เคยถามเก๋ ชลดา ผู้เป็นตัวตั้งตัวตี ผลักดันร่าง พรบ ทารุณกรรมสัตว์ ว่าถ้าถูกหมาจรจัดกัดต้องทำยังไง?
คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ ..คุณมีประกันสังคมมั้ยคระ เขารับเคสนี้คร่ะ!!! นี่คือมโนสำนึกผุ้อยุ่เบื้องหลังการร่าง พรบ นี้
และเป็นคำตอบที่ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคมมากที่สุด (โห โคตรเห็นแก่ตัวเลย นอกจากไม่ออกพรบมาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุยังโยนภาระมาให้ผุ้ได้รับผลกระทบ ส่วนตัวเขาเองกลับไม่สนใจปัญหาที่ตัวเองไข่ไว้ ใดๆ)
เขายังปประดิษฐ์คำว่า สุนัขชุมชน ที่ทึกทัก มโนไปเอง ว่าเป้นของชุมชน แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่คนทุกคนที่ยอมรับ
มันจึงแค่วาทกรรมหลอกลวงสร้างภาพ เพื่อกลบปัญหาสุนัขจรจัดที่เรื้อรังมานาน ด้วยการโบ้ยความรับผิดชอบ มาให้กับผุ้ที่เดือดร้อนและสังคมแทน
เขายังประดิษฐ์ประโยคเก๋ คนจรจัดยังมีคนดูแล สุนัขจรจัดก้ต้องมีกฎหมายดูแลบ้าง ...ซึ่งเป้นประโยคที่ไม่ได้ผ่านการบูรณาการทางความคิดใดๆเลย
เพราะคน ถ้าทำผิดมันมีกฎหมายลงโทษ อยุ่แล้ว ส่วนหมานอกจากรับผิดแบบคนไม่ได้ กลับยังออกฎหมายปกป้องหมาที่ ดุร้ายอีก นี่คือความวิปริต
นอกจากนี้แล้ว มูลนิธิของ เขาที่ชื่อ the voice เสียงของเรา ยังทำงานหน้าเดียวเพื่อจุดประสงค์ตัวเอง คอยลงข่าวซ้ำเติมด่าทอกรณีทารุณกรรมสัตว์ตลอดเวลาในเฟสบุค ในขณะที่ไม่เคยสนใจป้องกันผลกระทบที่ต้นเหตุใดๆทั้งสิน แม้ว่าจะร้องขอไปแล้วก้ตาม นี่เรียกว่าไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม
ไม่เพียงเท่านั้น กลุ่มก้อนเขายังมีสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ ที่คอยแสดงฉากละครอีกหน้าตามหน้าจอทีวีและข่าว ออกมากระหน่ำซ้ำเติมคดีทารุณกรมสัตว์อย่างเอาเป้นเอาตายด้านเดียว ในขณะที่อีกด้าน กลัไม่เคยออกมารณรงค์ ปลูกฝังจิตสำนึกต่อปัญหาหมาจรจัดในที่สาธารณะ ไม่เคยคิดผลักดันกฎหมายควบคุมเจ้าของอย่างจริงจัง หรือพัฒนาระบบจัดการทะเบียนผุ้เลี้ยงสัตว์ใดๆเลย ทั้งที่ตอนนั้นตัวเอเป้นหนึ่งในผุ้ผลักดัน พรบ ทารุณด้วยก้ตาม
ทั้งหมดนี้ คือบทบาท ด้านเดียว อันเห็นแก่ตัว ทั้งจากบุคคล มูลนิธิ และสมาคม ที่ทำงานภายใต้ความเห้นแก่ตัว ไร้ความรับผิดชอบ และไร้สามัญสำนึกใดๆ
และนี่คือส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ของประธานสมาคมพิทักษ์สัตว์ ที่อ้างเหตุผลด้านความเมตตาเพียงอย่างเดียว โดยปราศจากตรรกะด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ...ลองอ่านและวิเคราะห์ดูตามข้อเท็จจริงว่ามันมีความอัปลักษณ์เพียงใด
http://www.thairath.co.th/content/477220
คุณมีประกันสังคมไหมคระ เขารับเคสนี้ค่ะ ...นี่คือคำตอบที่ไร้ความรับผิดชอบที่สุดของเก๋ ชลลดา
คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ ..คุณมีประกันสังคมมั้ยคระ เขารับเคสนี้คร่ะ!!! นี่คือมโนสำนึกผุ้อยุ่เบื้องหลังการร่าง พรบ นี้
และเป็นคำตอบที่ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคมมากที่สุด (โห โคตรเห็นแก่ตัวเลย นอกจากไม่ออกพรบมาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุยังโยนภาระมาให้ผุ้ได้รับผลกระทบ ส่วนตัวเขาเองกลับไม่สนใจปัญหาที่ตัวเองไข่ไว้ ใดๆ)
เขายังปประดิษฐ์คำว่า สุนัขชุมชน ที่ทึกทัก มโนไปเอง ว่าเป้นของชุมชน แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่คนทุกคนที่ยอมรับ
มันจึงแค่วาทกรรมหลอกลวงสร้างภาพ เพื่อกลบปัญหาสุนัขจรจัดที่เรื้อรังมานาน ด้วยการโบ้ยความรับผิดชอบ มาให้กับผุ้ที่เดือดร้อนและสังคมแทน
เขายังประดิษฐ์ประโยคเก๋ คนจรจัดยังมีคนดูแล สุนัขจรจัดก้ต้องมีกฎหมายดูแลบ้าง ...ซึ่งเป้นประโยคที่ไม่ได้ผ่านการบูรณาการทางความคิดใดๆเลย
เพราะคน ถ้าทำผิดมันมีกฎหมายลงโทษ อยุ่แล้ว ส่วนหมานอกจากรับผิดแบบคนไม่ได้ กลับยังออกฎหมายปกป้องหมาที่ ดุร้ายอีก นี่คือความวิปริต
นอกจากนี้แล้ว มูลนิธิของ เขาที่ชื่อ the voice เสียงของเรา ยังทำงานหน้าเดียวเพื่อจุดประสงค์ตัวเอง คอยลงข่าวซ้ำเติมด่าทอกรณีทารุณกรรมสัตว์ตลอดเวลาในเฟสบุค ในขณะที่ไม่เคยสนใจป้องกันผลกระทบที่ต้นเหตุใดๆทั้งสิน แม้ว่าจะร้องขอไปแล้วก้ตาม นี่เรียกว่าไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม
ไม่เพียงเท่านั้น กลุ่มก้อนเขายังมีสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ ที่คอยแสดงฉากละครอีกหน้าตามหน้าจอทีวีและข่าว ออกมากระหน่ำซ้ำเติมคดีทารุณกรมสัตว์อย่างเอาเป้นเอาตายด้านเดียว ในขณะที่อีกด้าน กลัไม่เคยออกมารณรงค์ ปลูกฝังจิตสำนึกต่อปัญหาหมาจรจัดในที่สาธารณะ ไม่เคยคิดผลักดันกฎหมายควบคุมเจ้าของอย่างจริงจัง หรือพัฒนาระบบจัดการทะเบียนผุ้เลี้ยงสัตว์ใดๆเลย ทั้งที่ตอนนั้นตัวเอเป้นหนึ่งในผุ้ผลักดัน พรบ ทารุณด้วยก้ตาม
ทั้งหมดนี้ คือบทบาท ด้านเดียว อันเห็นแก่ตัว ทั้งจากบุคคล มูลนิธิ และสมาคม ที่ทำงานภายใต้ความเห้นแก่ตัว ไร้ความรับผิดชอบ และไร้สามัญสำนึกใดๆ
และนี่คือส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ของประธานสมาคมพิทักษ์สัตว์ ที่อ้างเหตุผลด้านความเมตตาเพียงอย่างเดียว โดยปราศจากตรรกะด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ...ลองอ่านและวิเคราะห์ดูตามข้อเท็จจริงว่ามันมีความอัปลักษณ์เพียงใด
http://www.thairath.co.th/content/477220