เรื่อง แหวน จันทรากูล
ท่ามกลางผู้คนที่มาร่วมเป็นสักขีพยานให้กับคู่บ่าวสาว บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นเจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินไปขอบคุณแขกที่มาร่วมงานพร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก อาหารอันหรูหราจากภัตตาคารชื่อดังได้ทยอยมาเสิร์ฟที่ละอย่าง ๆ เค้กก้อนโตถูกตัดเป็นชิ้น ๆ แจกให้ทุกคนที่มาร่วมงาน แต่ในมุมเล็ก ๆ ของงานเลี้ยงไดมีเด็กหญิงคนหนึ่งนั่งทำหน้าตาเศร้าโศกอยู่หลังเวที เธอไม่กินอาหารใด ๆ ทั้งสินแม้แต่น้ำแก้วเดียวเธอก็ไม่ยอมแตะ
หลายคนอาจจะคิดว่าเธอสติไม่สมประกอบเพราะสังเกตจากการแต่งตัวแล้วเธอไม่น่าที่จะถูกเชิญมาร่วมงานนี้ด้วยซ้ำ หรือเธอจะเป็นลูกของคนยกเวทีก็อาจเป็นได้ หลายคนพยายามที่จะชวนเธอให้ออกไปร่วมสนุกสนานทางด้านหน้าเวทีแต่เธอก็ปฏิเสธ เธอบอกว่าจะรอแม่อยู่ที่นี่จะไม่ยอมไปไหนทั้งสิ้น
“แหวนไปกินข้าวปะ แม่บอกคนเตรียมไว้ให้แล้วอยู่ในห้องชั้นบนนะลูก แล้วอย่าออกมาให้ใครเห็นอีกนะเดี๋ยวเขาจะหาว่าแม่ไม่ดูแลลูก”
หญิงสาวผิวข้าวหน้าตาสะอาดสะอ้าน ในชุดสีขาวบริสุทธิ์กระโปรงของเธอลากยาวไปกับพื้นในมือของเธอถือดอกไม้สีชมพูไว้แน่น แน่นอนเธอคือเจ้าสาวในค่ำคืนนี้ แต่หลายคนหารู้ไม่ว่าเธอเคยมีสามีมาก่อนและก็ได้อย่าร้างกันมาหลายปีจนในวันนี้เธอได้แต่งงานกับสามีใหม่ของเธอซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรงระดับห้าดาวที่เธอกำลังจัดงานแต่งอยู่นี่เอง
“แม่จ๋าอย่าทิ้งหนูไปนะ หนูคิดถึงแม่”
เสียงเด็กน้อยอ้อนวอนผู้เป็นแม่ไม่ให้จากเธอไป แต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบแม่ของเธอเดินหันหลังอย่างไม่มีเยื่อใยกับเธอราวกับว่าเธอไม่ใช่ลูกของหล่อน น้ำตาของเด็กน้อยไหลอาบสองแก้ม เสียงสะอื้นของเธอ ดังขึ้น ดังขึ้น ดังขึ้น จนวิชาญ ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าบ่าวของแม่เธอผ่านมาได้ยินจึงเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
“แหวนทำไมมาอยู่ตรงนี้หละทำไมไม่อยู่ในห้อง แม่เราสั่งไม่ให้ออกมาไม่ใช่หรอ แล้วนี่ร้องไห้ทำไมใครทำอะไรหนู”
“ไม่ต้องมายุ่งกับหนู !! คุณจะไปไหนก็ไป”
วิชาญเดินหนีด้วยความโมโห เพราะทำอะไรไม่ได้เขาได้แต่พูดสบถกับตัวเองในใจว่า
“สักวันจะโดนดีอีเด็กเวร”
หลังจากงานแต่งได้เลิกราผู้คนต่างพากันเดินทางกลับเหลือไว้เพียงความทรงจำให้คู่บ่าวสาวได้คำนึงหา จิตราและวิชาญก็พากันเข้าห้องหออย่างหน้าชื่นตาบานทิ้งไว้ให้แหวนอยู่เพียงลำพัง บรรยากาศที่เงียบเหงากับสาวน้อยวัยสิบห้า เธอเดินจากโรงแรมเพื่อกลับไปยังบ้านเพราะเธอไม่อาจทนดูแม่กับสามีใหม่เข้าห้องหอได้
สองข้างทางเต็มไปด้วยความสงบไม่มีแม้กระทั่งเสียงลมพัดใบไม้ มีเพียงเงาที่กระทบลงบนพื้นถนนที่เดินเป็นเพื่อนเธอ
“จะไปไหนจ๊ะน้องสาว !!!”
เสียงจิ๊กโก๋ข้างถนนเอ่ยปากถามเธอ ยังไม่ทันตั้งตัวก็มีกำปั้นพุ่งเข้ามาชกที่ท้องของเธอ เด็กน้อยวัยสิบห้าไม่อาจสู้แรงของชายฉกรรจ์ได้เธอล้มตัวลงกับพื้นตัวอาการจุก ภาพในหัวของเธอในตอนนี้คือภาพข่าวเด็กหญิงถูกข่มขืนที่เธอพึ่งดูไปตอนหัวค่ำ บัดนี้มันกำลังจะเกิดขึ้นกับเธอเอง เธอพยายามที่จะร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็ไร้ซึ่งเสียงนั้นเพราะมีแค่เสียงลมที่ลอดผ่านปากเธอออกมา
ไม่นานร่างของเธอก็ถูกอุ้มมายังป่ารกร้างข้างถนน เธอถูกปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจนหมดพร้อมกับถูกทำลายความบริสุทธิ์ของเด็กสาว ในตอนนี้เหมือนฝันไปเพราะความรู้สึกของเธอด้านชาราวกับคนเสียสติไปแล้ว เธอได้แต่นอนน้ำตาไหลโดยปราศจากเสียงร้องไห้แต่อย่างใดดวงตาของเธอแดงก่ำราวกับเลือด
แต่ก็นับว่าโชคดีที่โจรใจบาปยังปล่อยเธอกลับบ้านหลังจากที่มันเสร็จกิจกามไปสามรอบ เธอแทบจะคลานกลับบ้านเพราะขาทั้งสองข้างตอนนี้มันหมดเรี่ยวแรง และเรื่องราวทั้งหมดก็ถูกเก็บเป็นความลับระหว่างเธอกับโจรเพียงแค่สองคน เธอพักฟื้นจนอาการดีขึ้นเป็นปกติ
แต่โชคร้ายก็มาเยือนเธออีกครั้งเมื่อแม่ของเธอกลัวว่าความลับที่เคยมีลูกมีผัวจะถูกเปิดเผยเพราะกลัวว่าจะเสียหน้าสามีใหม่ที่เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม แหวนถูกขังในห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หลังบ้าน เธอไม่ได้ไปโรงเรียนไม่ได้ไปพบเจอกับโลกภายนอกเลยเป็นเวลาสองปี จนวันหนึ่งได้มีแสงลอดผ่านประตูเข้ามากระทบดวงตาของเธอ เธอดีใจเป็นอย่างมากที่ออกไปสู่โลกภายนอกเสียที
“เป็นไงบ้างอยู่ในนี้สบายดีมั๊ย”
วิชาญถามเธอด้วยน้ำเสียงที่มีเลศนัย ไม่ทันที่แหวนจะเอ่ยปากตอบวิชาญก็พุ่งเข้าหาเธอเพื่อหวังจะข่มขืนเธอพยายามที่จะตะโกนให้คนช่วยแต่ก็ไร้วี่แววแห่งความหวัง
“ไม่ต้องแหกปากให้เสียเวลาหรอกแม่แกไม่อยู่บ้านร้องให้ตายก็ไม่มีใครช่วยได้”
เด็กน้อยวัยสิบเจ็ดได้ถูกกระทำชำเราอีกครั้ง วิชาญข่มขืนเธอด้วยความหิวกระหายราวกับแวมไพได้กินเลือดสด ๆ แหวนไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ได้แต่ทำใจและนอนร้องไห้ปล่อยให้พ่อเลี้ยงข่มขืนจนเสร็จ วิชาญใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องไปทิ้งไว้เพียงความเจ็บช้ำให้เธอ
ทุกค่ำคืนเธอต้องนอนฝันร้ายเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมาราวกับมาฉายหนังเรื่องเก่า เธอไม่มีความสุขเลยและเคยคิดที่จะฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะเธอนึกถึงคำสอนของพระพุธศาสนาที่ว่าการฆ่าตัวตานนั้นเป็นบาปหนัก เธอได้แต่ก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรมที่เคยทำไว้เมื่อชาติก่อน
วิชาญแอบย่องเข้าหาเธอทุกครั้งเมื่อมีโอกาสและเธอก็ต้องถูกข่มขืนทุกครั้งที่วิชาญเข้ามาหาจนเวลาผ่านไปหลายปี แม่ของเธอได้ปล่อยให้เธอเป็นอิสระและเธอก็ได้ร่ำเรียนจนจบ ม.๖ เธอสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังที่ใคร ๆก็อยากที่จะเข้าไปเรียนที่นั่น ในตอนนี้เธอโตเป็นสาวเต็มตัว หน้าตาจิ้มลิ้ม สวยโดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอแต่อย่างใด
เธอเข้าเรียนในคณะนิเทศศาสตร์ซึ่งแน่นอนว่าคนที่จะเรียนในคณะนี้ได้ต้องคัดหน้าตาเป็นพิเศษ เธอได้ตกลงคบหาดูใจกับรุ่นพี่คนหนึ่งชื่อ ชาติ เขาเป็นคนที่หล่อคิ้วเข้มร่างกายกำยำสมส่วน เป็นที่ปรารถนาของหญิงสาวหลาย ๆ คนที่อยากจะครอบครอง
ในเย็นวันหนึ่งหลังจากที่เลิกจากการซ้อมเชียร์ชาติได้ชวนแหวนไปกินข้าวและดูหนังรอบดึกต่อซึ่งแหวนก็ไม่ปฏิเสธแต่อย่างใดเพราะคิดว่าคนเป็นแฟนกันไปเที่ยวด้วยกันคงไม่ผิดอะไร หลังจากที่ทั้งสองดูหนังเสร็จชาติก็ชวนแหวนไปฟังเพลงและดื่มชาต่อที่ห้องของเขา
ไฟสลัว ๆ เสียงเพลงบรรเลงกล่อมเบา ๆ ชายหนุ่มและหญิงสาวนั่งจิบชาที่หน้าระเบียงห้อง ชาติเริ่มบทสนทนาด้วยคำถามที่ว่า
“แหวนรักพี่จริงปะ”
“รักสิแหวนรักพี่คนเดียว”
“งั้นพี่ขอนะ เป็นของพี่เถอะ พี่ทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว”
ทั้งสองตกลงปลงใจที่จะพลีร่างกายมอบให้ซึ่งกันและกัน บรรยากาศน้ำผึ้งพระจันทร์ต่างดำเนินไปอย่างหวานชื่น เธอเป็นของฉัน และฉันเป็นของเธอด้วยความเต็มใจทั้งสองหลับไปด้วยความเพลีย
‘ฆ่าตัดจู๋’
ข่าวหน้าหนึ่งในวันต่อมาของหลายสำนักพิมพ์ต่างพากันเขียนข่าวฆาตกรรมที่ประหลาดที่สุดในรอบทศวรรษ ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะคลิปที่คนร้ายเผยแพร่ลงอินเตอร์เน็ตนั้นช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก นักจิตวิทยาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้หลายต่อหลายคนแต่ก็ไม่มีผู้ใดที่จะหยั่งรู้ถึงสาเหตุที่คนร้ายได้ลงมือกระทำได้
เมื่อเห็นข่าวผ่านสื่อทีวีแหวนก็ยิ้มด้วยความสะใจเธอกำลังแก้แค้นผู้ชายที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอทนทุกทรมานมาหลายปี ในมือของเธอตอนนี้มีถุงสีข่าวขุ่นซึ่งมองเห็นสิ่งของที่บรรจุภายในถุงได้เป็นอย่างดี มันคืออวัยวะเพศชายที่เธอได้ลงมือเฉือนมันมาเมื่อคืนนี้เอง
ไม่นานเธอก็ได้ตกลงคบหาดูใจกับผู้ชายคนใหม่ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัยเธอคบกับเขาได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ตกลงปลงใจร่วมหลับนอนด้วยกัน และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นซ้ำสองเมื่อเธอลงมือฆ่าแล้วตัดอวัยวะเพศของชายคนนั้นด้วยความเลือดเย็น ตำรวจพยายามที่จะตามหาตัวคนร้ายแต่ก็ไร้ซึ่งหลักฐานที่จะสาวถึงตัวเธอได้ แม้ว่าเธอจะถ่ายคลิปตอนลงมือฆ่าลงอินเตอร์เน็ตแต่ก็ไม่มีใครตามหาตัวตนของเธอได้เลย เธอลงมือสังหารผู้ชายหลายต่อหลายคนจนตอนนี้ได้กลายเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่อง ตำรวจตั้งรางวัลแจ้งเบาะแสของคนร้ายอยู่ที่หลายแสนบาท แต่เธอก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใดเธอยังคงฆ่าเหยื่อรายแล้วรายเล่า
จนวันหนึ่งเธอได้พบกับอาจารย์วันสี่สิบปีที่สอนอีกมหาวิทยาลัยเธอได้ตกลงคบหาดูใจในแนวที่เสี่ยเลี้ยงอีหนู เขาพาเธอไปซื้อเสื้อผ้า รองเท้า และของแบรนด์เนมต่าง ๆ มากมาย วันหนึ่งเขาได้ตัดสินใจพาเธอไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อหวังพักผ่อนในวันหยุดหลายวัน เธอตกลงรับคำชวนและได้เตรียมแผนการสังหารไว้เป็นอย่างดี จนถึงวันออกเดิน ทางทั้งสองถึงที่พักอย่างปลอดภัย เขาและเธอได้ตกลงที่จะร่วมหลับนอนกันเหมือนเช่นเคยและเธอก็ได้สังหารและตัดอวัยวะเพศของเขาอย่างที่เคยทำกับเหยื่อรายที่ผ่านมา เธอค้นหาเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าของเขาแต่เธอก็ต้องหยุดชะงักน้ำตาของเธอไหวพรากอาบสองแก้ม บัตรประชาชนของเขามีชื่อว่า นายเดชา จันทรากูล ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกันกับเธอและเธอพึ่งรู้ว่าเขาคือพ่อที่พรากจากเธอไปเมื่อตอนยังเด็ก
ช่วยวิจารณ์ฝีมือการแต่งให้ผมทีครับเผื่อจะได้ปรับปรุง
ท่ามกลางผู้คนที่มาร่วมเป็นสักขีพยานให้กับคู่บ่าวสาว บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นเจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินไปขอบคุณแขกที่มาร่วมงานพร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก อาหารอันหรูหราจากภัตตาคารชื่อดังได้ทยอยมาเสิร์ฟที่ละอย่าง ๆ เค้กก้อนโตถูกตัดเป็นชิ้น ๆ แจกให้ทุกคนที่มาร่วมงาน แต่ในมุมเล็ก ๆ ของงานเลี้ยงไดมีเด็กหญิงคนหนึ่งนั่งทำหน้าตาเศร้าโศกอยู่หลังเวที เธอไม่กินอาหารใด ๆ ทั้งสินแม้แต่น้ำแก้วเดียวเธอก็ไม่ยอมแตะ
หลายคนอาจจะคิดว่าเธอสติไม่สมประกอบเพราะสังเกตจากการแต่งตัวแล้วเธอไม่น่าที่จะถูกเชิญมาร่วมงานนี้ด้วยซ้ำ หรือเธอจะเป็นลูกของคนยกเวทีก็อาจเป็นได้ หลายคนพยายามที่จะชวนเธอให้ออกไปร่วมสนุกสนานทางด้านหน้าเวทีแต่เธอก็ปฏิเสธ เธอบอกว่าจะรอแม่อยู่ที่นี่จะไม่ยอมไปไหนทั้งสิ้น
“แหวนไปกินข้าวปะ แม่บอกคนเตรียมไว้ให้แล้วอยู่ในห้องชั้นบนนะลูก แล้วอย่าออกมาให้ใครเห็นอีกนะเดี๋ยวเขาจะหาว่าแม่ไม่ดูแลลูก”
หญิงสาวผิวข้าวหน้าตาสะอาดสะอ้าน ในชุดสีขาวบริสุทธิ์กระโปรงของเธอลากยาวไปกับพื้นในมือของเธอถือดอกไม้สีชมพูไว้แน่น แน่นอนเธอคือเจ้าสาวในค่ำคืนนี้ แต่หลายคนหารู้ไม่ว่าเธอเคยมีสามีมาก่อนและก็ได้อย่าร้างกันมาหลายปีจนในวันนี้เธอได้แต่งงานกับสามีใหม่ของเธอซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรงระดับห้าดาวที่เธอกำลังจัดงานแต่งอยู่นี่เอง
“แม่จ๋าอย่าทิ้งหนูไปนะ หนูคิดถึงแม่”
เสียงเด็กน้อยอ้อนวอนผู้เป็นแม่ไม่ให้จากเธอไป แต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบแม่ของเธอเดินหันหลังอย่างไม่มีเยื่อใยกับเธอราวกับว่าเธอไม่ใช่ลูกของหล่อน น้ำตาของเด็กน้อยไหลอาบสองแก้ม เสียงสะอื้นของเธอ ดังขึ้น ดังขึ้น ดังขึ้น จนวิชาญ ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าบ่าวของแม่เธอผ่านมาได้ยินจึงเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
“แหวนทำไมมาอยู่ตรงนี้หละทำไมไม่อยู่ในห้อง แม่เราสั่งไม่ให้ออกมาไม่ใช่หรอ แล้วนี่ร้องไห้ทำไมใครทำอะไรหนู”
“ไม่ต้องมายุ่งกับหนู !! คุณจะไปไหนก็ไป”
วิชาญเดินหนีด้วยความโมโห เพราะทำอะไรไม่ได้เขาได้แต่พูดสบถกับตัวเองในใจว่า
“สักวันจะโดนดีอีเด็กเวร”
หลังจากงานแต่งได้เลิกราผู้คนต่างพากันเดินทางกลับเหลือไว้เพียงความทรงจำให้คู่บ่าวสาวได้คำนึงหา จิตราและวิชาญก็พากันเข้าห้องหออย่างหน้าชื่นตาบานทิ้งไว้ให้แหวนอยู่เพียงลำพัง บรรยากาศที่เงียบเหงากับสาวน้อยวัยสิบห้า เธอเดินจากโรงแรมเพื่อกลับไปยังบ้านเพราะเธอไม่อาจทนดูแม่กับสามีใหม่เข้าห้องหอได้
สองข้างทางเต็มไปด้วยความสงบไม่มีแม้กระทั่งเสียงลมพัดใบไม้ มีเพียงเงาที่กระทบลงบนพื้นถนนที่เดินเป็นเพื่อนเธอ
“จะไปไหนจ๊ะน้องสาว !!!”
เสียงจิ๊กโก๋ข้างถนนเอ่ยปากถามเธอ ยังไม่ทันตั้งตัวก็มีกำปั้นพุ่งเข้ามาชกที่ท้องของเธอ เด็กน้อยวัยสิบห้าไม่อาจสู้แรงของชายฉกรรจ์ได้เธอล้มตัวลงกับพื้นตัวอาการจุก ภาพในหัวของเธอในตอนนี้คือภาพข่าวเด็กหญิงถูกข่มขืนที่เธอพึ่งดูไปตอนหัวค่ำ บัดนี้มันกำลังจะเกิดขึ้นกับเธอเอง เธอพยายามที่จะร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็ไร้ซึ่งเสียงนั้นเพราะมีแค่เสียงลมที่ลอดผ่านปากเธอออกมา
ไม่นานร่างของเธอก็ถูกอุ้มมายังป่ารกร้างข้างถนน เธอถูกปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจนหมดพร้อมกับถูกทำลายความบริสุทธิ์ของเด็กสาว ในตอนนี้เหมือนฝันไปเพราะความรู้สึกของเธอด้านชาราวกับคนเสียสติไปแล้ว เธอได้แต่นอนน้ำตาไหลโดยปราศจากเสียงร้องไห้แต่อย่างใดดวงตาของเธอแดงก่ำราวกับเลือด
แต่ก็นับว่าโชคดีที่โจรใจบาปยังปล่อยเธอกลับบ้านหลังจากที่มันเสร็จกิจกามไปสามรอบ เธอแทบจะคลานกลับบ้านเพราะขาทั้งสองข้างตอนนี้มันหมดเรี่ยวแรง และเรื่องราวทั้งหมดก็ถูกเก็บเป็นความลับระหว่างเธอกับโจรเพียงแค่สองคน เธอพักฟื้นจนอาการดีขึ้นเป็นปกติ
แต่โชคร้ายก็มาเยือนเธออีกครั้งเมื่อแม่ของเธอกลัวว่าความลับที่เคยมีลูกมีผัวจะถูกเปิดเผยเพราะกลัวว่าจะเสียหน้าสามีใหม่ที่เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม แหวนถูกขังในห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หลังบ้าน เธอไม่ได้ไปโรงเรียนไม่ได้ไปพบเจอกับโลกภายนอกเลยเป็นเวลาสองปี จนวันหนึ่งได้มีแสงลอดผ่านประตูเข้ามากระทบดวงตาของเธอ เธอดีใจเป็นอย่างมากที่ออกไปสู่โลกภายนอกเสียที
“เป็นไงบ้างอยู่ในนี้สบายดีมั๊ย”
วิชาญถามเธอด้วยน้ำเสียงที่มีเลศนัย ไม่ทันที่แหวนจะเอ่ยปากตอบวิชาญก็พุ่งเข้าหาเธอเพื่อหวังจะข่มขืนเธอพยายามที่จะตะโกนให้คนช่วยแต่ก็ไร้วี่แววแห่งความหวัง
“ไม่ต้องแหกปากให้เสียเวลาหรอกแม่แกไม่อยู่บ้านร้องให้ตายก็ไม่มีใครช่วยได้”
เด็กน้อยวัยสิบเจ็ดได้ถูกกระทำชำเราอีกครั้ง วิชาญข่มขืนเธอด้วยความหิวกระหายราวกับแวมไพได้กินเลือดสด ๆ แหวนไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ได้แต่ทำใจและนอนร้องไห้ปล่อยให้พ่อเลี้ยงข่มขืนจนเสร็จ วิชาญใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องไปทิ้งไว้เพียงความเจ็บช้ำให้เธอ
ทุกค่ำคืนเธอต้องนอนฝันร้ายเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมาราวกับมาฉายหนังเรื่องเก่า เธอไม่มีความสุขเลยและเคยคิดที่จะฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะเธอนึกถึงคำสอนของพระพุธศาสนาที่ว่าการฆ่าตัวตานนั้นเป็นบาปหนัก เธอได้แต่ก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรมที่เคยทำไว้เมื่อชาติก่อน
วิชาญแอบย่องเข้าหาเธอทุกครั้งเมื่อมีโอกาสและเธอก็ต้องถูกข่มขืนทุกครั้งที่วิชาญเข้ามาหาจนเวลาผ่านไปหลายปี แม่ของเธอได้ปล่อยให้เธอเป็นอิสระและเธอก็ได้ร่ำเรียนจนจบ ม.๖ เธอสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังที่ใคร ๆก็อยากที่จะเข้าไปเรียนที่นั่น ในตอนนี้เธอโตเป็นสาวเต็มตัว หน้าตาจิ้มลิ้ม สวยโดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอแต่อย่างใด
เธอเข้าเรียนในคณะนิเทศศาสตร์ซึ่งแน่นอนว่าคนที่จะเรียนในคณะนี้ได้ต้องคัดหน้าตาเป็นพิเศษ เธอได้ตกลงคบหาดูใจกับรุ่นพี่คนหนึ่งชื่อ ชาติ เขาเป็นคนที่หล่อคิ้วเข้มร่างกายกำยำสมส่วน เป็นที่ปรารถนาของหญิงสาวหลาย ๆ คนที่อยากจะครอบครอง
ในเย็นวันหนึ่งหลังจากที่เลิกจากการซ้อมเชียร์ชาติได้ชวนแหวนไปกินข้าวและดูหนังรอบดึกต่อซึ่งแหวนก็ไม่ปฏิเสธแต่อย่างใดเพราะคิดว่าคนเป็นแฟนกันไปเที่ยวด้วยกันคงไม่ผิดอะไร หลังจากที่ทั้งสองดูหนังเสร็จชาติก็ชวนแหวนไปฟังเพลงและดื่มชาต่อที่ห้องของเขา
ไฟสลัว ๆ เสียงเพลงบรรเลงกล่อมเบา ๆ ชายหนุ่มและหญิงสาวนั่งจิบชาที่หน้าระเบียงห้อง ชาติเริ่มบทสนทนาด้วยคำถามที่ว่า
“แหวนรักพี่จริงปะ”
“รักสิแหวนรักพี่คนเดียว”
“งั้นพี่ขอนะ เป็นของพี่เถอะ พี่ทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว”
ทั้งสองตกลงปลงใจที่จะพลีร่างกายมอบให้ซึ่งกันและกัน บรรยากาศน้ำผึ้งพระจันทร์ต่างดำเนินไปอย่างหวานชื่น เธอเป็นของฉัน และฉันเป็นของเธอด้วยความเต็มใจทั้งสองหลับไปด้วยความเพลีย
‘ฆ่าตัดจู๋’
ข่าวหน้าหนึ่งในวันต่อมาของหลายสำนักพิมพ์ต่างพากันเขียนข่าวฆาตกรรมที่ประหลาดที่สุดในรอบทศวรรษ ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะคลิปที่คนร้ายเผยแพร่ลงอินเตอร์เน็ตนั้นช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก นักจิตวิทยาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้หลายต่อหลายคนแต่ก็ไม่มีผู้ใดที่จะหยั่งรู้ถึงสาเหตุที่คนร้ายได้ลงมือกระทำได้
เมื่อเห็นข่าวผ่านสื่อทีวีแหวนก็ยิ้มด้วยความสะใจเธอกำลังแก้แค้นผู้ชายที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอทนทุกทรมานมาหลายปี ในมือของเธอตอนนี้มีถุงสีข่าวขุ่นซึ่งมองเห็นสิ่งของที่บรรจุภายในถุงได้เป็นอย่างดี มันคืออวัยวะเพศชายที่เธอได้ลงมือเฉือนมันมาเมื่อคืนนี้เอง
ไม่นานเธอก็ได้ตกลงคบหาดูใจกับผู้ชายคนใหม่ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัยเธอคบกับเขาได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ตกลงปลงใจร่วมหลับนอนด้วยกัน และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นซ้ำสองเมื่อเธอลงมือฆ่าแล้วตัดอวัยวะเพศของชายคนนั้นด้วยความเลือดเย็น ตำรวจพยายามที่จะตามหาตัวคนร้ายแต่ก็ไร้ซึ่งหลักฐานที่จะสาวถึงตัวเธอได้ แม้ว่าเธอจะถ่ายคลิปตอนลงมือฆ่าลงอินเตอร์เน็ตแต่ก็ไม่มีใครตามหาตัวตนของเธอได้เลย เธอลงมือสังหารผู้ชายหลายต่อหลายคนจนตอนนี้ได้กลายเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่อง ตำรวจตั้งรางวัลแจ้งเบาะแสของคนร้ายอยู่ที่หลายแสนบาท แต่เธอก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใดเธอยังคงฆ่าเหยื่อรายแล้วรายเล่า
จนวันหนึ่งเธอได้พบกับอาจารย์วันสี่สิบปีที่สอนอีกมหาวิทยาลัยเธอได้ตกลงคบหาดูใจในแนวที่เสี่ยเลี้ยงอีหนู เขาพาเธอไปซื้อเสื้อผ้า รองเท้า และของแบรนด์เนมต่าง ๆ มากมาย วันหนึ่งเขาได้ตัดสินใจพาเธอไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อหวังพักผ่อนในวันหยุดหลายวัน เธอตกลงรับคำชวนและได้เตรียมแผนการสังหารไว้เป็นอย่างดี จนถึงวันออกเดิน ทางทั้งสองถึงที่พักอย่างปลอดภัย เขาและเธอได้ตกลงที่จะร่วมหลับนอนกันเหมือนเช่นเคยและเธอก็ได้สังหารและตัดอวัยวะเพศของเขาอย่างที่เคยทำกับเหยื่อรายที่ผ่านมา เธอค้นหาเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าของเขาแต่เธอก็ต้องหยุดชะงักน้ำตาของเธอไหวพรากอาบสองแก้ม บัตรประชาชนของเขามีชื่อว่า นายเดชา จันทรากูล ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกันกับเธอและเธอพึ่งรู้ว่าเขาคือพ่อที่พรากจากเธอไปเมื่อตอนยังเด็ก