบ ขอเข้าออก แล้วยื่นให้ ตม. เลยครับ ตรงนี้มีข้อแนะนำเล็กๆครับ ใบผ่านแดนของลาว จะเขียนเหมือนของไทยทุกอย่างครับ โดยจะแจกโดย จนท. ที่ประจำอยู่ที่ตู้กระจกที่เราต้องยื่นผ่านแดนนั่นแหละครับ ซึ่งผมไปในวันที่คนข้ามแดนเยอะมากกกกก ถึงผมจะไปเช้าก็เถอะ ตรงนี้ เราไม่ต้องต่อแถวนะครับ เดิน ผ่าระหว่างแถว ไปที่ตู้เลยครับ เคาะตู้เบาๆ พร้อมกับบอกว่า "เพ้ ครับ ขอใบผ่านแดน " กี่ใบก็ว่าไป จนท. ก็จะหยิบตามจำนวนที่เราขอครับ
แล้วกลับมาเขียน ถ้าคุณต่อแถวเอาใบผ่านแดนจะใช้เวลาอย่างต่ำ 15 - 20 นาทีครับ อันนี้ ต้องออกแถวมาเขียนแล้วกลับไปต่ออีกครั้งเพื่อยื่นเอกสารผ่านแดนครับ บางคนไม่ทราบตรงจุดนี้จะเสียเวลามาก (จนท . ที่ยืนแถวๆนั้นแนะนำมาครับ) อีกอย่างที่ห้ามลืมคือต้องไปเสียค่าเหยียบแผ่นดินลาว ด้วยนะครับ 55 บาท (ในวันหยุด วันธรรมดาราคาจะถุกกว่าแต่ผมไม่แน่ใจ) จุดแลกตั๋ว จะได้ตั๋ว ลักษณะจะคล้ายๆตั๋ว BTS ครับ นึกภาพตามนะ!! ก่อนไปต่อแถว ด้านซ้ายมือเราจะเป็นธนาคาร นะครับ อย่าลืมแรกเงินไว้ติดตัวเล็กน้อย จ่ายเงินลาวยังไงก็ไม่เสียเปรียบครับผมแลกมานิดหน่อย ประมาณ 2,000 บาท ได้มาประมาณ 460,000 กีบ รวยๆครับ ไม่เคยพกเงินเยอะขนาดนี้มาก่อน หุหุ
พอเดินผ่าน ตม. มา จนท.ลาว จะขอดูเอกสารครับ พร้อมกับปั้มนู้นนี่ เราก็ยืนรอไปครับ สักพัก จนท. ก็จะขอเราถ่ายรูปไว้ดูต่างหน้า เอ้ยย!! ขอถ่ายไว้เป็นหลักฐาน มองไปที่กล้อง web cam ครับ 1 2 papsi.. เรียบร้อยครับ เดินออก เสียบคีย์การ์ด ผ่านเข้าสู่ดินแดนลาวอย่างเป็นทางการครับ...
จังหวะนี้ เราจะเนื้อหอมเป็นพิเศษครับ จะมีคนมารุมตื้อชวนไปขึ้นรถ จริงๆก็ตื้อกันตั้งแต่คุณข้ามแผ่นดินมาแล้วแหละ เราก็หยิ่งๆไว้ครับ
เดี่ยวมาเขียนต่อครับ